ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม 2016
สัปดาห์ที่ 14 เทศกาลธรรมดา
ฮชย 11: 1, 3-4, 8ค-9 / มธ 10: 7-15

บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญมัทธิว
 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาอัครสาวกว่า “จงไปประกาศว่าอาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว จงรักษา คนเจ็บไข้ จงปลุกคนตายให้กลับคืนชีพ จงรักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด จงขับไล่ปีศาจให้ออกไป ท่านได้รับมาโดยไม่เสียค่าตอบแทนก็จงให้เขาโดยไม่รับค่าตอบแทนด้วย อย่าหาเหรียญทอง เหรียญเงินหรือเหรียญทองแดงใส่ในไถ้ เมื่อเดินทาง อย่ามีย่าม อย่ามีเสื้อสองตัว อย่าสวมรองเท้า อย่าถือไม้เท้า เพราะคนงานย่อมมีสิทธิ์ได้รับอาหารอยู่แล้ว


เมื่อท่านเข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้าน จงดูว่าผู้ใดที่นั่น เป็นผู้เหมาะสมที่จะต้อนรับท่าน แล้วจงพักอยู่กับเขาจนกว่าท่านจะจากไป เมื่อท่านเข้าไปในบ้านใด จงให้พรแก่บ้านนั้น ถ้าบ้านนั้นสมควรได้รับพร จงให้สันติสุขของท่านมาสู่บ้านนั้น ถ้าบ้านนั้นไม่สมควรได้รับพร จงให้สันติสุขกลับมาหาท่าน ถ้าผู้ใดไม่ต้อนรับท่าน หรือไม่ฟังท่าน จงออกจากบ้านหรือเมืองนั้น จงสลัดฝุ่นจากเท้าออกเสียด้วย เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ในวันพิพากษา เมืองโสดม และเมืองโกโมราห์จะรับโทษเบากว่าโทษของเมืองนั้น”
 (พระวาจาของพระเจ้า)

————

 อารมณ์กลัว พระเจ้าเอาโทษ ไม่ใช่ ความเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายจิตวิญญาณ เพราะเหตุว่า เรามีมุมพิจารณาพระเจ้าองค์ความเมตตา บิดเบี้ยวไป ดังวิธีคิดพิจารณาของประกาศกโฮเชยา ที่บอกว่า “เราจะไม่ลงอาญาตามที่เราโกรธจัด เราจะไม่ทำลายเอฟราอิมอีก เพราะเราเป็นพระเจ้า มิใช่มนุษย์เราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่ท่าน เราจะไม่มาด้วยความโกรธ”

 ความดีที่เป็นความเมตตา ต้องทำให้เราเป็นอารมณ์สงบ ไม่ใช่พลุ่งพล่านโกรธเอาโทษง่าย ไม่ เอาคืนจำแค้น สะสมอดีตเต็มยาวไปถึงอนาคต
 ความดีและความเมตตา ดูว่า โกรธไม่ได้ อาฆาตไม่เป็น อภัยได้เรื่อยๆ ให้โอกาสมากมายหลายครั้ง ดังที่พระเจ้าไม่ใช่หน่วยความจำ ไม่ขึดข้างฝานับครั้ง ไม่ยอมให้เงื่อนไขเป็นใหญ่
 ความดีและความเมตตา ต้อง “โง่” ไม่จำ ไม่บันทึก ยอมเป็นคนใจง่าย อภัยไม่ต้องเรียกร้อง
 ภาพลักษณ์ของความรักความเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อเรา เป็นอย่างนั้นจริงๆ
 จึงไม่นับแต้ม ไม่นับคะแนน ไม่นับครั้ง ดังพระวาจาตอนนี้ที่บอกว่า
  “ท่านได้รับมาโดยไม่เสียค่าตอบแทนก็จงให้เขาโดยไม่รับค่าตอบแทนด้วย”

(Credit จาก Facebook คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์)