“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“พระองค์ทรงเรียกอัครสาวกสิบสองคนเข้ามาพบและทรงเริ่มส่งเขา”

26. พระเยซูเจ้าทรงส่งอัครสาวกสิบสองคน ( 2 )
- และทรงเริ่มส่งเขาเป็นคู่ ๆ  บรรดาอัครสาวกจะต้องไปเป็นคู่ ๆ ตามธรรมเนียมของชาวยิวซึ่งนักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างเคยปฏิบัติ (เทียบ ลก 7:18; ยน 1:37) และพระศาสนจักรสมัยแรก ๆ จะปฏิบัติอีกด้วย (กจ 13:2,4 ฯลฯ) ธรรมเนียมนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้คำกล่าวของพยานมีความเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และเป็นที่ชอบด้วยกฏหมาย (เทียบ ฉธบ 19:15) การกระทำเช่นนี้ยังมีผลในทางปฏิบัติด้วย เพราะผู้เป็นพยานจะช่วยเหลือ ค้ำจุนและให้กำลังใจกันในการประกอบภารกิจที่ยากลำบาก เขาจะได้เป็นพยานถึงความรักของพระคริสตเจ้าที่ได้ประกาศแก่ผู้อื่น


- ประทานอำนาจเหนือปีศาจ  การขับไล่ปีศาจเป็นส่วนสำคัญในศานบริการของพระเยซูเจ้า ดังที่นักบุญมาระโกบันทึกว่าเป็นกิจการแรกที่พระองค์ทรงสำแดงพระอานุภาพที่เมืองคาเปอร์นาอุม (เทียบ 1:23-28) และภายหลังเป็นกิจการในเขตแดนของคนต่างศาสนา (เทียบ 5:1-20) การขับไล่ปีศาจเป็นการรับรองข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า เพราะแสดงชัดเจนว่า ปีศาจซึ่งเป็นตัวแทนของพลังทั้งหมดที่ต่อสู้กับพระเจ้าและเบียดเบียนข่มเหงมนุษย์ ก็ประสบความพ่ายแพ้แล้ว   

- ทรงกำชับเขามิให้นำสิ่งใดไปด้วย เป็นครั้งแรกในพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโกที่เราพบว่า พระเยซูเจ้าไม่เพียงทรงเชิญชวนเท่านั้น แต่ยังทรง "กำชับ" บรรดาอัครสาวกให้ต้องปฏิบัติบางสิ่งบางอย่าง พระองค์ทรงทราบดีว่า ถ้าไม่ทรงสั่งเขาอย่างตรงไปตรงมา บรรดาอัครสาวกคงจะไม่ปฏิบัติเช่นนี้ แต่จะเดินทางไปประกาศข่าวดีโดยนำหลายสิ่งหลายอย่างไปด้วย ดังนั้น ถ้าเขาจะไม่นำสิ่งใดไปด้วยก็เพราะความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระบัญชาของพระองค์

- นอกจากไม้เท้าเท่านั้น ไม่ให้มีอาหาร ไม่ให้มีย่าม ไม่ให้มีเศษเงินใส่ไถ้ บรรดาอัครสาวกต้องมีความไว้วางใจในความใจกว้างและอัธยาศัยดีของผู้อาศัยในสถานต่าง ๆ ที่เขาไปประกาศข่าวดี ในสมัยนั้น ทุกเมืองในปาเลสไตน์มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลผู้แสวงบุญอยู่แล้ว แต่ผู้ประกาศข่าวดีสมควรที่จะได้รับสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตเป็นการตอบแทนความดีฝ่ายจิตที่ประชาชนได้รับจากเขา ยิ่งกว่านั้น บรรดาอัครสาวกต้องเป็นตัวอย่างของผู้ตัดใจจากสิ่งของในโลกนี้และมีความไว้วางใจในพระเจ้า เมื่อผู้อ่านพระวรสารเข้าใจภูมิหลังทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ คงจะไม่รู้สึกแปลกใจที่พระวรสารสหทรรศน์มีรายละเอียดไม่ตรงกัน เพราะผู้นิพนธ์พระวรสารมีเจตนาบรรยายจิตตารมณ์ความยากจนของผู้ประกาศข่าวดี เขาไม่มีจุดประสงค์ที่จะบันทึกกฏเกณฑ์ตายตัวที่มีผลบังคับผู้ประกาศข่าวดีตลอดไป

- ให้สวมรองเท้าได้ แต่ไม่ให้เอาเสื้อสำรองไปด้วย ตามความคิดของนักบุญมาระโก พระเยซูเจ้าทรงอนุญาตให้บรรดาอัครสาวกนำเพียงสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้นคือ ไม้เท้าของผู้เดินทาง รองเท้าคู่ที่ใส่และเสื้อผ้าชุดที่สวม แต่นักบุญมัทธิวและนักบุญลูกาห้ามนำสิ่งของทั้งสามอย่างนี้ไปด้วย (เทียบ มธ 10:10; ลก 9:3; 10:4)

- พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ถ้าท่านเข้าไปในบ้านใด จงพักอยู่ที่นั่นจนกว่าจะออกเดินทางต่อไป บรรดาอัครสาวกต้องมีใจจดจ่อในภารกิจที่ต้องทำ ยอมรับที่จะพักอยู่อย่างเรียบง่ายในบ้านของผู้มีอัธยาศัยดี ไม่แสวงหาที่พักอาศัยที่สะดวกสบาย แต่จะต้องใช้เวลาอย่างคุ้มค่าในการประกาศข่าวดี

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก