“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2015
สัปดาห์ที่สิบ เทศกาลธรรมดา
มธ 5:20-26...

20“เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่ดีไปกว่าความชอบธรรมของบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริ สีแล้วท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย
21“ท่านได้ยินคำกล่าว แก่คนโบราณว่า อย่าฆ่าคน ผู้ใดฆ่าคนจะต้องขึ้นศาล 22แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า ทุกคนที่โกรธเคืองพี่น้อง จะต้องขึ้นศาล ผู้ใดกล่าวแก่พี่น้องว่า ‘ไอ้โง่’ ผู้นั้นจะต้องขึ้นศาลสูง ผู้ใดกล่าวแก่พี่น้องว่า ‘ไอ้โง่บัดซบ’ ผู้นั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงไฟนรก

23ดังนั้น ขณะที่ท่านนำเครื่องบูชาไปถวายยังพระแท่น ถ้าระลึกได้ว่าพี่น้องของท่านมีข้อบาดหมางกับท่านแล้ว24จงวางเครื่องบูชาไว้ หน้าพระแท่น กลับไปคืนดีกับพี่น้องเสียก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาถวายเครื่องบูชานั้น 25จงคืนดีกับคู่ความของท่านขณะที่กำลังเดินทางไปศาลด้วยกัน มิฉะนั้น คู่ความจะมอบท่านแก่ผู้พิพากษา และผู้พิพากษาจะมอบท่านให้ผู้คุม ซึ่งจะขังท่านในคุก 26เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ท่านจะออกจากคุกไม่ได้ จนกว่าท่านจะชำระหนี้จนเศษสตางค์สุดท้าย


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• วันนี้ระลึกถึงนักบุญบรานาบัส ที่เรียกว่า เป็นอัครสาวกอีกคนหนึ่ง วันนี้พออยากกล่าวถึงคนที่เป็นศิษย์พระเยซูเจ้า... พ่อมั่นใจว่า จำเป็นที่สุดเลยที่เราเป็นคริสตชนนั้น เราต้องเป็นศิษย์ที่ดีของพระคริสตเจ้า... และคริสตชนต้องเป็นคนดี... แน่นอนวันนี้พระวรสารนักบุญมัทธิวที่เราอ่านต่อเรื่องบทเทศน์บนภูเขา... บทที่ 5 ของพระวรสารนักบุญมัทธิว พระเยซูเจ้าเรียกร้องสิ่งที่สำคัญเป็นหลัก คือ 


• “เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่ดีไปกว่าความชอบธรรมของบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริ สีแล้วท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย”

o ความชอบธรรม คือ ความดีที่ต้องเหนือกว่าแบบธรรมาจารย์และฟาริสีคือที่เน้นกฎเพียงเพื่อกฎ เกณฑ์ แต่พระเยซูเจ้าเรียกร้อง.. ความดีจากจิตใจ

o ไม่ใช่เพียงกฎของการ “อย่าฆ่าคน” ตามกฎทั่วไป แต่... ต้องเป็นคนดีกว่านั้น คือ ต้องไม่แตะรากเหง้าของการฆาตกรรมคือการไม่แตะต้องความโกรธ ไม่แตะต้องการพูดว่าด่าตะวาดโดยเด็ดขาด... “ทุกคนที่โกรธเคืองพี่น้อง จะต้องขึ้นศาล ผู้ใดกล่าวแก่พี่น้องว่า ‘ไอ้โง่’ ผู้นั้นจะต้องขึ้นศาลสูง ผู้ใดกล่าวแก่พี่น้องว่า ‘ไอ้โง่บัดซบ’ ผู้นั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงไฟนรก”

o ความโกรธ คำหยาบคาย การเคืองกันคือสาเหตุที่นำไปสู่การกระทำและไปถึงการฆาตกรรมได้... พระเยซูเจ้าสอนให้ศิษย์ของพระองค์ ต้องไม่แตะต้องความชั่วร้ายแบบถอนรากถอนโคน..

o พ่อจะสรุปว่า “คริสตชน ศิษย์พระคริสต์ ต้องเป็นคนดีนะครับ” และวันนี้เราระลึกถึงนักบุญบรานาบัส... มีข้อมูลจากพระคัมภีร์ครับ กิจการอัครสาวกพ่อเสนอให้เราได้ไตร่ตรองกิจการอัครสาวก เพื่อเราจะได้ดำเนินชีวิตตามกิจการแบบอัครสาวกจริงๆ อัครสาวกของพระเยซู ศิษย์พระเยซู

• หนังสือกิจการอัครสาวก (ดู กจ 11:21ข-26, 13:1-3) พระคัมภีร์เล่าถึงบรานาบัสว่า 

o “บารนาบัสเป็นคนดี เปี่ยมด้วยความเชื่อและพระจิตเจ้า จึงมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาเป็นศิษย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า”

• ประโยคนี้ประโยคเดียวก็พอแล้วที่เราจะไตร่ตรองวันนี้การเป็นคริสตชนขอเรา

o คนดี คือ คนที่สังคมศาสนา การเมืองประเทศชาติ ต้องการ เราต้องการคนดี... 

o พี่น้องที่รัก เราได้ยินหนังสือกิจการอัครสาวกกล่าวถึงนักบุญบรานาบัสว่า “เขาเป็นคนดี เปี่ยมด้วยความเชื่อและพระจิตเจ้า”... 

o ในยุคนั้น บรานาบัสและเปาโลได้ทำให้คนเข้ามารับความเชื่อ และศรัทธาในพระเยซูเจ้ามากมาย 

o ที่เมืองอันทิโอกที่เขาถูกส่งไปประกาศข่าวดี ที่นั่นคือจุดเริ่มต้นของคำว่า “คริสตชน” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรและประวัติศาสตร์ของความรอด... พ่อดีใจจังและอยากจะเลือกประเด็นนี้มาขยายผลในชีวิตของเรา

• คำว่า “คริสตชน คนดี เปี่ยมด้วยความเชื่อ และเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้า” ทั้งหมดดูเหมือนกลายเป็นคำเหมือนกันไปแล้ว เรียกว่า


• ถ้าเป็นคริสตชน ต้องเป็นคนดี พี่น้องว่าจริงไหม... พ่อชอบจินตนาการ ถ้าเราเป็นคริสตชน เป็นคนของพระเจ้า เป็นคาทอลิก เป็นคนที่มีพระเจ้า มีความเชื่อ เราต้องเป็นคนดี๊ดี... พ่อจินตนาการไม่ออก หรือถ้าจินตนาการได้และพบได้

• พ่อเชื่อว่า พ่อพบความเจ็บปวดและเสียดแทงดวงใจ ถ้าเราพบคริสตชนคาทอลิกกลับเป็นคนที่ไม่น่ารัก เป็นคนไม่ดี.. ฉ้อโกง ทำร้ายคนอื่น พ่อว่า เป็นการไม่สอดคล้องอย่างยิ่งกับคำว่าคริสตชน มันขัดแย้ง มันเหมือนกับเราซื้อรถยนต์มาอย่างดี แต่มันวิ่งไม่ได้ หรือวิ่งไม่ตรงทาง และใช้การไม่ได้

• ถ้าเป็นคริสตชนหรือศิษย์พระคริสต์แล้ว “ใช้ไม่ได้” แปลว่า ไม่ได้เรื่อง ก็น่าเสียดายหรือเรียกว่า ไม่น่าเรียกว่าเป็นคริสตชนจะดีกว่า 

o ดังนั้น ธรรมชาติ สาระ สารัตถะของคริสตชน “ต้องเป็นคนดีจริงๆ นะครับ” 

o เราต้องปรากฏตัวเป็นคนที่ “แสนดี” พี่น้องว่าเราต้องเป็นเช่นนี้ไหม.... 

o ไม่ต้องคิดถึงคนอื่น มองดูและพิจารณาตนเอง ตัวเราเอง และแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาตัวเราให้ดีที่สุด.... 

o พ่อเคยได้ยินคำสอนมาตั้งแต่พ่อเป็นเด็กเสมอๆว่า ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนแปลงโลก เราต้องเริ่มจากตัวเรา ถ้าเราคิดจะสร้างวัฒนธรรมแห่งความรักของพระเจ้าบนโลก เราต้องเริ่มจากตัวเรา.... ก่อนอื่นใด

• หนังสือกิจการฯ กล่าวถึง “บารนาบัสเป็นคนดี เปี่ยมด้วยความเชื่อและพระจิตเจ้า” 

o ที่คริสตชนต้องเป็นคนเปี่ยมด้วยความเชื่อและพระจิตเจ้า 

o คำถามคือความเชื่อนั้น คือ “เชื่ออะไร” คำตอบคือ “เชื่อในพระเจ้าผู้เดียว” 

o ความเชื่อ คือบ่อเกิดของความสุข คนที่มีความเชื่อมีความสุขเสมอ คนมีความเชื่อในใคร ในอะไร หรือสิ่งใด ที่เป็นความมั่นคงหรือความปลอดภัยความไว้เนื้อเชื่อใจของเรา เราจะติดกับสิ่งนั้นโดยให้เวลา ให้คุณค่า ให้ความสำคัญสูงสุด....

• พี่น้องครับ คริสตชนคือคนที่มีความเชื่อในพระเยซูเจ้า พี่น้องครับ เรามีความเชื่อในพระองค์จริงๆ ไหม.... ถ้าพระองค์คือโฟกัสของชีวิต คือ หัวใจของชีวิตเรา เราต้องให้ความสำคัญกับพระองค์ ให้ความสำคัญกับคำสอนของพระองค์ ให้ความสำคัญกับคุณค่าแห่งแบบฉบับและคำสอนของพระองค์ โดยเฉพาะในเรื่องบัญญัติแห่งความรักและการมอบชีวิตเป็นประจักษ์พยาน ความรัก คือ หัวใจของธรรมบัญญัติ เราต้องเชื่อ เชื่อในความรักของพระเจ้า

• พี่น้องครับ พี่น้องเชื่อในพระองค์จริงๆ ไหม... เราเชื่อหมดใจ และทุ่มเทจิตใจของเราเพื่อรักพระองค์ เพื่อเชื่อในพระองค์จริงๆ ไหม หรือเพียงใด พ่อจินตนาการได้ง่าย แต่ผลคือความเสียดแทงดวงใจ เมื่อเห็นคริสตชนไหลไปกับเขาด้วย ไปกับกระแสต่างๆด้วย ไปหาหมอดู หมอผี ตัวเลข เครื่องราง ของขลัง และการติดกับวัตถุมงคล หรือคำทำนายทายทัก...

• พ่อคิด่า ความเชื่อในพระเยซูเจ้า ต้อง “เพียงพอ” ที่จะทำให้เราไม่ “หลง” แน่นอนคนเราอยากรู้อนาคต... แต่ถ้าเรารู้ว่า อนาคตของเราอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ เราคงไม่หลงไปนั่งสดับตรับฟังคำทำนายลายมือจากบรรดาหมอดูอาชีพ ที่ทำเพื่อเงินอย่างงมงาย... ความเชื่อ แท้ ต้องไม่หลงและงมงาย... เชื่อในพระเจ้า เชื่อในพระองค์

• คริสตชนเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้า พระจิตเจ้าคือ “พลัง” เป็น “พลังของพระเจ้า เป็นลมหายใจแห่งความรักนิรันดร และเป็นพลังแห่งการสร้างสรรค์ แสงสว่างและความจริง...” ผลของพระจิตก็คือ ความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความอดทน ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง ผลของพระจิตเจ้าทั้ง 9 ประการนี้ (กท 5: 22-23) น่าจะเพียงพอที่จะอธิบายคนดีที่มีพระจิตเจ้า ชีวิตเขาต้องมีผลทั้งเก้าประการนี้ออกมเป็นสิ่งที่สัมผัสได้อย่างเป็นรูป ธรรมที่สามารถพบและปฏิบัติตามได้ พ่อคิดว่า คนที่มีความเชื่อ เปี่ยม้ดวยพระจิตเจ้า ต้องมีผลทั้งเก้าประการนี้อย่างเด่นชัดขึ้น และทวีขึ้นทุกวันเสมอไป....

• พี่น้องที่รักครับ พ่อนั่งไตร่ตรองเตรียมฉลองบรานาบัส... ขณะที่พ่อก็ไตร่ตรองถึงชีวิตเล็กน้อยของเปาโล สด ตรีนิกร จาของพ่อ.... พ่อรู้สึกอิ่มและสุขที่ชีวิตเล็กๆของจาพ่อ เป็นพระพร จาไม่ได้เป็นคนวิเศษอะไร เล็กน้อยมากๆ และก็เป็นมนุษย์คนบาปคนหนึ่งเหมือนเราทุกคน.. แต่ท่านก็ “ดีในประสบการณ์ของพ่อ” และที่พ่อเห็นเสมอจากคำสอนชีวิตของจาพ่อที่เหมือนกับพี่น้องคริสตชนอาวุโส ทั้งหลายที่ชุมชนวัดเจ้าเจ็ดและที่อื่นๆที่พ่อพบ คือ “จาพ่อก็มีความเชื่อในพระเจ้า” วันนี้ ในบรรยากาศแบบนี้... ทำให้พ่อยิ่งรู้สึกดีที่จะระลึกถึงนักบุญบรานาบัสเพราะท่านนักบุญบรานาบัส คือ ต้นแบบอีกคนหนึ่งสำหรับเรา ท่านกระตือรือร้นมากใน ความเชื่อ ความดี ความรัก และการเต็มเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้า

• พ่อขอเชิญชวนพวกเราให้ภาวนา และขอพระเจ้าโปรดให้ท่านนักบุญบรานาบัสได้แบบอย่างแก่เราทุกคน ให้เราเป็น “คนดี มีความเชื่อและเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้า” มากขึ้นทุกวันนะครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ ขอให้เราเป็นคนดี เป็นคริสตชนที่ดีเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้าให้มากๆ คือ เปี่ยมด้วยอะไร... คำตอบก็บอกแล้วครับ คือ “ความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความอดทน ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก