“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต

วันนี้เรามารู้จักพระนางเอสเธอร์กันก่อนสักหน่อยครับ เป็นหนังสือพระคัมภีร์สำหรับเราคาทอลิกต้องถือว่าน่าอ่านมากๆ และเป็นวีรสตรีสำหรับชาวยิว เป็นหนังสือที่อาจจะยากที่จะศึกษาสักหน่อย เพราะมีบางส่วนที่เป็นที่ยอมรับสำหรับชาวยิว บางส่วนไม่เป็นที่ยอมรับ แต่สำหรับเราคาทอลิกส่วนนั้นๆ เป็นที่ยอมรับว่าเป็นสารบบที่สอง


• ชื่อ “เอสเธอร์” ภาษาอีบรู אֶסְתֵּר อ่านออกเสียง “ ‘ester” เห็นรากก็รู้ว่าแปลว่า “star หรือ stella” รากของคำมีความหมาย หมายถึง “ดวงดาว”


• เราทราบจากพระคัมภีร์ว่า เอสเธอร์ คือชาวยิว และได้เป็นพระราชินีของกษัตริย์อาหสุเอรัสแห่งเปอร์เซีย ซึ่งตามธรรมประเพณีทำให้เราทราบว่า คือ พระราชา เซอร์เซสที่หนึ่ง


• หนังสือเอสเธอร์ก็เล่าถึงการที่หญิงคนหนึ่งช่วยชนชาติยิว ให้รอดพ้นจากอันตรายของชาติทั้งชาติ
o ชาวยิวในแคว้นเปอร์เซียถูกคุกคามจะทำลายล้างให้สิ้นชาติโดยฮามัน ซึ่งเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ที่ทรงอำนาจและเป็นศัตรูของชนชาติยิว
o แต่ที่สุดชาวยิวก็ได้รับความช่วยเหลือจากพระนางเอสเธอร์ หญิงสาวชาวยิวที่ได้ขึ้นเป็นพระราชินี และปฏิบัติตามคำแนะนำของโมรเดคัยผู้เป็นลุง


• เหตุการณ์กลับตาละปัดหน้ามือเป็นหลังมือ ฮามันที่ปองร้ายชาวยิวกลับถูกโทษแขวนคอ และโมรเดคัยได้รับตำแหน่งคืน ชาวยิวกลับทำลายล้างศัตรูของตน
o วันฉลอง “ปูริม” ถูกตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงชัยชนะครั้งนี้ สั่งให้ชาวยิวทำการฉลองเป็นประจำทุกปี

 

• เรื่องนี้แสดงให้เห็นความเกลียดชังที่ชาวยิวได้รับจากชนต่างชาติในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นผลมาจากวิถีชีวิตของเขาที่แตกต่างจากชนชาติอื่นๆ ทำให้พวกเขามีความขัดแย้งกับผู้ปกครองที่ต้องการรวบอำนาจไว้ทั้งหมด เช่นเดียวกับที่กษัตริย์อันทิโอคัส เอปีฟาเนส เบียดเบียนชาวยิว ความรู้สึกชาตินิยมแบบสุดโต่งนี้เป็นแต่เพียงปฏิกิริยาเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น การเข่นฆ่าอย่างทารุณเพื่อล้างแค้นที่เล่าในหนังสือทำให้เราผู้อ่านรู้สึกว่าโหดเหี้ยมมาก แต่เราอย่าลืมว่าหนังสือนี้เขียนขึ้นก่อนคำสอนของพระคริสตเจ้า


• เจตนานี้เป็นเรื่องทางศาสนาโดยตรง การที่โมรเดคัยและพระนางเอสเธอร์ได้เลื่อนตำแหน่ง การที่ชาวยิวได้รับความช่วยเหลือให้รอดตาย ชวนให้ระลึกถึงเรื่องของดาเนียล และโดยเฉพาะเรื่องโยเซฟ ซึ่งแต่แรกถูกกลั่นแกล้งเบียดเบียน แต่แล้วในภายหลังก็ได้รับตำแหน่งทรงเกียรติเพื่อช่วยประชากรของตนให้รอดพ้น
o ในเรื่องโยเซฟในหนังสือปฐมกาล พระเจ้ามิได้ทรงสำแดงพระอานุภาพให้ปรากฏภายนอก พระองค์เพียงแต่คอยทรงนำเหตุการณ์อยู่เบื้องหลัง
o ในหนังสือเอสเธอร์ฉบับภาษาฮีบรูก็เช่นกัน ไม่มีการออกพระนามของพระเจ้าโดยตรง แต่ก็แสดงให้เห็นว่า พระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้าคอยควบคุมองค์ประกอบต่างๆของเหตุการณ์ที่เล่า ผู้อยู่ในเหตุการณ์รู้เรื่องพระญาณเอื้ออาทรดี และมีความหวังลึกๆในพระเจ้าว่าจะทรงช่วยเหลือตามแผนที่ทรงวางไว้


• แม้ว่ามนุษย์ที่ทรงเลือกไว้ให้เป็นเครื่องมืออาจมีความลังเล – ดู อสธ 4:13-17 ซึ่งเป็นกุญแจไขให้รู้เจตนาของหนังสือ


• ข้อความที่เพิ่มเติมเป็นภาษากรีกมีลักษณะทางศาสนาชัดเจนกว่า แต่ก็บอกตรงๆว่าผู้เขียนฉบับภาษาฮีบรูละไว้ให้ผู้อ่านเข้าใจเอง พระศาสนจักรคาทอลิกใช้ข้อความเพิ่มเติมของหนังสือเอสเธอร์นี้หลายตอนในพิธีกรรมดังเช่นที่เราอ่านในวันนี้


• ตัวบทของหนังสือเอสเธอร์มีสองแบบ คือแบบสั้นภาษาฮีบรู และแบบยาวภาษากรีก ต้นฉบับภาษากรีกก็ยังพบได้เป็น 2 สำนวน คือสำนวนภาษากรีกที่นิยมใช้กันทั่วไป กับสำนวนแก้ไขของลูเชียนชาวอันทิโอก

 

พี่น้องที่รัก วันนี้เรามาอ่านหนังสือเอสเธอร์ตอนนี้ ที่พระศาสนจักรจัดวางไว้ในพิธีกรรมในช่วงมหาพรตนี้เพื่อให้เราคริสตชนได้อ่านและไตร่ตรอง พ่อคิดว่า เราได้เห็นบทนำของหนังสือเอสเธอร์ที่เสนอให้อ่านข้างบนต้นนี้แล้ว เรามาสัมผัสตัวบทพระคัมภีร์ตอนนี้สำหรับเราคาทอลิกกันสักหน่อยครับ

-------------------------------------------


อสธ 4:17K-17U…..

(17K)พระราชินีเอสเธอร์ทรงเป็นทุกข์แทบจะสิ้นพระชนม์ จึงทรงแสวงหาความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า พระนางทรงเปลื้องฉลองพระองค์ที่หรูหราออก แล้วทรงชุดไว้ทุกข์แสดงความโศกเศร้า ทรงโปรยขี้เถ้าและฝุ่นดินบนพระเศียรแทนเครื่องหอมมีค่า ไม่สนพระทัยที่จะประดับพระกายให้งดงามอย่างที่เคย แต่ทรงสยายพระเกศาให้ยุ่งเหยิง แล้วทรงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอลว่า

(17L) “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า
ข้าแต่พระมหากษัตริย์ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
พระองค์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นทรงเป็นพระเจ้า
โปรดทรงช่วยเหลือข้าพเจ้าเถิด
ข้าพเจ้าอยู่คนเดียว ไม่มีผู้ใดช่วยเหลือข้าพเจ้านอกจากพระองค์เท่านั้น
ข้าพเจ้าทำลังเผชิญอันตรายเสี่ยงชีวิต

(17M) ตั้งแต่เป็นเด็ก ข้าพเจ้าเคยได้ยินจากบุคคลในครอบครัว
เล่าว่าพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ทรงเลือกสรรชาวอิสราเอลจากชนชาติทั้งหลาย
ทรงเลือกบรรพบุรุษของข้าพเจ้าจากบรรพบุรุษของเขา
เป็นมรดกถาวรของพระองค์
พระองค์ทรงกระทำตามที่ทรงสัญญาไว้กับเขาทุกประการ

(17N) บัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาปผิดต่อพระองค์
พระองค์จึงทรงปล่อยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู
เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายไปกราบไหว้เทพเจ้าของเขา
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเที่ยงธรรม

(17O) แต่บัดนี้ บรรดาศัตรูยังไม่พอใจที่ได้กดขี่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
ให้มีความขมขื่นที่ต้องเป็นทาส
แต่เขายังทำพันธสัญญากับรูปเคารพของตน ว่า
จะลบล้างพระสัญญาที่พระองค์ตรัสไว้
จะทำลายล้างผู้ที่เป็นมรดกของพระองค์
จะปิดปากผู้ที่สรรเสริญพระองค์
และขจัดพระสิริรุ่งโรจน์ให้หมดไปจากพระวิหารและพระแท่นบูชาของพระองค์
(17P) กลับจะทำให้ชนต่างชาติสรรเสริญรูปเคารพที่ไร้ค่า
จะยกย่องกษัตริย์ที่ตายได้ให้เป็นกษัตริย์นิรันดร

(17Q) ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
โปรดอย่าทรงมอบอำนาจปกครองของพระองค์
ให้แก่สิ่งที่ไม่มีความเป็นอยู่เหล่านั้นเลย
อย่าให้บรรดาศัตรูได้หัวเราะเยาะเพราะข้าพเจ้าทั้งหลายต้องพินาศ
โปรดให้แผนการของเขากลับมาทำลายเขาเอง
โปรดทรงลงโทษผู้ที่ริเริ่มเบียดเบียนข้าพเจ้าทั้งหลาย
ให้เป็นตัวอย่างเถิด
(17R) ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงระลึกถึงข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด
โปรดทรงสำแดงพระองค์ในเวลาที่ข้าพเจ้าทั้งหลายมีความทุกข์
โปรดให้ข้าพเจ้ามีความกล้าหาญเถิด
ข้าแต่กษัตริย์ของบรรดาเทพเจ้า
พระองค์ทรงพระอานุภาพเหนือผู้มีอำนาจทุกคน
(17S) โปรดทรงใส่ถ้อยคำจูงใจไว้ในปากของข้าพเจ้า
เมื่อต้องเผชิญกับสิงโต
โปรดทรงเปลี่ยนใจของเขาให้เกลียดชังศัตรูที่ต่อสู้กับข้าพเจ้าทั้งหลาย
เพื่อเขากับพวกจะพินาศ
(17T) โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้นอันตรายด้วยพระหัตถ์ของพระองค์
โปรดทรงช่วยเหลือข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าอยู่คนเดียว
ไม่มีผู้ใดช่วยเหลือนอกจากพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
(17U) พระองค์ทรงรอบรู้ทุกอย่าง
ทรงทราบว่าข้าพเจ้าชังเกียรติยศจากคนอธรรม
และรังเกียจการร่วมเตียงกับผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัด
และคนต่างชาติ
-------------------------------------------------

 

อรรถาธิบายประเด็นสำคัญ

• เพื่อให้อรรถาธิบายหนังสือเอสเธอร์ ที่เราอ่านในวันนี้ ดังนั้น “วันนี้ขอ 10 คำ” นี่เป็นภาษาวัยรุ่นปัจจุบัน เวลาที่เขาพูดกันเขามักจะบอกว่า “ขอสามคำ ขอสองคำ ขอหนึ่งคำ”...


• พี่น้องที่รัก ดังนั้นวันนี้พ่อขอคำภาวนา 10 คำ อ่านผ่านๆไปเราอาจไม่สังเกตเห็น แต่พ่อค่อยๆแกะและสังเกตนั้น พ่อได้ค้นพบคำภาวนาสิบคำในหนังสือเอสเธอร์ครับ


• พ่ออยากแบ่งปันจริงๆ และดูเหมือนว่า ผู้นิพนธ์พระคัมภีร์นี้มีเจตนาจริงที่จะเสนอคำภาวนาเป็นคำวิงวอนสิบคำเพื่อร้องขอพระเจ้า เหมาะสมกับเทศกาลมหาพรตซึ่งเป็นเวลาแห่งการภาวนาเป็นพิเศษในยามทุกข์ใจ ในความบาปและความบกพร่องที่เราต้องการขอพระกรุณาจากพระเจ้าพระนางเอสเธอร์หันหน้าเข้าพึ่งพระเจ้าในยามทุกข์ใจที่สุด เพราะรักและเพราะห่วงชนชาติของตน คำภาวนาของพระนางเอสเธอร์จึงกลายเป็นความงดงามเหลือเกิน เป็นคำร้องขอ 10 คำ


• เรื่องราวตอนนี้ เป็นเรื่องราวที่พระราชินีเอสเธอร์ทรงเป็นทุกข์อย่างหนักต่อเรื่องราวของชนชาติอิสราเอล ประชากรของพระเจ้า โดยส่วนตัวของพ่อ พ่อชอบหนังสือเล่มนี้ในตอนนี้มากๆ คือเมื่อพระนางเอสเธอร์เป็นทุกข์แทบสิ้นชีวิต สิ่งที่น่าประทับใจคือ
1. พระนางแสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้า....
2. พระนางเปลี่ยนเครื่องฉลองพระองค์หรูหราออก และ
3. เริ่มไว้ทุกข์เพื่อขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า และ
4. พระนางได้โรยเถ้าใส่ตนเองเป็นเครื่องหมายของความทุกข์ใจ และต้องการร้องขอความเมตตาจากพระเจ้า...

 

• พระนางหันหน้าเข้าพึ่งพระเจ้าครับ... คำคร่ำครวญถึงประสบการณ์แห่งความรักของพระเจ้า และคำคร่ำครวญถึงบาปของตนและของประชากรของพระเจ้า


• ในพระคัมภีร์วันนี้ที่พิธีกรรมจัดให้เราอ่านในมิสซา พ่อได้อ่านอย่างสังเกตและได้พิจารณาพระคัมภีร์ตอนนี้จากข้อที่ 17Q ถึงข้อที่ 17U พ่อได้พบกุญแจดอกสำคัญในการภาวนาของพระนางเอสเธอร์


• คือ วาจาที่พระนางพร่ำวิงวอนขอพระเจ้าเป็นคำร้องขอ 10 คำ ที่เราเห็นคำแปลคำว่า “โปรด” พ่อจะคัดมาให้ดูนะครับว่าพระนางขออะไรจากพระเจ้าสิบคำ หรือสิบคำว่า “โปรด” ที่ร้องขอพระเจ้า....นั้นมีอะไรบ้าง

1. โปรดอย่าทรงมอบอำนาจปกครองของพระองค์ ให้แก่สิ่งที่ไม่มีความเป็นอยู่เหล่านั้นเลย
2. โปรดให้แผนการของเขากลับมาทำลายเขาเอง
3. โปรดทรงลงโทษผู้ที่ริเริ่มเบียดเบียนข้าพเจ้าทั้งหลายให้เป็นตัวอย่างเถิด
4. โปรดทรงระลึกถึงข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด
5. โปรดทรงสำแดงพระองค์ในเวลาที่ข้าพเจ้าทั้งหลายมีความทุกข์
6. โปรดให้ข้าพเจ้ามีความกล้าหาญเถิด
7. โปรดทรงใส่ถ้อยคำจูงใจไว้ในปากของข้าพเจ้าเมื่อต้องเผชิญกับสิงโต
8. โปรดทรงเปลี่ยนใจของเขาให้เกลียดชังศัตรูที่ต่อสู้กับข้าพเจ้าทั้งหลายเพื่อเขากับพวกจะพินาศ
9. โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้นอันตรายด้วยพระหัตถ์ของพระองค์
10. โปรดทรงช่วยเหลือข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าอยู่คนเดียว

 

• คำถามสำคัญคือ ทำไมต้อง 10 คำ พี่น้องครับ พ่อมีคำตอบที่น่าคิดดังนี้
o ประการแรก ปกติการภาวนาของชาวยิวถ้าเป็นการภาวนาอย่างทางการ หรือคำภาวนาของหมู่คณะนั้น ต้องมีการภาวนาร่วมกันสิบคนขึ้นไป ไม่น้อยกว่าสิบคน ถือว่าเป็นการภาวนาหมู่คณะทางการ
o ประการที่สอง เลข 10 คือเลขสำคัญสำหรับชนชาติอิสราเอล นั่นคือบัญญัติ 10 ประการ หรือพระคำพระวาจา 10 คำของพระเจ้า ที่เป็นบัญญัติที่ชาวอิสราเอลต้องไม่ละเมิด ไม่หลงลืมหรือทอดทิ้งและไม่ใส่ใจ ตรงข้ามพวกเขาต้องซื่อสัตย์ที่สุดต่อบัญญัติของพระเจ้าเพื่อรักษาชนชาติ รักษาสันติสุข รักษาพันธสัญญาของพระเจ้า


• ในเวลาและยุคสมัยของพระนางเอสเธอร์ เป็นเวลายามที่ประชากรของพระเจ้าหลงใหลกระแสโลกและได้ทอดทิ้งพระเจ้าเที่ยงแท้ และไม่ได้ซื่อสัตย์ ได้ละทิ้งบัญญัติสิบประการของพระเจ้าทำให้พวกเขาไม่ได้รักษาพันธสัญญาของพระเจ้า

 

• ดังนั้น การหันหน้าเข้าพึ่งพระเจ้าของพระนางเอสเธอร์ ผู้นิพนธ์พระคัมภีร์ดูเหมือนร้อยเรียงคำวิงวอน 10 คำ ที่ร้องขอ “โปรด” สิบครั้ง ประหนึ่งเป็นการรื้อฟื้นพันธสัญญาและพระบัญญัติที่พวกเขาได้ทำบาปและได้ละเมิดความรักของพระองค์ ดังนั้น ในการกลับใจ ในการภาวนา จึงเป็นการฟื้นฟูบัญญัติของพระเจ้าสิบคำที่พ่อได้เสนอให้อ่านข้างต้นครับ....

 

พี่น้องที่รักครับ นี่เป็นการค้นพบและเป็นการสังเกตตัวบทพระคัมภีร์ที่พ่อได้พบจากหนังสือเอสเธอร์ตอนนี้ครับ... พ่อหวังว่า เราจะเป็นเช่นกัน คือ หันหน้าเข้าพึ่งพระเจ้า จำศีลภาวนา ใช้โทษบาป และไตร่ตรองถึงบัญญัติสิบประการของพระเจ้าที่ในบางข้อ หรืออาจจะในหลายๆ ข้อที่เราได้ละเมิดต่อพระองค์...

 

มหาพรตเป็นเวลาของการทบทวน การวิงวอนภาวนา และการฟื้นฟูชีวิตของเราให้ซื่อสัตย์ต่อบัญญัติของพระเจ้าครับ ให้เราได้ใช้โอกาสที่ได้อ่านพระวาจาวันนี้ในเทศกาลมหาพรตนี้ โดยให้เราภาวนาพึ่งพระเจ้ามากเป็นพิเศษนะครับ... บัญญัติสำคัญที่สุดที่เราต้องทบทวน คือ บัญญัติแห่งความรักต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์นะครับ


มหาพรตปีนี้ หนังสือเอสเธอร์ที่เราอ่านวันนี้น่าจะทำให้เราได้ภาวนาวิงวอนพระเจ้ามากขึ้น “โปรด โปรด โปรด ทรงพระเมตตาเถิดพระเจ้าข้า... เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป...” ให้เราได้ใช้โอกาสมหาพรตปีนี้สวดภาวนามากๆ วิงวอนพระเจ้ามากๆ และทบทวนชีวิตของเรากับบัญญัติของพระเจ้าเป็นพิเศษนะครับ

 

อ่านพระคัมภีร์หนังสือเอสเธอร์วันนี้อย่างดีๆนะครับ คำภาวนาขอพึ่งพระเจ้าในยามโดดเดี่ยวของพระนางเอสเธอร์ น่าจะเป็นกำลังใจและกำลังภาวนาแก่เราทุกคนเลยนะครับ โดยเฉพาะในยามนี้ของโลกปัจจุบันที่ชีวิตของเรา สังคมโลกของเรา ต้องการการหันหน้าเข้าพึ่งพระเจ้าให้มากกว่าที่เคย ขอพระเจ้าอวยพรเสมอ ให้เราวิงวอนพระเจ้า “โปรด” เมตตาเราและสังคมของเรา โลกของเราเสมอไป

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก