“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม 2017
สัปดาห์ที่สิบห้า เทศกาลธรรมดา
มธ 10:34-11:1…
34“อย่าคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาให้โลก เรามิได้มาเพื่อนำสันติภาพ แต่มาเพื่อนำดาบมาให้ 35เรามาเพื่อแยกบุตรชายจากบิดา แยกบุตรหญิงจากมารดา แยกบุตรสะใภ้จากมารดาของสามี 36ศัตรูของคนคือคนที่อยู่ร่วมบ้านกับเขานั่นเอง”


37“ผู้ที่รักบิดามารดามากกว่ารักเราก็ไม่คู่ควรกับเรา ผู้ที่รักบุตรชายหญิงมากกว่ารักเราก็ไม่คู่ควรกับเรา 38ผู้ใดไม่รับเอาไม้กางเขนของตนแบกตามเรา ผู้นั้นก็ไม่คู่ควรกับเรา” 39“ผู้ที่หวงชีวิตของตนไว้ ก็จะสูญเสียชีวิตนั้น แต่ผู้ที่ยอมเสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เรา จะพบชีวิตนั้นอีก” 40“ผู้ที่ต้อนรับท่านทั้งหลาย ก็ต้อนรับเรา ผู้ที่ต้อนรับเรา ก็ต้อนรับพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา” 41“ผู้ที่ต้อนรับประกาศก เพราะเป็นประกาศก จะได้รับบำเหน็จรางวัลของประกาศก ผู้ที่ต้อนรับผู้ชอบธรรม เพราะเขาเป็นผู้ชอบธรรม จะได้รับบำเหน็จรางวัลของผู้ชอบธรรม”
42“ผู้ใดที่ให้น้ำเย็นแม้เพียงหนึ่งแก้วแก่คนใดคนหนึ่งในบรรดาคนธรรมดาๆ เหล่านี้เพราะเขาเป็นศิษย์ของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้นั้นจะได้รับบำเหน็จรางวัลอย่างแน่นอน”
1เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสสั่งสอนศิษย์สิบสองคนแล้ว ก็เสด็จจากที่นั่นไปเทศนาสั่งสอนตามเมืองต่างๆ ในแคว้นกาลิลี

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• พระเยซูเจ้า นำดาบมาแปลว่า อะไร...
o คำตอบคือพระองค์ พระวาจาของพระองค์ คือ “การแยกแยะ” ชัดเจนระหว่างความดีและความเลว ความชอบธรรมและความอธรรม
o พระองค์คือเครื่องหมายของความจริง... ความจริงทำให้คนเราแยกแยะได้ว่า อะไรไม่จริง
o ดังนั้น การประกาศพระวาจา การมีพระเยซู คือ การเจริญชีวิตของบรรดาศิษย์ต้องโดดเด่นในความจริงเท่านั้น จะคลุมเครือไม่ได้ จะแอบๆปนๆ เท็จๆจริงๆ ไม่ได้ ต้องเด่นชัดที่สุด

• พ่อคิดว่า ผู้ประกาศข่าวดี พระสงฆ์ โดยเฉพาะเลย พระสังฆราชอย่างพิเศษสุด... พี่น้องคริสตชน นักบวชด้วย
o ผู้ประกาศพระคริสตเจ้า ต้อง “โปร่งใส” ไม่ปะปนเคลือบแครงกับความอยุติธรรม ไม่ปนไปกับความไม่ดี
o ต้องไม่มีวาระซ่อนเร้น ซ่อนความจริง กลบความเท็จ ซุกใต้พรม ซึ่งชีวิตจริงๆ ดังนั้น พ่อคิดว่า พระเยซูเจ้านำดาบมาเพื่อประกาศความเฉียบคม และการแยกแยะ...
o การทำงานในวัด ในองค์กร การประกาศข่าวดีในที่ต่างๆ ต้อง โปร่งใสจริงๆ ต้องชัดเจน ไม่มีอะไรที่ทุจริต คอรัปชั่น หรือมีวาระซ่อนเร้น
o ไม่เอา ไม่เอาแล้วนะครับ แล้วเราจะประกาศข่าวดีได้อย่างไร ถ้าชีวิตพ่อเอง ชีวิตของพวกเรามีวาระซ่อนเร้น ซ่อนเงื่อน ใช้ภาพลักษณ์ภายนอกกลบไว้.... ความเมตตา ความรัก ความพอเพียง และไม่โลภเลย คือ เอกลักษณ์ของพวกเรา... เราต้องแยกแยะให้ออกจริงๆครับ ชัดเจนจริงๆครับ

• พระเยซูเจ้าไม่ไดสอนให้ไม่รักบิดามารดานะครับ... ภาษาประกาศว่า “ผู้ที่รักบิดามารดามากกว่ารักเราก็ไม่คู่ควรกับเรา ผู้ที่รักบุตรชายหญิงมากกว่ารักเราก็ไม่คู่ควรกับเรา”
o การประกาศเช่นนี้เป็นภาษา Hyperbole พูดแรงๆ ให้เห็นว่า “จำเป็น” ที่สุดที่เราต้องรักพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด เหนือใครๆ...
o เชื่อพ่อเถอะครับ ใครรักพระเยซูจริงๆ จะต้องรักบิดามารดา รักครอบครัวมากอย่างยอเยี่ยมแน่นอนครับ... รักพระเจ้า จะทำให้เรายิ่งรู้ว่าเราต้องรักเพื่อนมนุษย์มากขึ้นอย่างมากมายเหลือเกินแน่นอน....

• รักพระองค์แบบ ให้หมด เทชีวิตเลยครับ ไม่จำเป็นต้องไปตาย แต่ตายต่อตัวเองให้ได้ เพราะคนที่รักพระเจ้า จะไม่เห็นแก่ตัวเลย ไม่เอาแต่ได้ ไม่โลภ ไม่สะสมอะไร นอกจากพระองค์ พ่ออยากเห็นวพวกเราคริสตชน
o พ่อด้วย ก่อนอื่นใครเลยครับ... เลือกที่จะรักพระเยซู และไม่เอาแต่ใจตัวเอง การเป็นพระสงฆ์ เป็นนักบวช ผู้ประกาศข่าวดี สังฆราชด้วย ถ้าเอาแต่ใจตนเองละก็ ขัดบัญญัติความรักทันที... พระไม่ใช่องค์ความถูกต้อง เราเป็นมนุษย์ พระสงฆ์ สังฆราชก็มนุษย์ อ่อนแอด้วย ยิ่งต้องถ่อมต้น ต้องฟัง รับฟัง และอ่อนน้อมเชื่อฟังจริงต่อเสียงของพระเจ้า “ที่ผ่านมาทางผู้ยากไร้ชายขอบ”
o จริงนะครับ ถ้าพระสงฆ์ พระสังฆราช คิดว่าตนเองได้รับพระพรทำให้ถูกต้องกว่าคนอื่น ผิดพลาดไม่ได้ คิดอะไร ก็ความคิดฉันเป็นใหญ่ ก็ไม่ใช่ศิษย์พระเยซู เพราะพระองค์ก็ในที่สุด เลือก “พระประสงค์ของพระบิดา” ยอมตายบนกางเขน และสอนเราทุกคนจริง “ผู้ใดไม่รับเอาไม้กางเขนของตนแบกตามเรา ผู้นั้นก็ไม่คู่ควรกับเรา”

• สุดท้าย พระองค์สอนบทเทศน์เรื่องธรรมทูตเรื่อง การต้อนรับธรรมทูต หรือการต้อบรับคนของพระเจ้า...
o บรรดาศิษย์ไม่ต้องกังวลอะไร ไม่ต้องห่วง หวง งก เก็บ สะสม โลภ เพราะ “พระเจ้าทรงเลี้ยงดู เพราะเขาเป็นธรรมทูต”
o “ผู้ที่ต้อนรับท่านทั้งหลาย ก็ต้อนรับเรา ผู้ที่ต้อนรับเรา ก็ต้อนรับพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา” “ผู้ที่ต้อนรับประกาศก เพราะเป็นประกาศก จะได้รับบำเหน็จรางวัลของประกาศก ผู้ที่ต้อนรับผู้ชอบธรรม เพราะเขาเป็นผู้ชอบธรรม จะได้รับบำเหน็จรางวัลของผู้ชอบธรรม”
o “ผู้ใดที่ให้น้ำเย็นแม้เพียงหนึ่งแก้วแก่คนใดคนหนึ่งในบรรดาคนธรรมดาๆ เหล่านี้เพราะเขาเป็นศิษย์ของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้นั้นจะได้รับบำเหน็จรางวัลอย่างแน่นอน”

• “การต้อนรับ คือ ความรัก” พ่อชอบคำท้ายๆ ของคำสอนบทที่ 10 ในพระวรสารโดยนักบุญมัทธิว... สวยงามมาก
o ต้อนรับพระองค์คือต้อนรับพระเจ้า ต้อนรับศิษย์ของพระเยซู คือ ต้อนรับพระเยซู และพ่อประกาศชัดๆเลยว่า ... “การต้อนรับ คือ ความรัก” ครับ
o คนที่ต้อนรับศิษย์พระเยซูเจ้า น้ำเย็นแก้วหนึ่ง... จะไม่ขาดรางวัล เรื่องนี้พ่อไม่สงสัยเลยสำหรับพี่น้องชาวไทย รักพระสงฆ์ รักพระสังฆราช นักบวช ต้อนรับดีเสมอ ดีจริงๆ จนพ่อเองขอสารภาพว่า ดีมาก บ่อยครั้ง มากเกินไปจริงๆ มากเกินไปจริงๆ ให้จนพวกเราแทนเสียคน ทำบุญให้นพระสงฆ์ จนบ่อยครั้ง พวกเราก็เคยตัว...
o สิ่งที่พ่อกลัวที่สุด กลัวใจตนเอง... กลัวมาก กลัวความใจดีของพี่น้องสัตบุรุษสำหรับพ่อและพวกพ่อๆ จะกลายเป็นสิทธิที่ควร... ไม่ ต้องไม่เป็นเช่นนั้นได้เลยนะครับ เพราะถ้าเป็นสิทธิ์ เราจะไม่รู้จักพอ.. แต่ถ้าเป็นความใจดี เราจะต้องรู้คุณและรักตอบพูนทวี

• พี่น้องที่รัก ครับ ขอบคุณพระเจ้าที่สอนเราให้เป็นผู้ประกาศ ให้เราวางใจ และทุกอย่างพระองค์จะจัดการ ขอเพียงเราประกาศพระเจ้า และเป็นประจักษ์พยานแห่งความวางใจในพระองค์ ไม่สะสม ไม่โลภ แต่รัก รัก รัก และให้จนหมดได้เช่นเดียวกับพระองค์... ขอพระเจ้าอวยพรครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก