ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2016
สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา

น.ลอเรนซ์ แห่งบรินดีซี พระสงฆ์และนักปราชญ์
ยรม 2: 1-3, 7-8, 12-13 / มธ 13: 10-17

บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญมัทธิว

 เวลานั้น บรรดาศิษย์เข้ามาทูลพระเยซูเจ้าว่า
 “ทำไมพระองค์ตรัสแก่พวกเขาเป็นอุปมาเล่า” พระองค์ทรงตอบว่า “พระเจ้าประทานธรรมล้ำลึกเรื่องอาณาจักรสวรรค์ให้ท่านทั้งหลายรู้ แต่ไม่ได้ประทานให้แก่ผู้อื่น เพราะผู้ที่มีมากจะได้รับมากขึ้นจนเหลือเฟือ ส่วนผู้ที่มีน้อย จะถูกริบสิ่งเล็กน้อย         ที่มีไปด้วย

เพราะฉะนั้น เรากล่าวแก่คนเหล่านี้เป็นอุปมา ถึงพวกเขามองดู ก็ไม่เห็น ถึงฟังก็ไม่ได้ยิน และไม่เข้าใจ สำหรับคนเหล่านี้ คำทำนายของประกาศกอิสยาห์ก็เป็นความจริง ที่ว่า ท่านทั้งหลายจะฟังแล้วฟังเล่า แต่จะไม่เข้าใจ จะมองแล้วมองเล่า แต่จะไม่เห็น เพราะจิตใจของประชาชนนี้แข็งกระด้าง เขาทำหูทวนลม และปิดตาเสีย เพื่อไม่ต้องมองด้วยตา ไม่ต้องฟังด้วยหู จะได้ไม่เข้าใจ จะได้ไม่ต้องกลับใจ เราจะได้ไม่ต้องรักษาเขา “ส่วนท่านทั้งหลาย ตาของท่านเป็นสุขที่มองเห็น หูของท่านเป็นสุขที่ได้ฟัง เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ประกาศกและผู้ชอบธรรมจำนวนมากปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านได้เห็นอยู่ แต่ก็ไม่ได้เห็น ปรารถนาจะได้ฟังสิ่งที่ท่านฟังอยู่ แต่ก็ไม่ได้ฟัง
 (พระวาจาของพระเจ้า)
————
 การเปรียบเปรย เล่าด้วยภาพธรรมชาติ ทำให้เราเห็นภาพ “ความไม่ซื่อตรง” ที่ประชากรของพระ ทำกับ “พระ” ที่เรานับถือ
 ภาพของ “ที่ขังนำ้รั่ว” ที่กล่าวในประกาศกเยเรมีย์ ว่า “ประชากรของเราได้ทำความชั่วสองประการ เขาได้ละทิ้งเราซึ่งเป็นน้ำพุไหล แล้วไปสกัดหินเป็นที่ขังน้ำสำหรับตน เป็นที่ขังน้ำรั่วซึ่งเก็บน้ำไว้ไม่ได้” ทำให้เราคิดถึงคำไทยที่ว่า “กระแชงก้นรั่ว” (สำนวน) สุรุ่ยสุร่าย, ไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบ, ไม่ประหยัด
 ความไม่ซื่อตรง หมายถึงการไม่ระวัง ไม่ยับยั้งชั่งใจตน ปล่อยตนให้เตลิด เปิดโอกาสตามใจตน ที่เป็นนัยยะ ของการไม่ซื่อตรงต่อพระเจ้า เพราะเทพเจ้าที่เรานับถือ ก็คือ “พระอัตตา” (พระตัวเอง)
 เมื่อนับถือตัวเอง เชื่อใจตัวเอง ไว้ใจตัวเอง จนมีแต่ตัวเอง เป็น พระอัตตา แล้ว เราจะพบว่า พฤติกรรมหลักที่สะท้อนก็คือ “เพราะจิตใจของประชาชนนี้แข็งกระด้าง เขาทำหูทวนลม และปิดตาเสีย เพื่อไม่ต้องมองด้วยตา ไม่ต้องฟังด้วยหู จะได้ไม่เข้าใจ จะได้ไม่ต้องกลับใจ”
 พระอันดับที่จัดไว้ วางไว้บนหิ้งก่อนอื่นใด อาจเป็น “พระอัตตา” ก็เป็นได้ พระเจ้าองค์ความรักความเมตตา จึงไม่ได้แสดงพระองค์ในกิจการความรักความเมตตาในตัวเราเลย มีแต่ ผลประโยชน์ เรื่องตอบแทน ที่เป็นการแสดงตนของพระอัตตา ในตัวเรา

 

(Credit จาก Facebook คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์)