“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 20 พฤษภาคม 2015
สัปดาห์ที่เจ็ด เทศกาลปัสกา
ยน 17:11ข-19…

ข้าแต่พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์
โปรดเฝ้ารักษาบรรดาผู้ที่ทรงมอบให้ข้าพเจ้า ไว้ในพระนามพระองค์
เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนกับพระองค์และข้าพเจ้า
12เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าเฝ้ารักษาเขาเหล่านั้นไว้ในพระนามของพระองค์
ข้าพเจ้าเฝ้ารักษาไว้ และไม่มีผู้ใดพินาศ เว้นแต่ผู้ที่ต้องพินาศ
เพื่อให้เป็นจริงตามพระคัมภีร์


13แต่บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังกลับไปเฝ้าพระองค์
ข้าพเจ้ากล่าววาจานี้ขณะที่ยังอยู่ในโลก
เพื่อบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้าจะมีความยินดีของข้าพเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม
14ข้าพเจ้ามอบพระวาจาของพระองค์ให้เขาเหล่านั้นแล้ว
และโลกเกลียดชังเขา
เพราะเขาไม่เป็นของโลก
เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าไม่เป็นของโลก
15ข้าพเจ้าไม่ได้วอนขอพระองค์ให้ทรงยกเขาออกจากโลก
แต่วอนขอให้ทรงรักษาเขาให้พ้นจากมารร้าย
16เขาไม่เป็นของโลก
เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าไม่เป็นของโลก
17โปรดบันดาลให้เขาศักดิ์สิทธิ์โดยอาศัยความจริง
พระวาจาของพระองค์คือ ความจริง
18พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาในโลกฉันใด
ข้าพเจ้าก็ส่งเขาเข้าไปในโลกฉันนั้น
19ข้าพเจ้าถวายตนเป็นบูชาสำหรับเขา
เพื่อเขาจะได้รับความศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริงด้วย


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• เมื่อวานนี้ คือ ก่อนวันที่พ่อเขียนบทเทศน์บทนี้ เดือนพฤษภาคม ปี 2015 บิดาขอพ่อ (จา) ท่านอายุมาก ป่วยด้วยโรมะเร็งที่เริ่มเมื่อห้าปีก่อน... เวลานี้ท่านอายุ 87 กำลังจะเข้า 88 อาการมะเร็งในระยะสุดท้ายพร้อมกับวัยชรา... และช่วงเกือบเดือนที่ผ่านมากนี้เข้าออกโรงพยาบาลด้วยอาการที่ทรุดจนเรียกว่า ระยะสุดท้ายจริงๆ จนหมอก็บอกว่าเราทำอะไรไม่ได้นอกจากตามอาการไป พ่อรู้ว่าเราต้องรอวัน... เชื่อในพระเจ้าที่สุด หวังที่สุด และยอมรับธรรมชาติของชีวิตด้วย.. แต่ก็ด้วยชีวิตและความเป็นบุตร (แม้จาจะเรียกพ่อว่า “พ่อ” พ่อก็เรียกจาว่า “จา” เคยมีเพื่อนๆชาวต่างศาสนาเขาแซวล้อจาว่า “เลี้ยงลูกอย่างไร...ไปเรียกลูกว่า “พ่อ”...ขำดีครับ จาเองก็ขำเขิน แต่ก็พร้อมเรียกด้วยความภูมิใจที่สุดด้วยมั้ง)

• กลับมาต่อเรื่องที่พ่อกำลังเล่า... เมื่อวานนี้พ่อให้พี่และน้องกับหลานชายมารับจากลับบ้าน... ตามที่หมออนุญาติ และตามกำลังที่จะจะมีต่อไป... พ่อเองไม่ได้อยู่ด้วย พ่อหนีออกมาจากความเหนื่อยจากงานต่อเนื่องและการเยี่ยมดูและให้กำลังใจทุก วัน... พ่อเห็นว่า จาพอกลับบ้านได้ พอครับ ขอออกมาพักกับครอบครัวของพ่อเองบ้าง “น้องเณรสามคนที่เรารวมตัวกันได้ ไปพักผ่อนด้วยกันที่ภูเก็ต พร้อมกับพระพรผ่านความใจดีที่สัตบุรุษลูกรักของพระเจ้าท่านหนึ่งที่ให้ ที่พักพิงแก่พ่อและน้องเณร.. ก่อนพ่อเดินทางมา พ่อก็ภาวนาจริงๆ เป็นห่วงจามากๆ เพราะท่านป่วยมากอยู่และชรามาก...ว่ากันตามจริง เวลาของท่านตามธรรมชาติเหลือไม่มา อันที่จริงสามอาทิตย์ก่อนช่วงพ่ออยู่ในสมัชชาฯ ทำงานหนักมาก ข่าวจากพยาบาลบอกว่าไม่ไหวแล้ว... แต่ก็รอดได้จนวันนี้...

• ดังนั้น เมื่อวานก่อนพ่อมาภูเก็ตเพื่อขอพักผ่อนบ้าง แต่ก็ทำงานเงียบๆ เขียนบทเทศน์ประจำวันและงานเอกสารนิดหน่อยต่อไป... ก่อนมาพ่อก็ห่วง ห่วง ห่วง จนพี่ๆบอกว่า พ่อไม่ต้องห่วง ไปพักบ้างเถอะ... และสัตบุรุษลูกรักของพระเจ้าที่ให้ที่พักพิงกับพ่อและน้องเณรที่ภูเก็ตก็บอก พ่อว่า “ก็ได้ภาวนาขอพระเจ้า โปรดให้พ่อได้พักผ่อนบ้าง” ... และเขายังบอกพ่อว่า “สมควรแล้วที่พ่อจะได้พักผ่อนบ้าง” พ่อคิดแล้วรู้สึกดีจริงๆ เมื่อเรามีความปรารถนาดีต่อกัน เมื่อเราห่วงใยและรักกันและกัน แสดงออกซึ่งความห่วงใยจริงๆ

• ห่วงจาก็ห่วงนะ....ตัวพ่ออยู่ภูเก็ต...แต่พ่อก็ไลน์ถามหลานชาย โทรหาพี่สาว ด้วยความห่วง “จาเป็นอย่างไร” นี่ระหว่างเขียนบทเทศน์นี้ก็เพิ่งไลน์ไปหาหลาน ถามถึงตา ได้เห็นหน้าผ่านวีดีโอคอลผ่านไลน์... เห็นหน้าจา... ได้ยินเสียง จาพูด พยายามพูด บอกว่า “พ่อพักผ่อนให้พ่อนะ” สุดยอดครับ... ความห่วงใย ไม่ใช่ความกังวลนะ แต่เป็นความรักต่างหากจริงๆ คนเราไม่รักไม่ห่วงกันหรอกครับ... ตราบใดที่เราห่วงใยใครสักคนหรือหลายคน..เหตุผลคือความรักครับ...รักจริงๆ ครับไม่มีอะไรปฏิเสธได้เลย...

• พ่อจำได้ว่า ความเป็นพ่อแม่กับความห่วงใยลูกนั้นช่างงดงามและรักห่วงใยเหลือเกิน... บิดามารดาก็มีแต่ห่วงลูกๆ พอคนเราเป็นพ่อแม่คนก็ห่วงลูกของตน พี่ก็ห่วงน้อง ห่วงพี่ห่วงน้องของตน... พ่อจำได้ว่า สมัยพ่อเป็นเณรอยู่ พวกเรามารวมกันที่บ้านเจ้าเจ็ด...ทุกคนก็ทยอยกันมา รถประจำทางส่วนใหญ่... พี่คนโตมีรถของครอบครัวเขา เขาแจ้งจาว่าจะมาด้วย แต่มาช้า... พ่อเห็นจาชะเง้อแล้วมองแล้วมองอีกไปที่ถนน ไม่เห็นมาเลย... จนบ่ายคล้อย... จาก็บอกพ่อว่าพี่ยังไม่มา... พ่อตอบไปว่าเดี๋ยวก็มาน่าไม่ต้องเป็นห่วงใดๆ... แต่จาก็ห่วง และที่สุด ก็ขอให้พ่อขับรถของพี่เขยคนหนึ่งไปกับจาเอง ออกไปตามว่าทำไมยังไม่ถึง (กรุงเทพฯ ถึงอยุธยา) ห้ามจาไม่ได้ ท่าทางกระวนกระวายห่วงใย... ที่สุดต้องออกรถไป... จาคงคิดมากมาย เช่น รถเสีย อุบัติเหตุ หรืออะไรต่างๆนาๆ เข้ามากในความคิด... ดูกระวนกระวายมาก... โชคดีที่ออกไปแล้วไม่ถึงกิโลเมตร รถพี่ก็สวนเข้ามา... จาก็ผ่อนคลายกลายเป็นยิ้มจนได้... “ความห่วงใยคือความรัก ความหวงคือความเห็นแก่ตัวกระมังครับ...”

• ปัจจุบัน คนเป็นพ่อแม่ที่รักลูกจะโกรธมาก ไม่พอใจมาก ถ้ารักลูกสาวของตนนะ... พี่ชายพ่อก็มีลูกสาวสองคน วันก่อนอยู่คุยกันที่โรงพยาบาลขณะที่จาของเราป่วย... พี่ชายบ่นด้วยอารมณ์ห่วงที่สุด... 

o “เนี่ย ชอบนัก เวลาโทรไปแล้วไม่รับสาย โทรเท่าไรก็ไม่รับ เราก็เครียดหายไปไหน ทำไมไม่รับ... ชอบนักปิดเสียงโทรศัพท์ เวลาขึ้นรถสองแถวไปเรียน... ไอ้เราก็รอห่วงแทบบ้าคลั่ง...” (เขารักลูกสาวมา ตามประสาคุณพ่อที่ดีๆ ทั่วไปก็ห่วงที่สุด พ่อเข้าใจแม้พ่อเองไม่มีลูก แต่มีลูกๆ ของพระเจ้าที่แสนน่ารักและแสนดีให้พ่อต้องรักมากมายเช่นกันในพระศาสนจักร) 

o แล้วเข้าก็เล่าต่อว่า “พอเจ้าลูกสาวกลับมาถึงบ้านก็ถามไปว่า โทรไปทำไมไม่รับ ห่วงมาก ทำไม่ไม่รับสาย...” เวลาเล่าเห็นความเจ็บปวดเพราะความห่วงได้ชัดเจน ขนาดเล่าซ้ำยังเห็นความคลอของน้ำในเบ้าตา... 

o และเล่าต่อว่า “เนี่ยนะ พอเจ้าลูกสาวกลับ เขาก็ถามว่า “ทำไมไม่รับสายป๊า”... เจ้าลูกสาวคนเล็กแสนรักคนนั้นก็ตอบหน้าตายๆตามสไตล์เขาว่า “ปิดเสียงไว้ แต่ก็เห็นแล้วว่าป๊าโทรมา (หลายๆๆๆที) แต่ไม่ได้รับเพราะอยู่บนรถสองแถว ไม่อยากรับเกรงใจคนที่อยู่บนรถด้วยกันที่เบียดๆกัน...และเพราะเดี๋ยวก็ถึง บ้าน ก็เลยไม่รับสาย” 555 ลูกก็คิดแบบนี้ ไม่รับ ไม่สะดวกเดี๋ยวก็ถึง อีกไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว แต่ แต่ แต่...เจ้าป๊าของหนูสิ...สิบนาทีที่ไม่รับสายมันยาวนานเผาหัวใจเหมือนเป็น วันๆ กระวนกระวาย จะขาดใจตายเพราะเจ้าสิบนาทีที่ลูกสาวไม่รับสายนี่เอง ไลน์ไปก็ไม่ตอบ ส่งแมสเสจก็ทำ... ทำหมด

• ความห่วงใยแบบนี้... เป็นเรื่องธรรมดาของคนมีครอบครัว มารดาหรือบิดาที่ธรรมชาติ รักลูกๆมากเป็นธรรมดาครับ... พ่อไม่มีครอบครัว ไม่เคยมีลูกของพ่อเองที่พ่อให้กำเนิด... แต่พ่อพยามเรียนรู้และเข้าใจ... จะว่าไม่มีประสบการณ์ตรงก็คงไม่ใช่... พ่อมีจาแม่ มีพี่น้องอีกสิบสี่คน พี่สาวสิบคน น้องสาวหนึ่งคน... หลานสาวน่ารักอีกเยอะแยะ... มีลูกๆสามเณรมากมาย และเคยทำงานกับเจ้าหน้าที่พนักงานเป็นร้อยในถานะอธิการ พ่อก็รักเหมือนลูก.. เอาเถอะพ่อว่า พ่อเรียนรู้ที่จะเป็น “พ่อ” เพราะใครต่อใครก็เรียกพ่อว่า “พ่อ” พ่อเข้าใจได้ด้วยประสบการณ์ “พ่อในพระศาสนจักร”... บางทีพ่ออาจจะรักห่วงใยได้ดีกว่าพ่อในครอบครัวหลายคนก็ได้นะ...ท้าทายหน่อย ครับ...

• พี่น้องครับ ที่สุด แล้วพ่อเล่าเรื่องเหล่านี้ทำไม... คำตอบคือ... พระเยซูเจ้าในพระวรสารวันนี้ ใน “คำภาวนาในคำปราศรัยอำลา” (ยน 17) ก่อนจะรับทรมาน ในบทที่ 18 และสิ้นพระชนม์ในบทที่ 19 พระองค์ทรงภาวนา ทรงห่วงใยบรรดาศิษย์....

• ครับ พ่อเพียงเล่าเรื่องใกล้ตัวพ่อ เพื่อเปรียบเทียบขึ้นไปหาความรักแท้นิรันดร และความห่วงใยเพราะความรักนิรันดรที่พวกเรา ศิษย์พรเยซูได้รับจากพระเยซู และทรงภาวนาเพื่อบรรดาศิษย์ของพระองค์ พ่อจะตัดสำนวนมาต่อเป็นร้อยความให้อ่านสรุปอีกครั้ง เพื่อเราจะได้รู้ว่า ความห่วงใยที่เรามีต่อกันอย่างที่พ่อเล่า.... เรามีพระเจ้าที่ห่วงใยเรา และภาวนาถึงพระบิดาเจ้าเพื่อพวกเราทุกคนด้วยจริงๆ อ่านดูนะครับ

o ข้าแต่พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดเฝ้ารักษาบรรดาผู้ที่ทรงมอบให้ข้าพเจ้า ไว้ในพระนามพระองค์ เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนกับพระองค์และข้าพเจ้า

o เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเฝ้ารักษาเขาเหล่านั้นไว้ในพระนามของพระองค์ ข้าพเจ้าเฝ้ารักษาไว้ และไม่มีผู้ใดพินาศ เว้นแต่ผู้ที่ต้องพินาศ เพื่อให้เป็นจริงตามพระคัมภีร์

o แต่บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังกลับไปเฝ้าพระองค์ ข้าพเจ้ากล่าววาจานี้ขณะที่ยังอยู่ในโลก เพื่อบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้าจะมีความยินดีของข้าพเจ้าอย่าง เต็มเปี่ยม

o ข้าพเจ้ามอบพระวาจาของพระองค์ให้เขาเหล่านั้นแล้ว และโลกเกลียดชังเขา เพราะเขาไม่เป็นของโลก เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าไม่เป็นของโลก

o ข้าพเจ้าไม่ได้วอนขอพระองค์ให้ทรงยกเขาออกจากโลก แต่วอนขอให้ทรงรักษาเขาให้พ้นจากมารร้าย

o เขาไม่เป็นของโลก เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าไม่เป็นของโลก

o โปรดบันดาลให้เขาศักดิ์สิทธิ์โดยอาศัยความจริง พระวาจาของพระองค์คือ ความจริง

o พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาในโลกฉันใด ข้าพเจ้าก็ส่งเขาเข้าไปในโลกฉันนั้น ข้าพเจ้าถวายตนเป็นบูชาสำหรับเขา เพื่อเขาจะได้รับความศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริงด้วย

• อ่านพระวาจาคำภาวนาของพระเยซูเจ้านี้แล้วเราจะอบอุ่นมาก และเราจะได้เรียนรู้จักความรัก ความห่วงใย การภาวนาด้วยวางใจและห่วงใย เช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า และสำหรับพ่อเอง อ่าน ไตร่ตรอง แล้ว เรารู้เลยว่า “พระเจ้าของเราทรงรักและห่วงใยเราที่สุด”

• นี่คือศาสนาแห่งพระเจ้าองค์ความรัก... บ่อยครั้ง มนุษย์ต้องนั่งหาวิธีเส้น ไหว้ ทำให้พระถูกใจ ไม่กล้าขัดใจ ต้องยอมถวายๆๆๆ เส้นๆๆๆไหว้ๆๆๆ ไม่ให้เทพเจ้าโกรธ...

• พี่น้องครับ มีพระเจ้าองค์ไหนเหมือนพระเยซูในความรักของพระบิดาและพระจิตเจ้าองค์ความรัก และความเป็นหนึ่งเดียว ที่จะเฝ้าดู ปกปักษ์รักษา และเอาใจใส่มนุษย์... ห่วง และภาวนาต่อพระบิดาให้พวกเรารักกันเหมือนที่พระเจ้าองค์ความรักในพระตรี เอกภาพ... สุดๆแล้วครับ... ความรักนี่แหละที่ทำให้เราได้รู้ว่า พระเจ้าองค์ความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัวนั้นคือพระเจ้าแท้จริงนิรันดร

• พ่อขอจบบทเทศน์วันนี้แทนคำของบิดามารดาที่รักลูกๆ “รักนะ รักนะเด็กน้อย”... พระเจ้าคงตรัสกับเราเช่นกัน “รักนะ รักนิรันดร์” และถ้าเราดื้อ ทำผิด หลงทาง กู่ไม่กลับ พระองค์คงตรัสกับเราแบบพระบิดาว่า “รักนะ เด็กโง่ รักนะเจ้าตัวแสบ รักนะ กลับบ้านเถอะลูก...”

• ขอพระเจ้าอวยพรครับ จงรักเหมือนพระองค์เสมอครับ...

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก