“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2017
ฉลองวันครบรอบการถวายพระวิหารลาเตรัน
ยน 2:13-22…

          13เทศกาลปัสกาของชาวยิวใกล้จะมาถึง พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม 14ในบริเวณพระวิหาร พระองค์ทรงพบพ่อค้าขายโค พ่อค้าขายแกะ พ่อค้าขายนกพิราบ และคนแลกเงินนั่งอยู่ที่โต๊ะ 15พระองค์ทรงใช้เชือกเป็นแส้ ทรงขับไล่ทุกคนรวมทั้งแกะและโคออกจากพระวิหาร ทรงปัดเงินกระจายเกลื่อนกลาด และทรงคว่ำโต๊ะของผู้แลกเงิน 16แล้วตรัสกับคนขายนกพิราบว่า “จงนำของเหล่านี้ออกไป อย่าทำบ้านของพระบิดาของเราให้เป็นตลาด”

17บรรดาศิษย์จึงระลึกได้ถึงคำที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “ความรักที่ข้าพเจ้ามีต่อบ้านของพระองค์เป็นเสมือนไฟที่เผาผลาญข้าพเจ้า” 18ชาวยิวจึงเข้ามาทูลถามพระองค์ว่า “ท่านมีเครื่องหมายอะไรแสดงให้เรารู้ว่าท่านมีอำนาจทำดังนี้” 19พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “จงทำลายพระวิหารนี้ แล้วเราจะสร้างขึ้นใหม่ภายในสามวัน” 20ชาวยิวพูดว่า “พระวิหารหลังนี้ต้องใช้เวลาสร้างถึงสี่สิบหกปี แล้วท่านจะสร้างขึ้นใหม่ในสามวันหรือ” 21แต่พระองค์กำลังตรัสถึงพระวิหารซึ่งหมายถึงพระกายของพระองค์ 22ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว บรรดาศิษย์จึงระลึกได้ว่าพระองค์ตรัสไว้ดังนี้ เขาจึงเชื่อทั้งพระคัมภีร์และพระวาจาที่พระองค์ตรัสไว้

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• ตั้งแต่เป็นเด็กตอนเป็นเณรที่บ้านเณรเล็ก พ่อจำได้ว่าพ่อเคยได้ยินชื่อพระวิหารลาเตรันตั้งแต่เวลานั้น แต่ไม่เคยทราบว่าหน้าตาพระวิหาร ขนาดพระวิหาร ความงามของพระวิหารนี้เป็นอย่างไร พ่อทราบแต่เพียงวันนี้เป็นวันฉลองพระวิหารแม่ของพระศาสนจักรเพราะเป็นอาสนวิหารของพระสังฆราชแห่งกรุงโรม และพระสังฆราชแห่งกรุงโรมก็คือพระสันตะปาปานั่นเอง...

• พ่อยอมรับว่า ตั้งแต่เป็นเณรเล็กพ่อก็ฝันใฝ่และจิตนาการถึงความงดงามของพระวิหารลาเตลัน และพระวิหารนักบุญเปโตร พระวิหารแม่พระ พระวิหารนักบุญเปาโล..
o พ่อรู้สึกว่าเวลากล่าวถึงพระวิหารของพระศาสนจักรคาทอลิก พ่อคิดถึงความสวยงาม ความยิ่งใหญ่ หรือความใหญ่โตของพระวิหาร วันนี้พ่อขอทบทวนพระความรู้จักพระวิหารแม่ของพระศาสนจักรคาทอลิกอีกครั้งหนึ่งครับ

• พระศาสนจักรของเรา โรมันคาทอลิกมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม เพราะพระสันตะปาปาอยู่ที่นั่น นักบุญเปโตรสิ้นชีวิตที่กรุงโรม โรมเป็นที่ตั้งของ “พระวิหาร” อันที่จริงเรียกว่า “มหาวิหาร” (Basilica บาสิลีกา รากภาษามาจากกรีกและโรมัน แปลว่ามหาวิหารหรือวิหารแม่ ภาษาลาตินใช้คำว่า Archibasilica) ที่กรุงโรมมี 4 มหาวิหารด้วยกัน ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งพระพร และการไปแสวงบุญที่โรมก็มักจะต้องเยี่ยมเยือนพระวิหารเหล่านี้ สี่พระวิหารนี่คือ
1. มหาวิหารนักบุญเปโตร Saint Peter Basilica (ใหญ่ที่สุด)
2. มหาวิหารนักบุญยอห์นแห่งลาเตรัน Saint John Lateran Basilica (อาสนวิหารของพระสันตะปาปาในฐานะพระสังฆราชแห่งกรุงโรม ปีที่อภิเษกพระวิหารนี้นั้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 324 นานโขเลยนะครับ)
3. มหาวิหารแม่พระ Saint Mary Major Basilica
4. มหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม Saint Paul Basilica

• พระวิหาร หรือวัดสำหรับพ่อมีความหมายมาก ตั้งแต่วัยเด็ก เพียงวัดเล็กๆที่เจ้าเจ็ด มีหอระฆังสูงหน่อย วัดเจ้าเจ็ดจุคนได้สักสองร้อยคนพ่อก็ว่าใหญ่โต่มากแล้วในสายตาของพ่อ พ่อรู้สึกว่า
o วัดคือหัวใจ วัดคือศูนย์กลางของชุมชน
o วัดเป็นที่ประทับของพระเจ้า วัด ณ ที่นั้น มีคุณพ่อ มีซิสเตอร์ มีพระเจ้าประทับอยู่ พวกเราไปวัด เรารู้สึกดีเสมอ เรารู้สึกว่าที่วัดคือที่ที่ดีที่สุดในหมู่บ้านของเรา เป็นที่เราภาวนา เป็นที่เราวอนขอ เป็นที่เราพึ่งพา...
o วัด สุดยอดเสมอ... ถ้าได้ไปวัด ไปช่วยมิสซา ยิ่งสุดยอดจริงๆ นั่นคือความรู้สึกดีๆต่อวัดและความทรงจำในอดีตของพ่อ

• เมื่อพ่อมีโอกาสเรียนพระคัมภีร์ ได้อ่านเรื่องการสร้างพระวิหาร และการถวายพระวิหารสมัยกษัตริย์ซาโลมอน อ่านซ้ำๆ พ่อยิ่งเห็นคุณค่าของพระวิหารหรือที่ประทับของพระเจ้ามากขึ้นจริงๆ พ่อขอคัดข้อความพระคัมภีร์มากให้อ่านหน่อยนะครับจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ฉบับที่สอง บทที่ 8:54ff บางส่วนครับ อ่านตอนที่ซาโลมอนถวายพระวิหารกันนะครับ พ่อชอบคำภาวนาของซาโลมอนหน้าพระแท่นในวันถวายพระวิหารมากๆ คำ “ขอ” ของซาโลมอน ณ พระวิหารน่าอ่าน และน่าไตร่ตรองมากๆครับ
o กษัตริย์ซาโลมอนทรงคุกเข่าเบื้องหน้าพระแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ ทรงชูพระกรขึ้นสู่สวรรค์ ทรงอธิษฐานภาวนาและทรงวอนขอพระยาห์เวห์
o เมื่อทรงอธิษฐานภาวนาจบแล้ว ทรงลุกขึ้น ทรงยืนและประทานพรแก่ชาวอิสราเอลทุกคนที่ชุมนุมกัน ตรัสเสียงดังว่า
o "ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ ผู้ประทานความสงบแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ตามพระสัญญา พระสัญญาทั้งหลายที่ตรัสไว้ผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ ไม่มีแม้เพียงประการเดียวที่ไม่เป็นจริง
1. ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราสถิตอยู่กับเรา ดังที่เคยสถิตอยู่กับบรรพบุรุษ
2. ขอพระองค์อย่าทรงจากเราไปและ
3. อย่าทรงทอดทิ้งเราเลย
4. ขอพระองค์ทรงบันดาลให้ใจของเราหันไปหาพระองค์ เราจะได้เดินตามวิถีทางทั้งมวลของพระองค์ และปฏิบัติตามบทบัญญัติ ข้อกำหนดและพระวินิจฉัยที่ประทานแก่บรรพบุรุษของเรา
5. ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงระลึกทั้งกลางวันและกลางคืนถึงถ้อยคำเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าวอนขอพระองค์
6. ขอพระองค์ทรงปกป้องผู้รับใช้ของพระองค์ และทรงปกป้องอิสราเอลประชากรของพระองค์ตามความจำเป็นในแต่ละวันด้วยเถิด ประชาชาติทั้งหลายทั่วแผ่นดินจะได้รู้ว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าอื่นใด
7. ขอให้ใจของท่านทั้งหลายซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา ดำเนินชีวิตตามข้อกำหนดของพระองค์ ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ดังที่ท่านทำอยู่วันนี้"

• พี่น้องที่รัก พ่อชอบอ่านคำภาวนาของซาโลมอน และดูเหมือนว่า คำขอของซาโลมอนนี้ยังคงมีคุณค่าเสมอสำหรับเราที่จะภาวนาวอนขอพระเจ้าเช่นกัน
o แน่นอนวันนี้ฉลองพระวิหารลาเตรัน ทำให้พ่อคิดถึงวัดของพ่อ พ่ออยากให้พี่น้องรู้สึกดีๆและรักวัดบ้านเกิดของเรา คือ รักวัดที่เรารับศีลล้างบาป ถ้ามีโอกาสวันนี้คิดถึงวัด คิดถึงวันเวลาที่เรารับศีลล้างบาป หรือเยี่ยมวัดที่เรารับศีลล้างบาป และที่สำคัญให้เราได้ตระหนักถึงศีลล้างบาปที่เราได้รับ วัดที่เราสังกัดหรือไปร่วมมิสซาเป็นประจำ...
o และที่สำคัญที่สุด สำคัญกว่าตัววัดหรือตัวอาคารคือ “ชุมชนวัด” ของเราทุกคน “ชุมชนศิษย์พระคริสต์” นั่นคือพระศาสนจักรที่แท้จริงของเรา... และแน่นอนตามพระวาจาในพระคัมภีร์... ในบทอ่านวันนี้จากจดหมายนักบุญเปาโล เราทราบว่า เราแต่ละคนนี่แหละที่เราต้องไม่ลืมว่า “เราคือพระวิหารของพระเจ้า”

• ทุกคนด้วยกัน เปาโลย้ำว่า
o “ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน ถ้าใครทำลายพระวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายเขา เพราะพระวิหารของพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ และท่านก็คือพระวิหารนั้น”

• ประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับพ่อวันนี้.... คือพระวรสารนักบุญยอห์น พระเยซูเจ้าทรงชำระพระวิหารในวันใกล้วันฉลองปัสกาสำหรับชาวยิว...
o พระวิหารได้กลายเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่ออ้างการพาณิชย์ พ่อค้าขายสิ่งของอำนวยความสะดวกแก่การนมัสการพระเจ้า ค้าแกะ ค้าโค นกเขาและนกพิราบ สัตว์ที่จะต้องใช้ในการถวายบูชาเท่านั้น โดยปกติประชาชนจะนำมา... แต่ เพื่อความสะดวก (เพื่อการพาณิชย์ของครอบครัวสมณะ เลวี และคนอยู่ใกล้พระวิหารทั้งนั้น...)
o ก็มีการค้าเกิดขึ้น อ้างเพื่อความสะดวก อ้างไปอ้างมาก็อาจจะอ้างว่าทำเพื่อพระวิหาร (กระโดดข้ามสองพันปีมาสู่ยุคสมัยของเรา เมื่อวัดทำศาสนพาณิชย์.... อ้างได้หมดทำเพื่อวัด สิ้นค้าของวัด วัดได้ประโยชน์ กำไรเข้าวัด และที่สุดพ่อเจ้าวัด ซิสเตอร์คนในวัดก็จัดการกันเอง ร่ำรวย ได้ประโยชน์ ย้ำ “เข้าวัด” ในเขตของวัด สัตบุรุษห้ามขาย พ่อค้าทั่วไปได้แค่หน้าประตูวัด... หรือถ้าวัดทำไม่ไหว ก็จัดตีเส้น ตีคอก อำนวยความสะดวก และก็ให้เช่าขายในวัด แบ่งกำไรให้วัด...ฯลฯ)

• วันนั้นก่อนปัสกา...พระวิหารของพระเจ้าก็เต็มไปด้วยการค้าและพาณิชย์ (ไปศึกษาประวัติศาสตร์เจ้าของกิจการหรือผู้มีส่วนได้ ไม่เคยมีส่วนเสียคือตระกูลเลวี และมหาสมณะ)... วันนั้น ... ยน 2 ข้อความพระวาจาที่เราอ่านวันนี้ พระเยซูเจ้าจึงต้องชะระพระวิหาร...
o “พระองค์ทรงใช้เชือกเป็นแส้ ทรงขับไล่ทุกคนรวมทั้งแกะและโคออกจากพระวิหาร ทรงปัดเงินกระจายเกลื่อนกลาด และทรงคว่ำโต๊ะของผู้แลกเงิน แล้วตรัสกับคนขายนกพิราบว่า “จงนำของเหล่านี้ออกไป อย่าทำบ้านของพระบิดาของเราให้เป็นตลาด””
o เราได้เห็น “ความรักที่พระองค์ทรงมีต่อบ้านของพระบิดา เป็นเหมือนไฟที่เผาผลาญหัวใจของพระองค์...” เป็นตัวอย่างสอนเราในเรื่องความรักต่อความบริสุทธิ์ งดงาม และศักดิ์สิทธิ์ต่อ “พระวิหาร”
o และที่สุด พระองค์บอก “จงทำลายพระวิหารนี้สิ แล้วเราจะสร้างขึ้นใหม่ในสามวัน” ชัดเจน... พระเยซูเจ้าทรงประกาศ “พระองค์คือพระวิหารแท้” ไม่ใช่อิฐหินปูนทรายที่เป็นพระวิหาร... พระคัมภีร์ย้ำชัดเจนว่า “แต่พระองค์กำลังตรัสถึงพระวิหารซึ่งหมายถึงพระกายของพระองค์ ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว บรรดาศิษย์จึงระลึกได้ว่าพระองค์ตรัสไว้ดังนี้ เขาจึงเชื่อทั้งพระคัมภีร์และพระวาจาที่พระองค์ตรัสไว้”

• พี่น้องที่รัก... นักบุญเปาโลเขียนชัดเจน “ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน”

• พ่อรู้ครับว่าวัดสำคัญ อาคารก็สำคัญ และเราก็ต้องชำระดูแลวัด “อาคาร” ที่เป็น “เครื่องหมาย” ให้ดี ศักดิ์สิทธิ์ เหมาะสม...
o แต่ แต่ แต่...พระวิหารแท้ของพระเจ้า สำคัญกว่าอาสนวิหาร มหาวิหาร ที่สร้างด้วยอิฐปูนทรายศิลป์ชั้นสูงส่งเพียงใด... แต่ก็มีราคาและพาณิชย์แฝงอยู่จนเต็มแน่น สร้างซ่อมวัดอาสนวิหารอาจใช้เงินทองหลายสิบ ร้อยล้าน หรือหลายร้อยล้านบาทท่ามกลางความขัดแย้งและยิ่งชิงประโยชน์และกำไร... จำเป็นไหม???
o สำหรับพ่อ.. พระเยซูเจ้ามาบังเกิดในรางหญ้า ไม่มีบ้าน ไม่มีเตียงนอน มีเพียงผ้าพันกายผืนเดียว พระองค์คือ “พระวิหารนิรันดร” และเมื่อทรง “สิ้นพระชนม์เพื่อทุกเข่าจะย่อลงสรรเสริญพระวิหารนิรันดรนี้” พระองค์ไม่มีผ้าพันกาย นอกจากเพียงผืนเดียวที่มีอยู่เช่นกัน... และพระวิหารนี้คือพระเยซูได้รับเกียรติสูงสุด...

• พ่ออยากให้เราวันนี้ เมื่อฉลองการถวายพระวิหารลาเตรัน... พ่ออยากให้เราได้ถวายตัวเราเป็นพระวิหารให้พระเจ้าประทับโดยทางศีลล้างบาป และเสมอมาโดยสำนึกว่าเราต้องชำระพระวิหารแห่งชีวิตของเราให้ปราศจากบาป การค้าและพาณิชย์ที่อยุติธรรมใดๆ พ่ออยากให้เราได้คิดถึงวัดของเรา
o “ชุมชนศิษย์พระคริสต์” แม้เราอาจไม่มีวัดสวยแต่มีแบบแสนเก่า เล็ก แต่สะอาดเหมาะสมเรียบง่าย... นั่นคือ “ที่เราเข้าไปเพื่อนมัสการพระเจ้าร่วมกัน รวมกันเป็นชุมชน” ความยิ่งใหญ่อลังการไม่ได้ช่วยอะไรนะครับ

• พ่อมั่นใจ และเข้าใจพระวรสารว่าทำไมพระเยซูเจ้าต้องชำระพระวิหาร ชำระศาสนาที่กลายเป็นศาสนพาณิชย์... พ่อไตร่ตรองในยุคของเรา...
o ถ้าเราสร้างซ่อมวัดใช้เงินเป็สิบหรือร้อยล้าน... วันที่เราสร้างเสร็จมันก็เริ่มเก่าและผุพัง เริ่มเสื่อสลาย และต้องมีค่าดูแลรักษาไม่ได้รู้จบตลอดไปจนกว่ามันจะพังและก็สร้างกันใหม่...
o แต่ถ้าเราใช้ทรัพยากรที่มีเพื่อสร้าง “วัดน้อยๆ” คือ “คริสตชน คนยากจนโดยเฉพาะเลยนะครับ” เพื่อให้ที่พักอาศัย ให้ยารักษาโรค ให้อาหาร ให้อนาคตทางการศึกษาให้ปัญญาและความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์...
o ณ วันที่เราตัดสินใจสร้าง...จากวันนั้น จนวันตายของเขาอาจใช้เงินไม่เท่าไรเลย อาสนวิหารหนึ่งอาจสร้างชีวิตใหม่ให้คนยากไร้ได้เป็นพันๆเป็นหมื่น... และมั่นใจได้ว่าความเติบโตในความเชื่อศรัทธา ความเป็นศิษย์พระคริสต์ เป็นเกลือดองแผ่นดินและความสว่างส่องโลก
o จากวันนั้น จนวันตาย และถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานแทบไม่มีที่สิ้นสุด ยกเว้นเสียแต่ว่าจะเดินโดนสะดุดวัดในความหมายที่เป็นเป็นเพียงโครงสร้างการปกครอง และศาสนพาณิชย์ หรือศาสนบุคลาพาณิชย์ ถ้าไม่สะดุดล้มละก็มั่นใจได้เลยว่า ตราบจนพระวิหารร้อยล้านพังไปแล้วกี่หลัง ความเชื่อที่ผู้ยากไร้ชายขอบที่ได้รับจากศาสนาจากพระเจ้า ได้สัมผัสพระพรแห่งความรักเมตตาที่สร้างอนาคตให้พวกเขา ความเชื่อเชื้อชีวิตนี้จะถ่ายทอดไปจนเป็นวัฒนธรรมแห่งชีวิตไปจนถึงลูกหลานหลายชั่วอายุคน แน่นอนครับ...
o ให้เราหันกลับมาซ่อม ฟื้นฟู สร้าง พระวิหารแท้ คือ ชีวิตคริสตชนของเราครับ เพราะ เราเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าพำนักอยู่ในเรา (1คร 16-17)
o ที่สำคัญ อย่าทำร้าย อย่าทำลาย พระวิหารของพระเจ้า คือ เพื่อนมนุษย์ของเรานะครับ “ถ้าใครทำลายพระวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายเขา เพราะพระวิหารของพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ และท่านคือพระวิหารนั้น” (อ่านเปาโลถึงชาวโครินท์ ตอนนี้ ในวันฉลองพระวิหารลาเตรัน พ่ออยากจะร้อง “ว้าว” ให้กับคุณค่าและชีวิตมนุษย์และความเป็นคริสตชนที่เราได้รับจริงๆ เลยนะครับ)
o พระวิหารร้อยล้านพันล้าน เปรียบไม่ได้เลยกับชีวิตคริสตชนคนยากจนแม้เพียงคนเดียวครับ... ขอสรรเสริญพระเจ้าในพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ คือชีวิตของเราทุกคน...อาแมน

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก