“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม 2017
สัปดาห์ที่ยี่สิบแปด เทศกาลธรรมดา
ลก 11:47-54…

      47“วิบัติจงเกิดแก่ท่านทั้งหลาย ท่านสร้างหลุมฝังศพของบรรดาประกาศกที่บรรพบุรุษของท่านฆ่า 48จึงแสดงว่าท่านเห็นด้วยกับการกระทำของบรรพบุรุษ บรรพบุรุษของท่านฆ่าบรรดาประกาศกและท่านก็สร้างหลุมฝังศพให้”


49“พระปรีชาญาณของพระเจ้า ตรัสว่า “เราจะส่งประกาศกและทูตไปพบเขา เขาจะฆ่าประกาศกและทูตบางคนและเบียดเบียนบางคน 50คนรุ่นนี้ต้องรับผิดชอบต่อโลหิตของบรรดาประกาศกทุกคน โลหิตที่ได้หลั่งตั้งแต่สร้างโลกเป็นต้นมา 51นับตั้งแต่โลหิตของอาแบลจนถึงโลหิตของเศคาริยาห์ซึ่งถูกประหารระหว่างแท่นบูชากับพระวิหาร” ถูกแล้ว เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่าคนรุ่นนี้จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนี้

52วิบัติจงเกิดแก่ท่าน บรรดานักกฎหมาย ท่านนำกุญแจไขความรู้ไป ท่านไม่เข้าไปแล้วยังขัดขวางคนที่ต้องการจะเข้าไปด้วย”
53ขณะที่พระองค์กำลังเสด็จออกจากที่นั่น บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีเริ่มแสดงตนเป็นศัตรู ซักถามพระองค์ถึงเรื่องต่างๆ 54วางกับดักพระองค์เพื่อจับผิดพระวาจา

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• ฟาริสี ธรรมาจารย์ โดยพระเยซูเจ้าตำหนิอย่างหนัก พระองค์ไม่เพียงตำหนิ แต่ร้องแบบสิ้นหวังกับพฤติกรรมของพวกเขา
o พวกเขาเป็นคนศาสนา เป็นบุคคลสำคัญในศาสนาและธรรมประเพณีชีวิต แต่พวกเขา เจริญชีวิตไม่น่ารัก (ต้องเป็นที่เคารพแต่ไม่น่ารักมากๆ เจริญชีวิตเป็นอุปสรรคและเป็นที่สะดุดแต่ก็ยังต้องเป็นทีเคารพในสังคม และอยากให้คนเคารพให้เกียรติ)
o พระวาจาที่เราได้ยินได้ฟังหลายวันติดต่อกัน พระเยซูเจ้าตำหนิฟาริสี ธรรมาจารย์ บรรดาผู้ใหญ่ในศาสนายิวที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับเป็นคนศาสนา ทุกอย่างภายนอกก็ดูดี เยอะ มากมาย เยอะ จนดูหนัก ลุ่มล่ามไปด้วยชุดเสื้อผ้าพิธีรีตอง ฟุ่มเฟือยในรูปแบบชีวิต ชีวิตที่ควรเรียบง่าย เพื่อแบ่งปันกลับเป็นชีวิตที่เยอะ เยอะเกินไป จนพระเยซูเจ้าตำหนิมากๆ

• พ่อคิดว่าเรื่องนี้จำเป็นที่เราต้องอ่านดีๆ คำตำหนิของพระเยซูที่เห็นความ “เยอะ” ของคนชั้นนำในสังคมศาสนาและบ้านเมือง เยอะเกินไป น่าจะไม่ดีนะ และบ่อยครั้งเมื่อเป็นคนชั้นสูงเช่นนี้ มีศาสนาและกฎหมายธรรมบัญญัติเป็นเครื่องมือ พวกนี้ก็เบียดเบียนคนอื่นๆ ด้วยความเชื่อนี่แหละที่น่าตำหนิ คนพวกนี้กินบ้านของหญิงหม้าย เอาเปรียบคนยากจน เข้าข้างคนร่ำรวยเพื่ออยากได้ซ้ำซ้อนไม่รู้จบ
o ภาษายุคที่ผ่านมาของไทยเราเรียกว่า “ประโยชน์ทับซ้อน” คือ มีแต่ได้กับได้ พ่อจะเรียกว่าอะไรดี ท่าทีที่พระเยซูตำหนิพวกเขาเหมือนกับว่า
o คือ พวกนี้ “มือขวาหยิบจากพระเจ้า หยิบฉวยจากความเป็นคนศาสนา แบบขอจากพระเจ้ามากมาย (อาศัยกิจกรรมทางศาสนา) มือซ้ายก็แบขอ หยิบ หยิก ฉวย กระชากลากดึงเถือไถจากเพื่อนพี่น้อง ทั้งคนรวยและคนจน จากคนรวยก็แบมือขอ จากคนจนก็อ้างความยุติธรรมความถูกต้อง หลักการทางศาสนาและความ (อ) ยุติธรรมเพื่อให้ได้มา

• พระเยซูเจ้าตำหนิชีวิตแบบนี้ เพราะอันที่จริง พ่อจะอธิบายว่าอย่างไรดี...
o พระองค์ตรัสว่า คนพวกนี้นับถือเราแต่ปาก สอนคนอื่นแต่ไม่ทำ สรรเสริญบรรพบุรษที่ฆ่าประกาศกก็แปลว่าเห็นด้วย
o และที่สำคัญ ยุคสมัยของพวกเขายิ่งฆ่าประกาศก คือ “ฆ่าทำลายความจริง” ยิ่งกว่าอดีต “ท่านสร้างหลุมฝังศพของบรรดาประกาศกที่บรรพบุรุษของท่านฆ่า จึงแสดงว่าท่านเห็นด้วยกับการกระทำของบรรพบุรุษ บรรพบุรุษของท่านฆ่าบรรดาประกาศกและท่านก็สร้างหลุมฝังศพให้” พระเยซูเจ้าเน้นว่า คนรุ่นนี้ต้องรับผิดชอบ กับการเบียดเบียนหรือการกระทำกับประกาศกหรือการทำร้ายและทำลายความจริงแบบที่บรรพบุรุษเคยทำ...

• พี่น้องที่รัก พ่อยิ่งอ่านพ่อยิ่งคิดถึงตนเอง และคิดถึงสถาบันศาสนาของเรา พ่อในฐานะพระสงฆ์ พ่อฟังคำสอนของพระองค์ ฟังคำตำหนิของพระองค์ พ่อยิ่งรู้สึกว่า พ่อต้องระวังตัวและสำเนียเจียมตัวมาก ต้องเจียมตัวเจียมตนและเจียมความประพฤติของตนเองจริงๆ

• ในฐานะสงฆ์ของพระคริสตเจ้า... พ่อเกรงว่า พ่อเป็นกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่เหมือนกับบรรดาสมณะธรรมาจารย์และผู้ใหญ่ของศาสนาในอดีต ที่ถ้าไม่ระวังตัว... พ่อจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ “เสนอให้ประหารพระเยซูแบบสมัยที่พระองค์ถูกตรึงกางเขน”
o พอเกรงว่า แทนที่พ่อจะประกาศความรอดพ้น ประกาศความรักแบบพระเยซูจนมอบชีวิต
o บางทีถ้าไม่ระวังตัว เพราะการยกย่องให้เกียรติ การให้เกียรติพระสงฆ์คนศาสนาสูงส่ง... เพราะ... เพราะ “ความน่ารักแสนดีของสัตบุรุษ” บางทีจะทำให้พ่อเองคิดว่า เกียรติที่ได้รับเพราะความใจดีความน่ารักเหล่านั้นที่สัตบุรุษมอบให้นั้น เป็น “สิทธิ” ที่พ่อพึงจะได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็จบเลย พ่อจะกลายเป็นเหมือนฟาริสีธรรมาจารย์ที่ว่า ที่สุดก็มีแต่รับ รับ และหลง หลง และก็ตักตวง เอาแต่ได้ จนกระทั่งอาจอ้างศาสนา อ้างความถูกต้อง อ้างพระเจ้าเพื่อตนเองให้ร่ำรวย มีสุข ดีเบื้องหน้า เสเพลรับหลัง มีวาระซ่อนเร้น ถ้าเป็นเช่นนี้ แย่แน่ๆ

• ปกติพระสงฆ์ มีหน้าที่ถวายบูชา “Sacrifices” แด่พระเจ้า เป็นคนกลางถวายบูชาพระเจ้าระหว่างเพื่อนพี่น้องกับพระเจ้า พระสงฆ์ต้องเป็นผู้ถวายบูชา... แต่บ่อยครั้งเครื่องบูชาที่พระสงฆ์กลับกลายที่บูชาพระเท็จเทียมหาได้ถวายบูชาพระเจ้าเที่ยงแท้ไม่...

• บ่อยครั้งเครื่องบูชาคือสิ่งที่ได้รับมาจากพี่น้อง รับมา และทำ “พิธี” (เพียงแต่พิธี) ถวาย และผลจากพิธีก็ได้รับส่วนแบ่ง ได้รับความเคารพนับถือ ได้รับความใจดีความรัก (แต่หลงตนเองเอามาเป็นสิทธิ ในประสบการณ์แบบนี้ในพระคัมภีร์มีเยอะครับ หลงโลภ เอามากันจนเยอะ ร่ำรวยมิใช่เพียงตัวเองแต่ครอบครัวสมณะก็พากันร่ำรวย) และเมื่อใดก็ตามที่สมณะหรือพระสงฆ์ ไม่ว่าศาสนาในความเชื่อใดหลงใช้โอกาส หน้าที่ เพื่อตนเอง... พ่อจะบอกให้ว่าที่สุด...
o คนรอบข้าง กลายเป็นเครื่องบูชา กลายเป็นโอกาส โดยเฉพาะคนยากไร้ก็จะต้องกลายเป็นเครื่องบูชาหาโอกาส หาเงินทองมาเพื่อคนเหล่านี้โดยที่... พระเยซูเจ้าเคยย้ำว่า “พวกนี้เอาภาระใส่บ่าคนอื่น แต่ตนเองมิได้แต่ยกแม้แต่เพียงปลายนิ้ว” หาเงินทองมารับบริจาคเพื่อพระเจ้า เพื่อคนยากจน เพื่อสร้างโน่นสร้างนี่ จุดประสงค์ดีทั้งสิ้น... แต่ปัญหาคือคนที่สามารถให้ได้ด้วย บริจาคได้ด้วย คือ คนของศาสนานี่แหละ... วัดรวยมากได้งัยขณะที่ประชาชนยากไร้ นี่เป็นที่สะดุดและบาปนะครับ เพราะวัด คือ พระเยซู พระกายทิพย์ของพระเยซู คือ บรรดาสัตบรุษทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยากจน
o พ่อเขินนะครับเวลาที่สัตบุรุษใจดี เสนอให้สิ่งที่ดีๆ พ่อคิดเสมอว่า พ่อทำงานให้พระศาสนจักรให้พระเจ้าคุ้มแล้วจริงๆ กระนั้นหรือ
o ถ้าเราไม่ได้บูชาพระเจ้าเที่ยงแท้ แต่ลึกๆ แอบบูชาเพื่อตนเอง... เรากำลังเป็น “พระเท็จเทียมตัวร้ายกาจฝังลึกมาก” บ่อยครั้ง อ้างอำนาจพระเจ้ามากๆ อาจไปถึงขึ้น “คำพูดฉันคือคำพูดพระเจ้า ความคิดฉันคือพระประสงค์หรือน้ำพระทัย... การกระทำของฉันคือการกระทำของพระเจ้า...จิตใจฉัน (บางทีเป็นจิตร้ายกาจด้วย) คือจิตของพระเจ้า...” (โอ..ฉันมีอำนาจมากจากศีลบวช จากการเจิม จากการประกาศแต่งตั้ง จากการครอบครองเป็นนั่นเป็นนี่) และผลตามมาคือ “ฉันนี่แหละคือพระเจ้า” (โอ.. ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น) อ้างพระคัมภีร์อย่างชาญฉลาดเพื่อประกาศพระเจ้าเท็จเทียมคือตัวเอง แทนที่จะประกาศพระเจ้าเที่ยงแท้คือพระคริสตเยซู... แบบนี้และที่พระเยซูเจ้าตำหนิหนักหน่วง...
o ที่สุด ถ้าพระสงฆ์ คนศาสนาเป็นแบบนี้ก็จะถวายบูชาต่อไปครับ ทำหน้าที่ถวายบูชาแด่พระเท็จเทียมคือตัวเองโดยอ้างพระเจ้าเที่ยงแท้... และเครื่องบูชาที่ต้องเสียสละเผาถวายไปก็คือ... คือ... คือ... เพื่อนพี่น้องรอบข้างทั้งหมด ทั้งคนร่ำรวยและคนยากจน และก็จะถูกนำมาถวายเพื่อบูชาตนเอง.. บ้านที่สะดวกสบาย อาหารชั้นเลิศ เครื่องดื่มที่ดีที่สุด เหล้าชั้นเลิศสุด (คนศาสนาและหรือพระสงฆ์ไม่ควรดื่มสุรายาเมาเลยย แต่บ่อยครั้งก็...) รถชั้นดีต้องใหม่ป้ายแดง เครื่องใช้ไหมสอย เครื่องออกกำลังกาย ค่าบริการสุขภาพ ฟิตเนส ค่าคลับสโมสร ค่า...ภาษาปัจจุบันต้องใช้คำว่า “โน่นนี่นั่น” อะไรก็วัดจ่าย คนอื่นจ่าย เพื่อฉัน เพื่อฉัน เพราะฉันคือคนของพระเจ้า กลายเป็นว่ามาบูชาฉัน... ฮ่าๆๆๆ บาปหนักจริงๆ

• สรุป... พ่อเอง พวกเราคนศาสนา และคริสตชนที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำครอบครัว สังคม หรือคริสตชนทั่วไปด้วย พ่อเน้นตนเองในฐานะพระสงฆ์ ถ้าเราไม่ระวังนะ เราจะไม่เหมือนพระเยซูเสียแล้วนะครับ...
o เพราะพระองค์ร่ำรวยสุดในความเป็นพระเจ้า ถ่อมองค์ลงมายากจนสุด จนถึงความตายที่แย่ที่สุด เพราะทรงรักเรา จึงยอมให้จนหมดแม้ชีวิตและลมหายใจสุดท้ายยังทรงส่งพระจิตเจ้าออกไป (เทียบ ฟป 2 และเทียบ ยน 19 ดู ยน 3:16 และเทียบดูชีวิตพระเยซูทั้งชีวิตตลอดพระชนมชีพของพระองค์)
o พระเยซูเจ้าทรงรับความเจ็บปวด ความตาย ถวายพระองค์เป็นเครื่องบูชา ทรงเป็นทั้งพระสงฆ์ผู้ถวายบูชา และทรงเป็น เครื่องบูชา แม้แต่พระแท่นบูชา (อ่านจดหมายถึงชาวฮีบรู)

• เราได้อ่านพระวรสารที่พระองค์ตำหนิฟาริสี ธรรมาจารย์ สมณะทั้งหลาย... คนศาสนาทั้งหลาย พ่อได้ไตร่ตรองนานหน่อยเช้าวันนี้
o พ่อพยามยามมองดูพระองค์ และมองดูความจริงของสังคมศาสนาทุกๆศาสนา ถ้าเราไม่ระวัง เราจะเป็นเช่นเดียวกับฟาริสีที่พระองค์ตำหนิครับ...
o พ่อคิดว่าเช้านี้พ่อเขียนสิ่งที่เตือนใจพ่อเอง และท่านที่รักทุกคน เพื่อเราจะได้บูชาพระเจ้าเที่ยงแท้ ไม่บูชาพระเท็จเทียมตัวร้ายคือตนเอง...
o พระเท็จเทียมที่เราพบในพระคัมภีร์คือบาอัล... เบเอลเซบูล พระเท็จเทียมนี้คือความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวย เงินทอง วัวทองคำ.. ถ้าทั้งหมดทำเพื่อตนเองก็กลายเป็นพระเท็จเทียม...

• ดังนั้น ให้เราศรัทธาและบูชาพระเยซูเจ้าพระเจ้าเที่ยงแท้ และรัก เมตตา ใจดี อุทิศตนเอง แบบพระองค์เสมอนะครับ
o อย่ายึดติดกับพระเท็จเทียม หรือทรัพย์สมบัติ แต่ศรัทธาในพระเจ้าจริงๆ และเราจะสามารถทำให้ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นมีความหมายจริงๆ มีค่าสำหรับตนเอง ครอบครัวชุมชนวัด และเรียนรู้ที่แบ่งปันด้วยความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง แบบนี้คือคนที่มีศรัทาและมีศาสนาจริงๆ ครับ ขอพระจ้าอวยพรครับให้เราเป็นเหมือนพระเยซูด้วยกันทุกคนครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก