“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2014
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

มธ: 9:35-10:1, 5ก, 6-8…
35พระเยซูเจ้าเสด็จไปตามเมืองและตามหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนในศาลาธรรม ทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด 36เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง 37แล้วพระองค์ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”
1พระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สิบสองคนเข้ามาพบ ประทานอำนาจให้เขาขับไล่ปีศาจ ให้รักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด 5พระเยซูเจ้าทรงส่งอัครสาวกสิบสองคนนี้ออกไป 6แต่จงไปหาแกะพลัดฝูงของวงศ์วานอิสราเอลก่อน 7จงไปประกาศว่าอาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว 8จงรักษาคนเจ็บไข้ จงปลุกคนตายให้กลับคืนชีพ จงรักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด จงขับไล่ปีศาจให้ออกไป ท่านได้รับมาโดยไม่เสียค่าตอบแทนก็จงให้เขาโดยไม่รับค่าตอบแทนด้วย


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• ต่อจากเรื่องราวที่พระเยซูทรงพบคนตาบอดสองคนที่ร้องขอความเมตตาจากพระองค์ พวกเขาทั้งสองดวงตาหายบอดเพราะความเชื่อในพระเยซู... จากนั้น พระวรสารบันทึกประเด็นสำคัญที่เราควรได้ทบทวน คือ พระเยซูเจ้าพระองค์ทอดพระเนตรเห็น “ความทุกข์ของประชาชน”


• พ่อคิดว่า พระวรสารวันนี้เป็นพระวาจาที่ได้บันทึกคำสอนไว้แสนงดงามมากๆ คือ พระเนตรของพระเยซูเจ้า ที่พระวรสารนักบุญมัทธิวและพระวรสารสหทรรศน์ได้นำเสนอให้เราเห็นโดยตลอด “พระเนตรที่ทรงเห็นความทุกข์ของประชาชน” 


• พ่อเชิญชวนพวกเราวันนี้ให้มาเลียนแบบดวงพระเนตรพระเยซูกันดีกว่าครับ...

o ทรงทอดพระเนตรเห็นประชาชนก็ทรงสงสาร

o พ่อพยายามและคิดว่า เราต้องฝึกฝนกันหน่อยครับ วันนี้ พ่ออยากเชิญชวนพวกเราให้ “ดูกระจก” พิจารณาดวงตาของพวกเราหน่อยครับ ดูจริงๆนะครับ ว่าดวงตาของเราเป็นอย่างไรบ้าง เราทอดพระเนตร คือ ทอดสายตามองดูคนอื่นอย่างดีๆได้ไหม ได้อย่างไร การมอง คือจุดเริ่มต้นจริงๆที่เราพึง “ใส่ใจ” ไม่ทราบว่า เวลาเรามองเพื่อนพี่น้อง มองคนรอบข้าง ดวงตาของเราเป็นอย่างไรบ้าง พ่อเคยดูละคร พ่อเห็นสายตาของนางอิจฉาตาร้อนค้อนกระจาย ตลอดทั้งเรื่องมีแต่สายตาที่ริษยา เรียกว่า ไม่เก่งจริง คงแสดงไม่ได้เพราะว่าตลอดทั้งฉาก ทั้งองก์ ทั้งเรื่อง ต้องมีสายตาที่ค้อนขวับๆๆๆ ตลอดเวลา ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น โกรธ ดวงตาแบบนี้พ่อเห็นบ่อยในทีวี ในชีวิตจริงก็ได้เห็นบ้าง แม้ดูเหมือนไม่มีใครคงกล้ามองพ่อแบบค้อนและเครียดเกียจชังมากนัก แต่พ่อไม่ก็ไม่ทราบว่า มีขนาดไหน แต่ พ่อเชื่อว่า ดวงตาแบบนั้น ไม่น่ารักมากๆ ไม่น่ารักจริงๆ น่าเมื่อยหน้าเมื่อยตา

o พี่น้องที่รัก วันนี้ พ่อเชิญชวนพวกเราให้ฝึก “ทอดพระเนตร ทอดสายตา” คือ การมองทอดไกลไปด้วยความรัก ความหวังดี มีเมตตา ดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกสงสารคนอื่นจับใจ... พ่อคิดว่า เราคริสตชนมีโอกาสมากๆ สำหรับยุคปัจจุบันที่มีคนยากไร้ ยากจน ลำบากมากมาย หรือผู้รอโอกาส ทุพลภาพ ที่ต้องการสายตาที่ห่วงใย...

o เรามาไตร่ตรองและเลียนแบบ จินตนาการสายตาของพระเยซูเจ้ากันนำครับ อ่านพระคัมภีร์ตอนไหนๆ ก็พบพระองค์ในภาพงดงามเสมอ “พระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง”
o ดังนั้น เรามา “ฝึกสายตาแบบพระเยซูกันนะครับ”

• พระเยซูทรง “สงสาร” พ่อคิดว่าตรงนี้เราต้องรีบฝึก และทำให้เป็นธรรมชาติ “สงสาร” กันเสมอ สงสารกันบ้าง นิสัยดีของคริสตชนคือสงสาร หรือมีใจเมตตา “Misericorida” (มีเซรีกอร์ดีอา) คือ “มีความสงสารอยู่ในหัวใจ” ฝึกกันมากๆนะครับ อย่าให้จืด ใจดำ ใจร้าย ไส้ระกำ (เปรี้ยว) เข้าใส่กันเลยนะครับ... พ่อเชิญชวนจริง เป็นคริสตชน ใจไร้ ไร้เมตตา ไม่สงสารกัน พ่อบอกตรงๆ “น่าเกลียด” จริงๆ เราคริสตชนต้องน่ารักมากๆนะครับ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ไปหาคริสตชนน่ารักๆ ดูเปรียบเทียบเอาก็แล้วกัน และช่วยหานักบวช พระสงฆ์ น่ารักสมศักดิ์ศรีดูเป็นตัวอย่างไว้ด้วยก็แล้วกัน... (หวังว่าจะหาได้เยอะๆเลยนะครับ)

• “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”

o ประโยคข้างต้นนี้ พ่อได้ยินแต่พ่อเด็กๆ ดูเหมือนกระแสเรียกมีน้อย พระสงฆ์มีน้อย งานมีเยอะ คนงานของพระเจ้าน้อย พ่อก็เข้าบ้านเณร ก็ได้ยินเสมอ เราต้องหากระแสเรียก ส่งเสริมกระแสเรียก เพราะพระเยซูทรงห่วงใยประชาชน ทรงปรารถนาให้มีศิษย์ คือ บรรดาพระสงฆ์พระสังฆราช ดูและเลี้ยงดูประชากรของพระองค์

o เมื่อก่อน พ่อก็ว่า เณรในบ้านเณรก็มีเยอะนะครับ สมัยพ่อเป็นเณร มีเณรในบ้านเณรใหญ่ปิ่มๆสองร้อย... พ่อก็ว่าเยอะ พระสงฆ์ก็พอควร แต่ ณ ปัจจุบัน พ่อคิดว่า พระวาจาที่ทรงห่วงใย... “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย” 

o พี่น้องที่รักครับ... ยามนี้ พระวาจานี้เราต้องช่วยกันกว่าที่ผ่านมา บ้านเณรใหญ่ของเรา (แห่งประเทศไทย แห่งเดียว) เรามีเณรในบ้านเพียง 80 คนเท่านั้น บ้านเณรเล็กสมัยพ่อเป็นเด็ก เราก็มีเป็นร้อยๆ ตอนนี้ ความจริง เณรกรุงเทพฯของเราในบ้านเณรเล็กมีสักสี่สิบคนเห็นจะได้... นี่การันตีได้เลยว่า ในสี่สิบคนนี้ตามสถิติจนถึงวันบวช รวมเวลาฝึกฝนอบรมเกือบยี่สิบปี เณรเล็ก 40 คนนี้จะได้บวช “ย้ำตามสถิติ” ไม่เกินหกถึงเจ็ดองค์อย่างมาก... เห็นอนาคตเลย... 

o พี่น้องที่รักครับ ครอบครัวก็มีบุตรน้อยลง แรงจูงใจกระแสเรียกก็น้อยลง กระแสโลกพาไปก็แรงขึ้น... ต้องฟังเสียงพระเยซู ต้องภาวนา ต้องช่วยกันส่งเสริมกระแสเรียกเป็นพระสงฆ์กันหนักๆจริงๆแล้วนะครับ
• พระเยซูทรงเรียกบรรดาศิษย์สิบสองคน มอบอำนาจให้พวกเขา “อำนาจ อำนาจ อำนาจ” นี้คืออะไร อำนาจประเภทไหนหนอที่พระองค์มอบให้บรรดาศิษย์... อำนาจปกครอง อำนาจแบบการเมือง อำนาจบาตรใหญ่ที่ไหนหนอ... พระวาจาวันนี้ชี้ให้เห็นอำนาจที่พระเยซูมอบให้ศิษย์ของพระองค์น่าทึ่งครับ ดูสิครับ พ่อแจงเป็นข้อๆ ได้ดังนี้ครับ สุดยอดอำนาจจริงๆครับ
1. ประทานอำนาจให้เขาขับไล่ปีศาจ 
2. ให้รักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด 
3. จงไปหาแกะพลัดฝูงของวงศ์วานอิสราเอลก่อน 
4. จงไปประกาศว่าอาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว 
5. จงรักษาคนเจ็บไข้ 
6. จงปลุกคนตายให้กลับคืนชีพ 
7. จงรักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด 
8. จงขับไล่ปีศาจให้ออกไป

• ครับ 8 ข้อนี้ เรียกร้องเราทุกคนให้ช่วยกันเยียวยารักษาบาดแผลให้สังคมไทย ดูแลรักษาสังคมโลก และร่วมกันรัก เอาใจใส่ พี่น้องเขาเราทุกคน โดยเน้น ผู้ยากไร้อย่างพิเศษนะครับ 

o วันนี้พ่อนั่งเขียนบทเทศน์ไปแล้วก็อมยิ้ม ถามตนเอง.. พ่อเองจะขับไล่ผีได้ไหม จะรักษาโรคเรื้อนได้ไหม...

o พ่อสรุป รักษาโรคเรื้อนฝ่ายวิญญาณของพ่อเอง และไล่ผีร้ายจากตัวพ่อเองก่อนอื่นใครน่าจะต้องเริ่มก่อน รักษาตนเองให้พ้นจากบาป ความชั่วร้ายทั้งหลาย ก่อนอื่นใดครับ

o ที่สำคัญ ปลุกตนเองจากความตายให้กลับคืนชีพดีกว่า จากความตายฝ่ายจิตใจเพราะขาดความรัก หรือตายด้านไม่คิดจะรักและให้อภัย... น่าจะปลุกตนเองให้กลับคืนชีพก่อน

• พ่อเรียกร้องตนเองและพี่น้องทุกท่านครับ พวกเราคริสตชน เราศิษย์พระเยซู เราต้องน่ารัก ต้องยอดเยี่ยม ต้องสุดแสนดีมีเมตตา มีสายตาเหมือนสายพระเนตรของพระเยซูนะครับ ดูกระจกกันมากหน่อย ฝึกฝนกันมากหน่อย ปรับเปลี่ยนนิสัยให้สุดแสนดีกันมากๆ เลยนะครับ


• อ้อ บรรดาศิษย์ผู้รับเลือก คือ นักบวช พระสงฆ์ พระสังฆราช พวกเราก็ต้องเด็ดขาดนะครับ ต้องมุ่งรับใช้ ใจเมตตา มุ่งรักษา เอาใจใส่พี่น้องสัตบุรุษ และที่สำคัญ อย่าทำไปเพื่อหวังค่าตอบแทนนะครับ อย่าทำเพื่อเงิน หรือหลงไปกับอำนาจผิด และอำนาจเงิน เพราะอำนาจะเดียวที่พระเยซูมอบให้คือความรักเมตตาครับ ทรงพลังที่สุดแล้ว


• พี่น้องที่รัก... วันนี้พ่อขอตรงๆ แบบนี้แหละว่า... ถ้าพวกเราพระสงฆ์ นักบวช และพระสังฆราช ถ้าพวกเราศิษย์พระคริสตเจ้าเอาแต่มุ่งเงิน เพื่อเงินเพื่อทรัพย์สมบัติฝ่ายโลก หรือเอาแต่ได้ งกไม่แบ่งปัน ก็จบกัน หมดกัน พวกเราจะไม่ใช่ศิษย์พระเยซูอีกต่อไป หมดสภาพเลยครับ เพราะพระเยซูเจ้าตรัสย้ำชัดเจนว่า “ท่านได้รับมาโดยไม่เสียค่าตอบแทนก็จงให้เขาโดยไม่รับค่าตอบแทนด้วย”
• ขอพระเจ้าอวยพรให้เราคริสตชนทุกคนจงน่ารักกันทั่วหน้า เมตตากันทั่วไทย หัวใจเหมือนพระเยซูจริงๆเลยนะครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก