“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2014
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

มธ: 9:27-31…
27ขณะที่พระเยซูเจ้ากำลังเสด็จออกจากที่นั่น คนตาบอดสองคนตามพระองค์ไป ร้องตะโกนว่า “โอรสของกษัตริย์ดาวิด โปรดเมตตาเราเถิด” 28เมื่อเสด็จมาถึงบ้าน คนตาบอดเข้ามาเฝ้าพระองค์ พระเยซูเจ้าจึงตรัสถามว่า “ท่านเชื่อว่าเราทำเช่นนั้นได้หรือ” เขาทั้งสองตอบว่า “เชื่อ พระเจ้าข้า” 29พระองค์จึงทรงสัมผัสตาของเขา ตรัสว่า “จงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อเถิด” 30แล้วตาของเขาทั้งสองคนก็เริ่มมองเห็น พระเยซูเจ้าทรงกำชับเขาอย่างเข้มงวดว่า “ระวัง อย่าบอกให้ใครรู้เรื่องนี้” 31แต่เมื่อทั้งสองคนออกไปก็ประกาศเรื่องของพระองค์ทั่วแคว้นนั้น


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “โชคดีของคนตาบอดสองคนที่เขาทั้งสอง ไม่หนวกและไม่ใบ้” พ่ออ่านพระวรสารตอนนี้และเช่นกันในมาระโกบที่ 10:46-52 คนตาบอดที่เยรีโค คนนั้น ที่ต้องถือว่าเป็นพระวรสารตอนเดีวยกันนี้ แต่ที่นี่ในมัทธิวนำเสนอ เป็น “คนตาบอดสองคน” ประเด็นสำคัญคือ ความบอดของดวงตาไม่ได้จำกัด “การได้ฟัง ได้ยิน และการร้องตะโกนของพวกเขา”

• พ่อประทับใจครับ ที่ได้อ่านพระวรสารวันนี้และได้เห็นเสียงร้องตะโกนของคนตาบอดสองคน ในภาษาของพระคัมภีร์ ภาษาเทววิทยาที่เราได้ยินนี้ที่ออกมาจากปากของคนตาบอดสองคนนี้ เขาร้องตะโกนในภาษาที่สำคัญมากๆ เรียกว่า เป็น “การประกาศความเชื่อในพระแมสซียาห์ หรือการประกาศความเชื่อ หรือภาษาเทววิทยาใช้คำว่า “Confession” แปลว่า “คำสารภาพ” สารภาพว่าคนตาบอดสองคนนี้แม้บอด แต่ไม่หนวก และไม่ใบ้ แต่ตะโกนร้องเสียงดัง เป็นคำสารภาพความเชื่อเด็ดขาด... ด้วยคำว่า “โอรสของกษัตริย์ดาวิด โปรดเมตตาเราเถิด” ในคำสารภาพนี้มีใจความสำคัญ 2 ประเด็น

o “โอรสดาวิด” คำนี้ เป็น คำจำกัดความหรือ “ไตเติ้ล” สำคัญ ที่มีความหมายถึง “พระแมสซียาห์หรือพระคริสตเจ้า” ใครก็ตามที่ได้รับการเรียกขานเช่นนี้ เขาคนนั้นคือพระแมสซียาห์แน่นอน... ดังนั้น คนตาบอดสองคนนี้ร้องตะโกนประกาศ “ความเชื่อของตนเองในพระคริสตเจ้า” คือ ความเชื่อเด็ดขาดว่า “พระเยซู คือ พระคริสตเจ้า พระผู้ช่วยให้รอด” คนตาบอดสองคนเชื่อเด็ดขาด ร้องตะโกนประกาศความเชื่อในพระองค์ “โอรสของกษัตริย์ดาวิด” เป็นชื่อเรียกพระเมสสิยาห์ (2 ซมอ 7:1; เทียบ ลก 1:32; กจ 2:30; รม 1:3 เป็นชื่อที่ชาวยิวคุ้นหูดี มก 12:35; ยน 7:42) มัทธิวใช้ชื่อนี้กับพระเยซูเจ้าบ่อยกว่าผู้อื่น (มธ 1:1;12:23; 15:22; 20:30//; 21:9,15) แต่พระเยซูเจ้าทรงลังเลในการใช้ชื่อนี้ เพราะเป็นชื่อที่กล่าวถึงพระเมสสิยาห์ในฐานะที่เป็นมนุษย์เท่านั้น
o “โปรดเมตตาเราเถิด” คนตาบอดทั้งสองมิใช่เพียงร้องเรียก แต่ร้องขอความเมตตาจากพระองค์ “ความเมตตา” คือลักษณะของพระเจ้าจริงๆ ดังนั้นในการสารภาพนี้ คนตาบอดได้มั่นใจว่าพระเยซูสามารถที่จะเมตตาได้จริงๆอย่างไม่ต้องสงสัย ในการร้องหาพระเจ้า เขาสองคนเป็นตัวอย่างให้แก่เราได้เลย

• ““ท่านเชื่อว่าเราทำเช่นนั้นได้หรือ” เขาทั้งสองตอบว่า “เชื่อ พระเจ้าข้า”” คำถามของพระคริสตเจ้าต่อคนตาบอดสองคน... 

o คำถามนี้พ่ออยากถามตนเองจริงๆ ถามพี่น้องคริสตชนผู้อ่านพระวรสารวันนี้จริงๆ... 

o “พี่น้องที่รัก พี่น้องเชื่อว่าพระเยซูเจ้าทำได้ทุกสิ่ง (คือทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงสรรภานุภาพสำหรับชีวิตของเราทุกคน) จริงหรือ” เราได้เชื่อเช่นนี้จริงๆหรือ

o คงเป็นโอกาสดีที่เราจะสารภาพด้วยวาจาและเสียงร้องของเรา ด้วยว่าเราจะต้องไม่บอด ไม่หนวก ไม่ใบ้ ต่อพระเยซูเจ้าโดยเด็ดขาด เช่นเดียกับคนตาบอดสองคนนี้สารภาพ ว่า “เชื่อพระเจ้าข้า” พี่น้องที่รัก พ่อถามใจพ่อเอง เพื่อถามพี่น้องเช่นกัน เราเชื่อ “เราได้มีความเชื่อศรัทธาในพระเจ้าเป็นอย่างไร คือมี คุณภาพของความเชื่อที่ปรากฎเป็นชีวิตที่มีคุณธรรมมากเพียงใดจริงๆหนอ”

o คำสารภาพ ประกาศอย่างสง่าของคนตาบอดสองคนนี้ น่าจะทำให้เราได้สามารถในโอกาสเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีนี้ได้ ปราศความเชื่อในพระคริสตเจ้าอย่างสง่าเช่นเดียวกัน

• คนตาบอดได้รับฟังพระวาจาอีกครั้ง “จงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อเถิด” พ่ออ่านข้อความนี้แล้วพ่ออยากให้เรา “เชื่อมั่น” ว่า “ความเชื่อช่วยเราให้รอดได้จริงๆ คือความเชื่อ (ใน) พระเยซู (to believe in Jesus Christ)” และเขาสองคนออกไป เขาหายจริงๆ เขาแลเห็นจริงๆ เรียกว่า ครบครัน คือ ได้ยิน ได้ฟัง ได้ร้องตะโกน และได้และเห็น การเห็นครั้งนี้เป็นเพราะ “ความเชื่อ” จริงๆ

• พ่ออยากย้ำว่า “ความเชื่อทำให้พวกเขาไม่บอด ความเชื่อทำให้แลเห็นได้แน่นอน พ่อมีข้อคิดข้อไตร่ตรองพิจารณาดังนี้ครับ

o พี่น้องที่รักครับ พระคริสตเจ้าที่จะบังเกิดมาที่เราจะฉลองและเตรียมรับเสด็จกันอยู่

o พี่น้องเชื่อในพระองค์ไหมครับ เชื่อไหมครับ เชื่อจริงๆ ไหมครับ... พ่ออยากย้ำว่า ถ้าเชื่อจริงๆ นะครับ ผลตามมาที่พ่ออยากเห็นได้ชัดเช่นคนตาบอดสองคนนี้ครับ คือ
ขอให้เราแลเห็นได้เลย ตาหายบอดเลยจริงๆ พ่อขอให้เราหายบอดนะครับ หายจากบอดจากการไม่เห็น ไม่มองดู ไม่ตั้งใจมองดู เพื่อนพี่น้องของเรา โดยเฉพาะบรรดาผู้ยากไร้ครับ อย่าบอดเลยนะครับ อย่าบอดมืดมัวมึนเมาจนมองไม่เห็นกันและกันในครอบครัว ในสังคม กับคนใกล้ตัว ไกลตัว โดยเฉพาะบรรดาคนยากไร้ บ่อยครั้ง คนเราอยู่ด้วยกันแท้ๆ บ้านเดียวกัน สามีภรรยากันที่เคยรักเชื่อในกัน แต่อาจจะมืดบอด ใบ้ หนวกต่อกันมาแสนนานแล้ว บางทีอีกฝ่ายอาจร้องขอความรัก ร้องขอการคืนดี การให้อภัย ร้องขอให้เปลี่ยนแปลงอะไรๆที่ไม่ดี ร้องกู่ให้กลับบ้านจากการหลงทางเหลิงไป ไปกับคนอื่น ที่ไม่ใช่คู่ชีวิต ทิ้งไปหาคนอื่น และบอดมืดมัวกับคู่ชีวิตตนเอง... เชื่อในพระเยซูไหมครับ ถ้าเชื่อ หายบอดเถอะครับ กลับบ้านให้ถูกหลัง กลับใจให้ได้จริงๆ กลับมายังครอบครัวของตน ลูกๆ และสังคมของตน...

ขอให้เราเลิกใจบอดมืดจืดสนิทต่อกันและกันเถอะนะครับ ถ้ามีความเชื่อจริงๆ ชีวิต ครอบครัว ชีวิตคริสตชน ชีวิตคู่ ชีวิตนักบวช พระสงฆ์ ครอบครัวสงฆ์ พระสังฆราชด้วย และเห็นกันเถอะครับอย่าบอดต่อกันเลย อย่าหนวกต่อเสียงเรียกร้องขอความรัก ความยุติธรรม และสันติสุขเลยนะครับ อย่าได้ใบที่จะพูดปลอบใจกันและกัน แต่ถ้าที่ผ่านมากตะโกนกร่นด่าทำร้ายกันด้วยคำพูด ก็ลดละเลิกและกลับใจกันเถอะครับ “ถ้ามีความเชื่อในพระเยซู”

• คนตาบอดสองคน อดไม่ได้เลยที่จะออกไปประกาศ โถๆๆๆ ก็ได้เชื่อ ได้แลเห็นพระเยซู จะเก็บไว้ได้อย่างไร... ครับ ดังนั้น พ่อขอศอกกลับความคิดสักนิดนะครับ เพราะที่ผ่านๆมาใครๆ ก็พูดกันว่า “พวกเราคริสตชนคาทอลิกไม่ค่อยประกาศอะไรกันเลย เงียบงันกันจัง ไม่กล้าประกาศพระคริสตเจ้ากันเลย” นี่จะมีความหมายที่บอกอะไรแก่เราได้ไหมว่าเช่น 

o พวกเรายังอ่อนในเรื่องความเชื่อในพระเยซูกันจริงๆในพระเยซูไหม

o พวกเราคริสตชนยังบอดๆกันไปสักหน่อย

o พวกเรายังหนวกๆกันในการฟังพระวาจา อ่านพระวาจาไปหน่อยไหม

• พี่น้องที่รัก พ่อสรุปนะครับ... ให้เราได้เชื่อในพระเยซูเจ้ามากขึ้น และให้เราได้หายจากความบอดในการแลเห็นกันและกันนะครับ...

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก