“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2015
เทศกาลพระคริสตสมภพ หลังพระคริสต์แสดงองค์มธ 4:12-17-23-25…
12เมื่อพระเยซูเจ้าทรงทราบว่ายอห์นถูกจองจำ จึงเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี 13ทรงออกจากเมืองนาซาเร็ธ มาประทับอยู่ที่เมืองคาเปอรนาอุม บนฝั่งทะเลสาบ ในดินแดนเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี 14ทั้งนี้ เพื่อให้พระดำรัสที่ตรัสไว้ทางประกาศกอิสยาห์ เป็นความจริงว่า
15ดินแดนเศบูลุนและนัฟทาลี
เส้นทางไปสู่ทะเล ฟากโน้นของแม่น้ำจอร์แดน
แคว้นกาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติ


16ประชาชนที่จมอยู่ในความมืด
ได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่
ผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนและในเงาแห่งความตาย
แสงได้ส่องขึ้นมาเหนือพวกเขาแล้ว
17นับแต่นั้นมา พระเยซูเจ้าทรงเริ่มประกาศเทศนาว่า “จงกลับใจเถิด เพราะอาณาจักรสวรรค์ อยู่ใกล้แล้ว”
23พระองค์เสด็จไปทั่วแคว้นกาลิลี ทรงสั่งสอนในศาลาธรรม ทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิดของประชาชน 24กิตติศัพท์เกี่ยวกับพระองค์เลื่องลือไปทั่วแคว้นซีเรีย ประชาชนจึงนำผู้เจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ผู้ที่ถูกความทุกข์เบียดเบียน ผู้ถูกปีศาจสิง ผู้เป็นลมบ้าหมู และผู้ที่เป็นง่อยมาเฝ้าพระองค์ พระองค์ทรงรักษาคนเหล่านั้นให้หายจากโรคและความเจ็บไข้ 25ประชาชนมากมายจากแคว้นกาลิลี จากทศบุรี จากกรุงเยรูซาเล็ม จากแคว้นยูเดีย และจากฟากโน้นของแม่น้ำจอร์แดนต่างติดตามพระองค์

 อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “ความกล้าหาญ คือ พลังของการประกาศข่าวดี” วันนี้พระวรสารนักบุญมัทธิวเริ่มแบบนี้... เริ่มที่พระเยซูเจ้า ถ้าเราได้อ่านดีๆ “เมื่อพระเยซูเจ้าทรงทราบว่ายอห์นถูกจองจำ จึงเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี... นับแต่นั้นมา พระเยซูเจ้าทรงเริ่มประกาศเทศนาว่า “จงกลับใจเถิด เพราะอาณาจักรสวรรค์ อยู่ใกล้แล้ว” ยอห์นคือผู้นำหน้าพระคริสตเจ้า ยอห์นคือผู้ได้ฉายาว่า ผู้กล้าหาญในการเป็นประกาศกแบบไม่กลัวความตาย... 


• พระวรสารบันทึกทันทีเมื่อทราบว่ายอห์นถูกจับ...พระเยซูเจ้าเสด็จออกไป ที่กาลิลี เรียกว่าเป็นการท้าทายเฮโรด... ท้าทายอำนาจกระแสโลกที่บิดเบือนความจริง กล้าท้าอำนาจของเฮโรดที่ได้รับฉายาว่า “จิ้งจอก” พระเยซูทรงเริ่มประกาศข่าวดีเช่นเดียวกับยอห์นบัปติสต์ และเป็นข่าวดีที่สมบูรณ์และเป็นตัวจริงของข่าวดี พระองค์ “ไม่กลัว” กระแสโลกหรืออำนาจใดๆ แม้อำนาจของผู้ใหญ่บ้านเมืองในเวลานั้น ไม่มีความหวั่นกลัว แต่ทรงพร้อมจะประกาศข่าวดีจริงๆ เพราะ ข่าวดีนั้นสำคัญกว่ามาก ข่าวดีนั้นคือเรื่อง “พระอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว และประชาชนที่เดินในความมืด ต้องกลับใจและรับแสงสว่าง”


• บัดนี้เป็นเวลาของการรับแสงสว่าง... ไม่ใช่เวลาของความมืดหรือความหวาดกลัวหรือการซ่อนตัวในมุมมืด แต่ต้องได้รับแสงสว่าง และกล้าหาญจะออกเดินทางในความสว่างนั้น พระวรสารได้ยกถ้อยคำของอิสยาห์ “ดินแดนเศบูลุนและนัฟทาลี เส้นทางไปสู่ทะเล ฟากโน้นของแม่น้ำจอร์แดน แคว้นกาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติ ประชาชนที่จมอยู่ในความมืด ได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนและในเงาแห่งความตาย แสงได้ส่องขึ้นมาเหนือพวกเขาแล้ว” นี่คือข้อความแห่งข่าวดี ข้อความแห่งแสงสว่าง เวลาแห่งแสงสว่างที่มาถึงมนุษยชาติ และอันที่จริงไม่ใช่เพียงข้อความ แต่ความจริง คือ “พระเยซู” พระองค์คือองค์ความสว่างส่องนานาชาติ นี่คือพระราชาแห่งแสงสว่าง และพระองค์คือความกล้าหาญทำลายความมืดมน

o อาจมีคนถามพ่อว่า คริสตสมภพจบหรือยัง... คำตอบคือ ยังครับ... พระองค์บังเกิดมาในค่ำคืนที่มืดมิดของค่ำวันที่ 24 ธันวาคม ที่เราฉลองทุกๆปี... แต่เทศกาลนี้ยังต่อมาจนถึงพระคริสตเจ้าแสดงองค์ และวันนี้เป็นวันจันทร์หลังสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์ เราได้ฉลองการที่โหราจารย์ได้มองเห็น “ความสว่างของดวงดาว” และได้เสาะหาพระองค์ นมัสการพระองค์...

o อาทิตย์นี้ตลอดอาทิตย์ยังเป็นเทศกาลคริสต์มาสอยู่ครับ... พระวรสารชี้ให้เราเห็นความสว่างแท้ที่เข้ามาสู่โลก คือ พระเยซูเจ้า... ท้าทายความมืดในใจของเฮโรดที่จับยอห์นผู้นำความสว่างนั้นขังไว้ในคุก แต่พระเยซูทรงเริ่มประกาศทันที... ท้าทายอำนาจความมืด เพราะพระองค์ คือ “ความสว่าง”


• พระองค์ประกาศตามศาลาธรรม เชิญชวนให้กลับใจ และทรงประกาศด้วยความกล้าหาญ แสดงพลังและพระอานุภาพของพระเจ้า ด้วยการรักษาคนเจ็บไข้มากมาย และทรงขับไล่อำนาจมืดทุกชนิด... จนกระชาชนมากมายออกเดินทางติดตามพระองค์.. ความหมายของพระวรสารนี้คือ...

o ทุกคนออกเดินติดตาม “แสงสว่างแท้” คือองค์พระคริสตเจ้า

o พระองค์คือแสงสว่างที่ทำลายความมืดและความสิ้นหวังทั้งมวล พระองค์ทรงทำลายความมืดมนของอำนาจปีศาจ และประกาศความรักของพระเจ้า ประกาศแสงแห่งพระอาณาจักรของพระเจ้า..

o พระองค์ประกาศด้วยความกล้าหาญ...ไม่กลัวเฮโรด เพราะข่าวดีของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าจะถูกปิดกันได้ พระองค์เป็นแสงสว่าง และไม่สามารถถูกทำลายหรือจำกัดได้เลย...


• สำหรับเราคริสตชน “ความกล้าหาญ” ในการประกาศพระคริสตเจ้า...นี่คือสิ่งที่จำเป็น ขาดไม่ได้อีกแล้ว... แสงสว่างไม่เคยกลัวความมืด ความมืดอาจดูน่ากลัวก็จริงๆ แต่แสงเพียงน้อยนิด ความมืดก็ไม่อาจกลบแสงนั้นได้.. “ท่านทั้งหลายคือแสงสว่างส่องโลก” (เทียบ มธ 5:14) ดังนั้น หมดเวลาของความกลัวครับ...


• เราต้องกล้าเป็นประจักษ์พยานถึงพระคริสตเจ้า เราต้อง “กล้า” กว่าที่เคย... ขอให้พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ สอนใจเราให้เรากล้าหาญที่จะประกาศพระคริสตเจ้า “ประกาศข่าวดีแบบใหม่ ด้วยชีวิตในสมัยใหม่ แต่ข่าวดี คือ พระคริสตเจ้า นั้น มั่นคงเสมอ” ขอให้เรากล้าดำเนินชีวิตเป็นคริสตชนมากขึ้น เข้มข้นขึ้นนะครับ...


• พ่อขอสรุปด้วย พระสมณสาสน์เตือนใจของ พระสันตะปาปาฟรังซิส EG 1 

o “ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร เติมเต็มจิตใจและชีวิตทั้งชีวิตของบรรดาผู้ที่พบพระเยซูเจ้า บรรดาผู้ที่ยอมให้พระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด ย่อมเป็นอิสระจากบาป ความโศกเศร้า ความว่างเปล่าภายในจิตใจ และความโดดเดี่ยว ความชื่นชมยินดีนี้บังเกิดขึ้น และเกิดขึ้นใหม่เสมอพร้อมกับพระเยซูเจ้า 

o ในพระสมณสาสน์ พระดำรัสเตือนนี้ ข้าพเจ้าปรารถนาเขียนถึงบรรดาคริสตชนผู้ซื่อสัตย์ เพื่อเชื้อเชิญทุกคนเข้าสู่ขั้นตอนการประกาศพระวรสารครั้งใหม่ ซึ่งเน้นถึงความชื่นชมยินดี และแสวงหาหนทางการก้าวเดินของพระศาสนจักรในอนาคต”


• พี่น้องที่รัก... ถึงเวลาที่เราทุกคนต้องกล้าออกไปประกาศข่าวดีให้ชัดกว่าที่เคย ด้วยชีวิตของเราคริสตชนทุกคน...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก