“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 28 มิถุนายน 2016

สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา

อมส 3:1-8; 4:11-12…
1ชาวอิสราเอลเอ๋ย จงฟังพระวาจานี้ที่พระยาห์เวห์ตรัสคาดโทษท่านทั้งหลาย และคาดโทษชนทั้งเผ่าที่เราได้นำขึ้นมาจากแผ่นดินอียิปต์ ว่า
2 “ในบรรดาชนเผ่าทั้งหลายบนแผ่นดิน เราได้เลือกท่านเท่านั้น
เราจึงจะลงโทษท่านเพราะความผิดทั้งหมดของท่าน”


3“คนสองคนจะเดินไปด้วยกันได้หรือ
ถ้าไม่ได้ตกลงกันไว้ก่อน
4สิงโตจะคำรามในป่าได้หรือ
ถ้าไม่มีเหยื่อ
สิงห์หนุ่มจะร้องออกมาจากถ้ำหรือ
ถ้าจับอะไรไม่ได้
5นกจะลงมาติดกับบนพื้นดินได้หรือ
ถ้าไม่มีผู้ใดวางกับดักไว้
ถ้าไม่มีอะไรเข้าไปติด
กับจะลั่นขึ้นจากพื้นดินได้หรือ
6ถ้ามีเสียงเป่าแตรเขาสัตว์ในเมือง
ประชาชนจะไม่ตกใจกลัวหรือ
หายนะจะตกกับเมืองหนึ่งได้หรือ
ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ทรงทำให้เกิดขึ้น”

7“ใช่แล้ว พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงทำสิ่งใด
ถ้าไม่ทรงเปิดเผยความลับแก่บรรดาประกาศกผู้รับใช้ของพระองค์
8สิงโตคำรามแล้ว ผู้ใดจะไม่กลัวบ้าง
พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแล้ว ผู้ใดจะไม่ประกาศพระวาจาเล่า”
11“เราพลิกท่านให้คว่ำเหมือนพระเจ้าทรงเคยคว่ำเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์
ท่านทั้งหลายเป็นเหมือนดุ้นฟืนที่ถูกดึงออกมาจากกองไฟ
ถึงกระนั้น ท่านทั้งหลายก็ยังไม่กลับมาหาเรา”
- พระยาห์เวห์ตรัส –

12“เพราะเหตุนี้ อิสราเอลเอ๋ย เราจะทำกับท่านเช่นนี้
อิสราเอลเอ๋ย จงเตรียมตัวไปพบพระเจ้าของท่านเถิด
เพราะเราจะทำกับท่านเช่นนี้”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “พระเจ้าทรงเตือนและคาดโทษอิสราเอล”
o ดื้อมากนักต้องคาดโทษกันบ้าง
o อิสราเอลดื้อเหลือเกิน
o กระทำอยุติธรรมกันเหลือเกิน...
o ไม่คาดโทษบ้างคงไม่หราบจำและไม่ยำเกรงพระเจ้ากันเสียเลยกระมัง...

• จำบรรยากาศความย่ำแย่ของประชาชนสมัยอาโมสได้ไหมครับ... เรามาทบทวนกันนิดหนึ่งครับ เมื่อวานพ่อได้นำเสนอไปแล้ว แต่วันนี้ก่อนที่จะทำให้พระเจ้าต้องคาดโทษ เราต้องดูว่าการกระทำของอิสราเอลก็น่าคาดโทษจริงๆมิใช่หรือ... ชาวอิสราเอลปฏิบัติกับเพื่อนพี่น้องเช่นนี้
o ขายคนขัดสนเพื่อรองเท้าแตะคู่เดียว
o เขาทั้งหลายได้เหยียบย่ำศีรษะของคนยากจนลงไปในฝุ่นของแผ่นดิน
o ทำให้หนทางของผู้ต่ำต้อยต้องหันเหไป
o บุตรและบิดาเข้าหาหญิงสาวคนเดียวกัน
o เขาใช้เสื้อผ้าที่ยึดเป็นประกันมาปูนอนอยู่ข้างพระแท่นบูชาทุกแท่น
o เขาดื่มเหล้าองุ่นที่เป็นค่าปรับจากประชาชนในบ้านพระเจ้าของตน

• ความประพฤติของประชากรของพระเจ้าช่างย่ำแย่จริงๆ ไม่ไหวจริง พ่อเห็นว่า มีสิ่งหนึ่งที่พระเจ้ายอมไม่ได้จริงๆ คือ “ความอยุติธรรม”

• พี่น้องที่รักครับ พ่ออยากให้เราได้พิจารณาสถานการณ์ของโลกปัจจุบันของเราอีกหน่อย... ปัญหาของสังคมที่อยุติธรรมที่พระสันตะปาปาฟรังซิสได้สอน และได้ย้ำเตือนเราคริสตชนอย่างหนักให้เราหันไปหาคนยากจน และให้คนยากจนเป็นเป้าหมายแรกของการเลือกของเราคริสตชนจริงๆ

• พ่อคิดว่าเราต้องติดตามเรื่องราวของความยากไร้ ความด้อยโอกาส และการถูกกระทำอยุติธรรมในสังคมโลกปัจจุบันกันให้มากเป็นพิเศษจริงๆ เพื่อเราจะอ่านประกาศกอาโมสอย่างมีความหมายมากขึ้นเสมอ

• ข้อน่าสังเกตสำหรับโลกปัจจุบัน เรื่อง “คนยากไร้” วันนี้พ่ออยากให้เราคริสตชนได้ไตร่ตรองลึกๆนิดหนึ่งในเชิงธุรกิจที่ดูเหมือนเจริญมากๆ มีห้างร้านใหญ่ๆที่เรารู้สึกว่านำความเจริญมาสู่ประเทศของเรามากๆ ดูเหมือนว่าเรามีห่างสรรพสินค้าที่สุดยอด และยิ่งที่ยิ่งมีมากขึ้น ห้างใหญ่ๆที่เราเห็นเติบโต...

• อันที่จริงก็เป็นของตระกูลใหญ่ๆไม่กี่ครอบครัวเท่านั้น... อุตสาหกรรมผลิตอาหารก็เป็นของไม่กี่ครอบครัวไม่กี่คน... คนส่วนน้อยเป็นเจ้าของร้านค้าใหญ่ๆทั่วประเทศ และอีกทั้งร้านค้าปลีกที่เปิด 24 ชั่วโมงแบบไม่เคยมีมาก่อน... ดูว่าเป็นความเจริญ ดี พ่อไม่ปฏิเสธเลย แต่วันนี้พ่ออยากพาให้เราได้ไตร่ตรองความจริงลึกๆกว่าที่เราได้เห็น...
o คนส่วนน้อยมากๆ ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของกิจการ เป็นผู้ผลิต เป็นเจ้าของธุรกิจรูปแบบต่างๆ แต่คนส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่จริงๆ รวมทั้งแรงงานที่ต้องเข้าไปร่วมทำงานผลิตเอง ก็ต้องกลับเป็นเพียงผู้ซื้อหรือผู้บริโภคเท่านั้น... โอกาสที่จะอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีและได้เป็นเจ้าของกิจการหรือผู้ผลิตนั้นหมดโอกาสเลยครับ
o จะดีหรือ จะถูกต้องหรือที่มนุษย์โดยเฉพาะคนยากจนในสังคมของเราควรถูกมองว่าเป็นเพียงผู้บริโภคสินค้าเท่านั้น
o ผู้ค้าที่มั่งคั่งร่ำรวย... บริษัทใหญ่โดยเฉพาะผู้ผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ ร่ำรวยมาก ร่ำรวยสุดๆ กลับมองคนยากไร้ คนด้อยโอกาส คนหาเช้ากินค่ำ เป็นเพียง ผู้บริโภคที่ต้องมาซื้อของๆตนเท่านั้น บรรดาคนร่ำรวย ครอบครัวหรือตระกูลร่ำรวย ซึ่งรวยมากอยู่แล้วกลับนั่งคิดทุกวันว่าจะทำอย่างไรที่จะขาย ขาย ขาย และดึงเอาเงินจากกระเป๋าคนยากจน แน่นอนคนส่วนใหญ่ยังยากจน...
o แต่ปัญหาคือ คนอื่นๆ รอบตัวของนักค้าขายหรือคนร่ำรวยที่สุด...พวกเขาถูกมองเป็นผู้บริโภค หรือบ่อยครั้ง แย่กว่านั้น ถูกมองว่า เป็นเหยื่อของการค้าขาย ที่ต้องหาวิธีทางให้พวกเขาต้องอยาก ต้องซื้อ และบริโภค ให้มากที่สุด ใช้กลไกลการตลาดผูกขาดชีวิตเสรีภาพ เลือกได้ เลือกได้ ในสิ่งเสนอให้เลือกเท่านั้น... คือ ไม่มีทางเลือกนั่นเอง
o และอันที่จริง บรรดาคนยากไร้ กลับกลายเป็นเพียงผู้บริโภคสินค้า พวกเขาทุกคนนั้นเป็นมนุษย์ และอันที่จริงทุกคนต่างก็มีความต้องการทางด้านสังคม วัฒนธรรม และศาสนาด้วย
o เมื่อแนวทางของคนที่มองคนยากไร้เป็นเพียงผู้บริโภค ดังนั้นประเทศต่างๆที่มีแนวคิดเช่นนี้ การเมือง การบริหารก็ลงเอยทางเดียวกัน คือพยายามสร้างรัฐระบบประชานิยมและรัฐสวัสดิการนิยมเสริมความอยาก ซึ่งอันที่จริง เป็นการลดคุณค่าความหมายและความสำคัญของคนยากไร้ลงไปให้เป็นเพียงผู้รับ หรือผู้บริโภคเท่าเท่านั้น
o ความเป็นจริงแล้วทุกคนต้องได้รับเกียรติ ศักดิ์ศรี บรรดาคนยากไร้ควรถูกนับว่า เป็นผู้ผลิตหรือได้มีส่วนในการเป็นเจ้าของหรือมีส่วนในการผลิตและภูมิใจด้วย
o ถ้าบรรดาคนยากไร้ จะได้มีโอกาสมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างความมั่งคั่งได้ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานที่มีคุณค่าหรือได้มีโอกาสเป็นเจ้าของกิจการ หรือได้เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดย่อม พวกเขาควรรวมอยู่ในวงจรเศรษฐกิจนี้ด้วย แต่ความเป็นจริง ธุรกิจข้ามชาติ เขาไม่ได้ข้ามมาแต่เราไปพาเขาข้ามมาและมาข้ามหน้าพวกเรากันเอง... ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ได้ทำลายโอกาส และได้ทำให้คนยากไร้กลายเป็นเพียงแค่ลูกค้าของคนรวยเท่านั้น...
o นอกจากนั้น สภาพของเศรษฐกิจของสังคมโลก สังคมไทยปัจจุบันนั้น ต้องหันกลับมากเน้นการกระจายความพอเพียงและทรัพยากรอย่างเป็นธรรมและยุติธรรม เรื่องนี้จะเกิดได้จริงก็ต่อเมื่อได้เริ่มจากการรวมคนยากไร้มาอยู่ในกระบวนการผลิตสินค้าและ เปิดโอกาสให้พวกเขาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจด้วยจริงๆเท่านั้น...

• รุกลามไปทุกระดับจริงๆ ขนาดอาชีพที่ดูว่าน่าจะได้เป็นเจ้าของกิจการเองก็เป็นไปได้.. แท็กซี่ จักรยานยนต์รับจ้าง
o คนที่ทำอาชีพแบบนี้ดูว่าจะภูมิใจได้เป็นเจ้าของกิจการอาชีพ
o กลับต้องกลายเป็นผู้เช่า ต้องผ่อน ค่ารถ ค่า “คิว” ค่า “เสื้อวิน” ค่า “ป้าย” คำพวกนี้มาได้อย่างไร
o สรุปคนยากไร้ก็กลายเป็นผู้บริโภคไปอีก... ขับรถทั้งวันทั้งคืน แต่ตนเองก็กลายเป็นเพียงผู้บริโภคที่มีนายทุนเป็นเจ้าของค่าย เจ้าของเต็นท์ เจ้าของคิว รุกลามไปหมด...

• ทุกคนกลายเป็นลูกค้าไปหมดเลยจริงๆ... โรงพยาบาล ผู้ป่วยก็กลายเป็นลูกค้าไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้น อันนี้เด็ดจริงๆพ่อเองเคยได้ยินกับหูเลยจริงๆ สุสาน เจ้าหน้าที่สุสานกล่าวถึงญาติของผู้ล่วงลับที่มาติดต่อสุสานและเรียกพวกเขากับเจ้าหน้าที่สุสานคนอื่นๆว่า “ลูกค้า” นั่นอาการหนักใช่ไหมครับ...

• ขอบคุณพระเจ้าที่เราคงไม่ และไม่มีวันที่จะเรียกลูกวัดว่า “ลูกค้า” เช่นกัน... ต้องไม่เป็นเช่นนั้น เป็นอันขาด... อย่านะ อย่าเรียกคนที่มาวัดว่าลูกค้านะครับ พวกเขาเป็นลูกๆของคุณพ่อครับ และคุณพ่อก็คือ “คุณพ่อ” คือ “พ่อ” ไม่ใช่ “พ่อค้า” นะครับ

• พี่น้องที่รักครับ... คนยากไร้ถูกกระทำทุกยุคทุกสมัยจากความอยุติธรรมของคนที่ขาดคุณธรรม หรือคนร่ำรวย และซ้ำร้ายมากๆ เมื่อคนร่ำรวยที่ถือศาสนาและทำให้ศาสนา ความเชื่อ เป็นโอกาสกดขี่ข่มเหงมากขึ้นไปอีก... แบบที่สำนวนไทยเรียกว่า “มือถือสากปากถือศีล” อะไรทำนองนี้

• บทเรียนจากหนังสือประกาศกอาโมสทำให้เราได้เห็นความบอบช้ำของคนยากไร้ และความหน้าซื่อใจคดของคนที่มีศาสนา จนกระทั่ง จนกระทั่งพระเจ้าต้อง “เตือนและคาดโทษชาวอิสราเอล”

• อ่านบทอ่านวันนี้อีกครั้งนะครับ เราจะได้เห็นว่า
o พระเจ้าทรงเตือนหนัก คาดโทษจริงๆ สำหรับความอยุติธรรมและการย่ำยีคนยากไร้ และพ่อคิดว่า ถ้าเราคริสตชนได้อ่านพระคัมภีร์วันนี้ และพิจารณาความเจ็บปวดและความอยุติธรรมในสมัยของอาโมส และความพิจารณาไตร่ตรองเพื่อนพี่น้องผู้ยากไร้ของยุคสมัย และศักดิ์ศรีที่ถูกลดทอนให้เป็นเพียงผู้บริโภคในทุกๆรูปแบบจนขาดอิสรภาพและโอกาสจะได้เป็นผู้ผลิตหรือมีส่วนในความเป็นเจ้าของ ผลตามมาก็คือเกิดทาสเศรษฐกิจตลอดไปนั่นเอง...

• พระวาจาของพระเจ้า การคาดโทษของพระเจ้าน่าจะเตือนพวกเราให้หันกลับมาคิดถึงคนยากไร้ คนด้อยโอกาส แลไม่กระทำให้คนอื่นๆ กลายเป็นเพียงลูกค้าหรือบ่อยครั้งกลับเป็นเหยื่อทางเศรษฐกิจของยุคสมัยเท่านั้น... ให้เราอ่านบางส่วนของพระคัมภีร์วันนี้อีกทีนะครับ
o ชาวอิสราเอลเอ๋ย จงฟังพระวาจานี้ที่พระยาห์เวห์ตรัสคาดโทษท่านทั้งหลาย และคาดโทษชนทั้งเผ่าที่เราได้นำขึ้นมาจากแผ่นดินอียิปต์ ว่า
o “ในบรรดาชนเผ่าทั้งหลายบนแผ่นดิน เราได้เลือกท่านเท่านั้น เราจึงจะลงโทษท่านเพราะความผิดทั้งหมดของท่าน”
o “ใช่แล้ว พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงทำสิ่งใด ถ้าไม่ทรงเปิดเผยความลับแก่บรรดาประกาศกผู้รับใช้ของพระองค์
o อิสราเอลเอ๋ย จงเตรียมตัวไปพบพระเจ้าของท่านเถิด

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก