“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2016
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา
       

      “พระวิหารสำหรับพระยาห์เวห์ที่เยรูซาเล็ม” คือ สิ่งที่กษัตริย์ดาวิดเคยฝันจะกระทำ คือการสร้างพระวิหารให้กับพระยาห์เวห์ แต่พระเจ้าได้ตรัสผ่านประกาศกนาธันยืนยันว่า พระองค์ทรงเรียกดาวิดมาจากทุ่งหญ้า จากการเลี้ยงสัตว์ และพระองค์สัญญาจะประทับกับดาวิดเสมอไม่ว่าดาวิดจะไปที่ไหน เพราะพระยาห์เหว์ทรงรักดาวิด ดังนั้น การสร้างพระวิหารเพื่อถวายพระยาห์เวห์ เพื่อเป็นที่ตั้งของ “หีบพระบัญญัติ” หรือ “หีบพันธสัญญา” เพื่อเป็นเครื่องหมายว่า “พระยาห์เวห์จะประทับอยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์ตลอดไป และอาศัยการมีพระวิหารนี้ จึงเป็นความสำคัญของเรื่องราวทั้งหมดที่อิสราเอลอยากมีพระวิหารเพื่อเป็นเครื่องหมายและเป็นเครื่องยืนยันความจริงว่า “พระเจ้าประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขา”


ดังนั้น เมื่อดาวิดได้สิ้นชีวิตไปแล้ว กษัตริย์ซาโลมอนผู้เปี่ยมด้วยปรีชาญาณ เก่ง ฉลาด และมีความสัมพันธ์อันดีกับรอบด้านของอาณาจักรของตน จึงได้เป็นผู้ลงมือสร้างพระวิหาร ซึ่งอันที่จริง ซาโลมอนนั้นหนังสือพงศ์กษัตริย์ได้เริ่มเล่าเรื่องราวที่สุดยอด แสนดี มีความหมาย และดูเหมือนเป็น “หัวใจของพันธกิจของซาโลมอนที่หนังสือพงศ์กษัตริย์นำเสนอคือเรื่องการสร้างพระวิหารและการถวายพระวิหาร” เรื่องนี้สุดยอดของเรื่องราวของซาโลมอนแล้วครับ นอกจากเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องความงดงาม ความหรูหรา การจัดการบ้านเมือง พระราชวัง ระบบจัดการไพร่พลทหารนางในของพระราชวัง ฯลฯ แต่เรื่องสำคัญ พระคัมภีร์คงต้องการให้เห็นว่า ยุคของซาโลมอน คือ “เวลาแห่งสันติ” (Time of Peace)


วันนี้พ่อคงต้องนำพี่น้องให้อ่านเรื่องราวการสร้างพระวิหารก่อนสักหน่อยครับ และอันที่จริงน่าอ่านมากกว่าที่มีในมิสซาประจำวันครับ พ่ออยากตัดบางส่วนมาให้อ่านกันก่อนในบทที่ 6 มาอ่านกันครับ

• 1กษัตริย์ซาโลมอนทรงเริ่มสร้างพระวิหารถวายพระยาห์เวห์ในปีที่สี่ที่ทรงครองราชย์เหนืออิสราเอล ในเดือนศิฟซึ่งเป็นเดือนที่สอง นับเป็นปีที่สี่ร้อยแปดสิบ หลังจากชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์


• 2พระวิหาร ซึ่งกษัตริย์ซาโลมอนทรงสร้างถวายพระยาห์เวห์นั้นยาวสามสิบเมตร กว้างสิบเมตร และสูงสิบห้าเมตร 3มุขหน้าห้องโถงของพระวิหารกว้างสิบเมตรเท่ากับพระวิหาร ลึกห้าเมตรตามยาวของพระวิหาร 4กำแพงพระวิหารมีหน้าต่างเป็นช่องลูกกรง


• 5พระองค์ทรงสร้างอาคารสามชั้นรอบกำแพงพระวิหาร ชิดผนังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 6ชั้น ล่างสุด กว้างสองเมตรครึ่ง ชั้นกลางกว้างสามเมตร และชั้นบนกว้างสามเมตรครึ่ง เพราะกำแพงพระวิหารค่อยๆแคบลงแต่ละชั้นโดยรอบ เพื่อไม้รอดของอาคารด้านข้างนี้จะไม่ฝังเข้าไปในกำแพงพระวิหาร


• 7หินที่ใช้สร้างพระวิหารถูกสกัดมาเรียบร้อยแล้วจากบ่อหิน เพื่อจะได้ไม่มีเสียงค้อน เสียงขวานหรือเสียงเครื่องมือเหล็กอื่นๆดังอึกทึกตลอดเวลาสร้างพระวิหาร


• 8ทางเข้าสู่ชั้นล่างสุดของอาคารด้านข้างอยู่ด้านขวาของพระวิหาร มีบันไดขึ้นไปสู่ชั้นสองและชั้นสาม 9เมื่อทรงสร้างพระวิหารเสร็จแล้ว พระองค์ทรงวางคานและบุเพดาน ด้วยไม้สนสีดาร์


• 10แต่ละชั้นของอาคารรอบกำแพงด้านนอกของพระวิหารสูงสองเมตรครึ่ง และเชื่อมติดกับตัวพระวิหารด้วยรอดไม้สนสีดาร์


• 11พระยาห์เวห์ตรัสแก่กษัตริย์ซาโลมอนว่า 12"ท่านกำลังสร้างพระวิหารนี้สำหรับเรา ถ้าท่านดำเนินชีวิตตามข้อกำหนดของเรา เชื่อฟังกฎเกณฑ์ของเรา และปฏิบัติตามบทบัญญัติทั้งหมดของเราอย่างเคร่งครัด เราจะทำตามที่เราสัญญาไว้กับดาวิดบิดาของท่าน 13เราจะพำนักอยู่ในหมู่ชาวอิสราเอล และจะไม่ทอดทิ้งอิสราเอลประชากรของเรา"


• 14กษัตริย์ซาโลมอนทรงสร้างพระวิหารจนสำเร็จ

 

พี่น้องที่รักครับ พ่อพาให้อ่านการสร้างพระวิหารก่อนเพราะจริงๆพระคัมภีร์ยาวกว่านี้ มีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่พ่อคิดว่า ความละเอียดลออ ความใส่ใจและความละเอียดละออทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากความจำเป็นที่พระเจ้าทรงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างสำหรับพระองค์จึงต้องสุดๆ ละเอียดที่สุดเพราะใช้สำหรับพระเจ้า เรื่องพระวิหารนี้พ่อจะใส่รูปให้ดูอีกครั้งหนึ่งหรือสามารถติดตามได้จากภาพที่ออกแบบตามคำสั่งในพระคัมภีร์ได้ต่อไปหรืออ่านจากพระคัมภีร์พงศ์กษัตริย์นี้ได้อีกต่อๆไปครับ พี่น้องที่ชอบท่องเว็บไซค์ ให้เขาไปที่นี่เลยครับ จะเห็นรายละเอียด พระวิหารครับ...
(https://www.google.co.th/search… )


• ประเด็นสำคัญ พระพรของพระเจ้าไม่ได้อยู่ที่พระวิหารสวยงามหรือยิ่งใหญ่ แต่พระวิหารเป็นเครื่องหมายของความจริงจัง เคร่งครัดกับการก่อสร้างตามพระบัญญัติ หรือตามคำสั่งของพระเจ้าครับ... ต้องทำตามที่พระเจ้าสั่งไว้ นั่นเป็นเครื่องหมายที่ประชากรของพระเจ้าต้อง ซื่อสัตย์ต่อพระบัญญัติ และซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าจริงๆเท่านั้น และพระเจ้าจะอวยพร เราจะเห็นเงื่อนไข


• “ถ้าท่าน” และ “เราจะ” พระเจ้าจะพำนักในพระวิหาร ประทับท่ามกลางประชากร ไม่ใช่เพราะพระวิหาร แต่เพราะความซื่อสัตย์ของประชากรของพระองค์ต่อพระบัญชาของพระองค์... พระเจ้าตรัสกับซาโลมอน “"ท่านกำลังสร้างพระวิหารนี้สำหรับเรา
o ถ้าท่านดำเนินชีวิตตามข้อกำหนดของเรา
o เชื่อฟังกฎเกณฑ์ของเรา
o และปฏิบัติตามบทบัญญัติทั้งหมดของเราอย่างเคร่งครัด
1. เราจะทำตามที่เราสัญญาไว้กับดาวิดบิดาของท่าน
2. เราจะพำนักอยู่ในหมู่ชาวอิสราเอล
3. และจะไม่ทอดทิ้งอิสราเอลประชากรของเรา"”

 

พี่น้องที่รัก คำสอนสำคัญมาก คือชีวิตจะมีพระเจ้าประทับอยู่ไม่ใช่พระวิหารที่ใหญ่โต ไม่ใช่การก่อสร้างพระวิหารที่สุดแสนละเอียดลออบรรจงหรือหรูหรามากมาย หลายครั้ง เราคิดว่า สิ่งภายนอก ความหรูหราของวัด เครื่องแต่งกายในพิธีกรรม ลีลาท่าทางสวยงามทั้งหลายจะทำให้พิธีกรรมดูศักดิ์สิทธิ์ แต่อันทีจริง จุดเริ่มต้นคือความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าและการถือบัญญัติของพระองค์ เป็นคริสตชนที่ดีที่สุดต่างๆหากมิใช่หรือ... น่าคิดนะครับ


ต่อไปนี้เรามาอ่านพระวาจาประจำวันนี้กันครับ เมื่อซาโลมอนสร้างพระวิหารเสร็จ พระวิหารนี้เพื่อประทับ “หีบพันธสัญญา” ไม่มีอะไรในหีบนอกจากธรรมบัญญัติหรือพระบัญญัติสิบประการ นี่อย่างไรคือคำตอบที่ว่า หัวใจคือความซื่อสัตย์และการถือบัญญัติของพระเจ้านะครับ เรื่องราวคือเวลาที่พวกเขาอัญเชิญหีบพระบัญญัติมาประทับในพระวิหารที่สร้างเสร็จครับ... เรามาอ่านกันครับ..

----------------------------------


1พกษ 8:1-7,9-13….
• 1บรรดาผู้อาวุโส หัวหน้าเผ่าและผู้นำครอบครัวสำคัญๆของชาวอิสราเอลมาชุมนุมกันเฉพาะพระพักตร์กษัตริย์ซาโลมอน ที่กรุงเยรูซาเล็มตามรับสั่ง เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ขึ้นมาจากศิโยน นครของกษัตริย์ดาวิด


• 2ชายชาวอิสราเอลทุกคนมาชุมนุมเฉพาะพระพักตร์กษัตริย์ซาโลมอนในงานฉลองเดือนเอธานิม คือเดือนเจ็ด


• 3เมื่อผู้อาวุโสทุกคนของอิสราเอลมาถึง บรรดาสมณะก็ยกหีบขึ้น 4อัญเชิญหีบของพระยาห์เวห์และกระโจมนัดพบ พร้อมกับเครื่องใช้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดซึ่งอยู่ในกระโจม ชาวเลวีช่วยบรรดาสมณะในงานนี้


• 5กษัตริย์ซาโลมอนพร้อมกับชาวอิสราเอลทั้งมวลที่มาชุมนุมกับพระองค์ ต่อหน้าหีบพันธสัญญา ทรงถวายแกะและโคจำนวนมากจนนับไม่ถ้วนเป็นเครื่องบูชา


• 6บรรดาสมณะอัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ไปประดิษฐานไว้ใต้ปีกของเครูบในที่เฉพาะ คือพระวิหารชั้นในสุดที่เรียกว่า "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด"


• 7เครูบกางปีกเหนือที่ตั้งของหีบ คลุมหีบและคานหามจากเบื้องบน


• 8คานหามเหล่านี้ยาวมากจนมองเห็นปลายคานได้จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ตรงหน้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด แต่มองไม่เห็นจากที่อื่น สิ่งเหล่านี้ยังอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้ (วันที่เขียนพระคัมภีร์ตอนนี้ แต่บัดนี้ไม่มีแล้ว พ่ออธิบาย)


• 9ในหีบพันธสัญญามีเพียงศิลาสองแผ่น ซึ่งโมเสสวางไว้ตั้งแต่เมื่ออยู่ที่ภูเขาโฮเรบ คือแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญา ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงกระทำกับชาวอิสราเอล เมื่อเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์


• 10เมื่อสมณะออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีเมฆ เต็มพระวิหารของพระยาห์เวห์ 11จนบรรดาสมณะประกอบพิธีกรรมต่อไปไม่ได้เนื่องจากเมฆ เพราะพระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์อยู่เต็มพระวิหาร
12แล้วกษัตริย์ซาโลมอนทูลพระยาห์เวห์ว่า "ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์พอพระทัยประทับในเมฆมืดทึบ 13ข้าพเจ้าสร้างพระวิหารสง่างามถวายพระองค์ เป็นที่พำนักถาวรสำหรับพระองค์"

-------------------------------


อรรถาธิบายบางประการ

• ยังคงยืนยันว่าพระวิหารที่แสนงดงามยิ่งใหญ่ในวิธีการสร้าง เพื่อเป็นศูนย์กลางของประชากร แต่ศูนย์กลางของพระวิหาร ยังคงเป็น “หีบพระบัญญัติ” ยอมรับได้เลยว่า มีอะไรสำคัญไปกว่า “การเชื่อฟังพระเจ้า” การเชื่อฟังนี้คือฟังและปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้านั่นเอง “บัญญัติแห่งความรัก เมตตา และโปรดปราน” นี่คือหัวใจของของศาสนา ไม่มีสิ่งอื่นสำคัญไปกว่านี้จริงๆ


• ภาพความงดงามของของชาวอิสราเอลทั้งหลายรวมใจกันทั้งหมด “บรรดาผู้อาวุโส หัวหน้าเผ่าและผู้นำครอบครัวสำคัญๆของชาวอิสราเอลมาชุมนุมกันเฉพาะพระพักตร์กษัตริย์ซาโลมอน” เป็นงานหน้าที่ของทุกคนที่เป็นผู้ใหญ่พร้อมกับกษัตริย์ซาโลมอน เราเห็นภาพคำสอนสำคัญว่า คนสำคัญทางบ้านเมือง ศาสนา กษัตริย์ ต้องเป็นคนมีศาสนาจริงๆ มีพระเจ้าจริงๆ ให้ความสำคัญกับพระบัญญัติจริงๆ หลีกหนีไม่ได้...
o เป็นหน้าที่ของกษัตริย์และบรรดาผู้ปกครองต้อง “ซื่อสัตย์เป็นพวกแรก” พ่อคิดจริงๆ นะ เป็นคำสอนสำหรับพ่อเอง การถือศาสนาเป็นเพียงพิธีการพิธีกรรม แสดงความเป็นผู้นำ หรือเป็นศรัทธาจริงๆที่จะซื่อสัตย์จริงๆ ต่อพระเจ้า บ้านเมืองของเรา
o สมาชิกของพระศาสนจักร ผู้ใหญ่ผู้ปกครองโดยเฉพาะ จะต้องเป็นพวกแรกมิใช่หรือที่จะซื่อสัตย์ มีศีลธรรมจรรยาและศาสนาจริงๆ ประเทศของเรา ชาติของเรา เป็นเช่นนี้หรือไม่ พ่อเองเป็นเช่นนี้หรือไม่ พวกเราคริสตชน บรรดาพระสงฆ์นักบวช ผู้นำ ผู้ใหญ่ของวัด เป็นเช่นนี้หรือไม่
o บ่อยครั้งคนใหญ่โตในศาสนา การเมือง สังคม บ่อยครั้ง เราก็ดูมีศาสนา แต่ในชีวิตจริงๆโกงมาก เอาเปรียบมาก พังกันหมด กลายเป็นพวก “มือถือสากปากถือศีล” ก็พังกันหมดพอดี เรียกว่า “เจ๊งมาตั้งแต่บนสุดยันล่างสุด” หรือเรียกว่า “คอรัปชั่นโกงกินกันมาตั้งแต่ข้างบนสุดของบ้านเมือง หรือศาสนาก็ตาม” ผลคือพัง
o ภาพที่เราเห็นในพระคัมภีร์วันนี้เพื่อสอนว่า เรื่องศาสนา เรื่องพระบัญญัติ เป็นเรื่องของทุกคนตั้งแต่ผู้ปกครองทั้งหมดลงมา นั่นจึงจะมีกษัตริย์เช่นซาโลมอน “ซาโลมอน” แปลว่า “ สันติสุข”

 

• การอัญเชิญหีบพันธสัญญามาจากนครของดาวิด คือ นครศิโยน ภูเขาศิโยน คือภูเขาที่ต่อจากเยรูซาเล็ม ติดๆกัน เดินเป็นขบวนถึงกันได้ “หีบนี้” เคยอยู่กับดาวิด บัดนี้มาอยู่กับซาโลมอน เครื่องหมายคือ พระเจ้าประทับกับดาวิดเสมอ บัดนี้พระองค์เสด็จมาประทับกับซาโลมอนเป็นบิดาของซาโลมอนและเป็นพระเจ้าของประชากรของพระองค์


• “ชายชาวอิสราเอลทุกคน” เป็นเครื่องหมายถึง “ชาวอิสราเอลทุกคน” ต้องพร้อมกันทั้งหมดเพื่อตอบรับพระบัญญัติของพระเจ้า


• เวลาที่กำหนด คือ เดือนที่เจ็ด เลขเจ็ดมีความหมายมากสำหรับวันของพระเจ้า เวลาของพระเจ้า


• จากกระโจม สู่ พระวิหาร จากความเรียบง่ายและการประทับอยู่กับประชากรเสมอมา ตั้งแต่ยุคของโมเสส ยุคแห่งการเดินในถิ่นทุรกันดาร “กระโจมคือที่ประทับ” บัดนี้ “พระวิหาร” ซึ่งหมายถึงความถาวรทางวัตถุ แต่เราทราบดีว่าพระวิหารนี้ในที่สุดก็ไม่ได้ถาวรตลอดไปแต่ต้องถูกทำลายโดยอำนาจของบาบิโลนอีกไม่กี่ร้อยปี
o เรื่องนี้ทำให้พ่อได้คิดและไตร่ตรองมากๆทีเดียวที่ว่าชีวิตศาสนาของเราต้องไม่ยึดติดกับ “สิ่งสร้าง” แต่พระบัญญัติของพระเจ้า คือ สิ่งที่เราต้องยึด...
o พ่อเขียนแบบนี้ เราต้องยอมรับความจริง เราปีประสบการณ์กับสิ่งสร้างและความเสียหายามธรรมชาติของสิ่งสร้าง เราเคยมีประสบการณ์จากวันที่รูปปั้นนักบุญอันนารูปปั้นขนาดใหญ่ที่วัดท่าจีนของเราล้มพังลงมาเพราะอุบัติเหตุที่เรือขนาดใหญ่เข้ามาชน เรียกว่า ทำให้เกิดความตื่นตระหนกมากกับสัตบุรุษ และเสียใจกันมากๆ หรือขวัญเสียอาจถึงคิดมากๆกันไปมาก... แต่เราก็รู้ว่า วัตถุสิ่งสร้างเป็นเพียงเครื่องหมายและอาจถูกอุบัติเหตุทำลายในรูปแบบต่างๆได้ง่ายดาย
o คำสอน คือ เราต้องไม่ยึดติดกับสิ่งภายนอกมาก เพราะเป็นเพียงเครื่องหมายและเครื่องมือให้ใจของเราคิดถึงพระเจ้าเป็นสำคัญ พระวิหารของซาโลมอนก็เช่นกัน แม้สวยงามที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุด แต่จนแล้วจนรอดที่สุดก็ถูกทำลายราบคาบ แม้พระวิหารหลังที่สองที่สร้างขึ้นมาแทนที่ในสมัยเอสรา ถูกทำลายไปเหมือนกัน จนปัจจุบัน ชาวยิวไม่เคยมีพระวิหารอีกเลย... เหลือแต่เพียงเศษซากกำแพงทางทิศตะวันตก “กำแพงร้องไห้” Wailing Wall เท่านั้น... ไม่มีอะไรเหลือจริงๆ ร้องไห้กันจนทุกวันนี้เพราะไม่มีพระวิหารที่คิดว่าแสนงดงาม แต่ไม่ได้รู้เลยว่า พระวิหารคือพระเยซู และเราทุกคนคือพระวิหารของพระเจ้า
o เรื่องนี้สอนเราคริสตชนมากๆนะครับ เราไม่ควรยึดติดกับสิ่งสร้างภายนอก แต่จิตใจที่รัก พักดีต่อพระวิหารของพระเจ้า คือ “การประทับของพระองค์ในชีวิตของเรา” คือสิ่งที่สำคัญที่สุด การเชื่อฟังบัญญัติของพระเจ้านะครับ...

 

• “เมื่อผู้อาวุโสทุกคนของอิสราเอลมาถึง บรรดาสมณะก็ยกหีบขึ้น อัญเชิญหีบของพระยาห์เวห์และกระโจมนัดพบ พร้อมกับเครื่องใช้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดซึ่งอยู่ในกระโจม ชาวเลวีช่วยบรรดาสมณะในงานนี้”
o ชาวเลวีต้องเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด... สมณะต้องเกี่ยวข้องกับการนี้จริงๆ
o พ่อได้คำสอนสอนตัวพ่อเอง สอนบรรดาสมณะทั้งหลาย บรรพชิตทั้งหลายของพระเจ้า เราต้องเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพระวิหาร พ่อหมายความว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับ “พระบัญญัติ” คือ เราต้องมีบัญญัติแห่งความรักของพระเจ้าอย่างใกล้ชิดที่สุด ไม่รักไม่ได้ และปฏิเสธที่จะรักไม่ได้ และถ้าเป็นความเกลียดชังยิ่งไม่ควรเลยนะครับ....
o อันนี้พ่อขอให้หมายรวมถึงเราคริสตชนที่รักทุกคนด้วยนะครับ พ่อบอกเสมอว่า เป็นคริสตชนไม่รักไม่ได้ ใจร้ายไม่ได้ เพราะเรามี “บัญญัติแห่งความรัก” สำคัญที่สุดที่พระเยซูเจ้ามอบให้กับเรา เราต้องไม่เป็นคนคลั่งวัด คลั่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และยึดติดกับวัตถุศักดิ์สิทธ์ แต่ศรัทธาเชื่อมั่นคงในพระเจ้าเท่านั้นนะครับ พ่อบอกชัดๆครับว่า “อย่ายึดติดกับวัตถุกันเลยนะครับ”

 

• พ่อเห็นภาพงดงามมาก “เมื่อซาโลมอนยืนนำหน้าอิสราเอลทั้งมวลต่อหน้าหีบพันธสัญญา และถวายบูชา”
o ใช่แล้ว...กษัตริย์ ผู้นำ คือคนแรกๆที่ต้องนำถวายเกียรติแด่พระเจ้า พ่อว่าภาพนี้สวยงามมากๆนะครับ... ทุกคนหันหน้าไปหาพระเจ้า ถวายบูชาแด่พระเจ้า และผู้นำก็อยู่แถวแรกจริงๆในการรับใช้พระเจ้า คำสอนที่งดงามวันนี้จริงๆสำหรับเราผู้นำ พ่อรู้สึกว่าเราได้เป็นผู้นำในการรับใช้พระเจ้าจริงไหม??
o พ่อไม่ได้หมายถึงพิธีกรรม การนมัสการ แต่ชีวิตจริงๆ เราต้องใกล้ชิดพระเจ้ามากกว่าใคร... คิดกันหน่อยสิครับ ถ้าพวกเราผู้นำจิตวิญญาณ ผู้นำและผู้ปกครองทั้งหลายต้องตัดสินใจเป็นคนดีคนแรก เป็นคนมีศาสนาอย่างดีที่สุดเป็นคนแรก มีคุณธรรมมากที่สุดเป็นคนแรกก่อนใครๆ และประพฤติปฏิบัติดีกว่าใครๆ บ้านเมือง ชุมชน ประเทศ คงได้ได้สวยงามที่สุดเช่นมิใช่หรือครับ...
o ในอดีตเวลาเราไปออกเสียงเลือกตั้งทางประชาธิปไตย เพื่อได้ผู้ปกครองที่ดีที่สุด เที่ยงธรรมที่สุด อันที่จริง... เวลาเราไปเลือกตั้ง เราก็มีแต่คนดีๆที่สุด มีศาสนาและคุณธรรมที่สุดให้เราเลือกกันจนเลือกไม่ไหวเลยมิใช่หรือครับ...
o แต่คำถามพ่อถามใจตนเองจริงๆ เวลาพี่น้องไปเลือกตั้ง มีคนดีๆที่สุดในสังคมให้เราได้ลงคะแนนเลือกเป็นผู้แทนของเราหรือไม่หนอ โดยความจริงคนที่จะอาสามาให้เราได้เลือก ต้องเป็นคนหัวขบวนในความดี ความเชื่อ ความสามารถ และเปี่ยมคุณธรรมจริงๆมิใช่หรือครับ... เรื่องนี้ต้องเรียนจากพระคัมภีร์วันนี้จริงๆ

 

• “บรรดาสมณะอัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ไปประดิษฐานไว้ใต้ปีกของเครูบในที่เฉพาะ คือพระวิหารชั้นในสุดที่เรียกว่า "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด"
o ส่วนที่ลึกที่สุดที่เก็บบัญญัติแห่งความรักและความจริง เรียกว่า “หัวใจของพระวิหาร” พ่อคิดว่า หัวใจของเราต้องเก็บบัญญัติของพระเจ้าจริงๆครับ อย่าให้พลาดในหัวใจของเราที่จะขาดพระบัญญัติของพระเจ้านะครับ เครูปทั้งสองคือเครื่องหมายแห่งพระกรุณาของพระเจ้า ปีกที่กางออกคือเครื่องหมายของการปกป้อง รักษาด้วยพระกรุณาและความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเสมอไปต่อประชากรของพระองค์
o อันที่จริง เครูปความสูงที่อยู่ภายในพระวิหาร และหีบพระบัญญัตินี้อยู่ภายใต้ปีกเครูปที่กางออกนี้ คือเครื่องหมายปกปักษ์รักษาพระกรุณาของพระเจ้าต่อประชากรของพระองค์ตลอดไป “เครูปกางปีกเหนือที่ตั้งของหีบ คลุมหีบและคานหามจากเบื้องบน”

 

• “คานหามหีบพันธสัญญา” มองเห็นได้แต่ไกล...
o ความหมายของคานหามคือการระลึกที่ประชากรของพระเจ้าต้อง “แบกรับพระบัญญัติ หรือถือพระบัญญัติของพระเจ้าตลอดเวลา” ข้อความนี้ชัดเจน พระคัมภีร์เน้นเรื่องคานหามเพื่อจะย้ำว่า พวกเขาต้องถือบัญญัติของพระเจ้า อย่าได้วางหรือละทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้าเด็ดขาดเลยตลอดไป

 

• “แผ่นศิลาจาลึกสองแผ่น”
o ไม่มีอะไรอื่นในหีบพันธสัญญา ชัดเจนมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้พระเจ้าประทับกับประชากรของพระองค์ นอกจากอาศัยความซื่อสัตย์มั่นคงต่อพระบัญญัติขอพระเจ้าเท่านั้น
o ถ้าประชากรซื่อสัตย์ พระเจ้าจะประทับและอวยพร แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ พวกเขาจะไม่ได้รับความรอด
o พี่น้องที่รักเห็นชัดเจนว่า “พระเจ้าประทับอยู่” กับประชากรของพระองค์ โดยทางการถือพระบัญญัติของพระเจ้า ตลอดเวลาที่ผ่านมาแต่เริ่มเดินกับพระองค์ถิ่นทุรกันดาร...

 

• ดังนั้น เมื่อหีบพระบัญญัติประทับ พระเจ้าก็ประทับ “เมฆ” คือ เครื่องหมายของการประทับอยู่อย่างลึกลับของพระเจ้า ไม่มีใครสามารถแลเห็นพระองค์ เมฆปกคลุมจึงเป็นเครื่องหมายของกระประทับอยู่อย่างศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า และพระองค์จะตรัสกับประชากรของพระองค์ผ่านทางพระบัญญัติของพระองค์นี้เอง
o ข้อสังเกต พิธีกรรมของเรามีการถวายกำยาน ควันกำยานรอบพระแท่น ปกคลุมเป็นเครื่องหมายของความศักดิ์สิทธิ์และการประทับอยู่ของพระเจ้าเช่นเดียวกัน...

 

• แม้มีพระวิหารที่ยิ่งใหญ่ แต่พระเจ้าประทับในความลึกลับไม่สามารถแลเห็น ในเมฆที่ปกคลุมเป็นเครื่องหมายของพระองค์ นี่คือความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจริงๆ เครื่องหมายถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าจริงๆ

พี่น้องที่รัก พระเจ้าอวยพรนะครับ ขอให้พระเจ้าประทับอยู่กับเราโดยทางบัญญัติของพระองค์นะครับ ทุกอย่างจากพระคัมภีร์วันนี้เป็นคำสอนสุดยอดสำหรับเราทุกคนจริงๆ


• มีพระเจ้าทางพระวาจาเสมอ ทางบัญญัติแห่งความรักเสมอ เพียงพอจริงๆ ครับ


• “ที่ใดมีความรักและความเมตตา พระเจ้าประทับอยู่ที่นั่น”


• ถ้าเราถือบัญญัติแห่งความรักจริงๆ พระเจ้าสถิตกับเราครับ โดยเฉพาะบรรดาผู้นำทั้งหลาย


เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก