“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2016

สัปดาห์ที่ 9 เทศกาลธรรมดา
ระลึกถึงดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์

2ทธ 4:1-8………………
1ข้าพเจ้าขอกำชับท่านเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า และเฉพาะพระพักตร์ของพระคริสตเยซูผู้จะทรงพิพากษาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย โดยอ้างถึงการแสดงพระองค์และพระอาณาจักรของพระองค์ 2จงประกาศพระวาจา จงพร้อมสรรพทั้งเมื่อมีโอกาสและเมื่อไม่มีโอกาส จงว่ากล่าว จงตักเตือน จงให้กำลังใจ โดยพร่ำสอนด้วยความพากเพียรอย่างเต็มที่ 3จะถึงเวลาหนึ่งที่พวกเขาจะไม่ต้องการฟังคำสอนที่ถูกต้อง แต่จะแสวงหาครูจำนวนมากมาอยู่ร่วมกัน เพื่อจะได้สอนสิ่งที่ตนอยากฟัง 4พวกเขาจะไม่ยอมฟังความจริง แต่จะเปลี่ยนไปฟังเทพนิยาย 5ส่วนท่านจงหนักแน่นมั่นคงในทุกกรณี จงอดทนต่อความทุกข์ยาก จงทำงานของผู้ประกาศข่าวดี จงปฏิบัติศาสนบริการให้สำเร็จ


6ชีวิตของข้าพเจ้ากำลังจะถูกถวายเป็นเครื่องบูชาอยู่แล้ว ถึงเวลาแล้วที่ข้าพเจ้าจะต้องจากไป 7ข้าพเจ้าต่อสู้มาอย่างดีแล้ว ข้าพเจ้าวิ่งมาถึงเส้นชัยแล้ว ข้าพเจ้ารักษาความเชื่อไว้แล้ว 8ยังเหลืออยู่ก็เพียงมงกุฎแห่งความชอบธรรม ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพิพากษาอย่างเที่ยงธรรมจะประทานให้ข้าพเจ้าในวันนั้น และไม่ใช่เพียงให้ข้าพเจ้าเท่านั้น แต่จะประทานให้ทุกคนที่เฝ้ารอคอยด้วยความรักต่อการแสดงพระองค์ด้วยเช่นเดียวกัน

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “สุ จิ ปุ ลิ” ฟัง คิด ถาม เขียน
o ทั้งสี่ประการนี้เรียกว่า “พาหุสัจจะ” แปลว่า ความเป็นผู้ได้สดับมากได้ฟังมากๆ หมายถึงการได้ศึกษาเล่าเรียนมาก การมีความรู้ประสบการณ์มาก
o สำนวนไทยนี้ใช้เรียกบุคคลผู้มีภาวะอย่างนั้นว่าพหูสูต คือผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนมากมาก ผู้มีความรู้มาก ผู้คงแก่เรียน นักปราชญ์
o หนังสือบางฉบับเรียกว่า "หัวใจนักปราชญ์" พาหุสัจจะ เกิดจากการศึกษา และการศึกษาที่ดีเกิดจากการศึกษา ๔ แบบ คือ ศึกษาด้วยการฟัง ด้วยการคิด ด้วยการสอบถาม และด้วยการจดจำบันทึก
o สำคัญและจุดเริ่มต้นคือ “การฟัง” และพ่ออยากเน้นประการนี้อย่างยิ่งครับ พ่ออยากเน้นให้เห็นพลังอำนาจในการฟัง หรือ “การเชื่อฟัง”....

• ในพันธสัญญาเดิม
o การฟังสำคัญที่สุด “อิสราแอลเอ๋ย จงฟัง”
o ภาษาฮีบรูคือ “Shema Israel….อ่านว่า เชมา อิสราแอล แปลว่า จงฟังอิสาแอลเอ๋ย
o การฟังคืออำนาจของการเปลี่ยนแปลง คือ การนำมาสู่ความเชื่อ เชื่อฟัง
o การฟังคือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงเสมอในพระคัมภีร์...ตลอดเวลา
o พระวาจาของพระเจ้ามีไว้เพื่อฟัง มีไว้เพื่อให้หันมาฟัง ตั้งใจฟัง และเพื่อเชื่อฟัง

• ในพันธสัญญาใหม่
o การสำแดงพระวรกายอย่างรุ่งโรจน์บนภูเขาทาบอร์ พระเยซูเจ้า โดยเสียงของพระบิดาประกาศว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังพระองค์เถิด”
o การฟังคือสิ่งที่เรียกร้องเพื่อเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้า

• ประสบการณ์ของเรามนุษย์ทุกคนสมัยเป็นเด็ก
o เราใช้คำว่า “ฟัง” สำหรับการเรียนภาษาที่ดีที่สุด หัวใจของการเรียนรู้ในวัยเด็ก เพียงเกิดมาถ้าเราได้ฟังภาษาในแผ่นดินที่เราเกิด ฟังเงียบๆ ร้องอ้อแอ้ พูดไม่เป็น เขียนไม่เป็นแน่นอน แต่ได้ฟังหนึ่งปีในวัยแรกเกิด เพียงปีเดียวถ้าได้ฟัง...เราจะเริ่มพูดได้ในที่สุด
o เรามนุษย์สามารถจะพูดภาษานั้นๆที่เราได้เกิดมาและได้ยินได้ฟัง เราจะสามารถพูดภาษานั้นๆได้อย่างชัดเจน เราสามารถรับรู้ เข้าใจเกือบทั้งหมด และพูดได้คล่องแคล่วเข้าใจเกือบทุกอย่างในสามปีแรกของชีวิต แม้....เขียน อ่านไม่ได้เลย
o ไม่ว่าเด็กจะเกิดที่แผ่นดินไหน ประเทศไหน ภาษาไหน เขาจะรู้ภาษานั้น โดยธรรมชาติจากการฟัง
o เพราะการฟังคือพลังแห่งการเรียนรู้ และเป็นหัวใจนักปราชญ์จริงๆ.... ถ้าพ่อเองนี้แม้เป็นคนไทย แต่ถ้าหากว่าพ่อได้ไปเกิดในเยอรมันอยู่ที่นั่นกับครอบครัวที่ใช้ภาษาเยอรมันสามปีแรก พ่อก็รู้ และพูดเยอรมันแน่นอน นี่อย่างไรครับ อำนาจของการฟัง....

• วันนี้พ่อพูดถึงหัวใจนักปราชญ์ครับ หัวใจของการเรียน การรู้ การเป็นปราชญ์คือ หู “การฟัง”ของเรานี่เองครับ ถ้าเรารู้จักฟัง ปรารถนาที่จะฟัง พร้อมที่จะฟัง ดังนั้นเราจะได้รับการเรียนรู้และปรีชาญาณจริงๆ

• พี่น้องครับ เราพบหัวใจนักปราชญ์เช่นนี้ทำให้เราเข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่า
o เราจะรู้จักพระเจ้าได้อย่างไรจริงๆ
o เราจะเรียนรู้จักพระเจ้าได้จริงๆ โดยอาศัยอะไร และอย่างไร ทำอย่างไรเราจึงจะรู้จักพระเจ้าจริงๆ....
o นักบุญเยโรมกล่าวว่า “การไม่รู้จักพระคัมภีร์ คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า”...
o ดังนั้น การไม่ได้ฟังพระคัมภีร์ การไม่ฟัง ไม่ “สุ” รับฟัง.... เราจะไม่มีโอกาสได้รู้จักพระคริสตเจ้าอย่างแน่นอน แต่ถ้าได้ฟัง... ถ้าเราได้สดับฟังพระวาจาของพระเจ้าเสมอ เราจะได้เป็นปราชญ์ในการรู้จักพระคริสตเจ้าจริง โดยเฉพาะในความ “เชื่อฟัง” ต่อพระสุรเสียงของพระเจ้าในพระวาจา

• ดังนั้น สิ่งที่เราคริสตชนต้องการมาก คือ “การฟัง” การได้ยินการประกาศพระวาจาและจะทำให้เรารู้จักพระเจ้า ได้สัมผัสกับพระเจ้าอย่างลึกซึ้งให้มากที่สุด...

• พ่อเขียนแบบนี้เพื่อเชิญชวนให้ฟังพระวาจาด้วยความตั้งใจจริงๆ ให้รักการฟังพระวาจาของพระเจ้า ให้รักการเรียนรู้พระวาจาของพระเจ้าให้มากๆยิ่งขึ้นนะครับ

• อ่านพระวาจาวันนี้ที่เปาโลสอนทิโมธีดีๆนะครับ จะเห็นคุณค่าของพระวาจาของพระเจ้า และมีกำลังใจที่จะฟัง ที่จะอ่าน ที่จะแบ่งปันและประกาศพระวาจาของพระเจ้าให้มากที่สุด อ่านนะครับพี่น้องที่รัก อ่านพระวาจาตอนนี้ให้ดีๆ วันเสาร์แล้วครับ อาทิตย์หน้า พระวาจาจะกลับไปใช้พันธสัญญาเดิมแล้วครับ

• ขอให้เราฟังพระวาจามากๆ จะได้เป็นนักปราชญ์แห่งความรู้จักพระเจ้านะครับ
o วิ่งเหมือนกับเปาโลนะครับ
o รักษาความเชื่อ และ
o ประกาศพระวาจาสุดกำลังเสมอเมื่อสบโอกาส
o หรือแม้แต่ไม่สบโอกาส.... ทุกขณะจิต เพื่อพระวาจาครับ...

• พ่อขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่านให้ได้ทบทวนพระวาจา ถ้อยคำที่เปาโลย้ำอีกครั้งให้ชัดเจนครับ

• พี่น้องที่รัก...จำเป็นจริงๆ นะครับที่เราต้องประกาศพระวาจาของพระเจ้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและอดทนที่สุดที่จะต้องประกาศข่าวดี

• พ่อจะทำอย่างไรดีที่จะทำให้พวกเราทุกคน คริสตชนคาทอลิกในประเทศไทยตัวพ่อเองด้วยพร้อมกับพี่น้องทุกท่านที่เราจะรักการประกาศข่าวดีจนกลายเป็นชีวิตและลมหายใจของเรา เราจะฟังพระวาจาของพระเจ้ามากขึ้น อ่านพระวาจาของพระเจ้ามากขึ้น และเจริญชีวิตพระวาจาจนกระทั่งเราทุกคนสามารถจริงๆที่จะรักและมุ่งมั่นประกาศข่าวดีของพระคริสตเจ้าเช่นกันเสมอไป...

• พ่อขอทบทวนถ้อยคำของท่านนักบุญเปาโลที่สอนศิษย์ของท่านในวันนี้...
o “จงประกาศพระวาจา จงพร้อมสรรพทั้งเมื่อมีโอกาสและเมื่อไม่มีโอกาส จงว่ากล่าว จงตักเตือน จงให้กำลังใจ โดยพร่ำสอนด้วยความพากเพียรอย่างเต็มที่”
o “ส่วนท่านจงหนักแน่นมั่นคงในทุกกรณี จงอดทนต่อความทุกข์ยาก จงทำงานของผู้ประกาศข่าวดี จงปฏิบัติศาสนบริการให้สำเร็จ”
o “ข้าพเจ้าขอกำชับท่านเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า และเฉพาะพระพักตร์ของพระคริสตเยซูผู้จะทรงพิพากษาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย โดยอ้างถึงการแสดงพระองค์และพระอาณาจักรของพระองค์ จงประกาศพระวาจา จงพร้อมสรรพทั้งเมื่อมีโอกาสและเมื่อไม่มีโอกาส”
-----------------------------------

“ดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์”
• พี่น้องที่รัก วันนี้ระลึกถึงดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ต่อเนื่องมาจากการสมโภชพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า... พ่ออยากให้เราได้สัมผัสกับ “หัวใจและคามรัก” ต่อไปอย่าได้หยุดที่จะเรียนรู้สัมผัสความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเยซูเจ้า และแน่นอนปรากฎชัดในดวงหทัยของพระแม่มารีย์ผู้ซึ่งเป็นมนุษย์ที่รักพระเจ้าอย่างที่สุดจนได้เป็นต้นแบบของชีวิตคริสตชนของเรา กล่าวได้ว่า “พระแม่คือคริสตชนต้นแบบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” พระแม่ได้รักพระเจ้า ได้ตอบรับแผนการ์ณแห่งความรอดที่พระเจ้าประทานให้โดยทางพระวาจาที่รับเอาร่างกายในพระครรภ์ของพระแม่มารีย์...

• พ่อมีข้อความเปรียบเทียบชวนให้ไตร่ตรองว่า...
o ถ้าหญิงคนหนึ่งจะรักสุดหัวใจต่อบุตรในครรภ์ของตน จนกระทั่งความรักของแม่โดยปกติกลายเป็นเป็นเครื่องหมายของความรักที่สุดที่โลกนี้ เป็นความรักที่ใช้เพื่อเปรียบเทียบความรักที่สุด “ความรักของมารดา หัวใจของมารดา”
o ฉันใดก็ฉันนั้น... พระแม่มารีย์รักและตอบรับพระวาจามากกว่ามนุษย์ผู้ใด เพราะพระแม่ได้ตอบรับเป็น “มารดาให้กำเนิดพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระเจ้าในพระครรภ์ของพระแม่” พระแม่จึงเป็น “มารดาของพระเจ้าในพระธรรมชาติมนุษย์” ไม่ต้องสงสัยเลยว่า “หัวใจ” ดวงหทัยของพระแม่ย่อมต้องรักที่สุดต่อพระเจ้านิรันดร และพระบุตรของพระเจ้า และบุตรของพระมารดามารีย์อย่างแน่นอน
o ตามคำประกาศทำนายของท่านสิเมโอน “สิเมโอนอวยพรท่านทั้งสองและกล่าวแก่พระนางมารีย์ พระมารดาว่า “พระเจ้าทรงกำหนดให้กุมารนี้เป็นเหตุให้คนจำนวนมากในอิสราเอลต้องล้มลง หรือลุกขึ้น และเป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้าน เพื่อความในใจของคนจำนวนมากจะถูกเปิดเผย” ส่วนท่าน ดาบจะแทงทะลุจิตใจของท่าน”
o ภาพลักษณ์ของความรัก รักที่สุดของหัวใจของพระแม่มารีย์ ดวงหทัยรักอันนิรมลไร้เงื่อนไขใดๆ เป็นความรักที่พร้อมจะรักแม้จะต้องระทมทุกข์ก็เพราะความรัก “ดุจดาบแทงทะลุจิตใจ”
o ดวงหทัยของพระแม่มารีย์ จึงได้รับการขานขับสรรเสริญจากสมาชิกของพระศาสนจักรเสมอมา เป็นความรักที่แสนบริสุทธิ์และปราศจากเงื่อนไขหรือมลทินใดๆ เพราะนี่คือ “ดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์” ที่เราฉลองในวันนี้

• เราภาวนาสองวันต่อเนื่องกันวานนี้กับวันนี้ และเราจะภาวนาต่อเนื่องกันเสมอครับ
o วานนี้ “พระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า” เราตอบรับ “ทรงพระเมตตาเทอญ”
o วันนี้ “ดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์” เราตอบรับ “ช่วยวิงวอนเทอญ”

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก