“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2016

สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา

ยรม 26:11-16,24……………..
11บรรดาสมณะและประกาศกจึงพูดกับเจ้านายและประชากรทุกคนว่า “ชายคนนี้ควรถูกประหารชีวิต เพราะเขาประกาศพระวาจากล่าวโทษเมืองนี้ ดังที่ท่านทั้งหลายได้ยินกับหูแล้ว” 12ประกาศกเยเรมีย์จึงตอบเจ้านายทุกคนและประชากรทั้งปวงว่า “พระยาห์เวห์ทรงส่งข้าพเจ้ามาประกาศพระวาจากล่าวโทษพระวิหารและเมืองนี้ตามถ้อยคำทุกคำที่ท่านได้ยิน 13ดังนั้น บัดนี้ท่านทั้งหลายจงปรับปรุงความประพฤติและการกระทำของท่าน

จงฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และพระยาห์เวห์จะทรงเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษท่านดังที่เคยตรัสไว้ 14ส่วนข้าพเจ้า ท่านก็เห็นแล้วว่าข้าพเจ้าอยู่ในมือของท่าน ท่านจงทำกับข้าพเจ้าตามที่ท่านเห็นดีเห็นชอบเถิด 15แต่จงรู้ไว้เถิดว่าถ้าท่านประหารชีวิตข้าพเจ้า ท่าน เมืองนี้ และชาวเมืองนี้ทุกคนจะต้องรับผิดชอบต่อโลหิตของผู้บริสุทธิ์ เพราะโดยแท้จริงแล้ว พระยาห์เวห์ทรงส่งข้าพเจ้ามาพูดถ้อยคำเหล่านี้ทั้งหมดให้ท่านฟัง”
16บรรดาเจ้านายและประชากรทุกคนจึงพูดกับบรรดาสมณะและประกาศกว่า “ชายผู้นี้ไม่ควรถูกตัดสินประหารชีวิต เพราะเขาได้พูดกับเราในพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา” 24แต่ประกาศกเยเรมีย์ได้รับการปกป้องจากอาหิคัม บุตรของชาฟาน จึงไม่ถูกมอบให้ประชาชนนำไปประหารชีวิต

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “จะฟังหรือไม่ฟังดี จะมองดูและใยดีหรือไม่ หรือจะซ่อนตัวซ่อนสายตา ไม่รับรู้ ไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญดีกว่า”............. ลังเล ว่าจะฟังหรือไม่ฟัง บ่อยครั้งชีวิตของเราก็แบบนี้ บนหนทางแห่งความจริง บางทีเราต้องเลือกความจริง เลือกความถูกต้อง เลือกสิ่งที่ถูกต้องเพื่อความดีส่วนรวมจริงๆ

• เราต้องเลือกให้ได้ มีโอกาสจะเลือกสองประการคือ
o ที่จะฟังความจริง ทำตามความจริง ยอมรับความจริงและเปลี่ยนแปลง เผชิญหน้าเพื่อรับความจริง หรือ
o เลือกที่จะทำลายหรือปิดบังความจริง ไม่เอาความจริง ปิดเสียงความจริง ปิดหู ปิดตา ปิดปาก และปิดใจ ไม่ให้ได้ยินเสียงความจริงแล้วจะได้สบายใจ....

• “เรื่องของนกกระจอกเทศ” น่าสนใจพ่อจำได้ว่า
o เคยได้ยินว่า นกกระจอกเทศ เวลาที่มันกลัวอันตราย หรือหนีสัตว์ที่ไล่ล่า บางครั้งมันจะเอาหัวของมันซุกลงในทราย และมันคิดว่า ศัตรูคงไม่เห็นมันแล้ว เพราะมันมองไม่เห็นศัตรู
o หัวของนกกระจอกเทศที่หมกจมอยู่ในทรายนั้น ต้องยอมรับว่าหัวของมันเล็กมากเมื่อเทียบกับตัวของมันที่โผล่อยู่บนทรายให้เห็นอยู่ตำตา เพียงแต่มันสบายใจเมื่อมันไม่เห็นสิงโต หือไม่เห็นสัตว์ที่ไล่ล่ามันก็สบายใจแล้ว....
o เวลาเขาจับนกกระจอกเทศจึงง่ายมาก แม้แต่จระเข้ก็คล้ายๆกัน คือ แค่เอาผ้าครอบหัวปิดตามัน มันก็ไม่สู้ ไม่วิ่ง ไม่หนีแล้ว เพราะมันไม่เห็นรอบข้าง จึงคิดว่า ปลอดภัย ไม่มีศัตรู... ปิดตาเสียก็จบ คลุมหัว กลับเข้ารูหรือมุดกะลาแล้วก็จบ...

• สังคมของเราบ่อยครั้งก็เป็นแบบนนี้ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” คือ ทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น ไม่สนใจ ก็คิดว่า ไม่มีอะไร ถือว่าไม่เห็นก็แล้วกัน”
o คนไทยเราบ่อยครั้งก็คล้ายนกกระจอกเทศเหมือนกันนะครับ เดินผ่านคนที่น่าสงสาร คนที่ตกระกำลำบาก หรือเห็นคนที่ถูกเอารัดเอาเรียบอยู่ทนโท่ ก็ทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ก็จบ ถือว่าไม่เห็นก็ไม่เป็นไร ถ้า เห็นก็ช่วยสักหน่อยเพื่อให้ดูไม่น่าเกลียด
o ภาพที่เห็นบ่อยๆ สมัยพ่อเป็นเด็ก แล้วต้องนั่งรถเมล์... คือ บนรถเมล์.... คนหนุ่มสาวแข็งแรงกำลังนั่งอยู่สบายๆ พอเหลือบเห็นคนสูงอายุมากยักเย่ยักยันก้าวขึ้นมา หรือคนพิการหรือคนที่ลำบากขึ้นมา ผลตามมาทันที คนหนุ่มสาวที่นั่งๆ อยู่ลอยหน้าลอยตาก็.... “หลับเลยครับ”
o นั่งหลับตา หรือแสร้งว่าหลับเสียก็ไม่ต้องลุกสละที่ให้นั่ง ใครเห็นและสงสารก็ลุกให้เขานั่งไปสิ... แบบนี้เห็นบ่อยในละครชีวิตจริงของคนไทยครับ หลับดีกว่า ทำเป็นหลับไปเลย ปิดตาเลย เพราะถ้าเปิดตาอยู่ ก็จะถูกกดดันด้วยสายตาจากคนรอบข้างที่ยืนกันเนืองแน่น ปิดตาเสียก็จบ ไม่ต้องสน หันหน้าออกหน้าต่าง ทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น ก็แบบนี้แหละครับ...
o บทเรียนของนกกระจอกเทศ (ต้องอ่านบทเทศน์เยอะๆ อ่านพระคัมภีร์เยอะจะได้หาย “กระจอก”ครับ)

• สังคมจะเป็นอย่างไร จะมีการโกง การทรยศขายชาติ ทำร้ายเพื่อนพี่น้อง ทำลายชาติ ทำร้ายคนดีๆในสังคมกันให้โครมๆ หรือคนร้ายๆกำลังทำให้สังคมแย่สักเพียงใด
o อาการประเทศชาติบ้านเมืองหลายปีที่ผ่านมาเกือบล่มสลาย... เกือบจะตีกันตาย เกลียดกัน ทำร้ายกัน ยิงเอ็มโน่นเอ็มนี่ใส่กัน โกงกัน จำนำข้าวก็โกงระดับชาติ คนรวยนักการเมืองเจ้าสัวโรงสีปล้นคนจนหรือชาวนา ปล้นอย่างเดียว โกงอย่างเดียว ไม่ต้องฆ่า เพราะเดี๋ยวก็ไปแขวนคอฆ่าตัวตายเอง... เท่าไหร่แล้วครับในอดีตที่ผ่านมา ชาวนาชาวไร่ต้องฆ่าตัวตาย แขวนคอตาย เพราะผิดหวัง หมดตัวไปกับระบบจำนำข้าวเท่าไรแล้ว....
o สังคมไทยเราที่ผ่านมา เรื่องอะไร โครงการอะไรๆก็โกง โกง โกง กันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โกงกันตั้งแต่ยังเป็นไอละอองน้ำอยู่ในอากาศยังไม่ตกผลึกลงมากหรือกลั่นกรองลงมาเป็นเม็ดน้ำเม็ดฝนด้วยซ้ำ...

• ประเทศชาติเกือบจะไม่มีสักหย่อมหญ้าที่ไม่ “โกง หรือใช้อำนาจมืดมน แผ่อิทธิพลเลวร้าย และเล่นพวกพ้องของกลุ่มอันธพาล... จากลุ่มอันธพาล ครอบครัวคดโกง พ่อโกง ลูกๆ โกง ภรรยาคุมทิศทางการโกง... จนกลายเป็นพวกๆกัน และก็เริ่มรวมตัวเป็นเล่นพรรคของครอบครัว ซื้อพรรค ขายพรรค ซื้อคนขายคน ขายเสียง ซื้อสิทธิ์ คิดแต่โกงที่เนียนๆ เกรียนๆ แบบเหนือเมฆเมฆาพญายักษ์” อาการหนักขนาดนี้ จนย่ำแย่เต็มที่ในยุคหลายปีที่ผ่านมา... แต่ แต่ แต่
o บางคนก็แก้ปัญหาและบอกว่า ไม่ต้องดูข่าวดีกว่า ไม่ตามข่าวแล้วสบายใจ
o ไม่ต้องดูข่าว ไม่รู้ข่าวก็ไม่ทุกข์....
o ทำตัวเป็น “นกกระจอกเทศ หรือคนนั่งหลับในรถเมล์” เสียก็สิ้นเรื่อง
o และจริงๆสังคมดีขึ้นไหม... ไม่ใช่ปัญหา... ขอให้เพียงแต่เราไม่รู้ ไม่เห็นไม่ใส่ใจเท่านั้นเอง
o บางคนบอกดูทีวี ดูช่องสีนั้นนี้แล้วเครียด ไม่ดู ไม่รู้ ปิดตาดีกว่า...ครับ

• สังคมเราจะทำให้เราปิดตาได้จริงๆ หรือ สังคมชาติ สังคมศาสนา สังคมวัด ชุมชนวัด ครอบครัวคริสตชน ครอบครัวนักบวช พระสงฆ์ บางทีก็ไหลไปด้วย “เอากับเขาด้วย” ปิดตาตนเองเหมือนกัน
o เวลาเราปิดตาแล้วเรารู้อยู่แก่ใจไม่ใช่หรือว่า สังคมเป็นอย่างไร
o ถ้าเราเป็นนกกระจอกเทศ ก็กว่าไปอย่าง (นกกระจอกเทศตัวใหญ่หัวเล็กสมองน้อย หลอกตนเองได้ ปิดตาแล้วปลอดภัย น่าให้อภัยเจ้านกกระจอเทศหัวเล็กตัวโต)
o แต่เราไม่ใช่นะครับ เรามนุษย์ และที่สำคัญ คริสตชนด้วยนะครับ... บุตรพระเจ้า ประจักษ์พยานชีวิตด้วยครับ แสงสว่างและเกลือดองโลกนะเราคริสตชน (เทียบ มธ 5:13-16)
o เรารับรู้รับทราบดีครับ เรามนุษย์ฉลาดที่สุด มีระดับสมองเมื่อเทียบกับร่างกาย อีกทั้งจิตวิญญาณ เราเหนือสุดแล้วครับ เข้าใจได้แน่นอน แต่
o เพียงแต่เราเองบ่อยครั้งเลือกฟัง ไม่อยากฟัง ไม่อยากได้ยิน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่เท่านั้นเอง ทั้งๆ ที่รู้แต่เราจะทำเป็นไม่รู้ได้อย่างไร...
o เราจะปล่อยให้สังคมเป็นไปโดยที่เราไม่สนใจได้หรือ.... เราจะไม่ “ตระหนักรับรู้ และร่วมทุกข์กับชาติ สังคมของเรา และโลกของเราได้หรือ”
o เราจะปล่อยไปเช่นนี้ได้อย่างไร เราจะไม่สงสาร เราจะไม่เห็นใจ และไม่ใส่ใจกับสังคมรอบข้างได้อย่างไรเล่า....
o เจ็บนะครับ ถ้าต่างคนต่าง “เห็นแก่ตัว”....
o ศาสนาคริสต์ของเราเป็นศาสนาที่เห็นแก่ตัวไม่ได้เลย เพราะเราสอนเรื่องความรัก พระเจ้าเป็นความรัก พระองค์ทรงรักเรา ทรงยอมเสด็จมาตายเพื่อเรา ไม่ปล่อยให้เราเดียวดาย แต่เสด็จมา รับรู้ รับฟัง สัมผัส เห็นใจ และจุ่มตัวในความทุกข์จนถึงความตายเพื่อเราเชียวนะครับ...

• พี่น้องที่รักครับ... ปล่อยไม่ได้หรอกครับ บ้านเรา เมืองเรา ชาติเรา จะปล่อยให้เป็นไปตามกรรมตามเวรและตามพวกคนเวรไปไม่ได้
o เพราะพระเจ้ามอบให้เรารับผิดชอบ ดูแล รัก และเอาใจใส่เพื่อนพี่น้องของเรา
o เราจะปล่อยให้พี่น้องของเราถูกขาย หญิงชายถูกขายกันเป็นว่าเล่น เป็นทาสอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร้ความรับผิดชอบไม่ได้
o เราจะปล่อยให้พี่น้องของเราติดยาเสพติดงอมแงม เป็นทาสของยา เป็นทาสของการค้ายาได้อย่างไร หรือเกิดการค้ามนุษย์ขายสิทธิ์ขายเสียงและฉ้อโกงกันต่อไปได้อย่างไร
o เราจะนิ่งดูดายให้เด็ก ของเราเป็นเหยื่อของศีลธรรมที่บกพร่องได้อย่างไรเล่า
o เราจะปล่อยให้มีคนโกงกินบ้านเมือง กินถนน กินเสาไฟฟ้า กินน้ำมันเกินไปจนคนจนไม่สามารถบริโภคหรือบริโภคก็ต้องจำนวน... กินและโกงอย่างไม่รู้จักพอได้อย่างไร

• เราจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ อยู่ไปวันๆ โดยไม่แคร์ไม่ได้หรอกครับ เพราะ
o เรามีกระแสเรียกให้ประกาศข่าวดี
o ให้กล้าประกาศข่าวดี
o ให้กล้าประกาศความรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ความยุติธรรมและสันติ”
o เราจะนิ่งเฉยได้หรือ จะให้มีการเอาเปรียบ ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซื้อตำแหน่งเพื่อเข้ามาโกงและถอนทุน
o เราจะปล่อยให้นายทุนเอาเปรียบคนยากจนก็ไม่ได้ เราจะนิ่งๆ และทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็นได้อย่างไร

• ครับ ประกาศกเยเรมีย์วันนี้ ท่านประกาศเอง...เช่นกัน
o ท่านเกือบตาย เกือบถูกฉีกเป็นชิ้นเพราะความเห็นที่แตกต่าง ประชากรส่วนใหญ่และผู้นำทางศาสนาด้วยส่วนใหญ่อยากฆ่าท่าน เพราะคำพูดที่ประกาศพระวาจา การตัดสิน และความจริงที่ท่านประกาศ
o แต่ก็มีประชาชนในประชากรของพระจ้าอีกส่วนหนึ่งที่ยอมรับและรู้ว่า พระเจ้าเตือนและตรัสผ่านท่านจะไม่ฟังได้อย่างไร...

• อ่านพระคัมภีร์วันนี้แล้ว ผลตามมาคือเราจะต้องทำหน้าที่คริสตชนประการสำคัญคือ “การเป็นประกาศก” มากขึ้นครับ... จำทำตัวเป็นกระจอกเทศและเทศน์แบบกระจอกๆไม่ได้แล้วครับ พระวาจาของพระเจ้าจะถูกทำให้เงียบงันไม่ได้ (พระสันตะปาปาฟรังซิส Evangelii Gaudium)
o อ่านประกาศเยเรมีย์ดีๆสิครับ ดูสถานการณ์ของท่านดีๆนะครับ และหันกลับมาอ่านตนเอง อ่านสังคมพระศาสนจักร สังคมชุมชนวัด และสังคมประเทศชาติของเราที่ป่วยมานาน และต้องการประกาศกอย่างเราทุกคนไปกอบกู้ ด้วยการรับรู้ ตระหนัก และเห็นใจ และช่วยเหลือด้วยศรัทธาในพระเจ้าครับ...ขอพระเจ้าอวยพรครับ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก