“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2017
สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา 
มก 10:1-12
     10 1พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นเข้าไปในเขตแคว้นยูเดียและอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน ประชาชนมาเฝ้าพระองค์อีกครั้งหนึ่ง พระองค์จึงทรงสอนเขาอีกเช่นเคย 2ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระองค์ว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” 3พระองค์ตรัสตอบว่า “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร

4เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้” 5พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่าน โมเสสจึงได้เขียนบัญญัติข้อนี้ไว้ 6แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง 7ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา 8และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน 9ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” 10เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก 11พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ผู้ใดหย่าร้างภรรยา และแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม 12และถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

บุคคล: พระเยซูเจ้า พร้อมกับบรรดาศิษย์ และประชาชนมาเฝ้าพระองค์
สถานที่: พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่งสอนบรรดาศิษย์ ออกจากที่นั่นเข้าไปในเขตแคว้นยูเดียและอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน เดินทางจากแคว้นกาลิลี บัดนี้มาถึงแคว้นยูเดีย

ประเด็นสำคัญ:
• ประชาชนมาเฝ้าพระองค์อีกครั้งหนึ่ง พวกเขากลับเข้ามา ยืนยันว่าก่อนหน้านี้ประชาชนไม่ได้อยู่ด้วย

• พระองค์จึงทรงสอนเขาอีกเช่นเคย
o คำสอนต่อไปนี้เป็นคำสอนประชาชนและบรรดาศิษย์
o พระเยซูเจ้า ทรงปรากฎพระองค์เป็น “พระอาจารย์และทรงสั่งสอนบรรดาศิษย์อยู่เสมอ” พระองค์ทรงสอนเช่นเคย... เราพบในพระคัมภีร์ พระองค์คือผู้ทรงอำนาจในการสอน ซึ่งที่ผ่านๆ มาผู้สอนคือบรรดาธรรมจารย์และฟาริสี หรือรับบี แต่พระองค์ คือ รับบีในรูปแบบที่แตกต่าง คำสอนของพระองค์คือตัวพระองค์ที่ทรงเป็น ทรงเป็นพระวาจาของพระเจ้าเอง

• ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระองค์ว่า
o นี่เป็นนิสัยของฟาริสีจริงๆ บรรดาอาจารย์ เมื่อมีใครที่เป็นอาจารย์ที่อาจส่อแววว่าเก่งกว่า หรือประชาชนติดตามมากกว่า พวกเขาจะพยายามตรวจสอบ สอบถาม “ทดสอบ” ความรู้ความสามารถของพระเยซูเจ้า พยายามหาหนทางที่จะจับผิดพระองค์ สอบถามพระองค์ถึงอำนาจและที่มาของอำนาจในการสอนของพระองค์
o ฟาริสี ภาษาฮีบรูมาจากราก “P R Sh” (Parash / Perushime) แปลว่าพวกที่เก็บรักษาธรรมบัญญัติของโมเสสอย่างเคร่งครัด เป็นพวกยิวชาตินิยม ควบคู่กับพวกยิวนิยมกรีกคือพวกซะดูสี พวกฟาริสีจะเคร่งกับกฎของโมเสส พวกเขาถือว่าพวกตนสืบเชื้อสายมาจากโมเสสทีเดียว ส่วนพวกซัดดุสีจะตรงข้าม ไม่เคร่งครัดอะไรนัก แต่อยู่ในกลุ่มอำนาจทางสังคมศาสนาด้วยเช่นกัน

• คำถามของพวกเขา “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา”

• พระเยซูเจ้าถรงถามกลับ...
o “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร”
o นี่เป็นคำตอบที่มีน้ำหนักมากสำหรับฟาริสี เพราะว่าสำหรับฟาริสี โมเสสเปรียบเหมือนต้นตระกูลฟาริสี ที่ฟาริสีทุกคนให้ความเคารพมากที่สุด
o พระเยซูเจ้าตั้งคำถามกลับอันเป็นคำถามที่เข้าเป้ามากที่สุด คือ กล่าวได้ว่า “แล้วบิดาของพวกแก “โมเสส สอน เขียน สั่ง” ไว้ว่าอย่างไร” และ พระองค์ถามกลับเพื่อให้พวกเขาที่รู้กฎหมายดีอยู่ได้ทบวน เรียกร้องให้เขาทบทวนคำสอนของฟาริสีเอง
o ปัญหาคือพวกเขารู้กฎหมาย แต่เลี่ยงกฎหมาย ตัดสินคนอื่นๆ แต่พวกตนเองไม่ถือ หรือถือเคร่งเฉพาะต่อหน้า แต่ลับหลังไม่ได้ถือและหย่อนยาน เป็นแบบพวกมือถือสากปากถือศีล

• คำตอบของพวกเขา
o “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้”
o อันที่จริงโมเสสไม่ได้ประกาศให้มีการหย่าร้าง
o แต่เพราะใจดื้อกระด้าง และความพยายามที่จะแยกจากภรรยาของพวกเขา ดังนั้นหนังสือหย่าร้าง คือหนังสือที่ฝ่ายชายจะมอบให้กับหญิงเพื่อยืนยันว่านางเป็นอิสระจากฝ่ายชายนั้น ไม่เป็นสมบัติของชายนั้นอีก เพื่อว่า เมื่อนางจากไป และถ้าไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง นางสามารถมีคนช่วยเหลือหรืออุปการะได้ มิเช่นนั้นใครรับนางไปดูแลจะเท่ากับขโมยของของสามีของนางไป และพวกฟาริสีทำแบบนี้ ทำให้ผู้หญิงลำบาก ไม่ต้องการนาง แต่ไม่ให้อิสรภาพ...
o ดังนั้น หนังสือหย่าร้างนี้ ไม่ใช่การประกาศว่ามนุษย์หย่าร้างได้ แต่ที่ต้องมีไว้ ก็เพื่อรักษาศักดิ์ศรีและอิสระภาพของหญิง
o ในสังคมยิว บางครั้งผู้ชายทำอย่างนี้กับหญิงเพียงเพราะต้องการให้นางออกไปเหตุผลอาจเป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น นี่ไม่ใช่การให้หย่าร้าง แต่ในกรณีที่มันเกิดขึ้นหนังสือนี้จะช่วยให้หญิงนั้นได้เป็นอิสระ

• และพระเยซูเจ้าตรัสถึงหนังสือปฐมกาล คำสอนเรื่องการแต่งงาน ที่เป็นคำสอนแรกของโมเสส เรียกว่า บิดาของฟาริสี ที่รู้ทั้งรู้แต่ไม่ซื่อสัตย์ และไม่ยอมถือ...
o “แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง 7ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา 8และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน 9ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย”
o พระเยซูเจ้าทรงประกาศความจริงที่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าตั้งแต่สร้างมนุษย์ และนี่อยู่ในบทแรกๆ ของโตราห์ของโมเสส

• ปัญหาของฟาริสีคือความหน้าซื่อใจคด มือถือสากปากถือศีล ทำตัวเป็นผู้เคร่งกฎหมาย แต่พวกเขาเองหาช่องทางเลี่ยงเสมอ ตัดสินคนอื่นๆ แต่ตนเองเลี่ยงกฎหมายจริงๆเลย...

• คำถามเรื่องการหย่าร้าง จึงเป็นการหาเรื่อง หาโอกาสที่จะจับผิด จนลืมไปว่า การหย่าร้างนั้น โมเสสในหนังสือปฐมกาล พระเจ้าตรัสไว้อย่างชัดจเจนในเรื่องศักดิ์ศรีของการแต่งงาน

• ความจริงในสังคมชาวยิวสมัยพระเยซู การละเลย ละทิ้งภรรยา ก็มีอยู่หนาตา พวกเขาพยายามหาความชอบธรรมให้กับพวกตนเองเสมอ นี่คือปัญหา
o ปัญหาของบรรดาผู้นำที่ละเลย ละเว้น เลี่ยงกฎทางศาสนา
o สอนคนอื่นให้ถือเคร่ง แต่พวกตนไม่ถือ เลี่ยง หาเหตุผล และทำให้ตนดูดี
o ตนเองปราศจากความเมตตาเพราะการใช้กฎเพื่อจับผิดแทนที่จะให้กฎมีไว้เพื่อชีวิตและความดี... นี่คือปัญหาจริงๆ และทุกยุคทุกสมัย

• เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก ฉากเปลี่ยนไปเมื่อพระองค์เข้าไปในบ้าน ซึ่งแสดงว่าพระองค์แยกออกจากประชาชน
o พระเยซูยืนยัน การแต่งงานที่ถูกต้อง ไม่มีการอย่าร้างได้เลย
o เพราะพระเจ้าทรงรวมกันไว้นั่นเอง

การไตร่ตรอง
• การแต่งงานมีคุณค่าและศักดิ์ศรีแน่นอน ในฐานะประชากรของพระเจ้าเราประกาศคุณค่าเช่นนี้เด่นชัดเพียงใด???
• การถือระเบียบ กฎเกณฑ์ของเราเป็นเช่นใด หรือเราเป็นฟาริสีตามแบบโมเสส???
• พ่อคิดว่า การเป็นคริสตชนของเรา การถือบัญญัติของพระเจ้า บัญญัติ ของพระศาสนจักร บัญญัติแห่งความรักเมตตา เราน่าพิจารณา เพราะถือแบบผู้ใหญ่ในความเชื่อ มีเหตุผลที่ดี หรือเป็นเพียงการถือกฎเพื่อกฎเท่านั้น
• พ่อมั่นใจ การเป็นคริสตชน บัญญัติแห่งความรักนั้นล้ำค่ามากๆที่เราจะพิจารณาและเข้าใจอย่างถ่องแท้ และถือด้วยความรักแท้จริงต่อทุกคน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก