“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 18 เมษายน 2017
วันอังคารในอัฐมวารปัสกา
ยน 20:11-18….
      11มารีย์ยังคงยืนร้องไห้อยู่นอกพระคูหา ขณะที่ร้องไห้นั้น นางก้มลงมองในพระคูหา 12ก็เห็นทูตสวรรค์สององค์สวมเสื้อขาวนั่งอยู่ตรงที่ที่เขาวางพระศพของพระเยซูเจ้าไว้ องค์หนึ่งนั่งอยู่ทางเบื้องพระเศียร อีกองค์หนึ่งนั่งอยู่ทางเบื้องพระบาท 13ทูตสวรรค์ทั้งสองถามนางว่า “นางเอ๋ย ร้องไห้ทำไม” นางตอบว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าของดิฉันไปแล้ว ดิฉันไม่รู้ว่า เขานำพระองค์ไปไว้ที่ใด”

14เมื่อตอบดังนี้แล้ว นางก็หันกลับมา และเห็นพระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ที่นั่น แต่ไม่รู้ว่าเป็นพระเยซูเจ้า 15พระองค์ตรัสถามนางว่า “นางเอ๋ย ร้องไห้ทำไม กำลังเสาะหาผู้ใด” นางคิดว่าพระองค์เป็นคนสวน จึงตอบว่า “นายเจ้าขา ถ้าท่านนำพระองค์ไป ช่วยบอกดิฉันว่าท่านนำพระองค์ไปไว้ที่ไหน ดิฉันจะได้ไปนำพระองค์กลับมา” 16พระเยซูเจ้าตรัสเรียกนางว่า “มารีย์ นางจึงหันไป ทูลพระองค์เป็นภาษาฮีบรูว่า “รับโบนี ซึ่งแปลว่า พระอาจารย์ 17พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “อย่าหน่วงเหนี่ยวเราไว้เลย เพราะเรายังไม่ได้ขึ้นไปเฝ้าพระบิดา แต่จงไปหาพี่น้องของเรา และบอกเขาว่า เรากำลังขึ้นไปเฝ้าพระบิดาของเรา และพระบิดาของท่านทั้งหลาย ไปเฝ้าพระเจ้าของเรา และพระเจ้าของท่านทั้งหลาย” 18มารีย์ ชาวมักดาลาจึงไปแจ้งข่าวกับบรรดาศิษย์ว่า “ดิฉันได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” และเล่าเรื่องที่พระองค์ตรัสกับนาง

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• มารีย์ชาวมักดาลาในพระวรสารนักบุญยอห์น ในภาพของความคร่ำครวญและโหยหา นางคือคนที่ยอห์นให้ภาพแก่เราผู้อ่านว่า นางคือคนที่รักพระเยซูเจ้า พระวรสารนักบุญยอห์น ให้ภาพลักษณ์ของความรัก อันที่จริงในพันธสัญญาเดิมในวรรณกรรมปรีชาญาณ หนังสือเพลงซาโลมอนสะท้อนความรักความโหยหาของคนที่มีความรักต่อกัน...

• ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม... หนังสือเพลงซาโลมอน หรือ Song of songs คือ
o ยอดแห่งบทเพลง เป็นวรรณกรรมของพระคัมภีร์ที่ใช้ภาพของความรัก ภาษาความรักที่แสนโรแมนติก สะท้อนอารมณ์ของคนรักที่มีความรักโหยหาต่อกัน
o เพลงซาโลมอนนั้นเป็นภาษาวรรกรรมแห่งจินตนาการ ไม่ใช่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ แต่ทว่าเป็นบทเพลงพรรณนาแสดงออกถึง “ความรักแท้” และ ประกาศความ “ซื่อสัตย์ในความรัก” พรรณนาการระลึกถึงความรักและความงาม และเสน่ห์ของคนรัก
o เพลงซาโลมอนเป็นสุดยอดเพลงที่ให้ภาพลักษณ์ ทำให้เห็นภาพของความรักแท้จริงของพระเจ้าและประชากรอิสราเอล ประชากรเลือกสรร และแน่นอนหมายถึงพระศาสนจักรและเราทุกคนด้วยเช่นกัน

• พี่น้องที่รัก เราเพิ่งผ่านเวลาแห่งรักที่สุด ไม่ใช่สุดยอดบทเพลงที่พ่อเล่ามา คือเพลงซาโลมอนหรือ Song of songs แต่ว่า พ่อกำลังกล่าวถึงการฉลองสามวันต่อเนื่องแห่งตรีวารปัสกาที่ผ่านมา... เราได้สัมผัสกับ เวลาแห่เวลาทั้งหลาย หรือยอดวันแห่งวันทั้งหลาย... พ่อเรียกว่า “Time of times หรือ Day of days” นั่นคือ “ปัสกาคือยอดวัน คือวันแสนปรีดา วันแห่ความรักที่สุด...”
o ก่อนอื่นเราต้องไม่ลืมว่าพระเยซูเจ้าคือความรักของพระเจ้า พระเยซูเจ้าคือปรีชาญาณสูงสุดแห่งความรักของพระเจ้า พระเยซู “ผู้ได้ทรงรักเราถึงเพียงนี้” (Sic nos amantem) พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ด้วยความรักที่สุดต่อพระเจ้าพระบิดา และความรักที่สุดต่อเรามนุษย์ทุกคน นี่คือคำสอน นี่คือศรัทธาและความเชื่อของเรา
o พระองค์ทรงรักเราจนถึงที่สุด และทรงมอบชีวิตเพื่อเรา เราทราบเรื่องนี้ชัดเจนดี... และบนไม้กางเขน คือ สุดยอดของความรักที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ ทรงมอบชีวิต และมอบแบบฉบับแห่งความรักให้แก่เราจริง และนี่คือต้นแบบแห่งรักสำหรับเราทุกคน

• จากบทเพลงซาโลมอนในพันธสัญญาเดิม ที่เราได้ทราบว่าพระคัมภีร์เพลงซาโลมอนเป็นภาษาของความรักที่แสนรัก... พ่อจะอธิบายอย่างไรดี ท่านที่มีความรักแสนโรแมนติกและรักแสนรัก เข้าใจได้ดีกว่าพ่อแน่ๆ เอหรือไม่แน่...ก็ไม่ทราบ...

• พระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ 20 เมื่อทรงกลับคืนพระชนม์แล้ว ภาพที่ยอห์นให้เราได้อ่านเป็นเครื่องหมายที่งดงามคือมารีย์ชาวมักดาลา นางรักและแสวงหาแม้แต่พระศพขอพระเยซูเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่นางรัก... เราลองอ่านพระวรสารวันนี้แบบเพลงซาโลมอนสักหน่อยสิครับ
o มารีย์ยังคงยืนร้องไห้อยู่นอกพระคูหา ขณะที่ร้องไห้นั้น นางก้มลงมองในพระคูหา ก็เห็นทูตสวรรค์สององค์สวมเสื้อขาวนั่งอยู่ตรงที่ที่เขาวางพระศพของพระเยซูเจ้าไว้
o ทูตสวรรค์ทั้งสองถามนางว่า “นางเอ๋ย ร้องไห้ทำไม”
o นางตอบว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าของดิฉันไปแล้ว (พวกเรา) ดิฉันไม่รู้ว่า เขานำพระองค์ไปไว้ที่ใด”

• ภาษาของพระวรสารทำให้เห็นถึงความรัก เห็นถึงความโหยหาพระเยซูเจ้า พระองค์กลับคืนชีพแล้ว และพระศพไม่อยู่แล้ว แต่มารีย์ยังคงร้องไห้ เพราะพระศพของพระองค์ไม่อยู่แล้ว นางยังคงอยากได้เห็น ได้รู้ว่า พระศพของพระองค์หายไปไหน นางคิดว่า พระศพถูกขโมยหายไป และก็ไม่รู้ว่าเขานำพระองค์ไปไว้ที่ใด
o เสียงของมารีย์ ร้องหาพระเยซูเจ้า และต้องการจะได้พบพระองค์
o นี่คือภาพลักษณ์ของความกระหายหาพระเยซูเจ้า กระหายหาพระเจ้าองค์ความรัก และอยากที่จะรักและได้รู้ว่าพระองค์หายไปไหนกัน

• มารีย์จำพระองค์ไม่ได้ พระองค์ยืนอยู่ที่นั่นเมื่อนางได้ยินเสียงพระองค์ถามว่า “หญิงเอ๋ย หรือนางเอ๋ย ร้องไห้ทำไม” และพระเยซูเจ้าถามเธอด้วยเสียงของพระองค์ พระองค์ตรัส “นางเอ๋ย ร้องไห้ทำไม เธอกำลังเสาะหาผู้ใด”
o พระองค์ถามมารีย์ เธอร้องไห้ เธอเสาะหาผู้ใด หรือตามหาใคร นี่เป็นภาพเดียวกับเพลงซาโลมอนที่หญิงที่รักตามหาคนรัก อ่านพระคัมภีร์เพลงซาโลมอนนิดหน่อยครับ หวานมากในการตามหาคนรัก
o “ยามค่ำคืนบนที่นอน ดิฉันแสวงหาหวานใจของดิฉัน ดิฉันแสวงหาเขา แต่ไม่พบ บัดนี้ ดิฉันจะลุกขึ้น จะเที่ยวไปทั่วเมือง ตามถนนและลานเมือง ดิฉันจะแสวงหาหวานใจของดิฉัน ดิฉันแสวงหาเขา แต่ไม่พบ บรรดายามที่เดินตรวจในเมือง พบดิฉัน “ท่านทั้งหลายได้เห็นหวานใจของดิฉันไหม” ดิฉันเพิ่งผ่านยามมา ก็พบหวานใจของดิฉัน ดิฉันสวมกอดเขาไว้แน่น และจะไม่ยอมปล่อย” (พซม 3:1-4)
o ภาพของมารีย์ชาวมักดาลา ไม่ต่างกันเลย “นายเจ้าขา ถ้าท่านนำพระองค์ไป ช่วยบอกดิฉันว่าท่านนำพระองค์ไปไว้ที่ไหน ดิฉันจะได้ไปนำพระองค์กลับมา”

• มารีย์จำพระองค์ไม่ได้ คิดว่าพระองค์เป็นคนสวน... (บางตำราตีความว่า นี่คือสวนเอเดนใหม่ เป็นการร่ำร้องของนางเอวา... เพื่อแสวงหาอาดัมใหม่...ที่ได้เชื่อฟังที่สุดจนยอมรับความตาย เพื่อทำลายความไม่เชื่อฟังของอาดัมในพันธสัญญาเดิม)

• สำหรับยอห์น การจำไม่ได้ แม้พระองค์จะตรัสกับนางแล้วนี้ มีความหมายลึกครับ
o หมายความว่า พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ พระองค์ไม่เหมือนเดิม พระองค์เปลี่ยนไป เราทราบว่า เมื่อเสด็จมาหาอัครสาวก แม้ประตูปิดพระองค์ก็เสด็จเข้ามายืนท่ามกลางพวกเขาได้...
o อีกประการหนึ่ง นางจำพระองค์ไม่ได้ แม้พระองค์ตรัสกับนาง แต่เมื่อพระองค์เรียกนางโดยชื่อ “มารีย์” นางจำได้ทันที... การเรียกชื่อเป็นเครื่องหมายของนายชุมพาบาลที่ดี พระองค์จำชื่อแกะขอพระองค์ได้ (เทียบ ยน 10) ดังนั้น เมื่อพระองค์เรียกชื่อ มารียจำได้ทันที...
o มารีย์ร้องตอบทันที “พระอาจารย์” ภาพการเรียกชื่อและการตอบรับ...นี้ช่างเป็นการตอบรับกันอย่างงดงามของมารีย์ ซึ่งเป็นเครื่องหมาย หรือเป็นตัวแทนขอเราทุกคน ตัวแทนของพระศาสนจักร พวกเราพระศาสนจักรผู้เป็นดังเจ้าสาวของพระคริสตเจ้า... เป็นเจ้าสาว หรือเป็นอิสราเอลใหม่ และหมายถึงเราทุกคนผู้กระหายหาพระเจ้า และปรารถนาจะรักพระองค์ได้พบพระองค์ และเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงรักเราจริงๆ

• “อย่าหน่วงเหนี่ยวเราไว้เลย เพราะเรายังไม่ได้ขึ้นไปเฝ้าพระบิดา แต่จงไปหาพี่น้องของเรา และบอกเขาว่า เรากำลังขึ้นไปเฝ้าพระบิดาของเรา และพระบิดาของท่านทั้งหลาย ไปเฝ้าพระเจ้าของเรา และพระเจ้าของท่านทั้งหลาย”
o พระเยซูเจ้าประกาศว่าพระองค์จะต้องกลับไปหาพระบิดา และได้ประกาศให้มารีย์ไปประกาศแก่ทุกคนว่า พระองค์จะไปกลับไปหาพระบิดา.. ประเด็นสำคัญมากๆ คือ....
o พระเยซูเจ้าประกาศ “พระบิดาของเรา และพระบิดาของท่านทั้งหลาย” พระองค์ยืนยันว่า พระบิดาเป็นพระบิดาของพระองค์และเป็นพระบิดาของเรา... พระดำรัสนี้สวยงามเหลือเกิน.. เราได้เรียนรู้ว่า... “พระบิดาของพระเยซูเจ้า คือพระบิดาขอเรา” สวยงามมากครับ...
o นอกนั้น เราได้เรียนรู้ชัดเจนจากพระเยซูเจ้า ว่า พระบิดาคือพระเจ้าของเรา ทุกคำสวยงามและเปี่ยมด้วยความเชื่อในความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าจริงๆครับ

• “มารีย์ ชาวมักดาลาจึงไปแจ้งข่าวกับบรรดาศิษย์ว่า “ดิฉันได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” และเล่าเรื่องที่พระองค์ตรัสกับนาง”
o มารีย์ คือ เครื่องหมายแทนเราทุกคน คือพระศาสนจักรที่ต้องมีหน้าที่ไปประกาศข่าวดีเรื่องพระองค์ผู้ทรงรักเราที่สุด ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราและทรงกลับคืนพระชนมชีพเพื่อเรา
o

• พี่น้องที่รัก พ่อสรุปครับ... จงรักพระองค์เหมือนมารีย์ชาวมักดาลา (สำคัญ พระองค์รักเราที่สุด) จงกระหายหาความรักของพระองค์ ให้พระองค์เป็นพระเจ้าองค์ความรักของเรา และจงไปประกาศความรักของพระองค์ให้โลกรู้เถิดครับ... รัก อยากประกาศแน่นอนครับ... รัก รัก รัก คือ พระเจ้าองค์ความรักของเรา “พระคริสตเจ้า”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก