“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2015
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา
มก 3:7-12…

7พระเยซูเจ้าเสด็จออกไปยังทะเลสาบกับบรรดาศิษย์ ผู้คนหมู่ใหญ่จากแคว้นกาลิลีติดตามพระองค์ ผู้คนจากแคว้นยูเดีย 8จากกรุงเยรูซาเล็ม จากแคว้นอิดูเมอา จากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน และจากบริเวณเมืองไทระและไซดอนเป็นหมู่ใหญ่ ได้ยินสิ่งที่ทรงทำก็มาเฝ้าพระองค์ 9พระเยซูเจ้าจึงตรัสสั่งบรรดาศิษย์ให้จัดเรือไว้ลำหนึ่ง เพื่อประชาชนจะได้ไม่เบียดเสียดพระองค์ 10เพราะพระองค์ทรงรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก จนบรรดาผู้ป่วยด้วยโรคต่าง ๆ เบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อสัมผัสพระองค์ 11เมื่อปีศาจทั้งหลายเห็นพระองค์ ก็กราบลง พลางตะโกนว่า “ท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า” 12แต่พระองค์ทรงกำชับอย่างแข็งขันมิให้มันแพร่งพรายว่าพระองค์เป็นใคร

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• พี่น้องที่รัก พระวรสารนักบุญมาระโกยังคงเสนอพระวาจาและพระภาระกิจของพระคริสตเจ้าต่อไป พระวาจาที่สอนและกิจการดีแห่งความรอดพ้นที่ทรงกระทำ... เราติดตามกันมาหลายวันอย่างที่พ่อบอกแล้ว เราจะได้ฟังพระวรสารนี้เป็นเหมือนการสอนคำสอนต่อเนื่อง สอนให้รู้จัก ให้รู้จักจริงๆ ถึง “พระเยซู” พระเจ้าของเรา


• พ่อว่าพี่น้องที่รักครับ...เรารู้ว่าเรารักพระเยซู เรารู้ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าของเรา และเราเชื่อเช่นนั้นจริงๆ แต่ แต่ แต่... เรารู้จักพระเยซูจริงๆเพียงใดหนอ... นั่นคือประเด็นของพ่อ เราคริสตชนรู้จักพระเยซูเจ้าจริงๆเพียงใด..

• ประสบการณ์ของพ่อก็คงไม่พ้นกับน้องเณร พ่อสอนพระคัมภีร์พวกเขาครับ เวลานี้ก็สอนสองวิชา พ่ออยากเห็น อยากเห็นน้องเณรเก่งในความรู้จักพระเยซู รู้จักดีที่สุด รักที่สุด แน่นอน ถ้าจะเป็นพระสงฆ์ต้องทุ่มชีวิตทั้งหมดให้พระเยซู ให้กับพระเยซูในเพื่อนพี่น้องโดยเฉพาะผู้ยากไร้ครับ.. เพื่อจะเป็นพระสงฆ์จึงต้องเรียนพระคัมภีร์ ต้องเรียนพระคัมภีร์ให้มากๆ รู้จักพระเยซูเจ้าให้ลึกซึ้งที่สุดนอกจากรักพระองค์ให้มากที่สุด...


• เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว พ่อไปเทศน์ให้กับสัตบุรุษ พ่อสอนเป็นชั่วโมงๆ เมื่อจบ พวกเขามาหาพ่อ เขาเดินมาหาพ่อ... พูดกับพ่อน่ารักมาก เขาบอกกับพ่อว่า “พ่อวันนี้มาฟังพ่อ ไม่พูดกับพ่อไม่ได้ ตั้งใจจริงๆ ที่จะพูดกับพ่อเพียงนิดเดียว และตั้งใจจริงๆ จะต้องพูดให้ได้” พ่อก็มองหน้าของท่านผู้นั้นที่ดูตั้งใจมาก อยากบอกความจริงในใจกับพ่อ พ่อก็ยิ้ม (จริงๆเหนื่อยมาก) พ่อยิ้มและตั้งใจรอฟังเขา สบตาแบบอยากฟังและยินดีที่จะฟังไม่ว่าเขาจะพูดเรื่องอะไร ดีหรือไม่ดีก็ตามพร้อมจะฟัง แต่หน้าตาเขาบอกชัดว่า เขาอยากพูดสิ่งที่ดีจากใจ... พ่อเชิญเขาให้พูด... เขายิ้ม และบอกว่า “พ่อสิ่งสัตบุรุษอยากได้จากพระสงฆ์จริงๆ อยากได้จริงๆ คือ สอน เทศน์สอนพวกเรา ทำให้พวกเรารักพระเยซูมากขึ้น เป็นคริสตชนที่ดีมากขึ้น.. เท่านั้นแหละที่เราอยากได้จากพระสงฆ์จริงๆ” 


• พ่อตอบเขาไปเพียงรอยยิ้มดีใจ และบอกว่า “ลูกขอบคุณ ขอบคุณพระเจ้า นั่นคือหน้าที่ของพระสงฆ์ คือ การประกาศข่าวดี สอนถึงพระเยซู เจริญชีวิตแบบพระเยซู... นั่นคืองานของพระสงฆ์จริงๆ ครับ” แล้วเราก็คุยกันนิดหน่อยก่อนพ่อจะขอตัวกลับ...ด้วยความรู้สึกว่าพ่อพยายามมา ตลอด พยายามบอกเณรมาตลอดและก็จริง สัตบุรุษอยากได้พระสงฆ์ที่รักพระเยซู เก่งเรื่องพระเยซู เรื่องการเล่า ประกาศถึงพระเยซู และสอนพวกเขา ประกาศข่าวดีแก่พวกเขา.

• พ่อกลับมาและวันนี้พ่อสอนเณร พ่อก็บอกกับสามเณรชั้นปีที่หก ซึ่งใกล้เวลาจะบวชสังฆานุกรกันเข้าไปทุกที เป็นเณรมาสิบหกปี พ่อย้ำ 

o รักพระเยซูจริงๆ ไหม รักพระเยซูแบบทุ่มเทหมดหัวใจไหม

o รักและได้พยายามเรียนรู้จักพระเยซูเจ้าจริงๆ อย่างลึกซึ้ง รู้และมีความสุขกับการรู้จักพระเยซูเจ้าจริงๆไหม เต็มที่ไหม... 

o พูดถึงพระเยซู เล่าถึงพระเยซู และมีความสุขกับการได้ฟังเรื่องพระเยซู ได้อ่าน ได้ติดตามอย่างมีความสุขไหม...

• พี่น้องที่รัก พ่อบอกกับพวกเณรว่า... คนเราถ้าเราเคยหลงรักใครสักคน ที่เรียกว่า “รักเข้าแล้ว” คนเราจะกระตือรือร้นมาก จะออกแรงศึกษาเรียนรู้ รู้จัก อยากรู้จัก อยากเข้าใจ อยากใกล้ชิด อยากพูดถึง อยากได้ยินชื่อ อยากได้ยินเรื่องของเขาไม่ว่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับคนนั้นที่เราหลง รัก เราอยากได้ยินหมด ทุกรูป ทุกภาพ ทุกเรื่อง ทุกอณูความคิดและจิตใจอยากรู้ไปหมด เพราะรัก เพราะรักเข้าแล้ว (คนมีความรัก คนเคยมีความรัก คนที่เคยผ่านประสบการณ์ความรักเข้าใจดี เมื่อรักแล้วก็อยากรู้จัก อยากรู้ใจ อยากใกล้ชิด เรียกว่าเคลิ้มไปหมด สุขเกินเข้าใจเท่าไรก็ไม่เบื่อ) คิดถึงตลอด เห็นอะไรดีๆ ก็คิดถึง อยากซื้อให้ อยากหาให้ อด ออม มัธยัสเพื่อจัดเต็มจัดให้... ว่าไป...ไม่หยุดหรอกถ้ารักแล้ว... ใครพูดถึงก็อยากฟัง อีกกี่ทีก็อยากฟัง อยากพูดถึง มีโอกาสก็พูดถึงเล่าถึง... ยิ่งเล่าถึงยิ่งฟังเรื่องก็ยิ่งรักและลึกซึ้งมากขึ้นๆๆๆ

• สรุป... รักพระเยซูจริงๆไหม “รักหมดใจให้พระองค์” สำหรับสามเณรที่จะบวชเป็นพระสงฆ์ และพระสงฆ์นักบวชโดยเฉพาะต้อง “รักหมดใจ” มิใช่หรือ ให้พระเจ้าหมดจริงๆ... แต่ ได้พูดถึงพระองค์ไหม ได้รู้จักพระองค์มากกว่าใครๆ เพราะแสวงหาความรู้จักพระองค์ไหม ได้ทุ่มเทเรียนพระคัมภีร์ ไตร่ตรองพระวาจา ขยันเทศน์พูดถึงจริงๆ ไหม (เห็นเณรบางคนร้องเพลงตลอด นี่ขณะเขียนก็ได้ยินเสียงว่ากลับมาจากเรียนแล้ว ร้องเพลงกระแสโลกตลอด มีความสุขกับการร้องเพลงสากล ฯลฯ เสียงหนวกหูทั้งตึก ดีนะที่เสียงเพราะฟังได้ แต่ไม่ได้ยินร้องเพลงพระเจ้าเท่าไรเลย มีเหน็บสามเณรนิดหน่อย) นอกจากนั้น เวลาเรียนพระคัมภีร์บางทีก็เอาไม่อยู่... สอนแบบเทสุดความสามารถ พ่อว่าพ่อสอนหนักแน่นมาก แต่คอพวกเขาก็อ่อนๆ เหมือนกัน หนังตาหนักแบบ...เฮ้อ... ขอร้องบ่นหน่อย แล้วจะรู้จักพระเยซูแค่ไหน จะรักแค่ไหน... (ต้องภาวนาให้มากขึ้น)

• พี่น้องที่รัก... กลับมาที่พ่อและพี่น้องทุกท่าน

o พระวรสารวันนี้ก็มาระโกต่อไป เน้นให้เราได้รู้จัก ได้อ่านเรื่องราวพระเยซูที่เรารัก เราได้เห็นพระองค์ประกาศข่าวดี กระทำความดี เราต้องอ่านนะครับ ต้องอ่านด้วยความรักพระองค์ ถ้ารัก คงอยากรู้จักและอ่านต่อ ไตร่ตรองและนำไปเจริญชีวิตรักพระองค์มากขึ้นเรื่อยทุกวัน

o เราได้อ่านวันนี้ พระองค์มีเสน่ห์มาก ใครก็อยากมาอยู่ใกล้พระองค์ อยากติดตามพระองค์ อยากรักพระองค์ อยากเข้ามาสัมผัสพระองค์ พี่น้องที่รัก ถามจริงๆ ถ้าเรารักใครสักคน อยากอยู่ใกล้ๆ อยากดูหน้า อยากรู้จัก อยากรัก อยากสวมกอดมิใช่หรือ... ประชาชนเห็นพระเยซูก็อยากติดตาม... พระวรสารทุกวันที่เราได้อ่าน “พระวาจาในพระคัมภีร์” เป็นโอกาสแล้วครับ

o ดูสิครับ “พระเยซูเจ้าเสด็จออกไปยังทะเลสาบกับบรรดาศิษย์ ผู้คนหมู่ใหญ่จากแคว้นกาลิลีติดตามพระองค์ ผู้คนจากแคว้นยูเดีย จากกรุงเยรูซาเล็ม จากแคว้นอิดูเมอา จากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน และจากบริเวณเมืองไทระและไซดอนเป็นหมู่ใหญ่ ได้ยินสิ่งที่ทรงทำก็มาเฝ้าพระองค์” ใครๆก็อยากมาเฝ้าพระองค์ พระองค์คือเป้าหมายจริงๆ 

o พ่อยากให้เราคริสตชนอยากอ่าน อยากรู้จัก อยากพูดถึงพระองค์ให้มากๆครับ..จริงนะ รักจึงอยากพูดถึง อยากรู้จัก... พ่อไม่อาจบังคับ ไม่อาจยืนยันว่า พี่น้องรักพระเยซูเพียงใด แต่พ่อยืนยันได้ ยืนยันสุดกำลังได้เลยว่า “พระเยซูรักเรา พระเจ้ารักเราแน่นอน” ถ้าเรารู้ว่าใครสักคนรักเราจริงๆ เราคงอดไม่ได้ที่จะรักครับ... “พี่น้องเอ๊ย...พระเจ้ารักเราครับ พระเยซูทรงรักเราถึงกับมอบชีวิตเป็นความรักและความรอดให้เรานะครับ”

• พระวาจาวันนี้มีประโยคนี้อีกแล้ว... “เมื่อปีศาจทั้งหลายเห็นพระองค์ ก็กราบลง พลางตะโกนว่า “ท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า” แต่พระองค์ทรงกำชับอย่างแข็งขันมิให้มันแพร่งพรายว่าพระองค์เป็นใคร”

o ปีศาจมันรู้จักพระองค์ มันตะโกนบอกด้วยว่าพระองค์ “เป็นพระบุตรของพระเจ้า” แต่มันไม่ได้รักพระองค์ พ่อเขียนถึงเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้แล้วในพระวรสารนักบุญมาระโกเช่นกันครับ พระองค์สั่งมันไม่ให้ประกาศ กำชับมันแข็งขันไม่ให้แพร่งพรายว่าพระองค์เป็นใคร... 
o ทำไมหรือ ทำไมพระองค์ไม่ให้ปีศาจประกาศว่าพระองค์เป็นใคร... 

o พ่อตอบอีกครั้งชัด พี่น้องที่รักครับ พระวรสารนักบุญมาระโกกำลังสอนเรา อบรมเรา ให้เราได้รู้จักพระเยซู รักพระเยซู และให้เราเหมือนกับบรรดาอัครสาวกครับ คือ เป็นความรักที่ทำให้เราประกาศถึงพระเยซูเจ้าครับ... เป็นหน้าที่แห่งความรัก ถ้ารักพระองค์จริงๆ เราต้องประกาศ ต้องรู้จัก และต้องประกาศพระเยซูครับ...

o สรุป รักพระเยซูใช่ไหมครับ... ขยันอ่าน ศึกษา ฟัง เรื่องของพระองค์ และจะยิ่งรัก และก็ยิ่งอยากประกาศเล่าถึงพระองค์ และถ้ายิ่งประกาศเล่าถึงพระองค์ เราก็จะยิ่งรักพระองค์.. แน่นอน ชัวร์ ครับ...

o ขอพระเจ้าอวยพรให้เรา รัก รู้จัก และไปประกาศข่าวดีถึงพระองค์ (อย่าปล่อยให้ปีศาจแย่งซีนเราไปประกาศแทนเพราะมันไม่ได้รักพระเยซูเหมือนเรา ครับ)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก