“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2017
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
มธ 7:1-5…
1“อย่าตัดสินเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน 2ท่านตัดสินเขาอย่างไร พระเจ้าจะทรงตัดสินท่านอย่างนั้น ท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าจะทรงใช้ทะนานนั้นตวงให้ท่าน 3ทำไมท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเลย 4ท่านจะกล่าวแก่พี่น้องได้อย่างไรว่า ‘ปล่อยให้ฉันเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของท่านเถิด’ ขณะที่มีท่อนซุงอยู่ในดวงตาของท่าน 5ท่านคนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย จงเอาท่อนซุงออกจากดวงตาของท่านก่อนเถิด แล้วจะได้เห็นชัดก่อนไปเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของพี่น้อง

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• วันนี้เราได้เห็นคำสอนของพระเยซูเจ้าตรงๆ ตรงไปตรงมา และน่าจะไม่ต้องอธิบายอะไรมากเลย และพ่อเชื่อว่าในประสบการณ์ของพวกเรา พี่น้องที่รัก เราคงได้พบประสบความเป็นจริงของการตัดสินกันบ่อยๆ ความคิด จินตนาการ และการตัดสินที่บ่อยครั้งก็ทำให้เราต้องยอมรับความจริงว่า ไม่น่าเลย ไม่น่าไปตัดสินแบบนั้นเลย ไม่น่าไปกระทำแบบที่เราคิดหรือคิดแบบที่เรากระทำนั้นเลย

• เรื่อง “การตัดสิน” คนเรามีสติปัญญา และปัญญา ความคิด สมองของเราเก่งในเรื่องการประมวลประสบการณ์เชิงประจักษ์ที่เราได้ประจักษ์ทางสายตา ผัสสะทั้งหลายของเรา ความคิดของเราจะประมวลจากประสบการณ์ของเราในอดีต และเราก็เริ่มกระบวนการ “ตัดสิน” พ่อชอบภาษาไทยมากกว่าในเรื่อง “ตัดสิน” เพราะภาษาไทยของเราเอาทั้งหมดในประสบการณ์และความคิดนำไปสู่กระบวนการของ “ใจ” ดังนั้น ภาษาไทยของเราจึงสรุปลงท้ายของกระบวนการนั้นที่หัวใจ คือ “ตัดสินใจ” เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ “น่าสน“ใจ”” จริงๆ เพราะใจเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเราคนไทยครับ...

• คนไทย คนเอเชีย เราใช้ ใจคิด ใช้ใจตัดสิน มากกว่า “สมอง” ก็ว่าได้
o ในเชิงของกระบวนการทางความคิด จิตใจของคนเราสำคัญ... และการใช้ใจนั้นอันที่จริงพ่อต้องยอมรับสำคัญและแรงกว่าสมองมากนัก...
o การพูด การจัดการ ก็ใช้ใจ พูดไป ก็ไม่ได้บาดสมอง แต่ “บาดใจ” เวลาที่คนเราเจ็บจากการกระทำและคำพูด เราก็ “เจ็บใจ แทงใจ” บางทีเราก็ลงไปถึง “แทงใจดำ” และถ้ามาในประเภทการกระทำที่ไม่น่าเลยทำกันได้อย่างไร...
o ภาษาสำนวนเพลงก็บอกว่า “แทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ” ซึ่งแสดงอาการของการถูกทรยศรุนแรง ตัวก็เดินได้ตรงดีไม่ต้องเขาเฝือก แต่ก็โดนหักหลังกันบ่อยๆ เป็นอาการหักที่เฝือกดามไม่ได้... หักหลัง หักอก หรืออกหัก ล้วนเป็นอาการที่โดทนทรยศหรือทำร้าย “จิตใจ” ทั้งสิ้น

• ในประคัมภีร์เราพบกว่า หัวใจเป็นที่ของความคิด “seat of thoughts” (มธ 9:4; 24:48) หรือของความเข้าใจ (13:15) เป็นที่มาของการแสดงความคิด ศูนย์กลางของปัญญา และความตั้งใจ อารมณ์ความรู้สึก เป็นแหล่งที่มาของพฤติกรรมทุกสิ่ง และเป็นที่เกิดของความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างหรือความสัมพันธ์ใดๆ กับพระเจ้าและกับเพื่อนมนุษย์ และเป็นที่เกิดของพฤติกรรม การแตกแยก ความดีความเลว กิจการกระทำนั้นๆ มาจากใจเสมอ

• ดังนั้นประเด็นสำคัญของพ่อวันนี้คือ “การตัดสินใจ” หรือ “การตัดสิน” เราควรทำอย่างไรดี
o คนเราก็ช่างชอบตัดสินและบ่อยครั้ง ก็ประมวลความคิดประสบการณ์และก็ตัดสิน ซึ่ง เชื่อมั่นในการตัดสินของตนเอง ตัดสิน “ผิดหรือถูก” ก็มั่นใจ (เพราะไม่รู้ว่าผิด) และก็ “ยืนยัน” การตัดสิน” นั้นๆ พูด กระทำ สรุป แสดงพฤติกรรมออกมา....
o ก็ดีนะครับ แต่ก็มีอีกประเภทที่ตัดสินจนเป็นนิสัย นิสัยตัดสิน วิจารณ์ เห็นสิ่งที่เป็นเชิงประจักษ์(แก่ตาตน)ก็อัตโนมัต ตัดสิน สรุป จัดการ วิภาษณ์จัดทำเสียเลย จบกระบวนการ จริงไม่จริงไม่ต้องคิด เพราะคิดว่าจริงและที่ซ้ำร้ายกลายเป็นนิสัยที่เราเรียก “มั่นใจ”... และบางทีเราก็ตัดสินผิดพลาดนะ
o พ่อเองก็ยอมรับว่า ประสบการณ์ของพ่อมีการตัดสินใจเสมอ ใช้ใจตัดสินเยอะเหมือนกัน และบ่อยครั้งก็เจอกับความผิดพลาดด้วยสิ... ยอมรับว่า บางทีเราก็โง่คาใจไปเลย ใจมืดบอดไปเหมือนกัน... เมื่อได้คิด ก็ได้แต่คิดว่า ไม่น่าเลย...

• แต่บางที การตัดสินที่ชอบตัดสิน ตัดสินเรา สรุปเร็ว และคิดแทนคนอื่นไปหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะคนเราที่ความ “หลง” หรือ “รัก” ที่แยกจากกันไม่สู้จะออกนัก ถ้ามันเข้าตาครอบใจไปแล้ว การตัดสินก็จะเต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก แบบขาดสติแม้จะมีสตางค์มากก็ตาม... เฮ้อ...ไม่น่ารักเลย ต้องแก้ไข ต้องแก้นิสัย ต้องฝึกปฏิบัติในการตัดสินกันให้มากๆ

• คำสอนพระเยซูเจ้า วันนี้ “เอาอยู่” ครับ อ่านแล้วหยุดการตัดสินเบาความ หยุดคิดไปเองและสรุปเอง และก็จัดการเอง จนอาจทำร้าย “จิตใจ” คนรอบข้างจะดีไหมครับ ทำร้ายจิตใจคนอื่นประจำจนที่สุดหารู้ไม่ว่า “ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายจิตใจตนเอง ให้เป็นคนจิตใจเขลาและความเขลาก็ทำสิ่งที่โง่เขลา เสียโอกาสดีๆ ไปเปล่า สิ่งที่ดีๆ คนที่ดีๆ เพื่อนพี่น้องที่ดีๆ ก็เสียใจไปกันหมด” ประเภทที่เขาว่า “ดีชั่วตัวกำหนด” ไม่เอาน่าลูก พ่อด้วย เราหันมารักคำสอนแสนเรียบง่าย และตัดสิน (ใจ) เลือกเดินตามคำสอนของพระองค์กันดีกว่าครับ...
o อย่าตัดสินเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน
o ท่านตัดสินเขาอย่างไร พระเจ้าจะทรงตัดสินท่านอย่างนั้น
o ท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าจะทรงใช้ทะนานนั้นตวงให้ท่าน
o ทำไมท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเลย ท่านจะกล่าวแก่พี่น้องได้อย่างไรว่า ‘ปล่อยให้ฉันเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของท่านเถิด’ ขณะที่มีท่อนซุงอยู่ในดวงตาของท่าน
o ท่านคนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย จงเอาท่อนซุงออกจากดวงตาของท่านก่อนเถิด แล้วจะได้เห็นชัดก่อนไปเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของพี่น้อง

• พระวาจาของพระเยซูวันนี้ เป็นพระวาจาที่รู้ใจ เข้าใจ และเห็นหัวใจของมนุษย์เรา พระวาจาวันนี้เรียกว่า “เป๊ะเวอร์อ่ะ” ปฏิบัติได้เลย ไม่ต้องคิดมากเลย อ่านและย้อนมองดูอ่านใจตนเอง และลงมือแก้ไข ปฏิบัติ การตัดสินของพวกเรา และอะไรๆที่ตัดสินใจไปแล้ว ถ้าไม่น่ารัก ไม่แฟร์ ก็เริ่มใหม่...
o คนเราเวลาตัดสินก็ประกาศกับทุกคนรอบข้าง ที่ว่า “พูดความจริง” อันที่จริงบ่อยครั้ง คือ “นินทา ใส่ความ” หรือ ถ้าพูดต่อหน้าก็อารมณ์ พอรู้ตัว ก็กลับมานั่งไตร่ตรองมองดูตนเอง... ก็ตัดสินอีกและเอาตนเองเป็นมาตรการอันนี้แย่เลย
o แต่วันนี้ เราได้บรรทัดฐานคำสอนของพระเยซูเจ้าเอง ปฏิบัติตามพระองค์เถอะครับ... “ทำไมท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเลย”

• จำไว้นะครับ “คนเรามองไม่เห็นดวงตาของตนเอง” ไม่มีทาง “คนเราไม่เห็นสมองของตนเอง” (ถ้าจะเป็นไปผ่าตัด เวลาผ่าก็วางยาสลบอีก) “คนเราไม่เคยเห็นไส้เห็นพุงตนเอง” (แต่ชอบเห็นใจตนเอง ทั้งๆที่ไม่เคยได้เห็นจริงๆ)
• อยากเห็นตาตนเองก็ไปดูกระจก..ก็พอได้ แต่ แต่ แต่ กระจกมันก็หลอกในเป็นนอก นอกเป็นใน เวลาเขี่ยผงเข้าตา มันง่ายที่ไหนถ้าดูกระจกเงานั้น... ยากนะครับ

• มีกระจบบานใหญ่ 360 องศา รอบตัวเรา คือ “เพื่อนพี่นอง”
o จงฟังพวกเขาบ้าง “เปิดใจ” รับฟัง และรับรู้ความรู้สึก ความเจ็บปวด ฟังเสียงร้องโอดครวญของคนร้องข้างที่เราได้กระทำ เอาอาจจะได้ตัดสินย่ำยีพวกเขาจนน่าสงสาร (ไม่รู้ตัว ไม่ใช่ไม่รู้ตัวที่ตัดสินเขาและแสดงอาการกับเขาไปนะครับ แต่ทำไปจนเคยตัว จนชาด้านและมิรู้ตัว ถึงซุงทั้งท่อนที่อยู่ในตาตน)
o เปิดใจเราเองและมองดูคนอื่นด้วย “ความรักจากหัวใจ” ดีกว่ามากครับ... “เมตตาในการตัดสิน” ดีกว่ามากครับ และ “อภัยในการตัดสินเข้าใจความอ่อนแอและผิดพลาดของคนอื่นดีกว่าไหมครับ” ไม่เช่นนั้น พระเยซูเจ้าตรัส “ถ้าท่านไม่อภัยความผิดของพี่น้อง พระเจ้าก็จะไม่ให้อภัยความผิดของท่านเช่นกัน” (มธ 6)

• พี่น้องที่รักครับ... ให้เราตัดสินใจที่จะรักเมตตา และกระทำดีในความเมตตานั้น... ดีกว่านั่งพิพากษา ตัดสิน ทั้งวันเมามันส์เม้าท์มอยสอยร่วงหล่นไปเสียทุกคนรอบข้างสนุกหรือครับ... จำการนินทาตัดสินในใจนำความขุ่นมัวมาสู่ใจตน และนำความแตกแยกมาสู่สังคมมากกว่า... เอาละ ง่ายๆ ตรงๆ “ดัดนิสัยถาวรของการช่างตัดสินและติฉินนินทาดีกว่า” “จงยินดีกับผู้ที่ยินดี ร้องไห้กับผู้ที่ร้องไห” พระวาจาก็สอนไว้
• ให้เราไปทำตัวเองให้น่ารัก ปรับปรุงใจให้เที่ยงตรงและอ่อนโยน และที่สำคัญ ทำใจให้บริสุทธิ์กันดีกว่าครับ...
• ให้เราไปเถอะครับ ให้เราไปชำระล้างดวงตา และทำความสะอาดหัวใจให้บริสุทธิ์ด้วยพระวาจาของพระเจ้ากันดีกว่า “ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก