“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 4 ตุลาคม 2017
สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา
ระลึกถึงนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี
ลก 9:57-62
      57ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินตามทางพร้อมกับบรรดาศิษย์ ชายผู้หนึ่งทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะติดตามพระองค์ไปทุกแห่งที่พระองค์จะเสด็จ 58พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง นกในอากาศยังมีรัง แต่บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะ”


59พระองค์ตรัสกับอีกคนหนึ่งว่า “จงตามเรามาเถิด” แต่เขาทูลว่า “ขออนุญาตให้ข้าพเจ้าไปฝังศพบิดาของข้าพเจ้าเสียก่อน” 60พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงปล่อยให้คนตายฝังคนตายของตนเถิด ส่วนท่านจงไปประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้า”
61อีกคนหนึ่งทูลว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะตามพระองค์ไป แต่ขออนุญาตกลับไปร่ำลาคนที่บ้านก่อน” 62พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ผู้ใดที่จับคันไถแล้วเหลียวดูข้างหลัง ผู้นั้นก็ไม่เหมาะสมกับพระอาณาจักรของพระเจ้า”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• ถ้อยคำของพระเยซูเจ้ายังดังก้องอยู่ในใจ พ่อได้ยินมาตั้งแต่พ่อเป็นเด็ก เป็นคำที่ทำให้พ่อหลงใหลได้ปลื้มจริงๆ และก็รู้สึกดีจริงๆ ที่ได้ยินถ้อยคำนี้ “จงตามเรามาเถิด”
o พ่อได้เลือกตามเสียงเรียกนี้มา พ่อได้เลือกรักเสียงนี้มาตลอด และอยากตามพระเยซู ถามว่าพ่อรู้จักพระองค์ดีที่สุดไหม
o พ่อตอบว่า ปัญญาเล็กน้อยของพ่อ จะรู้จักพระองค์อย่างดีที่สุดได้อย่างไร ช่างเหมือนกับวิดน้ำทะเลใส่รูปูและหวังจะให้ทะเลแห้งไป... (เทียบออกัสติน) หรือเปรียบเหมือนหน่วยความจำเพียงเล็กน้อยในหัวของพ่อ จะบรรจุข้อมูลยิ่งใหญ่คือพระเยซูเจ้าได้อย่างไร หัวคิดของพ่อความจำของพ่อเล็กน้อยเกินไป

• แต่เสียงของพระองค์น่าหลงใหล ฟังแล้วปลื้มใจ.. ทำให้อยากติดตาม อยากเป็นเหมือนแม้ไม่มีวันเหมือนได้เลย...
o พระวาจาของพระองค์จูงใจ ตรัสเรียก “จงตามเรามาเถิด” พระวาจานี้ที่ทำให้พ่อมีความสุขใจและมีความประทับใจมากที่สุด และอยากตามพระองค์มาตั้งแต่เด็ก
o บางเวลาพ่ออาจลืมไปบ้างว่าตามเสียงเรียก “กระแสเรียก” ที่พระองค์เรียก อาจเคว้งคว้างอยู่ในนภากาศอันกว้างใหญ่ ฟังเสียง ดูแสงมากมาย จนอาจลืมฟังเสียงพระองค์ แต่เมื่อหันกลับมาพิจารณา ก็รู้ว่าพระองค์เรียกอยู่เสมอไม่เคยปล่อยพ่อไป
o ทรงเรียกทุกวัน ทรงรักทุกวัน แม้มีหลายวันที่พ่อลืมฟังพระองค์ แต่ก็ทรงเรียกอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้น... เพราะพระองค์ทรงรักเราทุกวัน แม้มีบางวันหรือหลายวันที่เราไม่ได้รักพระองค์หรือลืมพระองค์เลย

• พระวาจา “จงตามเรามาเถิด” เป็นวาจาที่ทรงพลังและอ่อนหวาน เรียกร้องให้เราออกเดินทาง ออกเดินทางเพื่อติดตามพระองค์...
o การเรียก เรียกให้ออกจาก คือ ออกจากบ้าน จากครอบครัว จากพี่น้อง จากแผ่นดิน เท่านั้นหรือ... แล้วจะไปไหน ในเมื่อพระองค์ตรัสว่า “สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง นกในอากาศยังมีรัง แต่บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะ”
o พระวาจานี้ท้าทายมาก การจะละจากทุกสิ้งเพื่อไปติดตามพระองค์ ผู้ตรัสว่า “พระองค์ไม่มีที่จะวางศีรษะ” ความหมายตรงนี้ลึกซึ้งมาก... แล้วเราจะทิ้งบ้านของเรา ไปติดตามคนไร้บ้านอย่างเช่นพระองค์ เรียกว่า นกยังมีรัง สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง แต่พระองค์ไม่มี... พ่อคิดว่า เรื่องแบบนี้ถ้ามองในแง่ของความมีอย่างที่พระองค์ตรัสก็คงจบ เพราะพระองค์ยืนยันว่า พระองค์ไม่มี แต่ แต่ แต่.... พระองค์ “เป็น” I AM นี่สิที่สำคัญ การเป็นสำคัญกว่าการมี

• ถ้าพ่อจะเปรียบเทียบประสบการณ์... ความรักของหนุ่มสาวในสมัยก่อน ถ้ารักมาก รักกันจริงๆ และนี่คือหลักการ “พร้อมจะก้าวเดิน ร่วมชีวิต ไปด้วยกัน ไม่ว่ายามสุข หรือยามทุกข์ ยามมีหรือยามไม่มี... เวลาป่วยหรือเวลาสบาย... เพราะขอเป็นให้เป็นของกันและกัน เพียงมีกันและกัน” ใช่ครับ พ่อตั้งแต่เด็ก ได้เห็น ได้ดูละคร ได้เห็นชีวิต คนสองคนรักกัน แม้น้ำขวางหน้าแม้ฟ้าขวางกัน... ทั้งสองก็ไปพบกันจนได้ ถ้าต้องหนีตามกันไปตายเอาอาบหน้า หนุ่มสาวก็พร้อมจะออกไป พร้อมจะก้าวออกไป หนีตามกันไป เพราะเขาทั้งสองมีกันและกัน เป็นของกันและกัน เท่านั้นพอ ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว...
o ใช่บ่อยครั้ง ความรักของคู่รักทำให้พร้อมจะหนีตามกันไป
o ตำนานความรักก้องโลกที่พร้อมจะตายตามกันดังโรเมโอกับจูเลียตก็มีให้เห็นมากมาย
o ความรักทำให้คนเราพร้อมจะก้าวไปด้วยกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่า จะมีหรือจน หรือไม่มีอะไรเลย จะอดตายแค่ไหน ขอให้เรามีกันและกัน เป็นของกันและกัน นี่คือความรัก
o ความรักแบบนี้ โง่ในสายตาของคนมากมาย จนได้ชื่อว่า “ตาบอด” แต่หามิได้ เขามิได้ตาบอด แต่เขารักกันจริงๆ เขาพร้อมจะออกจากความปลอดภัยทุกอย่าง ออกจากความมีทุกอย่างเพื่อไปมีกันที่เป็นบุคคลสองคน..เพราะความรัก คนรักเป็นของเขา เขาเป็นของคนรัก...

• พี่น้องที่รัก กระแสเรียกเป็นเช่นนี้ ความรักต่อเสียงเรียกของพระเยซูเจ้า “จงตามเรามาเถิด” มีอะไรหรือไม่ไม่สำคัญของให้มีพระเจ้า

• วันนี้พ่ออยากให้เราได้ฟังเสียงของพระเจ้าที่เรียกเราทุกคน ไม่ใช่เพียงพระสงฆ์ นักบวช ไม่ใช่ครับ แต่ทุกคน “คริสตชน” ทุกคนได้รับเรียบให้มาติดตามพระคริสตเจ้าในฐานะที่แตกต่างกัน ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่ากันหรอกครับ... อย่าคิดว่าเป็นพระสงฆ์พิเศษกว่ามาก... เป็นสังฆราชพิเศษกว่ามาก มีครอบครัวก็เป็นกระแสเรียกยิ่งใหญ่ เรียกว่า “ยิ่งใหญ่ที่สุด” ก็ว่าได้ เพราะพระเยซูเจ้าก็เกิดมาในครอบครัวศักดิ์สิทธิ์นะครับ พระองค์ไม่ได้เสด็จลงมาจากฟ้าแบบไร้ครอบครัวและญาติมิตร

• พ่ออยากให้เราได้รับฟัง ได้รัก ได้ติดตามพระคริสตเจ้าทุกคน ในช่องทางกระแสเรียกที่เราเดินไป ในครอบครัว ในสังคมโลก หรือในวัดที่เป็นพระสงฆ์ ขอเพียงให้เราได้เป็นของพระคริสตเจ้า ได้มีพระองค์เสมอในชีวิตของเรา นั่นสวยงามและล้ำค่าที่สุด

• เลือกพระองค์ อย่ากังวลกับสิ่งใด้ ออกไปตามพระองค์ ออกจากตัวเอง สำคัญมาก “ออกจากตัวเอง ความเป็นตัวตนของเรา และให้พระองค์ซึ่งยิ่งใหญ่กว่ามากมาย ดีกว่ามากมายได้เป็นตัวตนของเราแทน ยอมหลอมตัวเราให้เป็นเหมือนพระองค์เสมอนะครับ...

• วันนี้ พ่ออยากให้เราทุกคนมั่นใจว่า “พระองค์กำลังเรียกเรา เพราะรักเราทุกคน” กระแสเรียก เสียงเรียก ความเป็นคริสตชนที่เราได้รับมา คือ “ความรัก” ครับ ขอพระเจ้าอวยพรให้เราได้ตอบสนองเสียงเรียกของพระองค์ เป็นคริสตชนที่ดียอดเยี่ยมทุกวันเสมอไป ขอพระเจ้าอวยพรครับ

• กล่าวถึงนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีหน่อยครับ

• “ฟรังซิสแห่งอัสซีซี”
o บรรยากาศที่เมืองอัสซีซี เมืองที่แสนสงบ เมืองบนภูเขาในอารยธรรมอุมเบรีย
(Umbria) พ่อชอบที่นี่มาก สงบ และมีลักษณะของฟรังซิสชัดเจนมาก “Pace e Bene” (ปาเช เอ เบเน = สันติภาพและความดี)

• พี่น้องคิดถึงภารกิจของนักบุญฟรังซิส
o ในเวลาแห่งความฟุ้งเฟ้อของพระศาสนจักร
o ในเวลาที่พระศาสนจักรกำลังอ่อนแอเพราะความร่ำรวยและฟุ้งเฟ้อ
o เวลานั้นความร่ำรวยมีความหมายว่าอะไร เมื่อพระคริสตเจ้าตรัสสั่งฟรังซิสด้วยเสียงจากไม้กางเขนที่อัสซีซี “ฟรังซิสจงไปซ่อมแซมวัด (พระศาสนจักรของเรา)” เสียงนั้นหมายถึงซ่อมแซมวัดนักบุญดามีอาโน หรือหมายถึงซ่อมแซมสังคมพระศาสนจักรคือบรรดาสถาบันของพระศาสนจักร ผู้ใหญ่ที่กำลังหลงไปกับความมั่งคั่งจนทอดทิ้งคนยากจน
o เรามีบทภาวนาของนักบุญฟรังซิสนั้น เราควรที่จะนำมาไตร่ตรองในวันนี้เป็นพิเศษ เพื่อนำ “สันติภาพและความดี”

• เพื่อจะเป็นผู้สร้างสันติ สิ่งที่ต้องถามคือ เราแต่ละคนมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าเพียงใด

• ให้เราคิดถึงเพื่อนพี่น้องของเราอีกครั้ง โดยเฉพาะบรรดาผู้เล็กน้อยที่เขาอยู่กับเรา ในความดูแลของเรา เมื่อพวกเขาได้พบเรา พวกเขาได้พบสันติสุขและความดีใช่ไหม?

• เราสร้างสันติแก่กันและกันเพียงใด

• ไม่แปลใจหรือที่เรามีพระสันตะปาปาชื่อฟรังซิส เป็นครั้งแรกให้ประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร ไม่เคยมีพระสันตะปาปาองค์ใด... ไม่เคยมีที่จะคิดจะใช้ชื่อนักบุญที่แสนยากจนเพื่อประกาศพระอาณาจักรแห่งสันติเช่นพระสันตะปาปาพระองค์นี้ ทั้งที่นักบุญฟรังซิสเป็นหนักบุญอันดับต้นๆ ในประเทศอิตาลี น่าคิดจริงๆ บ่อยครั้ง เรากล่าวถึง “ความงดงามแห่งความยากจน” Beauty of Poverty แต่คงอยากที่เราจะกล้าเดินเคียงคนยากจนด้วยการยากจนด้วยกันกับเขา...

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก