ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2016
วันในอัฐมวารพระคริสตสมภพ
น.ซิลเวสเตอร์ที่ 1 พระสันตะปาปา
1 ยน 2:18-21 / ยน 1:1-18
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                           
        เมื่อแรกเริ่มนั้น พระวจนาตถ์ทรงดำรงอยู่แล้ว พระวจนาตถ์ประทับอยู่กับพระเจ้า และพระวจนาตถ์เป็นพระเจ้า พระองค์ประทับอยู่กับพระเจ้าแล้วตั้งแต่แรกเริ่ม พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งอาศัยพระวจนาตถ์ ไม่มีสักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ทรงสร้าง โดยทางพระวจนาตถ์ ชีวิตอยู่ในพระองค์

และชีวิตเป็นแสงสว่างสำหรับมนุษย์ แสงสว่างส่องในความมืด และความมืดชนะแสงสว่างนั้นไม่ได้      พระเจ้าทรงส่งชายผู้หนึ่งมา เขาชื่อยอห์น เขามาในฐานะพยาน เพื่อเป็นพยานถึงแสงสว่าง ให้ทุกคนมีความเชื่ออาศัยเขา เขาไม่ใช่แสงสว่าง แต่เป็นพยานถึงแสงสว่าง

      แสงสว่างแท้จริง ซึ่งส่องสว่างแก่มนุษย์ทุกคน กำลังจะมาสู่โลก พระวจนาตถ์ประทับอยู่ในโลก และโลกถูกสร้างโดยอาศัยพระองค์ แต่โลกไม่รู้จักพระองค์ พระองค์เสด็จมาสู่บ้านเมืองของพระองค์ แต่ประชากรของพระองค์ไม่ยอมรับพระองค์ ผู้ใดที่ยอมรับพระองค์ คือผู้ที่เชื่อในพระนามพระองค์ พระองค์ประทานอำนาจให้ผู้นั้นกลายเป็นบุตรของพระเจ้า เขามิได้เกิดจากสายเลือด มิได้เกิดจากความปรารถนาตามธรรมชาติ มิได้เกิดจากความต้องการของมนุษย์ แต่เกิดจากพระเจ้า พระวจนาตถ์ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ และเสด็จมาประทับอยู่ในหมู่เรา เราได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ เป็นพระสิริรุ่งโรจน์ที่ทรงรับจากพระบิดา ในฐานะพระบุตรเพียงพระองค์เดียว เปี่ยมด้วยพระหรรษทานและความจริง


       ยอห์นเป็นพยานถึงพระองค์ และประกาศว่า “ผู้ที่มาภายหลังข้าพเจ้า ได้นำหน้าข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนข้าพเจ้า” จากความไพบูลย์ของพระองค์ เราทุกคนได้รับพระหรรษทานต่อเนื่องกัน เพราะพระเจ้าได้ประทานธรรมบัญญัติผ่านทางโมเสส แต่พระหรรษทานและความจริงมาทางพระเยซูคริสตเจ้า ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้าเลย พระบุตรเพียงพระองค์เดียว ผู้สถิตในพระอุระของพระบิดานั้นได้ทรงเปิดเผยให้เรารู้

 (พระวาจาของพระเจ้า)

-----

 เราอาจจดจ่อสนใจกับ "คืนข้ามปี"
 เราอาจจะสนใจ ผ่านปีไปให้ได้ เดินผ่านไปให้พ้น
 แต่ "การผ่าน" สำคัญ ในขณะที่เรากำลังเน้น "เรื่องพ้น"
 ผ่านความมืด ไปหาแสงสว่าง เราต้องเข้าใจว่า แสงสว่าง ความสว่างนั้นดี ส่งเสริม สร้างความมั่นคง ยืนฟากฝั่งตรงนั้นด้วยความมั่นใจ มีเป้าหมายปลายทางที่สว่างได้อย่างไร
 ดังนั้น "ความสว่าง" จะส่องสาด มากกว่า "ข้ามฟากไปหา"
 เราจึงไม่ต้องกังวล กับการผ่านให้ได้ ไปให้ทัน
 แต่ เมื่อความสว่างสำหรับเรา เป็นความชัดเจน เป็นเรื่องที่มองเห็น ที่ทำให้ "ห่าง" จากความมืด เราจึงไม่ต้อง "ห้วงเวลาที่ต้องผ่าน" "ทางที่เดินข้ามให้พ้น"
 คืนข้ามปี วันสิ้นปี จึงเป็น "วันทบทวน" มากกว่า "วันหนีข้าม"

 เมื่อเราพิจารณาจดหมายนักบุญยอห์นว่า "พระเจ้าทรงส่งชายผู้หนึ่งมา เขาชื่อยอห์น เขามาในฐานะพยาน เพื่อเป็นพยานถึงแสงสว่าง ให้ทุกคนมีความเชื่ออาศัยเขา เขาไม่ใช่แสงสว่าง แต่เป็นพยานถึงแสงสว่าง"

 การอยู่ตรงนี้เพื่อเป็นพยาน การอยู่ตรงข้ามกับฝั่งมืดมิด การอยูเพื่อสาดส่อง ชัดเจน มองเห็นได้ เราจะเป็นดัง "แสงสว่าง" ที่ต้องไม่รีบข้าม ไม่ต้องไปคนละฝั่ง เพราะเมื่อเราเป็น "แสงสว่าง" ด้วยตัวอย่างชีวิต ด้วยการดำเนินตนที่โปร่งใสมองเห็นได้ เราจะเป็นแสงสว่าง

 ยอห์นเป็นพยาน เราก็เป็นประจักษ์พยานได้
 ด้วยชีวิตที่เป็น "แสงสว่าง"