“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2014
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
วว 18:1-2,21-23;19:1-3,9ก…….
1หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งลงจากสวรรค์ มีอำนาจยิ่งใหญ่ ทำให้แผ่นดินสว่างจ้าด้วยความรุ่งโรจน์ของเขา 2เขาร้องตะโกนเสียงดังว่า “บาบิโลนล่มแล้ว บาบิโลนนครใหญ่ล่มแล้ว กลายเป็นที่อาศัยของบรรดาปีศาจ เป็นที่ขังบรรดาจิตโสโครก เป็นที่ขังบรรดานกโสโครก และเป็นที่ขังสัตว์ร้ายโสโครกและน่ารังเกียจทั้งหลาย
21ทูตสวรรค์ทรงพลังองค์หนึ่งยกหินก้อนหนึ่งใหญ่เท่าหินโม่ทุ่มลงทะเล กล่าวว่า “บาบิโลนนครใหญ่จะถูกทุ่มลงอย่างรุนแรงเช่นนี้ จะไม่มีใครพบเห็นนครนี้อีกเลย”
22จะไม่มีใครได้ยินเสียงคนดีดพิณ คนเล่นดนตรี
คนเป่าขลุ่ย คนเป่าแตรในเจ้าอีกต่อไป
จะไม่มีใครพบเห็นนายช่างใด ๆ ในเจ้าอีกต่อไป
จะไม่มีใครได้ยินเสียงหินโม่ในเจ้าอีกต่อไป


23แสงตะเกียงจะไม่ส่องสว่างในเจ้าอีกต่อไป
จะไม่มีใครได้ยินเสียงเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในเจ้าอีกต่อไป
เพราะบรรดาพ่อค้าของเจ้าล้วนเคยเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
และเวทมนตร์ของเจ้าล่อลวงนานาชาติให้ลุ่มหลง
1ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังในสวรรค์เหมือนเสียงของประชาชนจำนวนมากร้องว่า “อัลเลลูยา ความรอดพ้น พระสิริรุ่งโรจน์ พระอานุภาพเป็นของพระเจ้าของเรา 2เพราะพระองค์ทรงพิพากษาอย่างสัตย์จริงและยุติธรรม พระองค์ทรงพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาผู้เลวร้าย ซึ่งล่วงประเวณี ทำให้แผ่นดินเสื่อมทราม พระองค์ทรงล้างแค้นแทนโลหิตของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่งนางได้ประหาร” 3เสียงนั้นยังร้องอีกว่า “อัลเลลูยา ควันไฟจากนครนั้นจะพลุ่งขึ้นตลอดนิรันดร” 
9ทูตสวรรค์กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “จงบันทึกลงไปว่า ผู้ที่ได้รับเชิญมาในงานวิวาห์มงคลของลูกแกะย่อมเป็นสุข”


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “วิวรณ์หนังสือแห่งความหวัง” 

o ไม่น่าแปลกใจที่หนังสือวิวรณ์นี้ยังคงเป็นหนังสือที่นำความประหลาดใจ นำความแปลกใจสำหรับคริสตชนผู้เสมอ โดยเฉพาะทุกคนที่อ่านวิวรณ์ หลายคนเริ่มอ่านหนังสือวิวรณ์แล้ว ก็ไม่กล้าอ่านต่อ เพราะมีความรู้สึกแปลก ๆ และไม่เข้าใจว่าหนังสือเล่มนี้อยู่ในพระคัมภีร์ได้อย่างไร

o แต่เมื่อเราย้อนพิจารณาอย่างถ่องแท้ คงมิใช่โดยบังเอิญที่พระศาสนจักรในธรรมประเพณีศักดิ์สิทธิ์ ค่อยๆเรียนรู้โดยการดลใจของพระจิตเจ้าได้ตัดสินเลือกให้หนังสือวิวรณ์นี้ เป็นฉบับสุดท้ายในพระคัมภีร์ 

o หนังสือวิวรณ์นี้อันที่จริง... 
1. เป็นพลังบันดาลใจยิ่งใหญ่ 
2. เป็นแรงบันดาลใจให้พระศาสนจักรมองเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ 
3. เป็นพลังเสริมจากสวรรค์โดยแท้สำหรับพระศาสนจักรผู้กำลังเดินทางอยู่ในโลก องค์พระผู้เป็นเจ้า เจ้านาย และเจ้าบ่าวของพระศาสนจักร ทรงเปิดเผยความจริงให้หน้าสุดท้ายของการเผยแสดงในพระคัมภีร์ให้แก่พระ ศาสนจักรเจ้าสาวที่รักของพระองค์ว่า การเดินทางด้วยความยากลำบากในโลกนี้

• สิ่งที่หนังสือวิวรณ์นำเสนอ คือ

o “การต่อสู้ด้วยความซื่อสัตย์ของพระศาสนจักร” นั้น คือ แก่นแท้หรือสาระแห่งชัยชนะของพระศาสนจักร ความเจ็บปวดนั้นเกิดจากที่พระศาสนจักรนี้อยู่บนโลกที่ขาดสมดุลในการเป็นของ พระเจ้า ชัยชนะของพระศาสนจักรที่แท้จริงไม่ได้มาจากคำสัญญาว่าการเบียดเบียนพระ ศาสนจักรในโลกนี้จะสิ้นสุดไปอย่างสิ้นเชิง แต่ทว่าชัยชนะนั้นที่แท้จริงคือการเสริมกำลังความมั่นใจว่าในการเบียดเบียน และทุกข์ระทมนั้นแหละพระศาสนจักรจะมีชัยและจะเดินทางจนถึงที่สุดด้วยความ เพียรทน 

o เพราะอันที่จริงนั้น....พระอาณาจักรของพระเจ้ามิได้อยู่ขอบฟ้าไกลโพ้นหรือ เบื้องสูง แต่พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ที่นี่และเวลานี้เองในพระศาสนจักรที่กำลังร่วม ส่วนในธรรมล้ำลึกปัสกาของพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นศีรษะ

• “ความหวัง” ที่มาจากหนังสือวิวรณ์นี้ คือ “พลังให้พระศาสนจักรมั่นคงยิ่งขึ้น” 

o ในภาวะของการเบียดเบียนแม้ในปัจจุบันนี้เป็นต้นไป...

o แทนที่พระศาสนจักรคือเราทุกคนนี้แทนที่จะถอยหนี หรือหลบหลีกการเบียดเบียน หรือขจัดมันไปนั้น ซึ่งบ่อยครั้งก็เป็นเช่นนั้นด้วย 

o แต่ทว่า... พระศาสนจักรจะเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงของโลก และมั่นใจในพระคริสตเจ้าว่าพระองค์ทรงอยู่กับพระศาสนจักร และพระศาสนจักรก็จะเดินหน้าต่อไปในการประกาศความรักและความรอดพ้นที่มาจาก องค์พระคริสตเจ้าและธรรมล้ำลึกปัสกาของพระองค์

• เราจึงต้องอ่านหนังสือวิวรณ์ ไม่ใช่ในฐานะที่หนังสือที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในยุคสุดท้ายของประวัติศาสตร์ ไม่ใช่แม้กระทั่งหนังสือที่กล่าวถึงเหตุการณ์ร่วมสมัยกับผู้นิพนธ์ นั่นคือการที่พระศาสนจักรต้องขับเคี่ยวกับจักรวรรดิโรมันและกับชาวยิว เท่านั้น 

o แต่เร้าต้องอ่านวิวรณ์ในฐานะหนังสือที่กล่าวถึงการสู้รบระหว่างพระเยซูคริสตเจ้ากับซาตาน การสู้รบเช่นนี้ยังคงยืดเยื้ออยู่ตลอดไป 

o จากการสู้รบนี้และมีมาอยู่เสมอ..... เพราะการเบียดเบียนพระศาสนจักรในสมัยแรกนั้นนับเป็นเหมือนฉากแรกเท่านั้น และการเบียดเบียนในสมัยแรกๆนั้น กำลังเป็นแบบอย่างของสิ่งที่จะเป็นมาในการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต เจ้า 

o หนังสือวิวรณ์จึงเป็นหนังสือที่แจ้งให้เราทราบไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะต้องเกิด ขึ้นเมื่อสิ้นพิภพ แต่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดอยู่ทุกขณะของประวัติศาสตร์ของโลก 

o พระศาสนจักรซึ่งกำลังถูกเบียดเบียนและถูกขัดขวางในการประกอบภารกิจที่ได้รับ มอบหมายมานั้น แม้ในพระศาสนจักรส่วนเล็กที่สุดคือครอบครัวและสังคมย่อย ๆ ของคริสตชน ล้วนกำลังมีส่วนร่วมในชัยชนะของพระคริสตเจ้า

• หนังสือวิวรณ์จึงเป็น “ความหวัง ความชื่นชมยินดี ช่วยให้คริสตชนมีความเพียรจนถึงที่สุด” “ท่านจะได้ชีวิตของท่านรอดก็โดยความเพียรทนของท่าน” (ลก 21:19) 


• หนังสือเล่มนี้จึงจบลงด้วยเสียงร้องก้องกังวาน เชิญให้พระคริสตเจ้าทรงแสดงองค์ในตอนสุดท้าย “อาแมน ข้าแต่พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า เชิญเสด็จมาเถิด” (22:20)

• สรุปวิวรณ์เพื่อพลังชีวิตปัจจุบันของเรา

o พระศาสนจักร เจ้าสาวของพระคริสตเจ้า คือเราทุกคน อยู่ในโลก แต่ไม่เป็นของโลก

o ปัจจุบันโลกหยิบยืนกระแสโลกนิยมที่รุนแรง กระแสที่เบียดเบียนและเบียดบังความดี ความสัตย์ซื่อ กระแสที่กำลังท้าทายพระศาสนจักร

o พี่น้องคริสตชนที่รักครับ.. เราคริสตชนไม่ต้องกลัวนะครับ.. เพราะบาบิโลน หรือกระแสโลกที่เบียดเบียนรุนแรง.. ที่สุดล่ม โรมอาณาจักรที่เบียดเบียนคริสตชนก็ล่มแล้วจริงๆ วิวรณ์วันนี้ย้ำให้เห็นชัดว่า... “บาบิโลนล่มแล้ว บาบิโลนนครใหญ่ล่มแล้ว กลายเป็นที่อาศัยของบรรดาปีศาจ เป็นที่ขังบรรดาจิตโสโครก เป็นที่ขังบรรดานกโสโครก และเป็นที่ขังสัตว์ร้ายโสโครกและน่ารังเกียจทั้งหลาย” 

o พระเจ้าจะได้รับชัยชนะแน่นอน... “เพราะพระองค์ทรงพิพากษาอย่างสัตย์จริงและยุติธรรม พระองค์ทรงพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาผู้เลวร้าย ซึ่งล่วงประเวณี ทำให้แผ่นดินเสื่อมทราม พระองค์ทรงล้างแค้นแทนโลหิตของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่งนางได้ประหาร” เสียงนั้นยังร้องอีกว่า “อัลเลลูยา ควันไฟจากนครนั้นจะพลุ่งขึ้นตลอดนิรันดร”

o ดังนั้น เราคริสตชนต้องออกแรง และมีความหวังตลอดไปในพระคริสตเจ้า ไม่กลัวการท้ายทาย แต่นี่คือฉากชีวิตที่เราพระศาสนจักร สมาชิกทุกคน ต้องมุ่งเพียรทน และประกาศการเป็นข่าวดี 


o เราต้องเป็น... ตองเป็นให้ได้... คือ 
1. เป็นเกลือดองโลก และ
2. เป็นแสงสว่างของพระคริสตเจ้าตลอดไป

• อ่านพระคัมภีร์กันต่อนะครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ เราจะ “เป็นสุข” เพราะวิวรณ์ยืนยันว่า “ทูตสวรรค์กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “จงบันทึกลงไปว่า ผู้ที่ได้รับเชิญมาในงานวิวาห์มงคลของลูกแกะย่อมเป็นสุข” เมื่อเราได้เชื่อศรัทธาในพระคริสตเจ้าเสมอไป......

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก