“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“ทุกสิ่งแสดงออกเป็นเพียงอุปมา”

17.  เหตุผลที่พระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมา ( มก 4:10-12 )
            410เมื่อประชาชนจากไปแล้วอัครสาวกสิบสองคนกับผู้ที่อยู่รอบๆพระองค์ทูลถามเรื่องอุปมา 11พระองค์ตรัสตอบว่า “พระเจ้าประทานธรรมล้ำลึกเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้าให้ท่านทั้งหลายรู้แต่สำหรับคนที่อยู่ภายนอกทุกสิ่งแสดงออกเป็นเพียงอุปมาดังที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า 12เพื่อเขาจะมองแล้วมองเล่าแต่ไม่เห็น
 ฟังแล้วฟังเล่าแต่ไม่เข้าใจ
 มิฉะนั้นแล้วเขาคงได้กลับใจและพระเจ้าคงจะทรงให้อภัยเขา"

a) อธิบายความหมาย
         นักบุญมาระโกเริ่มเล่าการสนทนาระหว่างพระเยซูเจ้ากับบรรดาศิษย์  (4:10-25)โดยอธิบายสั้น ๆ ถึงเหตุผลที่พระเยซูเจ้าทรงเทศนาสั่งสอนประชาชนโดยใช้อุปมา ในที่นี้บรรดาศิษย์เป็นผู้ทูลถามพระองค์ แต่คำตอบของพระองค์ค่อนเข้าใจยากเพราะดูเหมือนว่าพระองค์ทรงพระประสงค์ให้ประชาชนไม่เข้าใจคำสอนนั้น จึงก่อให้เกิดปัญหาหลายประการ ให้เรามาวิเคราะห์ข้อความนี้อย่างละเอียด

- เมื่อประชาชนจากไปแล้วนักบุญมาระโกต้องการบอกว่ากลุ่มที่ฟังพระเยซูเจ้าเปลี่ยนเป็นคนละกลุ่ม ประชาชนกลุ่มเดิมอยู่ห่างจากพระองค์แล้วเหลือเพียงกลุ่มเล็กน้อยของผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้าคือ

- อัครสาวกสิบสองคนกับผู้ที่อยู่รอบๆพระองค์ผู้ที่อยู่รอบ ๆ พระองค์คงจะหมายถึงบรรดาศิษย์ผู้มีความเชื่อในพระเยซูเจ้าและติดตามพระองค์เมื่อเสด็จไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ 

- ทูลถามเรื่องอุปมาในต้นฉบับคำว่า "อุปมา" เป็นรูปพหูพจน์หมายถึงอุปมาหลายเรื่อง โดยแท้จริงแล้ว จนถึงบัดนี้นักบุญมาระโกเล่าเพียงอุปมาเรื่องเดียว คืออุปมาเรื่องผู้หว่าน (4:3-9) และหลังจากคำอธิบายอุปมาเรื่องนี้จะเล่าอีกสองเรื่องเท่านั้นการใช้คำอุปมาในรูปพหูพจน์จึงแสดงว่านักบุญมาระโกรู้ว่าพระเยซูเจ้าทรงเล่าอุปมาหลายเรื่อง แต่เขาบันทึกเพียงไม่กี่เรื่องเพื่อเป็นตัวอย่างวิธีการสั่งสอนของพระเยซูเจ้า การเล่าอุปมาไม่เป็นเพียงวิธีสอนที่ถ่ายทอดความคิดอย่างง่าย ๆ  แต่ในกรณีของพระเยซูเจ้ายังมีจุดประสงค์ที่จะแสดงคำสอนที่ลึกซึ้งที่จะเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อมีความชิดสนิทกับพระเยซูเจ้า เพียงผู้ที่มีวิธีคิดเหมือนพระองค์ก็จะเข้าใจความหมายของอุปมาที่พระองค์ทรงเล่าพูดง่าย ๆ เขาต้องรู้จักพระองค์อย่างแท้จริง บรรดาศิษย์คงจะทูลถามพระเยซูเจ้าเพราะเขาเข้าใจว่าการฟังอุปมาอย่างเดียวไม่เพียงพอเขารู้ว่าถ้าพระองค์ไม่ทรงอธิบายคำสอน เขาก็เข้าใจไม่ได้ จึงทูลขอพระองค์ทรงช่วยอธิบายให้เข้าใจ ในแง่นี้พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระอาจารย์และทุกคนที่ฟังพระองค์ในวันนั้นต้องการเป็นศิษย์อย่างแท้จริง

-พระองค์ตรัสตอบว่าคำตอบของพระเยซูเจ้าแยกบุคคลออกเป็นสองกลุ่มซึ่งอยู่ในสถานการณ์ตรงกันข้ามคือผู้ที่เป็นศิษย์และผู้ที่ไม่เป็นศิษย์ของพระองค์

-พระเจ้าประทานให้ท่านทั้งหลายรู้ความรู้นี้ไม่มาจากพลังของมนุษย์ คือพลังของสติปัญญาหรือปรีชาญาณที่ได้รับจากการศึกษา แต่เป็นของประทานจากพระเจ้าที่ทรงมอบแก่ผู้ที่ฟังพระองค์ด้วยความถ่อมตน คือผู้ที่ยอมเป็นศิษย์แท้จริง

-ธรรมล้ำลึกเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ธรรมล้ำลึกหมายถึงแผนการของพระเจ้าที่ซ่อนอยู่เป็นเวลานานในพระเจ้า และบัดนี้ถูกเปิดเผยในศาสนบริการของพระคริสตเจ้า บรรดาศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้าจึงอยู่ในสภาพที่เข้าใจกิจการของพระองค์ เขาเข้าใจว่าพระอาณาจักรหมายถึงพระเยซูเจ้า คือพระองค์ในทุกสิ่งที่ทรงกระทำและตรัสสอนดังนั้นพระอาณาจักรเปรียบเหมือนกับเมล็ดที่หว่านแล้วมีพลังที่จะเติบโตและเกิดผลบรรดาศิษย์ที่ได้เห็นอัศจรรย์ของพระเยซูเจ้า (ก็)เห็นเครื่องหมายที่แสดงว่าพระองค์ทรงมีอำนาจที่มาจากพระเจ้า

- แต่สำหรับคนที่อยู่ภายนอกหมายถึงคนที่ไม่เป็นศิษย์ของพระองค์ประชาชนมากมายที่บางครั้งมาฟังพระองค์แต่ไม่เข้าใจธรรมล้ำลึกเรื่องพระอาณาจักร คือเขาไม่เข้าใจว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้ใด ไม่เข้าใจความจริงที่ลึกซึ้งและซ่อนเร้นนี้ พระองค์จึงจำเป็นต้องสอนเขาเพียงใช้เรื่องอุปมาเหมือนเป็นปริศนา เป็นภาพการเปรียบเทียบ พูดอีกนัยหนึ่ง เนื่องด้วยเขาไม่เข้าใจศาสนบริการของพระคริสตเจ้า คำสั่งสอนของพระองค์จึงเป็นปริศนาสำหรับเขา พระองค์จึงตรัสว่า

- ทุกสิ่งแสดงออกเป็นเพียงอุปมาทุกสิ่งยังหมายถึงพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าอีกด้วย ไม่ใช่เพียงคำพูดคำสั่งสอน ภาษาอุปมาก็เคารพทั้งความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าและมนุษย์ เคารพพระเจ้าผู้ทรงอุตรภาพต่างจากมนุษย์ ซึ่งไม่อาจเข้าใจความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าทั้งหมด และเคารพอิสรภาพของมนุษย์ที่จะเข้าใจธรรมล้ำลึกก็ต่อเมื่อเขายอมรับคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้า มนุษย์ต้องมีท่าทีนี้ถ้าเขาต้องการเข้าใจอุปมาอย่างถูกต้อง

- ดังที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ข้อความที่อ้างในที่นี้มาจากพระวาจาที่พระยาเวห์ตรัสแก่ประกาศกอิสยาห์เมื่อทรงมอบภารกิจให้ไปประกาศแก่ประชากรว่าถ้าเขาไม่ยอมกลับใจก็จะถูกลงโทษ อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงแจ้งล่วงหน้าว่า การเทศน์สอนของประกาศกอิสยาห์จะพบกับความไม่สนใจของผู้ฟัง(เทียบ อสย 6:9-10)คำว่า

- "เพื่อ" มีความหมายเท่ากับว่า“เพื่อพระคัมภีร์จะได้สำเร็จไปดังที่มีเขียนไว้”ข้อความที่อ้างนี้ต้องการเน้นว่า การที่พระเยซูเจ้าไม่ได้รับความสำเร็จในการเทศน์สอนก็สอดคล้องกับสิ่งที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์และตรงตามแผนการเร้นลับของพระเจ้า แข็งกระด้างของมนุษย์

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก