“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2017
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต
ลก 16:19-31…
19‘เศรษฐีผู้หนึ่ง แต่งกายหรูหราด้วยเสื้อผ้าเนื้อดีราคาแพง จัดงานเลี้ยงใหญ่ทุกวัน 20คนยากจนผู้หนึ่งชื่อลาซารัส นอนอยู่ที่ประตูบ้านของเศรษฐีผู้นั้น เขามีบาดแผลเต็มตัว 21อยากจะกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของเศรษฐี (22)มีแต่สุนัขมาเลียแผลของเขา


22วันหนึ่ง คนยากจนผู้นี้ตาย ทูตสวรรค์นำเขาไปอยู่ในอ้อมอกของอับราฮัม เศรษฐีคนนั้นก็ตายเช่นเดียวกัน และถูกฝังไว้ 23‘เศรษฐีซึ่งกำลังถูกทรมานอยู่ใแดนผู้ตาย แหงนหน้าขึ้น มองเห็นอับราฮัมแต่ไกล และเห็นลาซารัสอยู่ในอ้อมอก 24จึงร้องตะโกนว่า “ท่านพ่ออับราฮัม จงสงสารลูกด้วย กรุณาส่งลาซารัสให้ใช้ปลายนิ้วจุ่มน้ำมาแตะลิ้นให้ลูกสดชื่นขึ้นบ้าง เพราะลูกกำลังทุกข์ทรมานอย่างสาหัสในเปลวไฟนี้” 25แต่อับราฮัมตอบว่า “ลูกเอ๋ย จงจำไว้ว่า เมื่อยังมีชีวิต ลูกได้รับแต่สิ่งดี ๆ ส่วนลาซารัสได้รับแต่สิ่งเลว ๆ บัดนี้เขาได้รับการบรรเทาใจที่นี่ ส่วนลูกต้องรับทรมาน 26ยิ่งกว่านั้น ยังมีเหวใหญ่ ขวางอยู่ระหว่างเราทั้งสอง จนใครที่ต้องการจะข้ามจากที่นี่ไปหาลูก ก็ข้ามไปไม่ได้ และผู้ที่ต้องการจะข้ามจากด้านโน้นมาหาเรา ก็ข้ามมาไม่ได้ด้วย”
27‘เศรษฐีจึงพูดว่า “ท่านพ่อ ลูกอ้อนวอนให้ท่านส่งลาซารัสไปยังบ้านบิดาของลูก 28เพราะลูกยังมีพี่น้องอีกห้าคน ขอให้ลาซารัสเตือนเขาอย่าให้มายังสถานที่ทรมานแห่งนี้เลย” 29อับราฮัมตอบว่า “พี่น้องของลูกมีโมเสสและบรรดาประกาศกอยู่แล้ว ให้เขาเชื่อฟังท่านเหล่านั้นเถิด” 30แต่เศรษฐีพูดว่า “มิใช่เช่นนั้น ท่านพ่ออับราฮัม ถ้าใครคนหนึ่งจากบรรดาผู้ตายไปหาเขา เขาจึงจะกลับใจ” 31อับราฮัมตอบว่า “ถ้าเขาไม่เชื่อฟังโมเสสและบรรดาประกาศก แม้ใครที่กลับคืนชีวิตจากบรรดาผู้ตายเตือนเขา เขาก็จะไม่เชื่อ”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• เรื่องเล่าของลาซารัสกับเศรษฐี ที่พระเยซูเจ้าทรงเล่า และบันทึกอยู่ในพระวรสารนักบุญลูกาเท่านั้น บทที่ 16 เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่พ่อคิดว่า เราเคยได้ยิน เคยได้อ่าน และได้ไตร่ตรองกันมาบ้าง ความจริงอุปมาหรือเรื่องเล่าในด้านหนึ่งไม่ควรตีความมากเกินไป ควรปล่อยให้ผู้อ่านตกตะกอน คิด ไตร่ตรอง และให้เรื่องราวกระซิบเบาในใจของพี่น้องผู้อ่านพระวรสารเอง ดังนั้น พ่อจะทำเช่นเดียวกัน พ่อจะชี้เพียงบางประเด็นในเรื่องเล่านี้ และเสนอให้เราได้ไตร่ตรองกันครับ

• ความแตกต่างของเศรษฐีกับลาซารัสในโลกนี้ แตกต่างกันอย่างมาก เน้น ครับ เรื่องนี้พระเยซูเจ้า “ทรงเล่าด้วยพระองค์เอง” ดังนั้น เราน่าจะติดตามและไตร่ตรองจริงๆ ครับ มีประเด็นของความแตกต่างเพื่อกระชากใจคนฟังให้เห็นความแตกต่างมากๆ ครับ
o ‘เศรษฐีผู้หนึ่ง แต่งกายหรูหราด้วยเสื้อผ้าเนื้อดีราคาแพง จัดงานเลี้ยงใหญ่ทุกวัน
o คนยากจนผู้หนึ่งชื่อลาซารัส นอนอยู่ที่ประตูบ้านของเศรษฐีผู้นั้น เขามีบาดแผลเต็มตัว

• ภาพที่แสนจะแตกต่างนี้ไม่ต้องคิดถึงสมัยพระเยซูเจ้าเท่านั้น มีทุกยุคทุกสมัยครับ มีให้เห็นมาก และมากขึ้นทุกวัน ทุกวันจริงๆ... ไม่ต้องให้อรรถาธิบาย แต่เราสัมผัสได้ถึงเรื่องนี้ พระเยซูเจ้าชี้ความแตกต่าง “อาหารการกิน การแต่งกาย” และ สิ่งที่ลาซารัสมีเพิ่มคือ “บาดแผล”

• พ่ออยากเน้นประเด็นครับ
o เขานอนอยู่ประตูบ้านเศรษฐีครับ... ณ เพียงธรณีประตูข้ามไปเท่านั้น เพียงก้าวเท้าข้ามไปเท่านั้น... แต่พระคัมภีร์ดูเหมือนบอกกับเรารุนแรงและกระทบมโนธรรมมาเพราะธรณีประตูเพียงก้าวข้ามออกไป “ง่ายมาก”
o แต่ดูเหมือนว่า “เศรษฐีคนนี้ไม่เคยก้าวออกไป หรือแม้แต่จะหยิบยืน หรือแม้แต่โยนเศษอาหารออกไปก็ได้ แต่เขาไม่ได้ทำ” พี่น้องจำ จำ ธรณีประตูนี้ไว้ดีๆ จำไว้ให้แม่นเลยนะครับ ว่า มันคือธรณีประตูที่แสนง่ายจะก้าวข้ามแต่เศรษฐีในท้องเรื่องมิได้ก้าวข้ามไปสักครั้ง
o แม้พระคัมภีร์จะบันทึกว่า “ลาซารัสอยากกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของเศรษฐี” ดังนั้น จึงหมายความได้ว่า เศรษฐีคนนี้ไม่ได้ก้าวข้ามธรณีประตูไปหาลาซารัส แน่นอนครับ ลาซารัสเองไม่มีทางแน่ๆที่จะได้ก้าวข้ามมาอยู่แล้ว (พี่น้องดู บ้านในหมู่บ้านมหาเศรษฐีปัจจุบันสิครับ ที่เขียนแถวถนนราชพฤกษ์สะเทือนใจพ่อมาก เขาเขียนว่า “เริ่มต้นที่เจ็ดสิบล้าน....” ประตูทางเข้าคือคฤหาสน์ ยามเฝ้า กล้อง ไม้กัน ห้องประจำการเพื่อแลกบัตร รถไม่มีตรา (ที่ซื้อทุกๆปี) ไม่มีวันเข้าได้... บ้านขนาดนั้น ยามหน้าป้อมที่แต่งตัวเท่ห์ๆ ตกเย็นบรรดายามเฝ้าหน้าคฤหาสน์กลับบ้าน ก็นอนบ้านเช่า คืนสภาพสู่สลัมเหมือนกันกระมังครับ)
o ดังนั้น เรื่องเล่าของพระเยซูเจ้า ลาซารัสอย่าได้หวังจะข้ามไปเลยหาเศรษฐีได้เลย และอย่าฝันเลยถ้าเขาไม่ข้ามมาหายาจกเช่นลาซารัส... “ฝัน”

• (22) “มีแต่สุนัขมาเลียแผลของเขา”
o ข้อนี้เลข 22 อยู่ในวงเล็บ ต้องสำรวจแล้ว พ่อต้องพิสูจน์ภาษาต้นฉบับเลย กรีกพันธสัญญาใหม่ Greek New Testament พ่อพบร่องรอยประหลาดละครับ ภาษาไทยเราแปลอ่อนไปนิด ไม่กระชากความรู้สึกหรืออารมณ์ทางภาษาเลย เรามาดูกันครับ
o “ἀλλὰ καὶ οἱ κύνες ἐρχόμενοι ἐπέλειχον τὰ ἕλκη αὐτοῦ. (Luk 16:21 GNT)” มีคำสอนคำซ้อนกันในต้นประโยค คือ alla และ kai (อัลลา และ กัย) สองคำนี้มีความหมายกระชากอารมณ์ทางภาษามากครับ... “อัลลา alla” แปลว่า “แต่” ส่วน “กัย kai” แปลว่า “และ” สองคำนี้มาซ้อนกัน ถ้าแปลดีๆ พ่อขอให้ดูภาษาอื่นหน่อยนะครับ
o อังกฤษ even the dogs were coming and licking his sores. (Luk 16:21 NAS)
o ฝรั่งเศส De plus, les chiens venaient lécher ses plaies. (Luk 16:21 BFC)
o เยอรมัน aber auch die Hunde kamen und leckten seine Geschwüre. (Luk 16:21 ELB)
o อิตาเลียน Perfino i cani venivano a leccare le sue piaghe. (Luk 16:21 IEP)
o ลาติน sed et canes veniebant et lingebant ulcera eius (Luk 16:21 VUL)

• สำรวจต้นฉบับกรีก และคำแปลต่างๆ ภาษาไทยแปลว่า “มีแต่สุนัขมาเลียแผล” แต่ถ้าดูกรีก ลาติน และภาษาอื่นๆ กระชากความรู้สึกตรงกรีกมากกว่าครับ ถ้าจะแปลตรง คงต้องแปลว่า “และแม้แต่สุนัขยังมาเลียแผลของเขา”
o ลูกกาเขียนแบบนี้แปลว่า อะไร “อัลลา” กับ “กัย” “และ กับ แต่” น่าจะมีความหมายจังเลยครับ... คำถามคือสื่ออะไร...
o พ่อคิดว่า ลูกาต้องการสื่อความร่ำรวยและสุดแสนใจแคบของเศรษฐีกระมังครับ... เศษอาหารที่โต๊ะลาซารัสอยากกิน แม้แต่สุนัขมันยังหิวและอยากกิน พวกมันยังไม่ได้กินเลย... พวกมันจึงต้องมาเลียแผลของลาซารัสเหมือนกับว่า “มันหิวกระนั้นหรือ”
o คำถามที่พ่อคาใจมาตลอดคือสุนัขเหล่านี้เป็นของใคร... ในพระคัมภีร์.. พระวรสารบางครั้งเปรียบเหมือนคนต่างชาติครับ (จำเรื่องหญิงชาวซีโรฟีนีเชียนได้ไหม นางมาขอพระเยซูเจ้ารักษาลูกของนาง.. พระองค์บอกให้ลูกกินอิ่มก่อนและจึงโยนให้ลูกสุนัข... และนางตอบอย่างถ่อมตน จนพระเยซูเจ้าประกาศถึงความเชื่อยิ่งใหญ่ของนาง แต่เรื่องนี้อยู่ในพระวรสารนักบุญมาระโก บทที่ 7:21 จึงไม่น่าจะมีอะไรเปรียบกับเรื่องสุนัขในเรื่องของลาซารัสนี้ได้)
o ดังนั้น พ่อสรุปครับ... ลูกาต้องการชี้ให้เห็นกระมังครับ... เศรษฐีใจแคบมากๆ ไม่ใช่เพียงลาซารัสที่หิว แต่บรรดาสุนัขก็ยังหิวด้วย “ดังนั้น ประเด็นคือความใจแคบสุดของเศรษฐีคนนี้”

• เรื่องดำเนินต่อไปพ่อไม่ต้องเล่าแล้ว เรารู้ว่าทั้งสองตายไป และผลที่เกิดคือ “ทูตสวรรค์นำเขาไปอยู่ในอ้อมอกของอับราฮัม เศรษฐีคนนั้นก็ตายเช่นเดียวกัน และถูกฝังไว้ ‘เศรษฐีซึ่งกำลังถูกทรมานอยู่ใแดนผู้ตาย แหงนหน้าขึ้น มองเห็นอับราฮัมแต่ไกล และเห็นลาซารัสอยู่ในอ้อมอก”
o เศรษฐีคนนั้น ร้อง “ท่านพ่ออับราฮัม สงสารลูกด้วย...” ร้อนมาก ขอเพียงให้ลาซารัส “ข้ามมา” เอานิ้วจุ่มน้ำมาแตะที่ลิ้นก็ยังดี...
o อับราฮัมทบทวนประสบการณ์เมื่อครั้งอยู่ในโลก...
o ประเด็นที่พ่อบอกให้จำดีๆตอนแรกครับ “ธรณีประตูแคบๆที่เศรษฐีไม่เคยข้ามไป...” บัดนี้ “มีเหวใหญ่” ที่ข้ามไปไม่ได้อีกแล้วมากันระหว่างเขาทั้งสอง จะข้ามไปก็ไม่ได้ จะข้ามมาก็ไม่ได้...
o พ่อบอกพี่น้องตอนต้นว่าให้จำ “ธรณีประตูแสนแคบนี้ไว้ดี” บัดนี้ “เหวกว้างจนหมดทางที่จะข้ามไปอีกแล้ว....

• พี่น้องที่รักครับ... พ่อมาถึงสิ่งที่เราต้องไตร่ตรอง “ธรณีประตูหรือสิ่งขวางกันในชีวิตนี้แล้วครับ อย่ารอให้ถึงเหวใหญ่ขนาดสวรรค์กับนรกเลยนะครับ” เริ่มข้ามไปหากันในเวลานี้เถอะนะครับ... ธรณีที่กันเรามากที่สุดคืออคติและความเห็นแก่ตัว มันคือเส้นบางๆที่ขวางกันแบบยากที่จะข้ามถ้าไม่ตัดสินใจ...
o พี่น้องที่รัก... ก้าวข้ามไปหากันเถอะนะครับ ความร่ำรวยน่ารักครับ คนรวยน่ารักมีมาก ร่ำรวยดีครับจะได้ช่วยคนยากจนหรือมีโอกาสน้อยกว่าได้มาก ขอเพียง “กล้าข้ามไป” ครับ ถ้าเราไม่ก้าวข้ามไป คนยากจนจะกล้าข้ามมาหรือครับ...
o พ่อบ่อยครั้ง ไปในที่ที่เขาเรียกว่า “ไฮคลาส...สถานที่ที่เรียกว่า VIP ยังไม่พอยังมี VVIPขึ้นมาอีก” พ่อยังไม่กล้าเข้าไปเลย ขับรถไปตามห้างระดับไฮเอน... เชอะ รถพ่อจะจอดพ่อก็ต้องวนๆๆๆ แต่มีที่ทาสีสวยชั้นล่างสุดสำหรับ “ซุปเปอร์คาร์” เท่านั้น ครับ พวกวัวตัวโตลัมโบกีนี่ เจ้าคันที่เขาต้องนอนขับเหมือนนอนเปลลากไปกับพื้นนะครับ... พ่อเคยคิดว่าทำไม่ไปจอดชั้นบน รถพวกนี้แรงจะตาย... พ่อมาถึงบางอ้อครับ รถเตี้ยมาขึ้นไม่ได้ ท้องรถติดครับ...” (อมยิ้ม)
o พ่อคิดว่า คริสตชนที่ร่ำรวยต้องน่ารักมากๆ คิดถึงคนยากจนมากๆ น่ารักจริงๆ ศรัทธามากต้องรักพี่น้องมาก มีโอกาสมาก ต้องก้าวข้ามไปหามากๆครับ คนยากไร้ชายขอบเขาไม่กล้าข้ามาหรอกครับ... ข้ามธรณีประตูบ้าน ธรณีประตูและกรอบชีวิตของเราไปหาเพื่อนพี่น้องนะครับ เพื่อว่า ในวาระสุดท้าย เราจะได้ไม่ต้องเจอเหวลึกหรือหาพระองค์กันนะครับ...
o พระเยซูเจ้า พระบุตร สุดที่รัก ร่ำรวยที่สุด มีชีวิตนิรันดร แต่ทรงละจากความเป็นพระเจ้ามารับสภาพมนุษย์ดุจเรา... (ฟป 2) ยอมมาเดินกับเราคนยากจนและคนบาปเพื่อสอนเรา... รักและเดินตามพระฉบับของพระองค์เถอะครับ...

• พี่น้องครับ เทศกาลมหาพรตปีนี้ ให้เราก้าวออกไปหาคนยากจน พี่น้องผู้ยากไร้กันนะครับ โอกาสดีถ้าเรามีมากกว่า อย่าลืมหรือเก็บตัวในจุดที่พระสันตะปาปาบอกว่ามันคือเซฟโซน คือ บริเวณที่ปลอดภัยของเพียงแต่เราเลยนะครับ... ให้เราออกจากเซฟโซนไปเซฟชีวิตเพื่อนพี่น้องของเรากันนะครับ... อย่าปล่อยให้พวกเขาโดนสุนัขเลียแผลหรือกันกินกันต่อไปเลย... ออกไปนะครับ รักทำให้เราก้าวออกไปครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับลูกๆที่รักของพระเจ้าครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก