“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 28 มิถุนายน 2017
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
วันนี้ อยากให้อ่านพระวาจาบทแรกเป็นพิเศษ เป็นบทที่เป็นจุดหมุนของชีวิต คือ “ความเชื่อ”
ปฐม 15:1-12,17-18….

1หลังจากนั้น พระวาจาของพระยาห์เวห์ได้มาถึงอับรามในนิมิตว่า
“อับรามเอ๋ย อย่ากลัวเลย
เราเป็นโล่ป้องกันท่าน
บำเหน็จรางวัลของท่านจะยิ่งใหญ่มาก”

2แต่อับรามทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่ข้าพเจ้าเล่า ถ้าข้าพเจ้ายังคงไม่มีบุตรเอลีเอเซอร์ ชาวดามัสกัสก็จะเป็นผู้รับมรดกของข้าพเจ้า 3อับรามทูลอีกว่า “พระองค์ไม่ได้ประทานบุตรให้แก่ข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นบ่าวที่เกิดในบ้านของข้าพเจ้าก็จะได้รับมรดก” 4แล้วพระวาจาของพระยาห์เวห์มาถึงอับรามอีกว่า “บ่าวผู้นี้จะไม่เป็นผู้รับมรดกของท่าน แต่บุตรชายที่เกิดจากท่านเท่านั้นจะเป็นผู้รับมรดก” 5พระองค์ทรงพาอับรามออกไปข้างนอก แล้วตรัสว่า “จงมองดูท้องฟ้า นับจำนวนดวงดาวเถิด ถ้าท่านนับได้” พระองค์ทรงเสริมว่า “ลูกหลานของท่านจะมีจำนวนมากมายเช่นนี้” 6อับรามเชื่อพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมสำหรับเขา
7พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เราคือพระยาห์เวห์ ผู้พาท่านออกจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย เพื่อจะมอบแผ่นดินนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของท่าน” 8อับรามทูลตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะทราบได้อย่างไรว่า แผ่นดินนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของข้าพเจ้า” 9พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงนำลูกโคตัวเมีย อายุสามปี แพะตัวเมียอายุสามปี และแกะตัวผู้อายุสามปี นกเขาและนกพิราบอย่างละตัว มาให้เรา” 10อับรามก็ไปนำสัตว์เหล่านี้ทั้งหมดมา ผ่าครึ่งตัววางไว้ตรงกันเป็นสองแถว แต่ไม่ได้ผ่านก 11เมื่อแร้งบินลงมาที่ร่างสัตว์เหล่านี้ อับรามก็ไล่มันไป
12ขณะที่ดวงอาทิตย์จวนจะตก อับรามก็หลับสนิท ความมืดมิดที่น่ากลัวอย่างยิ่ง มาครอบคลุมเขาไว้ 17เมื่อดวงอาทิตย์ตกและมืดลงแล้ว ก็มีหม้อไฟที่มีควันพวยพุ่งและคบเพลิงที่ลุกอยู่ลอยผ่านระหว่างกลางสัตว์ที่ผ่าซีกเหล่านั้น 18ในวันนั้นพระยาห์เวห์ทรงกระทำพันธสัญญาไว้กับอับรามว่า “เรามอบแผ่นดินนี้ให้แก่ลูกหลานของท่าน ตั้งแต่แม่น้ำแห่งอียิปต์ ไปจนถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• ปฐมกาลบทที่ 15 เป็นบทที่พ่อโดยส่วนตัวรักมากๆเป็นพิเศษ เพราะได้บรรยายและได้สอนเรื่องนี้หลายครั้ง เรียกว่า นับครั้งไม่ถ้วนจริงๆ และมีประเด็นที่ชวนให้ศึกษาไตร่ตรองมากๆ มากจริงๆ ปฐมกาลบทนี้เขียนขึ้นหลังเนรเทศที่บาบิโลน เป็นการเขียนขึ้นเพื่อให้กำลังใจอย่างมากในความหวาดกลัว กลัวถึงอนาคตที่ลูกหลานอิสราเอลหรือลูกหลานของอับราฮัมกำลังสิ้นหวังอยู่ที่บาบิโลน ไม่มีพระวิหาร ไม่มีแผ่นดินแห่งพันธสัญญาเพราะพวกเขาต้องเนรเทศไป เยรูซาเล็มถูทำลายราบเป็นหน้ากลองทีเดียว แล้วอนาคต แล้วพระสัญญา จะเป็นอย่างไรต่อไป...

• บรรดาลูกหลานคิดถึงประสบการณ์ความสิ้นหวังของอับราฮัมบรรพบุรุษ ในสมัยที่พระเจ้าทรงเรียกท่าน พระเจ้าทรงเรียก ทรงสัญญา เป็นพระเจ้าแห่งพันธสัญญา ดั้งนั้นในความสิ้นหวัง ในความเป็นไปไม่ได้ ในความไม่มีอนาคต อับราฮัมเผชิญความจริงนี้อย่างไร อับราฮัมสามารถผ่านไปได้อย่างอะไร และพระเจ้ามีบทบาทอย่างไร...

คำตอบอยู่ในปฐมกาลบทที่ 15 จริงๆ สวยงามมากๆ พ่อจะให้อรรถาธิบายให้ได้พิจารณาไตร่ตรองด้วยกันนะครับ...
• อับราฮัมไม่มีบุตร และที่สำคัญ โลทหลานชายของอับราฮัมได้แยกจากโลทไปแล้ว เพราะความร่ำรวยและมีทรัพย์สมบัติมาก และเพราะความใจกว้างของอับราฮัมให้โลทเลือกแผ่นดินที่ต้องการ...

• แต่ผลตามมาคืออับราฮัมกับซารายหรือซาราห์ยังไม่มีบุตรและเขาก็ชรามากๆ มากจริงๆ และที่แย่กว่านั้น “จนตรอก จนมุม จนใจ จนความสามารถ” คือ ซาราห์เป็นหมันด้วย... จบกัน จบจริงๆ แล้วจะทำอย่างไรจริงๆ ทำอย่างไรกับอนาคตที่สิ้นหวัง หมดทางเดิน เดินต่อไปไม่ได้ เพราะ “ความจำกัด ความไม่สามารถ ความเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน จนตรอกที่สุด และจนอนาคตที่สุดแล้ว...

• แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับอับราฮัมในนิมิตว่า “อับรามเอ๋ย อย่ากลัวเลย เราเป็นโล่ป้องกันท่าน บำเหน็จรางวัลของท่านจะยิ่งใหญ่มาก” สรุปคือ “พระเจ้าคือคำตอบตลอดไป พระองค์คือความเป็นไปได้ พระองค์คือที่กำบัง เป็นโล่ป้องกัน มีพระเจ้าเป็นกำลัง ดังนั้น คำปลอบใจสำคัญคือ อย่ากลัว อย่ากลัว อย่ากลัว” ไม่มีอะไรต้องกลัวถ้ามีพระเจ้า
o และดูเหมือนว่าอับราฮัมจะตัดพ้อพระเจ้า พระองค์จะประทานอะไรให้ถ้าท่านยังไม่มีบุตร... เอลีเอเซอร์หรือบ่าวที่เกิดในบ้านข้าพเจ้าก็จะเป็นผู้รับมรดก.. อับราฮัมดูเหมือนจนมุมจริง ท่านมองเห็นว่า บ่าวหรือคนใช้ในบ้านจะเอาทุกอย่างไป ท่านไม่มีบุตร ไม่มีอนาคตจะรักษาอะไรต่อไปได้อีก... แต่พระเจ้ายืนยันกับท่าน... “บ่าวผู้นี้จะไม่เป็นผู้รับมรดกของท่าน แต่บุตรชายที่เกิดจากท่านเท่านั้นจะเป็นผู้รับมรดก”
o พระเจ้ายืนยัน... บุตรชายที่เกิดจากท่านเท่านั้นจะเป็นผู้รับมรดก... โอ จะเป็นไปได้อย่างไร จะเชื่อได้อย่างไร อับราฮัมชรามากอายุกว่าเจ็ดสิบห้าปีแล้ว และซารายก็กว่าหกสิบห้าปีแล้ว
o และที่สำคัญนางเป็นหมัน แปลว่าไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลยตามธรรมชาติมนุษย์ ตามความสามารถของอับราฮัมและซารายก็สิ้นหวังที่สุดแล้วอย่างที่พ่อย้ำ จนตรอกที่สุดแล้ว ทางตัน ครรภ์ของนางซารายปิดสนิทที่จะให้กำเนิดบุตรจริงๆ ไม่มีความเป็นไปได้แต่ประการใด และไม่ต้องเลย แม้พยายามอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นผล เพราะเรียกว่า ครรภ์ขอนางซารายปิดสนิทเสียแล้ว....
o พี่น้องครับ พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมมีเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ชายชราและหญิงชราที่เป็นหมัน... สิ้นหวัง แต่ที่สุด ก็มีบุตรในที่สุด... เพราะพันธสัญญาเดิมยืนยันว่า “ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า” จริงๆนะครับ

• ปฐมกาลเล่าต่อว่า “พระองค์ทรงพาอับรามออกไปข้างนอก แล้วตรัสว่า “จงมองดูท้องฟ้า นับจำนวนดวงดาวเถิด ถ้าท่านนับได้””
o อับราฮัมอยู่ข้างในบ้านหรือ อยู่ในกระโจมหรือ พระเจ้าจึงพาท่านออกไปข้างนอก และให้นับดวงดาว เป็นภาษาวรรณกรรมแบบ Hyperbole คือพูดเกินสุดๆเพื่อให้เห็นว่า ท่านจะมีบุตรและมีลูกหลานมากมายแบบที่นับไม่ไหวเลยจริงๆ... ยืนยันเด็ดขาดว่า จะต้องเป็นไปได้... ส่วนท่านออกไปข้างนอกกระโจมหรือ???
o เท่านี้หรือ... มีความคิดทางพระคัมภีร์และความคิดของพ่อเองด้วย... อาจจะมากกว่าออกไปข้างนอกกระโจมแน่ๆ พ่อคิดว่า นี่คือการพาออกไปจาก “ความจำกัด ออกไปจากความคิด ความสามารถ เรียกว่าออกจากกระโหลกแห่งความคิดความสามารถของอับราฮัม... ไปดูท้องฟ้าที่เป็นรูปโดมกลมเป็นดังกะโหลกที่ยิ่งใหญ่กว่าความคิดปัญญาของอับราฮัม..” การพาออกไปข้างนอกจึงมีความหมายมาก ออกไปจากความจำกัดของอับราฮัม ไปสู่... สู่ความสามารถ และไปยังพลานุภาพของพระเจ้าที่ไม่จำกัดแต่ประการใดเลย

• หัวใจของเรื่องบุตรและความเป็นไปไม่ได้สำหรับอับราฮัม และจะเป็นไปได้อย่างแน่นอน.. คือ ข้อที่ 6 ของปฐมกาลบทที่ 15 นี้เอง... นั่นคือ “อับรามเชื่อพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมสำหรับเขา”

• ใช่เลยครับ “ความเชื่อ ความเชื่อ ความเชื่อ” จริงๆ ด้วย อับราฮัมหรืออับรามเชื่อยาห์เวห์ “เชื่อ” ทั้งๆที่ “ไม่น่าเชื่อ” ด้วยความเชื่อหรือความสามารถของตนเอง ก็เพราะความเชื่อ มีฐานรากไม่ได้อยู่ที่ความสามารถของตนเอง หรือฐานรากอยู่ที่ความสามารถของมนุษย์ แต่ความเชื่อ มีฐานรากลึกของความเชื่ออยู่ที่ “พระเจ้า” ต่างหาก...

• สรุปได้ว่า สำหรับเราทุกคน “ความเชื่อ” คือเราเชื่อในพระองค์ คือ เราไม่ได้เชื่อความสามารถของเรา แต่เราเชื่อในพระวาจาในคำสัญญาและในความสามารถของพระองค์ พระองค์คือรากลึกแห่งความเชื่อของเรา คือความมั่นคงของเรามนุษย์ผู้มีศรัทธาและมีความเชื่อในพระองค์...

• พี่น้องที่รัก “ความเชื่อ” ชัดเจนไหมครับ...
o เราเชื่อพระเจ้า ฐานรากของเราต้องอยู่ที่พระเจ้าสิครับ ไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา ความคิดเรา ความสามารถที่จำกัดของเรา วันนี้คงอธิบายปฐมกาล 15 ได้เพียงหกข้อนั้นครับ เพราะส่วนที่เหลือคือเรื่องการทำพันธสัญญาเรื่องที่จะได้แผ่นดินเป็นมรดก พ่อคงไม่สามารถให้อรรถธิบายทั้งหมดจะเป็นการทรมานผู้อ่านหรือผู้ฟังเกินไป
o พระวาจาวันนี้ กุญแจสำคัญขอยู่ที่ข้อที่ 6 ดังกล่าวคือ “อับราฮัมเชื่อพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงถือว่าความเชื่อนี้คือความชอบธรรมสำหรับท่าน...”

• พี่น้องที่รักครับ วันนี้พระวาจาจากปฐมกาลบทที่ 15 ที่เราได้อ่าน ได้ฟัง พ่อมั่นใจว่าฟังแล้วอิ่มใจ และมีความชัดเจนครับ ชัดมากๆ วันนี้เราได้พิจารณาไตร่ตรองเรื่องความเชื่อของเรา โดยเฉพาะยามที่เราจนมุม จนตรอก และสิ้นหวัง เดินต่อไปไม่ได้ แล้วใครบอกว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าเรามีความเชื่อในพระเจ้า... พ่อขอให้พระวาจาวันนี้เสริมความเชื่อของเรานะครับ ถ้าจำกัดมาก ไปต่อไม่ไหวด้วยความคิดของเรา... แต่ แต่ ยอมให้พระเจ้าพาเราออกไปข้างนอกครับ นอกความจำกัดของเรา นอกความจำกัดทางปัญญา ความคิดอ่านของเราบ้าง พึ่งพระเจ้า วางใจในพระองค์ เพราะไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับพระองค์โดยเด็ดขาด

• พ่อเชิญชวนให้เราภาวนาเพื่อขอความเชื่อ... ขอให้เราเชื่อในพระองค์ แม้ในยามที่เราหมดหนทางจริงๆ เพราะชีวิตของเราทุกคนที่สุดจะหมดหนทางตามกำลังมนุษย์ เมื่อวาระสุดท้ายมาถึง แต่เราสามารถออกจากความจำกัดของเรา ไปสู่ความไม่จำกัดของพระเจ้า พระองค์สามารถ และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด ไม่มีความจำกัดอย่างใดเลย... ภาวนานะครับ พระองค์คือโล่ป้องกันเรา ทรงเป็นที่กำบังของเราจริงๆ ครับ “เชื่อ ในพระองค์” นะครับ ขอพระเจ้าโปรดให้เราเชื่อในพระองค์มากขึ้นนะครับ ขอพระเจ้าอวยพร...

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก