“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2016
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา

                  ดาวิดรบชนะโกลีอัธได้จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ แต่ดาวิดสามารถและอันที่จริง เป็นพลังและความสามารถของพระเจ้า ถ้าเราจำได้ ดาวิดประกาศชัดเจนในการสนทนากับเจ้ายักษ์โกลีอัธ “ท่านถือดาบ หอก และแหลนมาสู้กับข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้ามาสู้กับท่าน เดชะพระนามของพระยาห์เวห์ จอมโยธา พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ที่ท่านดูหมิ่น” สิ่งที่เราได้เห็นพลังและอำนาจของพระยาห์เวห์นั้น สุดหยั่งจริงๆ ดาวิดสามารถเอาชนะได้อย่างสบายๆเพียงด้วยหินและสลิงที่เป็นอาวุธของคนเลี้ยงสัตว์เท่านั้น แต่เมื่อดาวิดได้รับชัยชนะ ดาวิดกลับมาแล้ว การต้อนรับดาวิดทำให้ซาอูลขุ่นเคืองใจอย่างมาก เพราะประชาชน โดยเฉพาะบรรดาสตรีในเมืองได้ออกสรรเสริญ เต้นรำต้อนรับดาวิดและประกาศว่าดาวิดนั้นยิ่งใหญ่กว่าซาอูล... เรามาอ่านพระคัมภีร์กันก่อนนะครับ


---------------------------------------
1ซมอ 18:6-9; 19:1-7…
6เมื่อบรรดาทหารกลับไปบ้านหลังจากที่ดาวิดฆ่าชาวฟีลิสเตียผู้นั้นแล้ว บรรดาสตรีได้ออกจากทุกเมืองของอิสราเอลมาต้อนรับกษัตริย์ซาอูล เขาร้องเพลงเริงระบำ เล่นรำมะนา ส่งเสียงร้องด้วยความยินดีและเล่นเครื่องดนตรีอื่นๆ 7บรรดาสตรีพากันเต้นรำและขับร้องรับกันว่า
“ซาอูลฆ่าศัตรูหลายพัน
ดาวิดฆ่าศัตรูหลายหมื่น”
8กษัตริย์ซาอูลทรงได้ยินบทเพลงนี้ก็ไม่พอพระทัย กริ้วมาก ตรัสว่า “เขายกย่องดาวิดว่าฆ่าศัตรูหลายหมื่น ส่วนเรา เขาว่าฆ่าศัตรูหลายพันเท่านั้น เขาจะให้อะไรแก่ดาวิด นอกจากจะให้ราชสมบัติ” 9ตั้งแต่วันนั้น กษัตริย์ซาอูลทรงอิจฉาดาวิดเรื่อยมา
1กษัตริย์ซาอูลทรงแจ้งให้โยนาธาน พระโอรส และข้าราชบริพารทุกคนทราบว่าพระองค์ตั้งพระทัยจะฆ่าดาวิด แต่โยนาธานโอรสของกษัตริย์ซาอูลทรงรักดาวิดมาก 2โยนาธานจึงทรงนำข่าวไปบอกดาวิดว่า 'ซาอูลพระราชบิดาทรงพยายามจะฆ่าท่าน พรุ่งนี้เช้าจงระวังตัวให้ดี จงไปซ่อนให้ลับตาและคอยอยู่ที่นั่น” 3ฉันจะพาพระราชบิดาออกไปยืนในทุ่งที่ท่านซ่อนอยู่ แล้วฉันจะถามพระราชบิดาเรื่องท่าน เมื่อฉันรู้อะไรแล้ว ก็จะบอกให้ท่านทราบ'
4โยนาธานตรัสยกย่องดาวิดให้ซาอูลพระราชบิดาฟังว่า 'ขอกษัตริย์อย่าได้ทำร้ายดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์เลย เขาไม่เคยทำผิดอย่างใดต่อพระองค์ ตรงข้ามเขากลับทำทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อพระองค์อย่างมากมาย 5เขาเสี่ยงชีวิต เมื่อฆ่าชาวฟีลิสเตียคนนั้น และพระยาห์เวห์ทรงให้ชาวอิสราเอลมีชัยชนะยิ่งใหญ่ พระบิดาทรงเห็น ก็ยังทรงยินดี แล้วพระองค์จะยังทรงทำผิดต่อโลหิตของผู้บริสุทธิ์ ฆ่าดาวิดโดยไม่มีเหตุผลอีกหรือ?' 6กษัตริย์ซาอูลทรงฟังโยนาธานพูดแล้วทรงสาบานว่า 'พระยาห์เวห์ทรงพระชนมชีพอยู่ฉันใด เราจะไม่ฆ่าดาวิดฉันนั้น' 7โยนาธานจึงทรงเรียกดาวิด มาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง แล้วทรงพาดาวิดไปเฝ้าซาอูล ดาวิดก็รับราชการตามเดิม
-----------------------------------------------------

• ความอิจฉาไม่เคยละเว้นจากใครเลยจริง หัวใจของซาอูลเมื่อได้ยินคนสรรเสริญดาวิด ทั้งที่ซาอูลเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลอยู่ แต่ซาอูลเริ่มอิจฉาดาวิด ประเด็นสำคัญของวันนี้ที่เราน่าจะพิจารณาไตรตรองคือคำว่า “อิจฉา” คำนี้ในภาษาฮีบรูคงต้องอธิบายกันนิดหนึ่งครับ “עָוֹן หรือ עוֹיֵ֣ן” อ่านว่า ‘awon หรือ ‘oyen “ออกเสียงว่า อาวอนหรือโอเยน” คำนี้ ในรูปนี้ที่ใช้ในพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูปรากฏเพียงครั้งเดียวที่นี่และครับ ไม่มีที่อื่นที่ใช้ในรูปนี้ คำแปลจึงยากๆหน่อย รากศัพท์ของคำๆนี้คือคำว่า “ดวงตา” และเป็นคำกริยาคงต้องแปลว่า “สายตาที่ไม่ชอบ อิจฉา หรือสายตาที่ขาดความไว้วางใจ” เรื่องนี้คงต้องดูละครไทยกันหน่อยเวลาที่ตัวอิจฉาหรือนางอิจฉา “สายตา” หรือ “ดวงตา” เวลามองนางเอกนั้นเป็นอย่างไร... คำภาษาฮีบรูต้องการเผยว่า “จากวันนั้น ซาอูลมองดาวิดแบบนั้น” ใช่เลยครับ คำแปลจึงเลือกแปลสองแบบ
1. จากวันนั้น ซาอูลจึงอิจฉาดาวิดตลอดมา (Jealous)
2. จากวันนั้น ซาอูลมองดาวิดด้วยความไม่ไว้วางใจ หรือสงสัย (suspicious)

• คำแปลภาษาต่างๆ และภาษาอังกฤษเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะใช้คำว่าอิจฉาหรือใช้คำว่า สายตาที่สงสัยไม่ไว้วางใจ เรียกว่าจ้องจับผิดและหวาดระแวง ซึ่งถ้าดูจากภาษาต้นฉบับก็สามารถเห็นได้ว่า จากวันนั้น สายตาของซาอูลมองดูดาวิดไม่เหมือนเดิม และหวาดระแวงดาวิดตลอดเลย

• จากความอิจฉาหรือความหวาดระแวงนำไปสู่ความเกลียด และปรารถนาจะฆาตกรรมดาวิด นี่เป็นบาปแห่งอำนาจเสมอมา.. กษัตริย์หลายคนในประวัติศาสตร์อยู่ด้วยความหวดระแวงและกลัวจะเสียอำนาจ เขาต้องฆ่าคนที่เขากลัวว่าจะชิงบัลลังก์ของตน ประวัติศาสตร์ของเฮโรดมหาราชเองก็ได้ฆ่าหลายคนที่เขาไม่ไว้ใจหรือหวาดระแวง เขาฆ่าแม่กระทั่งบุตรชายของตนเพราะเกรงว่าจะมาแย่งชิงบัลลังก์ของตน จึงไม่แปลกที่ซาอูลมีความปรารถนาจะฆ่าดาวิดเช่นกัน ซึ่งอันที่จริงเราทราบว่าประกาศกซามูเอลได้เจิมตั้งดาวิดให้เป็นกษัตริย์แทนซาอูลอยู่แล้ว เพียงแต่รอเวลาที่ดาวิดจะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเราก็เห็นแล้วว่าพลังของพระเจ้า จิตของพระเจ้า สถิตอยู่กับดาวิดเสมอ

• บทเรียนที่ดีจากเรื่องนี้ คือ จิตของพระเจ้าได้ละทิ้งกษัตริย์ซาอูลไปก่อนแล้ว นับตั้งแต่เวลาที่เขาได้ยักยอกหรือโลภและคอรัปชั่นเก็บของที่ได้จากสงคราม สิ่งดีๆเก็บไว้ไม่ได้ทำลายตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขา ความจริงซาอูลล้มเหลวในสายพระเนตรพระเจ้า เพราะความไม่เชื่อฟังและความโลภ และดูเหมือนบาปความโลภนั้นยังไม่จบ มันขยายตัวต่อไปไม่จบสิ้น ไปสู่ความอิจฉา ไม่ไว้วางใจ และความปรารถนาจะฆาตกรรมดาวิดเสียด้วย พ่อคิดว่าบทสอนที่ดีมากๆสำหรับการอ่านพระคัมภีร์ตอนนี้คือการขาดความซื่อสัตย์ไม่ได้มีจิตของพระเจ้าประทับอยู่ ทำให้ชีวิตของซาอูลต้องตกต่ำลงไปในบาปแบบต่อเนื่องก็ว่าได้

• “โยนาธาน” บุตรของกษัตริย์ซาอูลเพื่อรักของดาวิด ชื่อนี้ต้องศึกษาจริง ต้องไตร่ตรองจริงๆ ทิ้งไม่ได้เลย ชื่อนี้เพราะมากๆ มีความหมายมากๆในพระคัมภีร์
o ภาษาฮีบรูเขียนว่า יוֹנָתָ֤ןและออกเสียงว่า Jo+Natan “โยนาธาน” นี้เป็นสองคำที่เข้ามาเกี่ยวข้องกัน คือ
1. YaHWeH หรือยาห์เวห์ เป็นพระนามของพระเจ้าสูงสุด
2. Natan คำกริยา แปลว่า “ประทาน มอบให้”
o ชื่อโยนาธาน ก็โดดเด่นมากแล้วครับ ในยามที่ดาวิดกำลังถูกกษัตริย์ซาอูลปรารถนาจะประหารชีวิตหรือทำร้ายให้ตายเสีย แต่พระเจ้า “พระยาห์เวห์ได้ประทาน” ความช่วยเหลือหรือความรอดแก่ดาวิด พระเจ้าทรงเตรียมไว้ ทรงมอบให้ไว้ เพียงชื่อนี้ทำให้เราได้ไตร่ตรองมากๆที่เดียว ในยามที่ยากที่สุด ยามลำบาก พระเจ้าทรงเตรียมความรอดพ้นไว้ให้เราเสมอ “วางใจในพระญาณเอื้ออาทร” (Providence) ของพระเจ้าเสมอได้เลย

• “โยนาธานโอรสของกษัตริย์ซาอูลทรงรักดาวิดมาก โยนาธานจึงทรงนำข่าวไปบอกดาวิด” ความรักของโยนาธานต่อดาวิดเป็นเรื่องหนึ่งในพระคัมภีร์ที่น่าค้นหา ความรักฉันมิตรที่สนิทกัน และพระเจ้าประทานโยนาธานเพื่อความรอดปลอดภัยของดาวิด โยนาธานบุตรของกษัตริย์ซาอูล แม้ว่ากษัตริย์ซาอูลปรารถนาจะฆ่าดาวิด แต่เราเห็นว่า ความรักและการช่วยให้รอดการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้รอดนั้นเป็นสิ่งที่มาด้วยกนเสมอ โยนาธานจึงปกป้องดาวิด และได้บอกดาวิด อีกทั้งวางแผนเพื่อช่วยดาวิดให้รอดจากมือของพระราชบิดา

• มีหลายคนที่อ่านพระคัมภีร์ ได้ศึกษาเรื่องราวความเป็น “มิตรรัก” ของโยนาธานและดาวิดไว้มากพอควรพ่อเองเห็นความสัมพันธ์ของชื่อของทั้งสองในพระคัมภีร์งดงามมาก พ่อคิดว่าเพียงชื่อของทั้งสองทำให้เราได้เกิดแรงบันดาลใจหลายประการ และเป็นชื่อที่งดงามทั้งคู่ สมกับที่เป็นเพื่อนรักต่อกันจริงๆ
o ดาวิด แปลว่า ที่รัก
o โยนาธาน แปลว่า พระยาห์เวห์ประทานให้

• สิ่งที่น่าประทับใจในความเป็นโยนาธาน พ่อเชื่อว่าคำพูดของโยนาธานในพระคัมภีร์วันนี้เป็นบทสอนที่ดีมากๆสำหรับเรา “พี่น้องคริสตชน ผู้ศรัทธาในความรักของพระเจ้า” แม้พระคัมภีร์ตอนนี้มาจากพันธสัญญาเดิม แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความงดงามของพระวาจาที่สอนและเป็นแรงบันดาลใจเราในเรื่องมิตรภาพและความรักได้อย่างดียิ่ง เรามาจับประเด็นคำพูดของโยนาธานกันหน่อยนะครับ 4โยนาธานตรัสยกย่องดาวิดให้ซาอูลพระราชบิดาฟังว่า
o 'ขอกษัตริย์อย่าได้ทำร้ายดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์เลย
o เขาไม่เคยทำผิดอย่างใดต่อพระองค์ ตรงข้ามเขากลับทำทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อพระองค์อย่างมากมาย
o เขาเสี่ยงชีวิต เมื่อฆ่าชาวฟีลิสเตียคนนั้น และพระยาห์เวห์ทรงให้ชาวอิสราเอลมีชัยชนะยิ่งใหญ่ พระบิดาทรงเห็น ก็ยังทรงยินดี แล้วพระองค์จะยังทรงทำผิดต่อโลหิตของผู้บริสุทธิ์ ฆ่าดาวิดโดยไม่มีเหตุผลอีกหรือ?'

• พี่น้องที่รัก...สิ่งที่พ่อมองเห็นจากคำพูดของโยนาธานต่อซาอูล คือ สิ่งที่เราสามารถเรียกได้ว่า “ประสบการณ์” การทบทวนประสบการณ์ความดีของดาวิดที่ได้กระทำเพื่อซาอูลและเพื่ออิสราเอล...
o สำหรับซาอูลเองนั้นอยู่ในสภาพ “เส้นผมบังตา” เมื่อ “ความอิจฉา การขาดความไว้วางใจ” เข้ามาครอบงำซาอูล เขาลืมทุกอย่างที่เป็นความดีที่ดาวิดได้กระทำ อันที่จริงดาวิดได้รับเจิมเป็นกษัตริย์แล้วจากซามูเอลประกาศก แต่ดาวิดมิได้เคยกระทำตนเหนือซาอูลแม้เพียงสักครั้งเดียว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งถ้าเราอ่านต่อๆไป ดาวิดไม่เคยคิดทำร้ายซาอูลสักครั้งแม้มีโอกาสถึงสองครั้งสองครา แต่ดาวิดคือดาวิด ที่รักคือที่รัก ความเป็นที่รักของพระเจ้าโดดเด่นในตัวดาวิดเสมอ และอันที่จริงสอนศรัทธาของเราได้มากมายในความรักต่อพระเจ้า และรักต่อกษัตรย์ซาอูลผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้เช่นกัน

• “ประสบการณ์” ที่โยนาธานทบทวนให้กษัตริย์ซาอูลได้ฟัง ได้กลับใจซาอูล และทรงสาบานจะไม่ฆ่าดาวิด (แม้ในอนาคตซาอูลจะปรารถนาจะฆ่าดาวิดบ่อยๆ เพราะจิตใจสับสน ไม่สงบ วุ่นวาย ซึ่งคนอิจฉาตาร้อนจิตใจมักจะวุ่นวายแบบนี้เสมอๆ แต่ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงพิณที่ดาวิดเล่นถวาย ใจของซาอูลก็สงบลงบ่อยๆ) เรื่องราวตอนนี้พ่อได้คำสอนสำคัญคือ
o ความอิจฉา ความโกรธเกลียด ของซาอูลนั้น สามารถสงบสยบลงได้ เหมือนผีอิจฉาเกลียดชังเข้ามาสิงใจซาอูล และผีร้ายนี้มันออกไปได้เมื่อมีความรักจริงใจจากดาวิดส่งมาให้ซาอูล “ดาวิด แปลว่าที่รัก”
o พ่อคิดว่า ความรักแท้ ความรักมั่นคงและความจริงในความรัก ซื่อสัตย์ในความรักเท่านั้น ที่จะขจัดความสงสัยหรือคลางแคลงใจใดๆได้ พ่อเชื่อว่ายุคปัจจุบันของเรา “ความรัก” ชีวิตรักของครอบครัว สถาบันครอบครัว ความรักในหมู่คณะทั้งพระสงฆ์ นักบวช ชีวิตหมู่คณะจะต้องมีความรักของพระเจ้า ความรักแท้ที่รวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ได้อย่างปราศจากเงื่อนไข ปราศจากความอิจฉาริษยาและเกลียดชังหรือความลุ่มหลงผิดใดๆ ความรักแท้ต้องฟื้นฟูชีวิตคริสตชนของเราขึ้นเสมอ และต้องมีคนเช่นโยนาธานที่จะช่วยเราให้ทบทวนประสบการณ์ดีๆในชีวิตของเราแต่ละคนในกลุ่มคริสตชน
o ความรักย่อมนำมาซึ่งการ “แบ่งปันประสบการณ์” ดีๆ ต่อกัน เล่าถึงประสบการณ์ดีๆของกันและกันเพื่อกันและกันเสมอ โดยเฉพาะประสบการณ์ความรักที่เราได้รับจากพระเจ้า เราต้องไม่ลืมว่า ความเชื่อศรัทธาและความรักนั้นถ่ายทอดถึงกันผ่านประสบการณ์เสมอ เช่นพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานพระวาจาแห่งความรัก ก็ได้รับการถ่ายทอดต่อกันมาด้วยประสบการณ์แห่งความรักและความสัตย์ซื่อ
o การที่โยนาธานได้เปลี่ยนใจซาอูล ทำให้ซาอูลสาบานว่าจะไว้ชีวิตดาวิด เป็นเครื่องหมายที่เป็นผลจากการเล่าประสบการณ์ที่งดงาม และประสบการณ์ดีๆทำให้กษัตริย์ซาอูลยอม “กลับใจ”
o พี่น้องที่รัก พ่อเชื่อว่า คริสตชนเราต้องกล่าวถึงกัน เล่าถึงกัน ซึ่งประสบการณ์ดีๆที่เราได้รับ (พูดถึงความดีของกันและกัน ไม่ใส่ความนินทารับหลังเพราะอิจฉาริษยาล้ำลึกแบบดูดี พูดน่าฟัง พูดเอามัน พูดเยอะและสั่งให้คนฟังเหยียบไว้ให้มั่น แล้วจะพูดทำไม... ถ้าพูดแต่เรื่องดีๆ แล้วจะไม่ดีกว่าหรือ)
o จงพูดถึงประกาศถึงประสบการณ์ที่เราได้สัมผัสพระเจ้าในชีวิตและแบ่งปันกันเสมอๆ ด้วยความรักต่อกันเพื่อหล่อเลี้ยงความเชื่อแก่กัน และเป็นหลักประกันความหวังแก่กัน และที่สำคัญเป็นยืนยันถึงความรักที่คริสตชนคนของพระเจ้าพึงมีต่อกันจริงๆนะครับ

• “อิจฉาริษยา ยังงัยก็แพ้เพราะรู้อยู่แก่ใจ” คำสอนอีกประการหนึ่งที่พ่อได้พิจารณาวันนี้จากพระคัมภีร์ กษัตริย์ซาอูลผู้อิจฉาริษยาได้แพ้ประสบการณ์ความรักของดาวิดที่โยนาธานเล่าให้ฟังอีกครั้ง หรือทบทวนให้ฟังอีกครั้ง ประสบการณ์ความดีและความจริงคือประเด็นสำคัญที่ทำให้ซาอูลกลับใจ มีสันติกับดาวิด ทำให้ดาวิดเองได้กลับมาอยู่ใกล้ซาอูล รับใช้ซาอูลดุจบิดา เคารพรักซาอูล และอันที่จริงซาอูลก็รักดาวิด แต่บ่อยครั้งความอิจฉาก็ครอบงำอยู่บ้าง แต่สิ่งที่เอาชนะได้เพราะคำพูดของโยนาธานนั้น “คือความจริงของดาวิด ตัวจริงของดาวิด”

• พ่ออยากสรุปวันนี้ด้วยคำสอน “Caritas in Veritate” หมายความว่า “ความรักในความจริง” พ่อคิดถึงเรื่องนี้ เพราะซาอูลได้มีสันติกับดาวิดเพราะได้ยินได้ฟัง “ความจริง” (Truth หรือ ภาษาลาติน Veritas) พระเยซูเจ้าเองทรงยืนยัน “เราคือความจริง” ประเด็นไตร่ตรองของพ่อวันนี้คือ
1. พี่น้องครับ โลกสังคมปัจจุบันของเราต้องการความจริง เพราะโลกปัจจุบันสังคมปัจจุบัน “ขาดความจริง” อย่างน่าเศร้าใจจริงๆ ความเห็นตัว ความโลภ ความอยาก การคอรัปชั่น เอาเปรียบ ทำให้คนเราห่างจากความจริง สร้างความเท็จ ข้อมูลเท็จ เอาชนะกันเอาเปรียบกันด้วยความเท็จ ทำลายความรักอย่างมาก มากจนไม่สามารถจะประเมินความเสียหายได้ ทั้งในระดับโลก ระดับชาติ และสังคมของเรา.... “เรื่องความจริง” ปัจจุบันอาการหนักมากครับ โลกสังคมจะมีความสงบสุขสันติไม่ได้ ถ้าไม่มีความจริง แม้แต่ความปรองดองก็ไม่ได้ ถ้าหากเราไม่เอาความจริงมาวางต่อหน้า (ความจริงนั้นหลายเรื่องไม่ต้องพูดก็ได้ เพราะความจริงๆอย่างไรก็ทำให้เรามีอิสระอยู่แล้ว) และ “รักในความจริง” มิฉะนั้นสังคมจะสงบได้อย่างไร??? กษัตริย์ซาอูลเดือดเนื้อร้อนใจอย่างมากอยากฆ่า อยากทำลาย แต่ที่สุดความจริงแห่งความรัก และความดีของดาวิดทำให้พระทัยสงบและนำสันติกลับมา (อย่างที่พ่อบอกแล้ว แม้ซาอูลจะกลับไปกลับมาหลายครั้ง แต่ดาวิดก็เอาอยู่ทุกครั้งไปด้วยความรัก และความจริงใจอีกทั้งความฉลาดของดาวิดและโยนาธาน เอาเป็นว่า สันติสุขจะเกิด ต้องมีความจริง ต้องมีความรัก และก็มีความฉลาดและปรีชาญาณอีกด้วยโง่ไม่ได้เด็ดขาด)
2. “ความรักในความจริง” เท่านั้นสามารถนำสันติภาพและสันติสุข เราจะเห็นว่าในตอนสุดท้ายเมื่อซาอูลสิ้นพระชนม์ และโยนาธานก็สิ้นชีวิตในสงคราม เราจะได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญและน้ำตาของดาวิด เพราะดาวิดเคารพรักซาอูลกับโยนาธานจริงๆ แม้ซาอูลจะไม่สู้ชอบดาวิด แต่ดาวิดก็คือดาวิด “ที่รัก” คนของพระเจ้า ผู้รับเจิมของพระเจ้า ดาวิดไม่เกลียดซาอูลเลย... พ่อคิดว่า เราได้บทเรียนเยอะมากจากการอ่านพระคัมภีร์เรื่องซาอูล ดาวิด และโยนาธาน
3. พี่น้องที่รัก ประเทศไทยของเราในระยะที่ผ่านมาเป็นเวลาของการซ่อนความจริง ให้ความจริงกันบางส่วน ยอมรับความจริงเฉพาะที่ตนได้ผลประโยชน์ ความโลภและความตะกละไม่สิ้นสุดอยู่เบื้องหลัง ทำให้ขาดความรักและความเมตตา ทำร้ายกันได้ ฆ่ากันได้ แม้ไม่รู้ว่าคนที่จะถูกฆ่าจะเป็นใคร จะมีทางป้องกันตัวหรือไม่ จะแฟร์หรือไม่ ไม่สนใจไม่มีใจจริงหน้าทางการเมืองจะฆ่ากันตายแบ่งสีกัน รับหลับร่วมโต๊ะอาหารยิ้มย่องผ่องใส่ .... ทุกอย่างมาจากความเท็จ ความโลภ อยากได้ และกระหายความรุนแรงอยู่ร่ำไป ให้ความเท็จครอบงำ เสนอความเท็จ ซ่อนความจริงเพื่อประโยชน์ของตนและพรรคพวก เจ็บป่วยหนักมากประเทศของเราเป็นอย่างนี้มานาน... พ่อเชื่อว่า เราต้องการโยนาธาน เราต้องการดาวิด เราต้องการความจริงและความดีมากกว่าที่เคย พระคัมภีร์วันนี้ต้องทำให้เราแสวงหาสันติสุขด้วยการประกาศความจริงด้วยความรัก อ่อนโยน ดังเช่นโยนาธาน พ่อเองวิงวอนของพระเจ้าได้โปรดประทาน “โยนาธาน แปลว่าพระยาห์เวห์ประทาน” พ่อเชื่อมั่นและวิงวอนของพระเจ้าประทานความช่วยเหลือด้วยเทอญ
4. “การกลับใจ” สังคมของเราต้องการการกลับใจ การสำนึก รู้ตัว รู้ความจริง รักความจริง รักในความจริง และจริงใจในความรัก ไม่มีวาระซ่อนเร้นเห็นแก่ตัว จึงจะนำมาซึ่งความปรองดองและสันติสุขแท้จริง การคืนดีแท้จริง
5. ผู้มีอำนาจหน้าที่ เช่นซาอูล จำเป็นต้องได้รับการขัดเกลาจิตใจในความจริง ต้อง “เลิกใช้อำนาจผิด หรือใช้ความรุนแรง” อำนาจแท้จริงคือการรับใช้เพื่อความดีส่วนรวม นี่คือหลักการปกครอง “ความดีส่วนร่วม เพื่อบ้านส่วนร่วมของเรา” (Common Good... Laudato Si’) จะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนไม่ได้ ผู้ปกครองจะหลงเหลิงหรือลุแก่อำนาจไม่ได้ เพราะอำนาจที่ได้มานั้นเพื่อปกป้องคุ้มครองความดีส่วนรวมสำหรับทุกคนจริงๆ
พี่น้องที่รักครับ พ่อเองได้บทสอนมากมายแก่ตัวพ่อเองจากเรื่องของพระคัมภีร์วันนี้ พ่อประทับใจมากๆกับพระวาจา ความงดงามของพระวาจา เรื่องนี้สอนความจริงแห่งความรักของดาวิด ซาอูลและโยนาธาน พ่อวิงวอนของพระเจ้าโปรดประทานสันติสุข ความรักและความจริงแก่โลกของเรา และประเทศชาติบ้านเมืองของเราด้วยเทอญ ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก