วันอังคารที่ 23 สิงหาคม 2016

น.โรซา ชาวลีมา พรหมจารี

2ธส 2: 1-3ก, 14-17 / มธ 23: 23-26

บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญมัทธิว

 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วิบัติจงเกิดแก่ท่าน ธรรมาจารย์และฟาริสีน่าซื่อใจคด ท่านถวายหนึ่งในสิบของสะระแหน่ ผักชี ยี่หร่า แต่ได้ละเลยธรรมบัญญัติในเรื่องที่สำคัญ เช่น ความยุติธรรม ความเมตตากรุณา และความซื่อสัตย์ บทบัญญัติเหล่านี้จำเป็นต้องปฏิบัติโดยไม่ละเว้นบทบัญญัติอื่น ๆ

 ผู้นำทางตาบอดเอ๋ย ท่านกรองลูกน้ำ แต่กลับกลืนอูฐทั้งตัว
 “วิบัติจงเกิดแก่ท่าน ธรรมาจารย์ และฟาริสีหน้าซื่อใจคด   ท่านล้างถ้วยชามด้านนอก แต่ด้านในมีแต่ความสกปรกคือการข่มขู่แย่งชิง และราคะตัณหา ฟาริสีตาบอดเอ๋ย จงล้างด้านในของถ้วยชามให้สะอาดเสียก่อน แล้วด้านนอกก็จะสะอาดด้วย”

 (พระวาจาของพระเจ้า)

——————

 ความเป็นคนมีความเชื่อ ไม่ถูกนิยาม เรื่องสวดมาก อยู่ในวัดทั้งปี หรือ ถือพระคัมภีร์หนีบไว้ แต่ไม่ได้รำพึงไตร่ตรอง
 ดังนั้น ผลหรือการแสดงความเชื่อ กลับเป็นเรื่องของ “ความยุติธรรม ความเมตตากรุณา และความซื่อสัตย์” ที่ไม่ได้ต้องใช้เครื่องกรองน้ำ หรือ ถี่ถ้วน นับเนื่อง ดัง นับตักตวง “สะระแหน่ ผักชี ยี่หร่า”

 ความถี่ถ้วนมักใช้กับ การตัดสิน แต่ความรักความยุติธรรม กลับ เปิดโอกาส ปล่อยมือมากกว่าตักตวง เก็บกัก ตัดเกณฑ์
 ดังนั้น ความเชื่อ และความรัก ไปด้วยกัน ในตัวบุคคลที่มีความเชื่อ เราจึงเป็นข่าวดี ดังคำของนักบุญเปาโลที่บอกว่า
 “พระองค์ทรงเรียกท่านมาเพราะข่าวดีที่เราเทศน์สอน เพื่อท่านจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”

(Credit จาก Facebook คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์)