ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2016
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
น.เปโตร ครีโซโลโก พระสังฆราชและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร
ยรม 26: 11-16, 24 / มธ 14: 1-12

บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญมัทธิว

 เวลานั้น กษัตริย์เฮโรดทรงได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า จึงตรัสกับข้าราชบริพารว่า “คนนี้คือยอห์นผู้ทำพิธีล้างที่กลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย เพราะฉะนั้นเขาจึงมีอำนาจทำอัศจรรย์ได้”
 กษัตริย์เฮโรดทรงสั่งให้จับกุมยอห์นล่ามโซ่ และขังคุกไว้   

เพราะเรื่องของนางเฮโรเดียส ภรรยาของฟิลิปพระอนุชายอห์นเคยทูลกษัตริย์เฮโรดว่า “ไม่ถูกต้องที่พระองค์ทรงรับนางมาเป็นมเหสี” กษัตริย์เฮโรดต้องการจะฆ่ายอห์น แต่ทรงเกรงประชาชน เพราะประชาชนคิดว่ายอห์นเป็นประกาศก ในวันคล้ายวันประสูติของกษัตริย์เฮโรด บุตรหญิงของนางเฮโรเดียส  ได้เต้นรำต่อหน้าแขกรับเชิญเป็นที่พอพระทัยกษัตริย์เฮโรดอย่างยิ่ง พระองค์จึงทรงสัญญา และทรงสาบานจะประทานทุกสิ่งที่นางทูลขอ
นางจึงทูลตามคำแนะนำที่ได้รับจากมารดาว่า “โปรดประทานศีรษะของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง ใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เถิด” กษัตริย์ทรงเป็นทุกข์ แต่เพราะได้ทรงสาบานไว้ และเพราะเห็นแก่ผู้รับเชิญ จึงทรงสั่งให้ประทานตามที่นางขอ กษัตริย์เฮโรดทรงส่งคนไปตัดศีรษะของยอห์นในคุก เขาจึงนำศีรษะของยอห์นใส่ถาดมาส่งให้หญิงสาว หญิงสาวจึงนำไปให้มารดา บรรดาศิษย์ของยอห์นได้มารับศพไปฝัง แล้วแจ้งข่าวให้พระเยซูเจ้าทรงทราบ

 (พระวาจาของพระเจ้า)

—————

 เล่าถึงการ “ลงโทษ” ไม่ใช่ เพราะพระเจ้าเอาแต่ใจ อารมณ์ร้าย แต่ต้องการสะท้อนภาพของ การเอาแต่ใจ เรียกร้อง ออกแรงน้อย ของเราฝั่งฟากมนุษย์นี่แหละ
 การเอาโทษของพระเจ้า ถูกเล่าในหนังสือประกาศก เพื่อเจตนา “การปรับปรุงชีวิต การปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิต ที่เหลิง หลง ลืม เอาแต่ความต้องการของตัวเอง” ที่เป็น “ท่าทีแย่” ของมนุษย์ในทุกยุค

 ดังนั้นประกาศกเยเรมีย์ บอกว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งข้าพเจ้ามาประกาศพระวาจากล่าวโทษพระวิหาร และเมืองนี้ตามถ้อยคำทุกคำที่ท่านได้ยิน ดังนั้น บัดนี้ ท่านทั้งหลายจงปรับปรุงความประพฤติ และการกระทำของท่าน จงฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปลี่ยนพระทัย       ไม่ลงโทษท่านดังที่เคยตรัสไว้”

 การเข้าใจถึงพระเมตตาของพระเจ้า “เป็นเรื่องสำคัญ” ที่ทำให้เรา ไม่ยึดตัวเองเป็นสำคัญ ทบทวน เปลี่ยนแปลงตัวเอง จากการยึดมั่นถือมั่น เป็น “ภัย” ต่อการเปลี่ยนแปลง และเราจะได้เรียนรู้พระเมตตาของพระเจ้า จากเรื่องทั้งหมดนี้ได้

(Credit จาก Facebook คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์)