“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2017
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต
ยน 5:31-47 (พ่อคัดมาให้อ่าน ตั้งแต่ ข้อ 19-47)
พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า

“เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
พระบุตรไม่ทำสิ่งใดตามใจของตน


แต่ทำเฉพาะสิ่งที่ได้เห็นพระบิดาทรงกระทำเท่านั้น
เพราะสิ่งใดที่พระบิดาทรงกระทำ พระบุตรก็ย่อมทำเช่นเดียวกัน
20เพราะพระบิดาทรงรักพระบุตร
และทรงแสดงให้พระบุตรเห็นทุกสิ่งที่ทรงกระทำ
และจะทรงแสดงให้พระบุตรเห็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีก
เพื่อให้ท่านทั้งหลายรู้สึกประหลาดใจ
21พระบิดาทรงทำให้ผู้ตายกลับคืนชีวิต และประทานชีวิตให้ฉันใด
พระบุตรก็ประทานชีวิตให้แก่ผู้ที่พอพระทัยฉันนั้น
22เพราะพระบิดาไม่ทรงพิพากษาผู้ใด
แต่ทรงมอบการพิพากษาทั้งหมดให้พระบุตร
23เพื่อทุกคนจะได้ถวายพระเกียรติแด่พระบุตร
ดังที่เขาถวายพระเกียรติแด่พระบิดา
ผู้ที่ไม่ถวายพระเกียรติแด่พระบุตร
ก็ไม่ถวายพระเกียรติแด่พระบิดาผู้ทรงส่งพระบุตรมา
24เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ผู้ที่ฟังวาจาของเรา
และมีความเชื่อในพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา
ก็ย่อมมีชีวิตนิรันดร
และไม่ต้องถูกพิพากษา
แต่เขาได้ผ่านจากความตายเข้าสู่ชีวิตแล้ว
25เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
เวลานั้นกำลังจะมาถึง และขณะนี้ก็กำลังเริ่มแล้ว
เมื่อผู้ตายจะได้ยินพระสุรเสียงของพระบุตรพระเจ้า
และผู้ที่ได้ยินแล้วจะมีชีวิต
26เพราะพระบิดาทรงมีชีวิตในพระองค์ฉันใด
พระองค์ก็ประทานให้พระบุตรมีชีวิตในพระองค์เองฉันนั้น
27พระบิดาได้ประทานให้พระบุตรมีอำนาจพิพากษา
เพราะพระบุตรทรงเป็นบุตรแห่งมนุษย์
28ท่านทั้งหลายอย่าแปลกใจในเรื่องนี้เลย
เพราะถึงเวลาแล้วที่ทุกคนในหลุมศพจะได้ยิน
พระสุรเสียงของพระบุตร
29และจะออกมา
ผู้ที่ได้ทำความดีจะกลับคืนชีวิตมารับชีวิตนิรันดร
ส่วนผู้ที่ทำความชั่ว ก็จะกลับคืนชีวิตมารับโทษทัณฑ์
30เราทำอะไรตามใจของเราไม่ได้
เราได้ยินมาอย่างไร เราก็พิพากษาอย่างนั้น
และคำพิพากษาของเราก็ถูกต้อง
เพราะเรามิได้แสวงหาที่จะทำตามใจของเรา
แต่ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา
31ถ้าเราเป็นพยานยืนยันให้ตนเอง
คำยืนยันของเราก็ใช้ไม่ได้
32แต่ยังมีอีกผู้หนึ่ง ที่เป็นพยานยืนยันให้เรา
และเรารู้ว่า คำยืนยันของเขาถึงเรานั้นเป็นความจริง
33ท่านทั้งหลายได้ส่งคนไปถามยอห์น
และยอห์นก็ได้เป็นพยานยืนยันถึงความจริง
34เราไม่ต้องการคำยืนยันจากมนุษย์
แต่เรากล่าวเช่นนั้นเพื่อท่านทั้งหลายจะได้รอดพ้น
35ยอห์นเป็นเหมือนตะเกียงสว่างไสวที่จุดอยู่
ท่านทั้งหลายก็พอใจที่จะชื่นชมกับแสงสว่างของเขาอยู่ชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น
36แต่เรามีคำยืนยันที่ยิ่งใหญ่กว่าคำยืนยันของยอห์น
คืองานที่พระบิดาทรงมอบหมายให้เราทำจนสำเร็จ
งานที่เรากำลังทำอยู่นี้
เป็นพยานถึงเราว่าพระบิดาทรงส่งเรามา
37พระบิดาผู้ทรงส่งเรามา
ยังทรงเป็นพยานถึงเราอีกด้วย
ท่านทั้งหลายไม่เคยได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์
ทั้งไม่เคยเห็นพระพักตร์ของพระองค์
38และพระวาจาของพระองค์ไม่เคยอยู่ในท่าน
เพราะท่านไม่มีความเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา
39ท่านทั้งหลายค้นคว้า พระคัมภีร์
เพราะคิดว่าท่านจะพบชีวิตนิรันดรได้ในพระคัมภีร์นั้น
พระคัมภีร์นี้เองเป็นพยานถึงเรา
40แต่ท่านก็ไม่ยอมมาหาเราเพื่อจะมีชีวิต
41เราไม่ต้องการเกียรติจากมนุษย์
42แต่เรารู้จักท่านทั้งหลาย
เรารู้ดีว่าท่านไม่รักพระเจ้าเลย
43เรามาในพระนามของพระบิดา
แต่ท่านทั้งหลายมิได้ต้อนรับเรา
ถ้าผู้อื่นมาในนามของตน
ท่านทั้งหลายก็ต้อนรับเขา
44แล้วท่านจะมีความเชื่อได้อย่างไร
เมื่อท่านแสวงหาเกียรติจากกันและกัน
แต่ไม่แสวงหาเกียรติที่มาจากพระเจ้าพระองค์เดียว
45ท่านทั้งหลายอย่าคิดว่า
เราจะกล่าวหาท่านเฉพาะพระพักตร์พระบิดา
ผู้ที่กล่าวหาท่านมีอยู่แล้ว คือโมเสส ซึ่งท่านไว้วางใจ
46ถ้าท่านเชื่อโมเสสจริงๆ
ท่านก็คงจะเชื่อเราด้วย
เพราะโมเสสได้เขียนถึงเรา
47แต่ถ้าท่านไม่เชื่อข้อเขียนของโมเสส
ท่านจะเชื่อวาจาของเราได้อย่างไร”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• พี่น้องที่รักครับ วันนี้พ่อคัดพระวาจาที่มาจากพระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ 5 ตามกำหนดให้อ่านในมิสซาประจำวัน แต่พ่อคัดมายาวกว่าหน่อย คือเริ่มจากข้อที่ 19 จนถึ 47

• ประเด็นสำคัญของวันนี้พ่ออยากให้เราอ่านเหมือนกับการฟังเพลงวรรณกรรมที่ร้อยเรียง พระโอวาทของพระเยซูที่ตรัส พ่ออยากให้เราเห็นการเผชิญหน้ากันของพระเยซูเจ้ากับชาวยิว การที่พวกเขายึดมั่นในพระวาจา
o พ่อเน้นว่า คำว่าพระวาจานี้หมายถึงพันธสัญญาเดิมที่เป็นหนทางสำคัญเพื่อมาถึงพระเยซู ใช่สำคัญมาก แต่พันธสัญญาเดิมคือหนทางสำคัญ แต่พวกเขาต้องผ่านหนทางนั้น ที่ “จำเป็น” เพื่อพบพระเยซู เพื่อได้ฟังพระเยซูและปฏิบัติตามพระวาจาและเดินตามพระองค์ไป แต่น่าเสียดาย พวกเขายึดติดกับหนทางที่จำเป็น แต่ไม่ยอมรับปลายทางที่สำคัญคือพระเยซู
o พี่น้องดูถ้อยคำนี้ดีๆสิครับ

38และพระวาจาของพระองค์ไม่เคยอยู่ในท่าน
เพราะท่านไม่มีความเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา
39ท่านทั้งหลายค้นคว้า พระคัมภีร์
เพราะคิดว่าท่านจะพบชีวิตนิรันดรได้ในพระคัมภีร์นั้น
พระคัมภีร์นี้เองเป็นพยานถึงเรา
40แต่ท่านก็ไม่ยอมมาหาเราเพื่อจะมีชีวิต

• พี่น้องที่รัก วันนี้พ่ออยากให้เราได้อ่านพระวาจา ถ้อยคำของพระเยซูในพระโอวาทในบทนี้ และไตร่ตรองด้วยกันอย่างพิเศษ
o พระวาจาของพระเจ้าอยู่ในตัวเราหรือเปล่า
o เรามีความเชื่อในพระเจ้าจริงๆหรือไม่
o เราเชื่อในพระองค์เยซูที่พระบิดาเจ้าทรงส่งมาหรือเปล่า
o เราค้นคว้าในพระคัมภีร์จริงๆ ไหม เพื่อพบ “ชีวิตนิรันดร”ชีวิตนิรันดรที่ต้องปรากฎใน “พระบุคคลของพระเยซู”
o ในชีวิตของพี่น้องของเรา เราพบพระเยซูในชีวิตของเขาจริงๆไหม

• พี่น้องที่รัก ประโยคนี้พระเยซูเจ้าตรัส “พระคัมภีร์นี้เองเป็นพยานถึงเรา แต่ท่านก็ไม่ยอมมาหาเราเพื่อจะมีชีวิต”
o ใช่แล้ว พระคัมภีร์ โดยเฉพาะพันธสัญญาเดิมเป็นพยานถึงพระเยซู พระองค์ยืนยัน และเราจำที่ต้องการ “พยาน” แต่พยาน เพื่อนำเราไปสู่ความจริง คือ “พระเยซู”
o ดังนั้นพี่น้องที่รัก พ่อขอเชิญชวนพวกเราให้แสวงหาพระเยซูเพื่อ “มีชีวิตเสมอ” ทุกวัน

• วันนี้พ่ออยากให้พระวาจาที่พระองค์ตรัสได้เข้าสู่จิตใจของเราอย่างเงียบๆ
o พ่อแนะนะ อ่านช้าๆ อ่านให้ลงลึกในหัวใจของเรา
o อ่านพระวาจาที่พ่อคัดมานี้ดีๆ เราจะเห็นคุณค่า เห็นความรักของพระเจ้า
o และที่สำคัญ เราจะได้พบพระเจ้าอย่างเงียบ เพราะพระองค์ตรัสกับเรา

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก