“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2016
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา
         

               วันนี้เรามาอ่านคำภาวนาของดาวิดด้วยกัน เมื่อหีบพระบัญญัติได้เขามาอยู่ในนครของกษัตริย์ดาวิด นครที่ดาวิดปรารถนาให้พระเจ้าประทับอยู่กับท่านและกับประชาชนตลอดไป “เยรูซาเล็ม” (นครแห่งสันติสุข) และเราได้ศึกษาไตร่ตรองมาโดยตลอดจากหนังสือซามูเอลว่า ดาวิดเป็นกษัตริย์ที่พิเศษและโดดเด่น สามารถเป็นต้นแบบแห่งศรัทธาและโดยเฉพาะ “ความรัก” ต่อพระยาห์เวห์จริงๆ และชาวยิวเสมอมาก็รักดาวิด


               วันนี้พ่อเชิญเราให้มาชำแหละคำภาวนาของกษัตริย์ดาวิดต่อพระยาห์เวห์สักหน่อยครับ หวังว่า คำภาวนาของดาวิดต่อพระยาห์เวห์นั้นจะจุดประกายหลายประการในชีวิตของเราครับ พ่อจะจัดเป็นจุดๆ กับตัวบทพระคัมภีร์วันนี้นะครับ จะได้อ่านง่ายๆ และได้เห็นถ้อยคำที่สำคัญๆในคำภาวนานี้...

• ขณะที่พี่น้องอ่านไปสังเกตดีๆ คำว่า “พระยาห์เวห์ หรือข้าแต่พระยาห์ พระเจ้า” เราจะพบคำว่า “ยาห์เวห์” YHWH อักษรฮีบรู יְהוָ֔ה ประกอบด้วยตัวอักษร 4 ตัวอักษรคือ Yod, He, Waw, He ที่ปกติไม่ออกเสียง ถ้าออกเสียงต้องออกว่า “ยาห์เวห์” แต่ถ้าไม่ออกเสียง จะใช้คำวา “องค์พระผู้เป็นเจ้า” (My Lord) แทน เพราะชื่อพระยาห์เวห์เป็นพระนามศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และเมื่อเขียนบันทึกในพระคัมภีร์ จะบันทึกเป็นอักษรสี่ตัว YHWH แต่ไม่ออกเสียงในการอ่าน เพราะเป็นการให้ความเคารพสูงสุดต่อพระนามของพระเจ้า โดยเขียน แต่ไม่ออกเสียงนามนั้น

• พี่น้องอ่านและสังเกตดีๆ จะมีคำว่า יְהוָ֔ה “ยาห์เวห์” ทั้งหมด 12 ครั้ง โดยเจตนาของพระคัมภีร์ตอนนี้หรือไม่พ่อไม่ทราบแน่ชัดนัก แต่ทว่าพ่อได้สังเกตเห็นและพบกว่าการเรียบเรียงแน่นอนโดยการดลใจของพระจิตเจ้า พระคัมภีร์ตอนนี้ผู้นิพนธ์น่าจะมีความมุ่งหมาย สื่อเจตนาให้เกิดคำว่า “ยาห์เวห์” ให้ครบ 12 ครั้ง เพราะดูเหมือนมีตำนานสองสามตำนานมาผสมปนกันเพื่อให้ได้เจตนาที่จะได้พระนาม “ยาห์เวห์” ให้ครบทั้ง 12 ครั้งจริงๆ พ่อตรวจสอบภาษาฮีบรูต้นฉบับที่ได้รับการดลใจแน่นอนแล้ว และพบคำนี้יְהוָ֔ה จำนวนครบดังกล่าว (ข้อสังเกตนี้ต้องใช้พื้นฐานการวิเคราะห์ตัวบททางแบบวรรณกรรม เพื่อบางครั้ง ใช้พระนาม “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า” บางครั้งใช้ “ข้าแต่พระยาห์เวห์ จอมโยธาพระเจ้าแห่งอิสราเอล” น่าจะมีเจตนารวบรวมข้อมูลให้ได้ครบจำนวน 12 ครั้ง ให้ได้ เพราะพระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของประชากรอิสราเอลทั้ง 12 ตระกูล และดาวิดก็เป็นกษัตริย์ปกครองเหนือทั้ง 12 ตระกูลเช่นกัน

• ตอนนี้เรามาเริ่มอ่านพระคัมภีร์ประจำวันนี้เลยนะครับ พ่อขอให้อ่านยาวกว่าในบทอ่านประจำวันที่กระโดดข้ามไปบางส่วน แต่เราจะอ่านข้อ 18-29 เลยนะครับ ให้เรามาสัมผัสความงดงามของภาษาในคำภาวนาขอกษัตริย์ดาวิดด้วยกันครับ
----------------------------------

2ซมอ 7:18-19,24-29…

กษัตริย์ดาวิดเสด็จเข้าไปประทับเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ทูลว่า
1. 'ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นใคร และ
2. ครอบครัวของข้าพเจ้าสำคัญอย่างไร พระองค์จึงทรงนำข้าพเจ้ามาไกลถึงเพียงนี้?
3. ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า พระองค์ยังทรงเห็นว่าทั้งหมดนี้น้อยเกินไป จึงทรงสัญญาถึงอนาคตอันไกลของครอบครัวผู้รับใช้พระองค์
4. ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า พระองค์ทรงปฏิบัติเช่นนี้กับมนุษย์เทียวหรือ ดาวิดจะทูลพระองค์มากกว่านี้ได้อย่างไร
5. ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า พระองค์ทรงรู้จักผู้รับใช้ของพระองค์เป็นอย่างดี? พระองค์พอพระทัยจะกระทำการยิ่งใหญ่ และทรงเปิดเผยแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ ก็เพราะทรงสัญญาไว้
6. ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า พระองค์ทรงยิ่งใหญ่
o ข้าพเจ้าทั้งหลายไม่เคยได้ยินเลยว่า มีผู้ใดเหมือนพระองค์ หรือ
o มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์
o ไม่มีชนชาติอื่นใดในแผ่นดินเหมือนอิสราเอลประชากรของพระองค์
ที่มีพระเจ้าเสด็จมากอบกู้เขา
ทรงทำให้เขาเป็นประชากร
ประทานชื่อเสียงแก่เขา
ทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่น่าสะพรึงกลัว สำหรับแผ่นดินของพระองค์
ทรงขับไล่ชนหลายชาติและเทพเจ้าของเขาออกไปต่อหน้าประชากรของพระองค์? -ซึ่งทรงปลดปล่อยออกจากอียิปต์
พระองค์ทรงสถาปนาอิสราเอลประชากรของพระองค์ให้เป็นประชากรของพระองค์ตลอดไป
7. ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเขา
8. 'ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า บัดนี้ขอทรงรักษาพระสัญญาที่ตรัสไว้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์และครอบครัวตลอดไป ขอทรงปฏิบัติตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้เถิด พระนามของพระองค์จะเป็นที่เลื่องลือตลอดไป และ
9. ทุกคนจะกล่าวว่า "พระยาห์เวห์จอมโยธาทรงเป็นพระเจ้าของอิสราเอล" และเชื้อสายของดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์จะมั่นคงเฉพาะพระพักตร์
10. ข้าแต่พระยาห์เวห์ จอมโยธาพระเจ้าแห่งอิสราเอล พระองค์ทรงเปิดเผยแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ว่า "เราจะสร้างราชวงศ์ให้ท่าน ผู้รับใช้ของพระองค์จึงกล้าภาวนาเช่นนี้ต่อพระองค์
11. ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระวาจาของพระองค์เป็นความจริง พระองค์ทรงสัญญาจะประทานพระพรเหล่านี้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ ขอพระองค์ทรงอวยพรเชื้อสายของผู้รับใช้ของพระองค์ เขาจะได้คงอยู่เฉพาะพระพักตร์ตลอดไป
12. ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า พระองค์ทรงสัญญาแล้ว เชื้อสายของผู้รับใช้จะได้รับพรของพระองค์ตลอดไป'

อรรถาธิบายคำภาวนาของดาวิด
• คำภาวนาของดาวิดเมื่ออยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ดาวิดประกาศถึงความถ่อมตนของตนเอง “ความถ่อมตน” คือจุดเริ่มต้นของคำภาวนา ที่ต้องถ่อมต้น เพราะ “พระยาห์เวห์” คือ พระเจ้าผู้สูงสุด ยิ่งใหญ่ และสมควรที่ผู้ภาวนาจะประกาศถึงความถ่อมตนของตนเอง ความถ่อมตนของดาวิดคือการประกาศถึงความสำนึกถึง “ความเป็นจริงและที่มา” ของตนเอง ดาวิดประกาศ 'ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นใคร และครอบครัวของข้าพเจ้าสำคัญอย่างไร พระองค์จึงทรงนำข้าพเจ้ามาไกลถึงเพียงนี้?”
o พ่อรักประโยคนี้จริงๆ เมื่อพ่อมองดูตนเอง เมื่อพ่ออบรมสามเณรเพื่อเป็นพระสงฆ์ พ่อมักจะถามพวกเขาและถามตนเองเสมอว่า “เรามาไกลขนาดนี้ได้อย่างไร”
o พ่อคิดถึงตนเองในวัยเด็กที่วัดเจ้าเจ็ด บ้านนอกที่ไร้ถนนและไฟฟ้า ไม่มีความเจริญ สมัยก่อนเดินทางมากรุงเทพฯเมืองหลวงต้องใช้เวลาตลอดทั้งวัน พ่อเป็นเด็กบ้านนอกดูไม่มีอนาคตจะไปไหนได้ไกลได้เลย... แต่เมื่อมาถึงวันนี้ คำภาวนาของดาวิดทำให้พ่อเองต้องภาวนาเหมือนกันว่า “ข้าพเจ้าเป็นใคร พระองค์จึงพามาไกลถึงเพียงนี้?”
o จากเด็กชายในอดีตที่อยุธยา เจ้าเจ็ด บ้านนอก... แต่พระเจ้า พระเจ้า เป็นพระองค์ที่ทรงและเห็น ทรงเรียก และเลือก และพาเดินทางมาไกลเพื่อพระประสงค์ของพระองค์ พ่อไม่สามารถปฏิเสธความจริงถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า และความเล็กน้อยต่ำต้อยของตนเอง...
o พ่อเชื่อว่า ถ้าเราทุกคนได้อ่านพระคัมภีร์ในคำภาวนาของดาวิด เราจะเกิดอาการหนึ่งที่สำคัญคือ “ถ่อมตนและถ่อมจิตใจ” เพราะพระเจ้ายิ่งใหญ่ และเรา ไม่มีอะไรจริงๆ ถ้าไม่มีพระองค์

• มิใช่เพียงอดีตที่ไม่น่าเชื่อที่พระเจ้าได้กระทำกับดาวิด แต่ยิ่งกว่านั้นดาวิดมั่นใจว่าสิ่งที่พระเจ้าได้กระทำกับท่านเพื่อท่านว่า พระเจ้าทรงเห็นว่าน้อยไปอีกหรือที่พามาไกลถึงเพียงนี้ เพราะพระองค์
สัญญาอนาคตที่ไกลกว่า ยิ่งใหญ่กว่า ภาษาของคำภาวนานี้ของดาวิดทำให้เรายิ่งเห็นดีกรีความแรงของพระพรในการทรงนำของพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงสัญญามิใช่กับดาวิด แต่กับครอบครัวของดาวิด... เราเห็น “ความสุดยอดของพระเจ้า” และการที่ดาวิดต้องเชื่อมั่นในพระสัญญาของพระองค์จริงๆ “อนาคตก็อยู่ในพระสัญญาของพระองค์”

• “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า พระองค์ทรงปฏิบัติเช่นนี้กับมนุษย์เทียวหรือ” ประโยคนี้ชี้ให้เห็นสองประเด็นคือ
1. มนุษย์ได้รับเกียรติอย่างมาก คนเช่นดาวิดที่ไม่น่าเชื่อว่าพระเจ้าจะประทานเกียรติเช่นนี้
2. พระเจ้าทรงพระกรุณาอย่างมากเหลือล้น เกินกว่าที่จะพรรณนาได้ พระเจ้าทรงดีเหลือเกินสำหรับสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ กล่าวได้ว่า “กิจการที่ทรงกระทำนั้น อัศจรรย์ยิ่งนักสำหรับดาวิด” ดาวิดยอมรับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจริงๆ


• ดังนั้น เนื้อหาของการภาวนา คือการสรรเสริญกระเกียรติ และกิจการจากพระหัตถ์ของพระเจ้า การภาวนาคือการสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า


• ดาวิดเป็นหัวใจ ยอมรับ และรับรู้ว่า “พระเจ้าทรงทราบดีถึงความเป็นจริงของดาวิด” พ่อคิดว่าหนึ่งในเนื้อหาของการภาวนาคือการประกาศ “สารภาพ” ความจริงของตน สำนึกถึงความบกพร่อง ความไม่เหมาะสมของตนต่อพระพักตร์พระเจ้า


• ในการภาวนาของพระศาสนจักรที่สอนเรานั้นอันที่จริงสอดรับกับคำภาวนาขอดาวิด คือ การสำนึกถ่อมตนและสำนึกถึงตัวจริงๆของตนเองและขอโทษพระเจ้า เราเห็นในคำสอนเรื่องการภาวนาของเราคริสตชนต้องประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ประการ คือ
1. การสรรเสริญพระเจ้า
2. การขอบพระคุณพระเจ้า
3. การขอโทษพระเจ้าสำหรับความบกพร่องของเราเอง
4. การวิงวอนขอสิ่งที่จำเป็นจากพระเจ้า


• ในคำภาวนาของดาวิด เราเห็นว่า ดาวิดทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ เมื่ออยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า สิ่งที่ดาวิดทำได้จริงๆ คือ “สรรเสริญพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้า ตระหนักสำนึก และวอนขอพระเจ้า” กล่าวได้ว่า “พระเจ้าคือศูนย์กลางของชีวิต พันธกิจ และคำภาวนาของดาวิด”


• ในคำภาวนา สิ่งที่ดาวิดทำได้คือย้อนมองประสบการณ์ ย้อนคำนึงถึงประวัติศาสตร์ของตน ของชาติอิสราเอล ประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษ และในประสบการณ์ที่กล่าวออกมาในคำภาวนานั้น พระเจ้าทรงเป็นศูนย์กลางและหลักขอประวัติศาสตร์ของดาวิดและของบรรพบุรุษ


• พ่อคิดว่า ยิ่งเราภาวนา ยิ่งเราได้ทบทวนประวัติศาสตร์ของเราในการได้พบกับพระเจ้า หรือประวัติศาสตร์ที่พระเจ้าได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเรา


• การภาวนาคือการทบทวน “ความเชื่อ” เพราะความเชื่อคือประสบการณ์การพบกับพระเจ้า พบกับพระบุคคลของพระเจ้า ในประสบการณ์ของเรา กล่าวได้ว่า ยิ่งเราภาวนา ยิ่งเราทบทวนประวัติศาสตร์ของเรากับพระเจ้า เรายิ่งมีความมั่นคงและอิ่มเอมในความเชื่อ เหมือนเพลงรักที่ฟังบ่อยๆ ร้องบ่อยๆ ยิ่งร้องยิ่งรักมากขึ้น พ่อจึงเชื่อมั่นว่าหลักสำคัญของการภาวนา การเฝ้าอยู่กับพระเจ้า พิศเพ่งพระเจ้า ยิ่งเรากระทำบ่อยๆ ภาวนาบ่อยๆ เรายิ่งใกล้ชิดกับพระเจ้าในความเชื่อมากขึ้นเสมอๆเช่นกัน


• ดาวิดไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร สิ่งที่เรียกร้องสำคัญคือ ขอพระเจ้าได้กระทำตามพระสัญญา หรือเรียกว่า ตามใจพระเจ้าเถิด... การภาวนาไม่ได้เป็นเรียกร้องพระเจ้าให้ทำตามใจเรา และบ่อยครั้งในการภาวนาเราก็ขอ ขอ ขอ ขอให้พระเจ้าทำตามที่เราประสงค์หรือวอนขอ ใช่ครับ เรามีสิทธิ์ที่จะวอนขอ แต่เราต้องไม่ลืมที่จะมั่นใจว่า ใจของพระเจ้า หรือพระประสงค์ของพระเจ้า ยิ่งใหญ่กว่า สำคัญกว่า เห็นการณ์ไกลกว่าที่เรานึกคิด.. ดังนั้น ดาวิดเองได้วิงวอนให้พระเจ้าทำตามพระสัญญาของพระองค์ ในการภาวนาของเรา สำคัญคือ “พระประสงค์จงสำเร็จ” ไม่ใช่ตามใจเราในการภาวนา แต่ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า “ขอทรงปฏิบัติตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้เถิด พระนามของพระองค์จะเป็นที่เลื่องลือตลอดไป”


• ดาวิดย้ำว่า “พระวาจาของพระองค์เป็นความจริง” พ่อเห็นว่า หลักสำคัญในการภาวนา “พระวาจาของพระเจ้า” จะต้องเป็นส่วนสำคัญในการภาวนาของเราเสมอ พระวาจาของพระองค์คือความจริงนิรันดร


• ดังนั้น สำหรับเราคริสตชน เราต้องศรัทธาในพระวาจา และภาวนาโดยอาศัยพระวาจา การอ่านพระคัมภีร์คือการที่เราได้ฟังพระเจ้าตรัสกับเรา การที่เราภาวนาคือการที่พระเจ้าฟังเรา การภาวนาจึงต้องมีพระวาจาของพระเจ้าควบคู่อยู่ด้วยเสมอ เราต้องฝึกใช้พระวาจา มั่นใจในความจริงแห่งพระวาจาขอพระเจ้า


• ที่สุด ในการภาวนาของดาวิด ดาวิดย้ำที่สำคัญเสมอคือ “พระสัญญา” และดาวิดภาวนาหน้าหีบพันธสัญญา และในหีบนั้น คือ “พระบัญญัติ” การภาวนาจะต้อนำเราให้ซื่อสัตย์ต่อพระบัญญัติของพระเจ้าเสมอยิ่งวันยิ่งมากขึ้น และการภาวนาจะต้องทำให้เราเชื่อมั่นในพระสัญญา ผูกมัดเรากับพระเจ้ามากขึ้นเสมอไป... “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า พระองค์ทรงสัญญาแล้ว”

พี่น้องที่รัก พ่อเชื่อว่า พระคัมภีร์วันนี้กำลังสอนเราให้ภาวนา ภาวนาเหมือนดาวิด และการภาวนากำลังเร่งศรัทธาและความเชื่อของเราให้มั่นคงยิ่งขึ้นเสมอ ยิ่งเราภาวนา ยิ่งเราอ่านพระวาจาของพระเจ้า เรากำลังทำให้ความเชื่อศรัทธาของเราได้เติบโตอยู่เสมอ พ่อขอให้เราได้ภาวนา และได้เรียนรู้จักการภาวนาจากแบบอย่าง และความงดงามของคำภาวนาของดาวิดในพระคัมภีร์ประจำวันนี้เสมอครับ พระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก