ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2017
(หลังวันพุธรับเถ้า)
ฉธบ 30:15-20 / ลก 9:22-25
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                             

           เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับทรมานเป็นอันมาก จะถูกบรรดาผู้อาวุโส มหาสมณะและธรรมาจารย์ปฏิเสธไม่ยอมรับ และจะถูกประหารชีวิต แต่จะกลับคืนชีพในวันที่สาม”

 หลังจากนั้น พระองค์ตรัสกับทุกคนว่า “ถ้าผู้ใดอยากติดตามเราก็จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนทุกวันและติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิต ผู้นั้นจะต้องสูญเสียชีวิต แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตเพราะเรา ผู้นั้นจะรักษาชีวิตได้ มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่จะได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิตและพินาศไป”

 (พระวาจาของพระเจ้า)

-----------

 ในความเป็นจริง มหาพรต
 ไม่ใช่ เลิก แล้วรอเวลากลับมาอีก
 ลด แล้ว รอเวลาเพิ่มเติม
 ละ แล้ว รอโอกาสนำกลับมา
 เลิก ลด ละ มหาพรต เป็น "การฝึกฝน"
 การฝึกฝน ให้เป็นคนลด เพื่อจะไม่เพิ่มจนเกินความจำเป็น จะควบคุม จะจัดการให้ตนเองมีพอเพียง ไม่ไขว่คว้าหาจนเบียดเบียน
 การฝึกฝนให้ ตนเป็นคนละ จะไม่ฉวยโอกาส ไม่เอามา ไม่เอาคืน ไม่แสวงหาจนโลภโมโทสัน จนเก็บกักตัวตวง จนละเมิด ล่วงเกิน ล้ำเส้น บุคคลอื่น

 การฝึกฝน ให้เป็นคนเลิก จะได้ควบคุม มีขอบเขต มีพื้นที่จำกัด ไม่ปล่อย ไม่ไหล ไม่ไปตามกระแสจนหยุดไม่ได้ เลิกไม่ได้ไปตามน้ำ
 ซึ่งตรงกับหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติอธิบายกระบวนการความคิดว่า

 "ในวันนี้ ข้าพเจ้ากำลังเสนอให้ท่านเลือกชีวิตหรือความตาย เลือกความดีหรือความชั่ว" หรือ กระบวนการฝึกฝนที่นักบุญลูกาบอกว่า

 “ถ้าผู้ใดอยากติดตามเราก็จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนทุกวันและติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิต ผู้นั้นจะต้องสูญเสียชีวิต แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตเพราะเรา ผู้นั้นจะรักษาชีวิตได้"
 ลด ละ เลิก จึงการฝึกฝน ไม่ใช่ ชีวิตล่มจม ล้มหาย ตายจาก เนื่องจากไม่ควบคุม ปล่อยไหลตาม ทำเพื่อตามใจตน