“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2014
สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา

1คร 10:14-22…
      14พี่น้องที่รักยิ่ง ท่านจงหลีกเลี่ยงการกราบไหว้รูปเคารพ 15ข้าพเจ้าพูดกับท่านเหมือนพูดกับผู้มีปัญญา ท่านจงพิจารณาตัดสินสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังจะพูดนี้เถิด 16ถ้วยถวายพระพร ซึ่งเราใช้ขอบพระคุณพระเจ้านั้น มิได้ทำให้เรามีส่วนร่วมในพระโลหิตของพระคริสตเจ้าหรือ และปังที่เราบินั้น มิได้ทำให้เรามีส่วนร่วมในพระกายของของพระคริสตเจ้าหรือ 17มีปังก้อนเดียว แม้ว่าจะมีหลายคนเราก็เป็นกายเดียวกัน

เพราะเราทุกคนมีส่วนร่วมกินปังก้อนเดียวกัน 18จงพิจารณาชาวอิสราเอลในอดีต ผู้ที่กินเนื้อจากของถวายก็มีส่วนร่วมในพระแท่นบูชามิใช่หรือ 19ข้าพเจ้าหมายความว่าอย่างไร หมายความว่า เนื้อที่ถวายแด่รูปเคารพนั้นมีความสำคัญอะไรหรือ รูปเคารพนั้นมีความสำคัญอะไรหรือ 20เปล่าเลย ข้าพเจ้าหมายความว่าสิ่งที่เขาถวายนั้น เขาถวายแก่ปีศาจ มิใช่ถวายแด่พระเจ้า ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาให้ท่านร่วมกับพวกปีศาจ 21ท่านจะดื่มจากถ้วยขององค์พระผู้เป็นเจ้า และจากถ้วยของปีศาจไม่ได้ จะร่วมโต๊ะทั้งกับองค์พระผู้เป็นเจ้า และร่วมโต๊ะกับพวกปีศาจไม่ได้ 22เราจะยั่วยุองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ขุ่นเคืองพระทัยกระนั้นหรือ เรามีกำลังมากกว่าพระองค์หรือ

 

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “การกราบไหว้รูปเคารพ” เรื่องนี้ เราคาทอลิกโดนคำถามเยอะมากๆจากพี่น้องโปรแตสแตนท์ พ่อเองเคยไปบรรยายให้กับนักศึกษาร่วมของเราคาทอลิกกับโปรแตสแตนท์ทุกๆ ปี พ่อได้พบคำถามนี้หนักมากๆในช่วงแรกๆ แต่ทีละเล็กทีละน้อย ก็ค่อยๆ เข้าใจกันได้  

• พ่อเล่าให้ฟังดีกว่า คือ บรรดานักศึกษาคริสเตียน เขาจะถามเสมอว่า
o “ทำไมเราคาทอลิกต้องกราบไหว้รูปเคารพ พวกเขาไม่มีรูปเคารพ ทำแบบนี้ไม่ขัดกับพระคัมภีร์หรือ???”
o “ทำแบบนี้เป็นบาปนะ การไหว้รูปเคารพ พระคัมภีร์ก็เขียนอยู่หลายแห่งทั้งพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่”

• บางที ก็จริงอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะวิธีปฏิบัติของเราคาทอลิก บางทีเพราะความละเอียดอ่อนโยน ความรัก ศรัทธา ในเรื่องการให้เกียรติแม่พระ บรรดานักบุญ บ่อยครั้ง เพราะความละเอียด ในการให้เกียรติอย่างพิเศษ บาทีเราก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเหมือนกัน บางทีเราก็ปฏิบัติแบบไม่ค่อยถูกเหมือนกัน...  

• พ่อยกตัวอย่างดีกว่า  
o บางทีเราติดกับ “รูปปั้นต่างๆ” มาเกินไปจนกลายเป็นติดกับวัตถุ เช่นรูปปั้นแม่พระ ต้องเป็นรูปนี้ รูปนี้เท่านั้นจึงจะศักดิ์สิทธิ์ ต้องรูปนี้เท่านั้น ที่ใช้ได้ รูปอื่นใช้ไม่ได้ ไม่ศักดิ์สิทธิ์ บางทีบางวัดของเราก็มีปัญหากันเยอะแยะไปหมดเหมือนกัน รูปแม่พระ รูปนักบุญประจำวัน ฯลฯ บางทีเก่ามาก หรือชำรุด... จะเปลี่ยนใหม่หรือเปลี่ยนรูป สัตบุรุษก็ไม่ยอม ไม่เห็นด้วย ประท้วงกันก็มี  
o บางที เราเดินไปหารูป เราหารูปแม่พระ รูปนั้น รูปนี้ ปางนั้น ปางนี้ และก็ต้องสวดขอทุกรูๆปนักบุญ ที่สำคัญบางทีเราก็ติดกับรูป ต้องรูปนี้เท่านั้นนะจึงจะศักดิ์สิทธิ์...รูปอื่นใช้ไม่ได้ ไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่า...
o ลำบากเหมือนกันครับ เพราะเป็นศรัทธาและการติดกับรูป กับรูปปั้น หรือวัตถุ... ลำบากและละเอียดอ่อนที่จะห้ามกันหรือขัดใจกัน...พ่อเข้าใจ แต่บางทีก็ยากจะอธิบายทางเทววิทยาและความเชื่อที่เหมาะสมถูกต้อง บ่อยครั้งก็ต้องยอมอนุโลม และยอมๆกันไป  
o พ่อเคยได้ยิน...เรื่องเล่าน่ารักและขำๆแบบน่ารักครับ คือว่า... มีการแห่พระรูปแม่พระฟาติมาในเดือนพฤษภาคม เพราะเป็นเดือนที่ระลึกถึงแม่พระและการประจักษ์ที่ฟาติมา ณ ที่วัดหนึ่ง... ไม่ทราบว่าที่ไหน จริงๆ หรือไม่ แต่ได้ยินการเล่าขานมาครับ... วันนั้น คือ มีอาม่าผู้แสนศรัทธาน่ารัก อาม่ารักแม่พระ รักแม่พระนิจจานุเคราะห์ รักแม่พระฟาติมา รักแม่พระเมืองลูร์ด ฯลฯ รักศรัทาไปเสมอ มามิสซาทุกวัน... วันนั้น ขบวนแห่แม่พระฟาติมาเคลื่อนไปเรื่อยในศรัทธาของทุกคนดังเช่นปกตินั่นแหละ อาม่าก็เดินตาม ตามองดูแม่พระอย่างศรัทธา.. และแล้วอุบัติเหตุเล็กน้อยก็เกิดขึ้น...จนได้ คนแบกบุษบกรูปพระแม่ฟาติมาในขบวนแห่เกิดเดินสะดุดไปข้างหนึ่ง... ทันใดรูปแม่พระกำลังเซเกือบจะล้ม (แต่ไม่ได้ล้ม) เสียงอาม่าแสนศรัทธาน่ารักและแสนซื่อก็ร้อง แน่นอนหลายคนร้องด้วยความตกใจ... แต่อามาร้องดังกว่าใคร...ว่า “อั่ยย่ะ...แม่พระนิจจานุเคราะห์เจ้าขา..โปรดช่วยแม่พระฟาติมาด้วยเจ้าค่ะ”??? พ่อได้ยินเรื่องเล่านี้ก็อดรู้สึกถึงความน่ารักและศรัทธาของอาม่าไม่ได้ แต่ขณะเดียวกัน การอธิบายทางความเชื่อ เทววทิยา ก็ต้องกระทำด้วยความจำเป็น “แม่พระฟาติมา แม่พระนิจจานุเคราะห์ หรือ แม่พระในรูปแบบใดๆ ก็คือ “พระแม่มารีย์” องค์เดียวกัน” นี่แหละคือปัญหาความยากของการอธิบายศรัทธา และการอธิบายความเชื่อ  
o หรือ บางที ตามบ้านก็มีรูปปั้นแม่พระเยอะแยะ รูปปั้นนักบุญเยอะแยะ นำมาให้พ่ออวยพรหรือเสก... และก็นำกลับไป ไปฉลองวัดกันทีไร มีรูปพระสวยๆมาจัดบริการให้ซื้อหา เราก็ซื้อ (ภาษาคาทอลิกไม่ใช้คำซื้อ แต่ใช้คำว่า “ไถ่รูปพระ” ภาษาพี่น้องชาวพุทธ คือ “เช่าบูชา”) กันมาเรื่อย บ้านก็เต็มไปด้วยรูปปั้น
o และสิ่งที่น่ารักของสัตบุรุษก็มีอีก.. เวลารูปเก่ามาก หรือชำรุด แขนหัก ขาขาด หรือตกลงมากจากหิ้งพระและรูปปั้นนั้นคอหัก เพราะเป็นวัตถุที่เสื่อหรือล้ม ตกพังไปได้... พี่น้องสัตบุรุษก็ไม่รู้จะทำอย่างไร... ไม่กล้าทิ้งขยะ (ก็ดีครับ ไม่ทิ้งเกะกะให้เป็นที่สะดุดและดูไม่เหมาะ) แต่ก็มีวิธีปฏิบัติกันน่ารักๆครับ มีหลายวิธีครับ  

1. สัตบุรุษบางคนก็นำใส่ถุงครับ แล้วก็มาวัด มาหาพ่อ ฝากพ่อ “พ่อขา...พ่อครับ...ช่วยจัดการที...” พ่อๆก็งง..ทำไมต้องเป็นพ่อ... เออจริงๆ ก็พ่อเสกนี่นา เวลาเสียหายแล้วพ่อก็ทำลายให้ด้วยสิ...???
2. บางคนนะครับ ไม่รู้ทำอย่างไร ก็ใส่ถุงมาแขวนไว้แถวๆบ้านพ่อเจ้าวัดซะ...น่ารักไปอีกแบบ
3. บางคนก็เอาไปแขวนไว้ทีกางเขนในสุสานตามหลุมก็มี...  
4. เอาไปถวายอารามชีลับต่างๆ ให้ช่วยใช้ความขลังความเป็นชีลับจัดการให้ทีเถอะ...  

• ครับ พี่น้องที่รัก เรื่องละเอียดอ่อน เรื่องศรัทาแบบน่ารักของสัตบุรุษคริสตชนคาทอลิกเรา พ่อไม่ว่าล่ะครับ... แต่วันนี้ต้องตอบคำถามเรื่องรูปเคารพหน่อยครับ  

• กลับมาที่เรื่องรูปเคารพ... คำถามที่พี่น้องโปรแตสแตนท์ถาม หรือบ่อยครั้งต่อต้านเรา... พ่อเคยถูกถามเรื่องนี้ “คุณพ่อครับ ทำไม คาทอลิกกราบไหว้วัตถุรูปเคารพ...” พ่อมักจะตอบแบบนี้ อ่านดีๆนะครับ
o พระศาสนจักรคาทอลิกเรามีธรรมประเพณีงดงาม รอบคอบ และน่าทึ่งเรื่องรูปปั้น หรือรูปต่างๆ ถ้าจะต้องการคำตอบ เราต้องดูที่บทเสกรูปดีๆครับ ชัดมากๆ  
o เวลาพระสงฆ์เสกรูปปั้น รูปภาพ ฯลฯ พระสงฆ์สวดภาวนาว่าอะไร... มีถ้อยคำสำคัญที่ต้องพิจารณาดังนี้ครับ
o พระสงฆ์จะกล่าวในการเสกว่า “เมื่อตาแลเห็น รูปปั้นหรือรูปภาพ เหล่านี้ ใจจะได้คิดถึงพระองค์   • ดังนั้น... ในการเสกหรืออวยพร ทำให้รูปเหล่านี้ได้เป็น “เครื่องหมาย” พิเศษ เป็นมากกว่าเครื่องหมาย คือ เป็นเครื่องมือทางการเสริมศรัทธา ทั้งนี้เพื่อให้เราได้เห็นด้วยสายตาครั้งใจ ใจของเราจะได้คิดถึงพระเจ้าเป็นสำคัญ

• ดังนั้น ในบทเสกนี้ชัดเจน... เราต้องไม่คิดว่าเป็นวัตถุนั้นๆทีกลายเป็นสิ่งวิเศษ มีพลังเหมือนเครื่องของขลัง....แต่ แต่ แต่เป็นเครื่องหมายและเครื่องมือ เพื่อสายตาของเรา สัมผัสของเรา นำเราไปหาพระเจ้า นั่นคือประเด็นสำคัญ...  
• ดังนั้น เราไม่พึงยึดติดกับวัตถุ แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่ให้คุณค่าใดๆเลย เพราะการให้คุณค่ากับรูปปั้น รูปเคารพ เหรียญทั้งหลาย ไม่ได้มุ่งเน้นว่าสิ่งเหล่านั้นมีพลังอำนาจแบบเครื่องของขลัง คำเสกอวยพรทำให้เราเห็นชัดว่า o สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นเครื่องหมาย เป็นเครื่องมือ เพื่อนำเราให้ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น โดยที่เราก็ต้องไม่ยึดติดกับตัวสารหรือวัตถุธาตุนะครับ เมื่อเกิดความเสียหายหรือเก่าแล้ว ทำลายทิ้งได้ครับแต่ต้องไม่ทำแบบให้เกิดการสะดุดเช่นทิ้งขยะไปเลยก็ดูไม่ดีครับ เพราะคนอื่นๆ เห็นก็จะรู้สึกสะดุด มีวิธีทำลายที่เหมาะสม การเผาทำลายก็ดูเหมาะครับเพราะไม่เหลือสภาพไว้ให้เกิดการสะดุดตาหรือสะดุดใจครับ...
o เอาล่ะครับเรื่องแบบนี้ตัดสินใจกันเองที่เหมาะๆและเป็นการให้เกียรติครับ... แต่อย่าลืมว่า ประเด็นของเราไม่ได้อยู่ที่การยึดติดกับความศักดิ์สิทธ์ของวัตถุนะครับ... การมีรูปปั้นรูปภาพสวยๆ ใช้วัสดุดีๆ เป็นการให้คุณค่าของความเชื่อ ไม่ใช่ให้ความขลังแก่วัตถุ... สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมเนียมทีดีของเราที่มีเครื่องหมาย เครื่องมือ เสริมศรัทธาในพระเจ้าของเราครับ...  

• พี่น้องที่รักครับ สิ่งที่นักบุญเปาโลสอนวันนี้ คือ การเลี่ยงการกราบไหว้รูปเคารพในฐานะที่เป็นเทพเจ้า เป็นพระเจ้า เป็นวัตถุที่เราหลงใหลได้ปลื้มแบบที่ทิ้งพระเจ้าเที่ยงแท้หันไปหารูปเคารพ ไปหาพระเท็จเทียมอื่นๆ..  

• แต่สำหรับเรา เป้าหมายสูงสุดของเรา คือ “พระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสตเจ้าเสมอครับ” เครื่องหมาย เครื่องมือ สื่อ รูปปั้น รูปภาพ ฯลฯ ในธรรมเนียมประเพณีชีวิตของพระศาสนจักร มีคุณค่าและความหมายดีครับ เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยนำใจเราให้ยกขึ้น เสริมศรัทธาและหนุนความเชื่อให้ขึ้นไปหาพระเจ้าเสมอครับ... ตรงนี้เราเข้าใจตรงกันนะ...

• พี่น้องที่รักครับ พ่อขอย้ำหัวใจของเราในการสร้างความสัมพันธ์นิรันดรกับพระเจ้า การพบกับพระเจ้าสำหรับเรามีแกนกลางอยู่ที่สามสิ่งสำคัญที่สุด ขาดไม่ได้ จำเป็นที่สุด คือ...อ่านดีๆนะครับ...  
1. โดยทางพระวาจาของพระเจ้า “พระคัมภีร์” การอ่าน การไตร่ตรอง การดำเนินชีวิตตามพระวาจาของพระเจ้า และการแบ่งปันหรือการประกาศ
2. โดยทางศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งศีลมหาสนิท หรือ พิธีมิสซา บูชาขอบพระคุณ ซึ่งเราต้องฉลองโดยเฉพาะในวันพระเจ้าทุกวันอาทิตย์พร้อมกับพี่น้องคริสตชน  
3. โดยทางการอธิษฐานภาวนา คือ การสนทนากับพระเจ้า การสรรเสริญพระเจ้า ขอบพระคุณพระเจ้า ขอโทษ และวอนขอพระพรจากพระเจ้า  

• พี่น้องที่รักครับ... ถ้าเราศรัทธา และให้ความสำคัญที่สุดกับพระวาจาของพระเจ้า ศีลมหาสนิท และการอธิษฐานภาวนาแล้ว... สิ่งอื่นๆ ธรรมประเพณีอื่นๆ เช่นการมีรูปแม่พระ รูปนักบุญ รูปภาพ เครื่องหมาย... ที่เราจัดไว้อย่างเหมาะสม การเสกและอวยพร เพื่อให้ความสำคัญพิเศษกับสิ่งเหล่านี้เพื่อเป็นเครื่องหมาย เครื่องมือ ช่วยให้เราได้คิดถึงพระเจ้ามากขึ้น สรรเสริญพระเจ้ามากขึ้น รักพระเจ้ามากขึ้น.. โดยที่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นพระเท็จเทียมเลย แต่เป็น “สื่อ เป็นเครื่องหมาย เป็นเครื่องมือ” ช่วยเราให้มีศรัทธาในพระเจ้ามากขึ้นก็ดีอยู่แล้วนะครับ เพียงแต่เราอย่ายึดติดกับสื่อมากกว่าเป้าหมายหรือพระเจ้า แต่เป็นเครื่องมือที่มีค่านะครับ..  

• เอาเป็นว่า ถ้าเราเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเราบรรลุวุฒิภาวะในความเชื่อแล้ว เราจะเข้าใจคุณค่าและจัดลำดับคุณค่าและความสำคัญในความเชื่อและศรัทธาของเรานะครับ...
o พ่อขอเปรียบสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนขนมหวาน ไม่ใช่อาหารจานหลักหรือเมนคอร์ส
o เมนคอร์สสำคัญและจำเป็นที่สุดครับ...
o และขนมหวานก็เป็นความงดงามและเสน่ห์ของมื้ออาหารเช่นกัน...
o แต่เด็กจะน่าตีมากๆเลยครับ ถ้ากินแต่ขนมหวานและไม่ยอมรับประทานข้าวหรืออาหารจานหลักใช่ไหมครับ... พ่อเห็นเด็กๆโดนดูเสมอถ้าไม่ยอมทานข้าวทานแต่ขนม... ใช่ไหมครับ...
o แต่ถ้าเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราก็เข้าใจ เราก็เลือกเป็น เรารับประทานอาหารจานหลักแล้วก็ดีมาก และการได้คุย ได้ชื่นชม ได้รับประทานขนมหวานหลากหลาย ก็มีคุณค่าและสุนทรีมากมิใช่หรือครับ...  
o เอาละครับ ขอให้เรามีศรัทธาในพระเจ้าสูงสุด และเห็นคุณค่าในสิ่งต่างๆ ที่ช่วยเราให้รักพระเจ้ามากขึ้นนะครับ...

• ตัวอย่างอีกนิด... พ่อสมัยอยู่บ้านผู้หว่าน ที่ชั้นสองออฟฟิต พ่อนั่งทำงานกับบรรดาเจ้าหน้าที่ พ่อมีแก้วกาแฟใบหนึ่งที่พ่อใช้ทุกวัน... เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเวลาพ่อขอ “ลูกขอกาแฟแก้วสิครับ” เจ้าสาวน้อยจะลุกไปชงให้เสมอ หยิบแก้วใบไหนก็ได้... แต่พ่อจะร้องบอก ขอแก้วใบนั้นที่พ่อชอบ เพราะมันน่ารักขนาดมันพอดี เกินเอสเพรสโซ่หน้อยกว่าอเมริกาโน่.. และก็ต้องเป็นเจ้าใบนั้น ใบอื่นไม่รู้สึกเหมือนใบนั้นเลย... (กาแฟเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม แต่มันเป็นวัฒนธรรม Culture จริงไหมครับ) จากวันนี้ ทุกครั้งที่ขอกาแฟ เจ้าหนูหริ่งหรือเพื่อนๆในออฟฟิตจะรู้ว่า สำหรับพ่อต้องแก้วกาแฟใบนี้เท่านั้น...ทุกคนรู้ว่า แก้วนั้น สำหรับพ่อพิเศษกว่าใบอื่นๆ... เมื่อพอออกจากบ้านผู้หว่านหลังจากอยู่มาสิบปี... พ่อเก็บของที่เป็นของพ่อออก... วันนั้น เมื่อเก็บแก้วกาแฟที่พ่อมีเยอะมากๆ เพราะชอบแก้วกาแฟสวย และเก็บไว้ต้อนรับแขกด้วย... วันนั้น เจ้าหนูหริ่งเอ่ยปากทั้งน้ำตาเพราะพ่อต้องย้ายไปแล้ว... “พ่อขา แก้วใบนี้หนูขอนะ... เพราะพ่อใช้มาตลอด ไว้เป็นที่ระลึก จะได้คิดถึงพ่อ...”

• เท่านี้แหละครับ... เล่าให้ฟังเพื่อ Analogy กับรูปพระ ที่เราเสก เป้าหมายคือเพื่อระลึกถึงมากขึ้นถึงพระเจ้าของเรา ศาสนาสูงส่งเหนือกว่าวัฒนธรรมการดื่มกาแฟนะครับ เราจึงมีพิธีเสกและอวยพรรูปพระ เครื่องใช้ในเรื่องศาสนาครับ...เข้าใจตรงกันนะ... ไว้จะตามหาแก้วกาแฟนี้มาอวด...  
o พระเจ้าอวยพรครับ...

 

 

 

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก