“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2016
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต 

ปชญ 2:1a,12-22

1เขาใช้เหตุผลผิดๆ คิดว่า
12เราจงดักซุ่มทำร้ายผู้ชอบธรรม เพราะเขาทำให้เรารำคาญใจ
เขาต่อต้านกิจการของเรา
เขาตำหนิเราว่าฝ่าฝืนธรรมบัญญัติ
กล่าวหาว่าเราไม่ปฏิบัติตามการอบรมที่ได้รับ


13เขาอ้างว่าเขารู้จักพระเจ้า
เรียกตนเองว่าเป็นบุตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า
14ชีวิตของเขาเป็นการติเตียนความรู้สึกนึกคิดของเรา
เพียงแต่เห็นเขา เราก็ทนไม่ได้
15เพราะชีวิตของเขาไม่เหมือนกับผู้อื่น
ความประพฤติของเขาก็ต่างกับของเรามาก
16เขาคิดว่าเราเป็นคนไร้ค่า
เขาหลีกเลี่ยงวิถีชีวิตของเราประหนึ่งว่าเป็นสิ่งปฏิกูล
เขาประกาศว่าผู้ชอบธรรมจะมีความสุข ในวาระสุดท้าย
อวดอ้างว่าพระเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเขา
17เราจงดูเถิดว่าคำพูดของเขาจะจริงหรือไม่
เราจงพิสูจน์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแก่เขาในวาระสุดท้าย
18ถ้าผู้ชอบธรรมเป็นบุตรของพระเจ้า พระองค์ก็จะทรงปกป้องเขา
และทรงช่วยเขาให้พ้นเงื้อมมือของศัตรู
19เราจงสาปแช่งและทรมานลองใจเขา
ให้รู้ว่าเขาอ่อนโยนเพียงใด
และจงทดสอบว่าเขาอดทนเพียงใด
20เราจงตัดสินลงโทษให้เขาตายอย่างอัปยศ
ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาพูด พระเจ้าจะทรงคอยดูแลเขา”
21ผู้ไม่ยำเกรงพระเจ้าคิดเช่นนี้ แต่เขาคิดผิด
ความชั่วร้ายทำให้เขาตาบอด
22เขาไม่รู้แผนการเร้นลับของพระเจ้า

--------------------------------------
อรรถาธิบายและไตร่ตรอง...

           พี่น้องที่รักครับ วันนี้พระศาสนจักรจัดการให้เราได้อ่านหนังสืออีกตอนจากพระคัมภีร์ของเราคาทอลิก “ปรีชาญาณ” วรรณกรรมปรีชาญาณเป็นวรรณกรรมที่พ่อเชื่อว่าเราต้องค่อยๆ อ่าน และค่อยๆปล่อยให้ตัวเราค่อยๆ เข้าใจ ค่อยซึมซาบด้วยพระคัมภีร์นี้ ด้วยพระวาจาของพระเจ้านี้ ในโอกาสมหาพรต...
วันนี้ เราอ่านกันเถอะครับ อ่านความคิด อ่านความคิดคลาสสิกขอคนหรือของมนุษย์ อ่านแบบที่วรรณกรรมปรีชาญาณปรารถนาให้เราได้ไตร่ตรองรำพึงภาวนานะครับ..

• “ความคิดของคนอธรรมต่อคนชอบธรรมเป็นอย่างไรหนอ...
• อย่ากลัวถ้าเราชอบธรรม เราเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว
• ไม่ต้องกลัวใครเลยครับ เจริญชีวิตด้วยความเคารพยำเกรงพระเจ้าเป็นสำคัญครับ....”
• สังคมที่มีคนไม่ดีหรือที่เรียกว่า “คนอธรรม” (มีอยู่จริง บ่อยครั้งสังคมภาษาของเราต้องเรียกคนแบบนี้ว่า คนเลว) คือ...
o คนที่ใช้โอกาสหาโอกาสทำทุกอย่างเพื่อตนเอง
o ทำสิ่งที่ผิดความยุติธรรม และ
o กระทำความอธรรม กระทำความเลวร้ายหรือทำลาย ทำลายสังคม ทำลายชาติ ทำลายจริยธรรมและศีลธรรม ทำร้ายคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนดีๆ ที่ต้องกลายเป็น “เหยื่อ”

• สภาพของโลกสังคมทุกยุคทุกสมัยสำหรับคนอธรรมซึ่งปกติยืนคนละข้างกับคนชอบธรรม และบ่อยครั้งพ่อบอกตรงๆว่า
o คนดีๆ หาที่ยืนยาก
o คนชอบธรรมได้กลับกลายเป็นการขัดขวาง ขัดหูขัดตา และขวางทางการประพฤติอธรรมของตนเองหรือพวกตน...
o สภาพแบบนี้มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย...

• วันนี้ พระวาจาของพระเจ้าที่เราได้ฟังในพิธีมิสซา เราได้มีหนังสือปรีชาญาณ ปรีชาญาณตอนที่เราได้เห็นว่า “เป็นปรีชาญาณที่ได้อ่านใจคนอธรรมที่มองดูคนชอบธรรม”

• คนอธรรมเขาคิดอย่างไรเมื่อต้องเชิญหน้ากับคนชอบธรรม พ่อคิดว่าเรื่องนี้น่าพิจารณาไตร่ตรองจริงๆครับ.. ทำให้เราได้เห็นว่าคนอธรรมมองดูคนชอบธรรมอย่างไรหนอ??? เขาคิดอย่างไรกับคนชอบธรรมหนอ??? เรามาพิจารณากันตามข้อความของหนังสือปรีชาญาณนะครับ...

• พ่อขอนำข้อความจากปรีชาญาณมากจัดลำดับแบบนี้ เราจะเห็นและสามารถอ่านใจคนอธรรมได้อย่างดีทีเดียวครับ และพ่อจะพยายามอธิบายแต่ละประเด็นความคิดของพวกคนอธรรมที่สะท้อนความจริงของปัจจุบันได้อย่างดี

• “เราจงดักซุ่มทำร้ายผู้ชอบธรรม เพราะเขาทำให้เรารำคาญใจ เขาต่อต้านกิจการของเราเขาตำหนิเราว่าฝ่าฝืนธรรมบัญญัติ กล่าวหาว่าเราไม่ปฏิบัติตามการอบรมที่ได้รับ”
o คนอธรรมที่ต้องการเอาแต่ประโยชน์ หรือสร้างอิทธิพลเพื่อหาผลประโยชน์ เอาแต่ได้ ก็มุ่งทำร้ายคนชอบธรรม หลายคนถูกทำร้าย ทำลายไปเพราะความคิดร้ายของคนอธรรม
o เพราะความชอบธรรมของคนชอบธรรม ความดีของคนดีกลับไปขวางทาง ขวางอิทธิพลหรือที่ภาษาไทยของเราเรียกว่า “ขวางทางปืน” คือ ขัดประโยชน์กับคนอธรรม จนกล่าวกันว่า “น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ”
o ความประพฤติที่ดีของคนชอบธรรมกลายเป็นดังเสียงตำหนิคนอธรรม... กลายเป็นว่า คนดีอยู่อยาก คนเลวคนเห็นแก่ตัวกลับได้รุ่งเรื่อง ได้ประโยชน์ และได้รับความร่ำรวยดูดีหรูหราในสังคม มีอำนาจทางการเมืองและดูมีอำนาจบารมี มีหน้ามีตา และก็ถือโอกาสโลภไม่รู้จบ กินรวบกวาดเรียบ โกงกินทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำซึ่งหมายความว่า คอรัปชั้นทั้งระบบและมีระบบป้องกันคอรัปชั่นของตนเอง
o คนอธรรมสามารถมีพลังป้องกันซักฟอกตนเอง เป็นเหมือนมาเฟีย... มีเสียงสนับสนุนให้ไม่ผิดกฎหมาย เคยขนาดจะยกมือผ่านกฎหมายตอนตีสี่เพื่อจะได้พ้นผิดกันไปก็ทำได้นะคนเรา เพื่อพวกตนจะไม่ต้องถูกโทษ ได้นิรโทษกรรมได้ จัดการได้ ใช้อำนาจผิดให้ไม่ต้องรับโทษ ฯลฯ จนกลายเป็นสิ่งที่ภาษาประชดประชันกล่าวได้ว่า เป็น “ความเลวที่ใสสะอาด หรือเลวหมดจด” อะไรทำนองนี้... เรื่องเหล่านี้เราเห็นได้ชัดถึงผลตามมาของความอธรรม คนอธรรมคือส่งผลระยะยาว... ประเทศชาติ สังคม การศึกษา จริยธรรม ศีลธรรม ด้อยพัฒนาทั้งหมด...
o ในทางกลับกัน “คนชอบธรรม” ที่ควรเป็นโอกาสเป็นเสียงตำหนิการกระทำของคนชั่ว แต่กลับกลายเป็นว่า “คนชั่วก็ทำชั่วยิ่งกว่า” (จนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า “วงจร” วงจรอุบาทว์ อะไรทำนองนี้) พ่อคิดว่าสิ่งเหล่านี้เราเห็นได้จากประสบการณ์การเมืองการปกครองในประเทศไทยของเรามิใช่น้อย... ลองไตร่ตรองกันดูสิครับ...เกิดอะไรกับการเมืองท้องถิ่นของเรา ประเทศไทยของเรา การเมืองประดับชาติของเรา.. สังคมของเราเกิดอะไรขึ้น เช่น
1. การอาฆาตและทำร้ายคนชอบธรรม... สังคม การเมือง การเมืองท้องถิ่น ผู้ทรงอิทธิพลในบ้านเมืองของเราจะเป็นอย่างนี้จริงๆ ใช่ไหมครับ...
2. มีคำสั่งตาย คำสั่ง “เก็บ” คนดี คนยุติธรรม หรือ
3. ถ้าซื้อได้ก็ซื้อเลยด้วยเงิน ถ้าซื้อไม่ได้ก็ต้องจ่ายหนักด้วยชีวิต....
o พ่อแปลกใจ ประเทศไทยของเรามีเรื่องแปลกเยอะให้ดูครับ คือ ตำรวจมีทำเนียบมือปืนอยู่ในมือด้วย เวลาเกิดเหตุฆ่าทิ้ง ตำรวจก็เสนอว่าต้องไปสำรวจบรรดามือปืนที่อยู่ในอยู่ในทำเนียบของตำรวจ มีรายชื่อมากมายอยู่แล้ว...
o อนิจจาครับ “ทำเนียบ” คำดีๆ ยังมีมือปืน มีโจร มีฆาตกร มีคนอธรรมเต็มในคำว่า “ทำเนียบ”... บางทีทำเนียบใหญ่สุดของเราก็มีคนโกงนั่งประจำการเพื่อปล้นบ้านเมืองจนหมดตัว ประชาชนเป็นหนี้กันทั้งประเทศเลยทีเดียว
o ผลตามมา... สังคมเรา คนดี คนซื่อสัตย์ คนยุติธรรม แทบจะหาที่อยู่ที่ยืนไม่ได้เลยนะครับ บาดเจ็บจริงๆครับ...

• “เขาอ้างว่าเขารู้จักพระเจ้า เรียกตนเองว่าเป็นบุตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
o คนอธรรมบ่อยครั้งเป็นดังที่ปรีชาญาณกล่าวถึงจริงๆ คือคนอธรรมมากๆก็มีศาสนาก็ถือศีลกินเจ ถือศาสนา กราบไหว้บูชาพระเจ้าเหมือนกัน
o บ้านของพวกคนอธรรมก็มีห้องพระห้องบูชาใหญ่โตหรูหรา และเต็มไปด้วยวัตถุทางศาสนา บ่อยครั้งพวกเขารวยและมีวัตถุมงคล มีรูปนั้นรูปนี้เช่ามาเป็นแสนเป็นล้าน เป็นหลายล้าน.. หรือร้อยล้านก็เล่นกัน...
o คนอธรรมบ่อยครั้งและมากครั้งก็ออกปฏิบัติศาสนกิจ และมักจะได้ยืนในฐานะเจ้าภาพ ในฐานะประธาน และได้รับการเสนอให้อยู่แนวหน้าในการปฏิบัติศาสนกิจเหมือนกัน....
o คนอธรรมก็เททองหล่อโน่นหล่อนี่เป็นประธานสร้างโน่นสร้างนี่ ปั๊มโน้นปั๊มนี่... ฯลฯ
o และขณะเดียวกัน คนอธรรมก็ต่อต้านคนดีจริงๆที่มีศาสนาอย่างถูกต้อง ทำอย่างดี การถือศาสนาอย่างดีกลับได้รับการลบหลู่ดูถูก... คนชอบธรรมถือศาสนาจริงๆ ยืนยันว่าตนเป็นบุตรของพระเจ้า ตนเองมีศรัทธา กลับถูกลบหลู่และดูถูก...
o สมัยหนังสือปรีชาญาณ ความจริงที่ได้พบคือ คนชอบธรรมกลับถูกลบหลู่ว่า เสแสร้งแกล้งทำ และอันที่จริง คนอธรรมที่เสแสร้งศรัทธาในศาสนากลับได้รับเกียรติ....

• “ชีวิตของเขาเป็นการติเตียนความรู้สึกนึกคิดของเรา เพียงแต่เห็นเขา เราก็ทนไม่ได้”
o คนดี คนชอบธรรม ชีวิตดีของคนชอบธรรมกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางหูขวางตาคนอธรรม
o เรียกว่า เห็นก็หมั่นไส้ ทนได้ไม่ไหวแล้ว และที่สำคัญแม้แต่คนศรัทธาคนที่เป็นผู้บริสุทธิ์ คนที่เป็นมโนธรรมของสังคม ก็กลับถูกทำลาย ถูกเก็บไปจนได้ จนแล้วจนรอด ก็รอดยากสำหรับคนชอบธรรม เพราะความคิดของคนอธรรมนั้นต่างมองดูคนชอบธรรมด้วยความขุ่นเคือง เพราะความดีของคนชอบธรรมมันช่างขัดใจขวางทางและขวางทาง อีกทั้งเป็นการติเตียนความผิด...
o ดังนั้น ทนไม่ได้ ก็เหมือนเดิม “เก็บหรือฆ่าเสีย” จนคนดีๆ อยู่ยากเหลือเกิน....

• “เพราะชีวิตของเขาไม่เหมือนกับผู้อื่น ความประพฤติของเขาก็ต่างกับของเรามาก”
o จากนี้ไปเป็นคำสารภาพในหัวใจของคนอธรรม ยอมรับความจริงอย่างไม่ยอมรับได้
o แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ความเห็นของคนอธรรมต่อคนชอบธรรมว่า ความคิดของคนอธรรมที่มีปฏิกิริยาต่อคนดี ปฏิกิริยาต่อคนชอบธรรมธรรมจริงๆ เป็นอย่างไร และความคิดนี้อันที่จริงเป็นความจริง... ว่าคนอธรรมเป็นแบบนี้จริงๆ...
o พ่อได้พบสี่ประการต่อไปนี้

1. เขาคิดว่าเราเป็นคนไร้ค่า (คนอธรรมคิดในใจว่าคนดีมองว่าคนอธรรมไร้ค่า และอันที่จริงพ่อพบว่าคนอธรรมก็ไร้ค่าจริงๆ แม้ดูว่ามีราคาคิดเป็นเงินได้มากมายกับทรัพย์สมบัติที่มีที่ได้มาจากความคดโกง จากความอธรรม แต่ในสายตาของคนชอบธรรม ก็ไร้ค่า ไม่มีคุณค่าจริงๆ)

2. เขาหลีกเลี่ยงวิถีชีวิตของเราประหนึ่งว่าเป็นสิ่งปฏิกูล (คนชอบธรรมคิดว่าพวกเขาคือคนที่คนชอบธรรมเจอแล้วอยากเดินหลบ กลัวเหมือนจะไปเหยียบปฏิกูล... อันที่คนอธรรมน่าเวทนาจริงๆ ก็ว่าได้... เวลาพ่อเจอคนที่ใหญ่ แต่ไม่ใช่คนดีเลย คนมีชื่อเสียงแต่แย่มากๆ พ่อก็เดินเลี่ยงจริงๆ ไม่อยากเห็นหน้า แม้บางครั้งเดินเฉียดหน้ากัน เขาและพวกเขาส่งสายตาเหมือนอยากถามหาความเคารพให้เกียรติจากพ่อ เพราะเขาคิดว่าเขาใหญ่โตในการเมืองเหลือเกิน แต่พ่อก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเลยจริงๆ ไม่อยากมองด้วยซ้ำ ไม่อยากให้เขาเข้ามาใกล้ด้วย เพราะคนพวกนี้บางทีต้องมีบอร์ดี้การ์ดเยอะรอบตัว เพราะกลัวอันตราย...)

3. เขาประกาศว่าผู้ชอบธรรมจะมีความสุข ในวาระสุดท้าย (คนชอบธรรมนั้น แน่นอน มีความหวังแม้ในโลกที่สิ้นหวัง แม้ดูว่าโลกนี้คนชอบธรรมต้องเสียเปรียบ แต่อันที่จริงชีวิตนิรันดรของเราก็มีอยู่จริงๆอยู่ในพระเจ้า... คนมากลาภยศสรรเสริญและอำนาจอธรรม จะมีความสุขจริงๆหรือ เดินไปไหนๆ ยังต้องมีบอร์ดี้การ์ดคุ้มครอง แต่คนชอบธรรมมีความหวังเสมอ เพราะเราเชื่อในชีวิตนิรันดร)

4. อวดอ้างว่าพระเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเขา (คนอธรรมคิดว่าคนชอบธรรมอวดอ้างว่ามีพระเจ้าเป็นบิดาหรือ.... อันที่จริงก็เป็นเช่นนั้น สบายใจได้เลยเกิดมามีพระเจ้าเป็นพระบิดา... เป็นลูกของพระเจ้าไม้องกลัวใครจริงๆๆๆ ในทางกลับกัน...เท่าที่พ่อรู้คือบรรดาลูกๆ ของพวกคนอธรรมทั้งหลายกลับไม่ค่อยรู้ตัวว่าตัวเป็นลูกใครด้วยซ้ำ??? เพราะชอบเที่ยวถามย้ำ พูดกร่างๆ กับคนทั่วไปว่า “รู้ไหมว่าข้าเป็นลูกใคร... ดูสิ จำพ่อบังเกิดเกล้าตนเองยังไม่ได้และช่างไม่รู้ตัวจริงๆ” เขียนมาถึงตรงนี้แล้วอยากขำกลิ้งสักฮาสองฮาสามฮาก่อนนะครับ... คนอธรรมมักจะความจำสั้นหรืออกตัญญูคือจำพ่อตัวเองไม่ได้ และมักจะไปถามใครต่อใครว่า “กูลูกใคร”... แต่คนชอบธรรม ไม่ต้องกลัว พระเจ้าเป็นพระบิดาของเรา เราเป็นลูกของพระองค์ กร่างได้เต็มที่ในความดี (ภาษาแปลกๆ “กร่าง” อันที่จริงคืออวดได้ไม่ต้องอาย” เราเป็นบุตรพระเจ้า ไม่ต้องกังวล)

• “เราจงดูเถิดว่าคำพูดของเขาจะจริงหรือไม่ เราจงพิสูจน์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแก่เขาในวาระสุดท้าย”
o รอไปเถอะ เพราะความจริงคือความจริง แม้ไม่เห็นได้ในโลกนี้แต่ความจริงเป็นนิรันดร์อย่างแน่นอน
o คนอธรรมไม่มีวันเข้าใจ เพราะเขาไม่มีอนาคตที่คิดไปไกลกว่าชีวิตนี้หรอก...
o แต่ว่าคนที่วางใจในพระเจ้ามีความสุขในความจริงอย่างแน่นอน

• “ถ้าผู้ชอบธรรมเป็นบุตรของพระเจ้า พระองค์ก็จะทรงปกป้องเขา และทรงช่วยเขาให้พ้นเงื้อมมือของศัตรู”
o พ่อไม่มีคำอธิบาย แต่เรื่องนี้เป็นความจริงในพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน
o พระองค์ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ แล้วเราก็มั่นใจได้ เชื่อในพระองค์ได้อย่างแน่นอนเช่นกัน เพราะพระองค์ทรงกลับคืนพระชนม์แต่ต้องตาย แต่ทรงครองราชย์นิรันดร...

• “เราจงสาปแช่งและทรมานลองใจเขา ให้รู้ว่าเขาอ่อนโยนเพียงใด และจงทดสอบว่าเขาอดทนเพียงใด”
o พ่อเห็นชัดเจนว่า...คนชอบธรรมล้ำค่าดุจทองคำ
o ที่ยิ่งถูกเผายิ่งบริสุทธิ์ และถูกคนอธรรมท้ายทายเสมอ ทดสอบเสมอเลย
o แต่อย่างไรก็ตาม ยิ่งถูกทดลองย่ำยีจนเหมือนบอบช้ำ แต่ที่ไหนได้ เขาอ่อนโยนต่างหาก คนชอบธรรมอ่อนโยนที่สุด
o จนถึงที่สุดแต่ไม่มีคำว่าอ่อนแอและยอมแพ้ ปราศจากความกลัว

• เราจงตัดสินลงโทษให้เขาตายอย่างอัปยศ ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาพูด พระเจ้าจะทรงคอยดูแลเขา”
o แม้ถูกทดลองจนถึงที่สุด พระเจ้าจะดูแล
o และที่สุดคนชอบธรรมแม้ตายแบบอัปยศ พระเยซูก็เป็นเช่นนั้นบนไม้กางเขน
o แต่กางเขนกลายเป็นสิริรุ่งโรจน์ตลอดนิรันดร.... ความตายบนกางเขนกลับกลายเป็นความรอดของมนุษย์ทุกคนตลอดไป....

พี่น้องที่รัก พ่อมีคำสรุปจากปรีชาญาณจริงๆ ครับ คือ
• “คนอธรรมคนเลวหรือผู้ไม่ยำเกรงพระเจ้าจริงๆคิดเช่นนี้
o แต่เขาคิดผิด
o ความชั่วร้ายทำให้เขาตาบอด
o เขาไม่รู้แผนการเร้นลับของพระเจ้า”

• พ่อกล้าสรุปจากปรีชาญาณแท้จริงว่า “คนอธรรมคิดผิด เดินทางผิด ปฏิบัติผิด เพราะเขาไม่มีความเคารพยำเกรงพระเจ้าจริงๆจากใจ...”

• พี่น้องที่รักครับ พ่อขอให้เราดำเนินชีวิตเป็นคนชอบธรรมนะครับ
o อย่ากลัวคนอธรรมและความรุ่งเรืองของคนอธรรมเลย
o จงเจริญชีวิตอย่างมีปรีชาญาณได้เลย
o รู้ได้เลยว่าเราลูกใคร “เราลูกพระเจ้าครับ”
o สบายใจได้เลยพี่น้องเอ๊ย... ให้เราประพฤติดี ทำความดี และศรัทธาในพระเจ้าองค์ความรักแลความดีตลอดไป... ขอพระเจ้าอวยพรครับ อ่านพระคัมภีร์เสมอนะครับ...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก