“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2017
สัปดาห์ที่สิบสี่ เทศกาลธรรมดา
มธ 9:32-38…
       32เมื่อคนที่เคยตาบอดทั้งสองคนจากไปแล้ว มีผู้พาคนใบ้ถูกปีศาจสิงคนหนึ่งมาเฝ้าพระเยซูเจ้า 33ครั้นปีศาจถูกขับออกไปแล้ว คนใบ้ก็พูดได้ ประชาชนต่างประหลาดใจ กล่าวว่า “ยังไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้เลยในอิสราเอล” 34แต่ชาวฟาริสีกล่าวว่า “คนนี้ขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของเจ้าแห่งปีศาจนั่นเอง”


35พระเยซูเจ้าเสด็จไปตามเมืองและตามหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนในศาลาธรรม ทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด
36เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชน ก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง 37แล้วพระองค์ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย 38จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า” พระเยซูเจ้าเสด็จไปทั่วพระองค์ประกาศ และรักษาคนเจ็บมากมาย เพราะทุกคนต่างต้องการพระองค์ ทุกคนต่างแสวงหาพวกเขา พระวรสารนำเสนอสายพระเนตรที่แสนรักและอ่อนโยนของพระเยซูเจ้า “เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชน ก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง”

• พ่อยอมรับว่า ภาพที่พระวรสารนำเสนอคือภาพแห่งความรักและน่าประทับใจในสายพระเนตรของพระองค์ และภาพที่ทำให้เราได้เห็นการเสด็จไปทั่ว ไปหาทุกคนที่ต้องการความหวัง ทุกคนที่กำลังสิ้นหวังและรอคอย... พระวรสารเสนอสองคำที่เราเห็นในคำแปลภาษาไทย สายพระเนตรของพระองค์สงสาร เพราะพวกเขาเหล่านั้น...
o เหน็ดเหนื่อย
o ท้อแท้
o ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีผู้อภิบาลดูแล

• พ่อเห็นประโยคนี้แล้ว พ่อไปดูภาษาต้นฉบับที่มัทธิวบันทึกทันทีคือภาษากรีก วันนี้เราเจาะลึกถึงหัวใจของประโยคน่ารักนี้ในภาษาต้นฉบับกัน
o Ιδὼν δὲ τοὺς ὄχλους ἐσπλαγχνίσθη περὶ αὐτῶν, ὅτι ἦσαν ἐσκυλμένοι καὶ ἐρριμμένοι ὡσεὶ πρόβατα μὴ ἔχοντα ποιμένα. (Mat 9:36 GNT)
o When he saw the crowds, he had compassion for them, because they were harassed and helpless, like sheep without a shepherd. (Mat 9:36 RSV)
o “เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชน ก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง”

• พ่อพบสองคำที่พ่อเห็น... คือ ที่ภาษาไทยของเราใช้คำว่า “เหน็ดเหนื่อยและท้อแท้” พ่อศึกษาหารากภาษา ก็พบนัยสำคัญที่น่ารักที่ภาษาต้นฉบับใช้

• ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “they were harassed and helpless” ภาษากรีก คือ “ἐσκυλμένοι καὶ ἐρριμμένοι” (แปลว่า กำลังหมดสภาพเป็นลมล้มลง และขาดความช่วยเหลือจริงๆ)

• ประเด็นคำสำคัญ พระองค์ทอดพระเนตรแห็นและพระองค์สงสาร คือ
o หรือรู้สึกลึกในหัวใจของพระองค์ต่อสถานการณ์ที่ทรงเห็น
o กล่าวได้ว่าภาพประชาชนที่พระเยซูเจ้าทรงเห็นนั้นกำลัง “กระทบพระทัยของพระเยซูเจ้า ฉุดเหวี่ยงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าอย่างแรง” ภาษาต้นฉบับทำให้เราเห็นชัดว่า ประชาชน

• เหตุการณ์เหล่านี้ ที่ทรงทอดพระเนตรเห็น.. พระองค์จึงปรารภเป็นข้อความที่พ่อได้ยินมาตั้งแต่พ่อยังเป็นเด็ก พ่อจำได้ขึ้นใจชัดเจน ไม่เคยลืม และข้อความนี้ตอนเด็กพ่อฟังก็ซึ่งใจ... “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”
o พ่อจำได้ชัดเจน.. ข้าวจะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย คือพระดำรัสของพระเยซูเจ้า ตอนเด็กพ่อได้ยินพ่อก็คิด พระองค์ต้องการคนงาน พระองค์อยากได้พระสงฆ์มาเป็นคนงานเพื่อเก็บเกี่ยว... หมายถึงมาอภิบาลดูและช่วยเหลือ เพื่อเอาใจใส่ ประชาชนที่กำลังอยู่ในสภาพที่เป็นลมล้มลงเพราะอ่อนแรงฝ่ายกาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเจ็บป่วยล้มลงเพราะหมดแรงฝ่ายวิญญาณ และขาดความช่วยเหลือจริงๆ
o พ่อจำได้ว่า พ่อได้ยินประโยคนี้แล้วพ่อมีความสุข พ่ออยากเป็นพระสงฆ์ต่อไป ใช่ก็ใช่นะ ตอนเด็กๆ ก็ฝันอยากทำมิสซา ชอบเล่นทำมิสซาแบบเด็กๆ แต่การเป็นพระสงฆ์นั้นคือเพื่อ “ถวายมิสซา” เท่านั้น หรือ... ถ้าเพียงเท่านี้ เบื่อตายเลย น่าเบื่อมาก เพราะวันหนึ่งทำงานชั่วโมงเดียว และวันธรรมดาก็ไม่ถึงด้วย...
o การเป็นพระสงฆ์มิใช่เพียงเท่านี้... แต่การเทศน์สอน การอภิบาลดูแล อภิบาลคนไม่สบาย ส่งศีล เยี่ยมเยียน ภาวนามากมาย และอภิบาลแต่เกิดจนวันตายก็ยังพาส่งต่อไปหาพระเจ้าพระบิดา... ยิ่งกว่านั้น ยังมีหน้าที่อีกมากมาย... พ่อสรุปจากสมัชชาฯ ที่เร่งรัดให้ฟัง แม้ไม่ใช่ทั้งหมดของงานพระสงฆ์เป็นการเร่งรัดครับ... จากเวลาที่ร่างสมัชชาฯ พ่อพบว่า
1. พระสงฆ์ สังฆานุกรและสังฆานุกรถาวร เป็นผู้ร่วมงานของพระสังฆราช มีส่วนร่วมในงานประกาศข่าวดีอาศัยพระพรแห่งศีลบวชอย่างสำคัญยิ่ง
2. ต้องมีจิตใจและสำนึกว่าตนเองเป็นผู้ประกาศข่าวดี พร้อมจะอุทิศตนด้วยใจกว้างในการประกาศข่าวดีแก่พี่น้องทุกคน ร่วมมือกับพระสังฆราชอย่างใกล้ชิด
3. ต้องให้ความสำคัญกับการเทศน์สอนโดยเน้นการประกาศพระวาจา พวกเขาต้องรับฟังประชากรด้วยเช่นกัน เพื่อสามารถเชื่อมโยงสาระของตัวบทพระคัมภีร์เข้ากับสถานการณ์ที่ฆราวาสต้องดำเนินชีวิตในกระแสโลก
4. มีความกระตือรือร้นในงานอภิบาล เช่น การออกเยี่ยมครอบครัว คนชรา และผู้เจ็บป่วย ประกาศข่าวดีในสถานศึกษา งานสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือคนยากไร้ คนอพยพ ฯลฯ ต้องห่วงใยติดตามลูกแกะของตน และใส่ใจในผู้ที่อยู่ห่างไกล ซึ่งรวมไปถึงพี่น้องต่างนิกายและต่างความเชื่อด้วย

• พ่อสรุปได้ชัดๆ ว่า “พระสงฆ์ คือ พระคริสตเจ้าในโลกปัจจุบันและต้องเป็นเสมอไป” นั้น ถูกต้องแล้ว... (และพวกเราคริสตชนทุกคนก็ควรเป็นเหมือนพระองค์เช่นเดียวกัน)

• พี่น้องที่รัก.. บ้านเณรใหญ่ของเรา “แสงธรรม” สมัยพ่อเป็นเณร... บ้านเณรใหญ่ ณ เวลานั้น มีเณรเกือบสองร้อยคน พ่อจำได้ว่า บ้านแน่นไปด้วยสามเณร พ่อจำได้ว่า เรามีตึกสี่ตึก และระยะนั้น เราต้องสร้างตึกที่ห้าสำหรับเป็นที่พักของสามเณร ห้องพักแบกกลุ่มมีสองตึกที่ออกแบบมาสำหรับสามเณรอยู่ด้วยกัน ห้องหนึ่งๆ เราอยู่กัน 5 คน พอดีๆ เพราะเราไม่ได้มีอะไรมาก ตู้ เตียงเรียงๆกัน โต๊ะเรียน ห้องน้ำสองห้อง เท่านั้น...
• สมัยพ่อจำได้แม่น ห้องไม่พอและต้องมีกลุ่มหนึ่งไปนอนห้องทีวีที่ชั้นล่างที่เปลี่ยนเป็นห้องพักไม่มีห้องน้ำพ่อคือคนหนึ่งในกลุ่มนั้น ก็โอเคครับ แปลกตาไม่เหมือนใคร ไม่ต้องขึ้นบันไดไปหนึ่งปี... น่าจะปีนั้นปีเดียวแหละ และก็คงมีแต่กลุ่มพ่อนี่แหละ 5 คนต้องอพยพไปอยู่ห้องชั้นล่างของตึกนี้... (โชคดีที่อยู่จนจบปีแล้ว... เตียงนอนนั้นเรียงกันห้าเตียงห่างกันสักข้างละฟุตกว่า.. พ่อนอนเตียงกลางห้องพอดี๊พอดี... อยู่ห้องชั้นล่างนี้จนจบปี.. จึงมารู้ว่า ห้องนี้เคยเป็นที่ตั้งศพสามเณรคนหนึ่งที่เสียชีวิต...555 และพ่อทัศไนย์บอกว่า “เตียงกลางที่ลื้อนอนน่ะ คือตรงที่ตั้งศพพอดี นี่ๆๆๆ (ชี้พื้น) รอยกระถางธูปยังอยู่หัวเตียงลื้อเลย” ฮาครับ โชคดีมารู้เรื่องตอนวันย้ายเปลี่ยนห้องเมื่อจบปีพอดี และท่านพ่อทัศไนย์ก็เข้ามาดูเราวุ่นวายกำลังย้ายของกัน...และท่านก็ชี้หลักฐานพร้อมเล่าเรื่อง... เหอๆๆๆ วันย้ายพอดี) พ่อออกนอกเรื่องไปแล้ว

• ปัจจุบัน ห้องที่เณรเคยอยู่ 5 คน บัดนี้ เณร อยู่ห้องละ 3 คน บางห้องอยู่เพียง 2 คง และยังมีห้องเหลือไว้ตรงมุมตึกอีกสองห้อง... สรุปว่า สามเณรใหญ่ปีที่ผ่านมาเรามีไม่ถึงแปดสิบคน มองไปในอนาคต.. จำนวนสามเณรกำลังลดลงครับ เห็นได้ชัด... ปริมาณก่อน คุณภาพกำลังพยายามเร่งอยู่ครับ... วัตถุดิบเพื่อผลิตพระสงฆ์ เพื่อเข้าบ้านเณร คือ เด็กๆเยาวชนรุ่นใหม่ (ครอบครัวปัจจุบันก็ลูกน้อย แต่งงานน้อย การศึกษา การเลี้ยงดูก็อบรมยากขึ้น.. จริงไหมครับ)

• เอาละครับ พ่อสรุปละครับ... พ่อรักประโยคสุดท้ายของพระเยซูเจ้าวันนี้ที่ทำให้พ่อคิดถึงกระแสเรียกเพื่อเป็นพระสงฆ์ “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”

• วอนขอกระแสเรียกกันนะครับ ภาวนาเพื่อพระกระแสเรียก ภาวนาเพื่อพระกระแสเรียกที่มีคุณภาพมากๆขึ้นไปอีก... เวลาพ่อขับรถกลับบ้าน พ่อจอดรถเปิดหน้าต่างดูทุ่งนาที่เหลือรอการเก็บเกี่ยว อ่านพระวรสารนี้ พ่อไตร่ตรองอดีตตนเองในบ้านเณร และปัจจุบัน พ่อคิดว่า เราต้องภาวนา และช่วยกันรัก ส่งเสริม เพื่อพระกระแสเรียกกันให้มากขึ้นนะครับ

• พี่น้องที่รัก...
o พระสงฆ์ต้องรักสัตบุรุษให้มากขึ้นทุกวัน อภิบาลเทศน์สอนภาวนาและทำงานไม่รู้เหน็ดเหนื่อยเพื่อความดีส่วนรวมของคริสตชนและสังคม... และต้องเห็นใจสัตบุรุษที่ลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ยากไร้ พวกเราพระสงฆ์ต้องไม่สะสมความร่ำรวยใดๆ แต่ต้องยากจนลงเพื่ออยู่กับพี่น้องผู้ยากจนตามที่พระสันตะปาปาสอน และพระเยซูเจ้าทรงเป็นต้นแบบของเรา
o สัตบุรุษรักพระสงฆ์มากขึ้นเช่นกัน ภาวนาเพื่อพระสงฆ์ เพื่อสังฆานุกร ภาวนาเพื่อกันและกัน ภาวนาเพื่อสามเณร เด็กๆ เยาวชน... และดูแลเลี้ยงดูเด็กๆในครอบครัว สอนคำสอน ความเชื่อ คุณธรรม และสอนพวกเขา สำคัญมาก “เรียกพวกเขา ให้ไปเป็นพระสงฆ์ ไปเป็นนักบวช..และไปเป็นคริสตฆราวาสที่ดีจริงๆของสังคม”
o ขอพระเจ้าโปรดอวยพรทุกท่านครับ และประทานกระแสเรียกเพื่อความรักของพระองค์ เพื่อข่าวดีของพระองค์ให้มากขึ้นเสมอครับ “โปรดส่งคนงานมาเถิดพระเจ้าข้า”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก