“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2016

สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา 

กจ 16:1-10….
16 1เปาโลเดินทางมาถึงเมืองเดอร์บีและเมืองลิสตรา ที่เมืองนี้ศิษย์คนหนึ่งชื่อทิโมธีมารดาของเขาเป็นคริสตชนชาวยิว แต่บิดาเป็นชาวกรีก 2เขาเป็นที่นับถือของบรรดาพี่น้อง คริสตชนที่เมืองลิสตราและเมืองอิโคนิยุม 3เปาโลต้องการให้เขาร่วมเดินทางไปด้วย จึงให้เขาเข้าสุหนัต เพื่อเอาใจบรรดาชาวยิวที่อยู่ในที่ต่าง ๆ แถบนั้น เพราะทุกคนรู้ว่า บิดาของเขาเป็นชาวกรีก 4เมื่อคณะของเปาโลผ่านไปตามเมืองต่าง ๆ ก็แจ้งให้บรรดาคริสตชนรู้ข้อกำหนดที่บรรดาอัครสาวกและผู้อาวุโสตกลงกันที่กรุงเยรูซาเล็ม เตือนเขาให้ปฏิบัติตาม 5บรรดากลุ่มคริสตชนจึงมีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้นและมีจำนวนคริสตชนเพิ่มขึ้นทุกวัน


6พระจิตเจ้าทรงห้ามคณะของเปาโลประกาศพระวาจาในแคว้นอาเซีย เขาจึงเดินทางผ่านแคว้นฟรีเจียและแคว้นกาลาเทีย 7มาถึงแคว้นมิเซีย เขาพยายามเข้าไปในแคว้นบิธีเนีย แต่พระจิตของพระเยซูเจ้า ไม่ทรงอนุญาตให้เข้าไป 8เขาจึงเดินทางผ่านแคว้นมิเซียไปถึงเมืองโตรอัส 9เวลากลางคืนเปาโลเห็นนิมิต ชาวมาซิโดเนียคนหนึ่งยืนอยู่ อ้อนวอนเปาโลว่า “โปรดข้ามมาในแคว้นมาซิโดเนียและช่วยพวกเราด้วยเถิด” 10เมื่อเปาโลเห็นนิมิตนี้แล้ว พวกเราก็หาโอกาสที่จะไปยังแคว้นมาซิโดเนียทันที เพราะเชื่อแน่ว่าพระเจ้าทรงเรียกเราให้ไปประกาศข่าวดีแก่ชาวแคว้นนั้นด้วย

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ชีวิตของเปาโลคือการเดินทาง” การเดินทางเพื่อประกาศพระวาจาของพระเจ้าเสมอไป... เป็นพระบัญชาของพระคริสตเจ้าสำหรับบรรดาศิษย์แน่นอนที่สุด... “จงสั่งสอนนานาชาติทั่วโลก โปรดศีลล้างบาปเดชะพระนามพระบิดาและพระบุตรและพระจิต... อย่ากลัว เราจะอยู่กับท่านเสมอไป...”

• นี่เป็นพระบัญชาของพระอาจารย์เจ้า และบรรดาอัครสาวกได้เชื่อฟังคำสอนของพระเยซูเจ้า เปาโลเป็นตัวอย่างของความกระตือรือร้นที่จะประกาศข่าวดีของพระคริสตเจ้า เพื่อทุกคนจะได้กลับใจ ได้เชื่อในพระองค์และรับศีลล้างบาปเข้ามาเป็นบุตรของพระเจ้า... แน่นอนนี่คือพันธกิจสำคัญ...

• พี่น้องที่รัก วันนี้พ่ออยากจะพูดความจริงประการหนึ่ง...คือ
o “อันที่จริงพระศาสนจักรเป็นธรรมทูตโดยธรรมชาติ พระศาสนจักรคือ “เราทุกคน” ที่ได้รับศีลล้างบาป เราเป็นธรรมทูตทุกคน เราต้องมีลักษณะของการเป็นธรรมทูตที่จะต้องเป็นผู้ประกาศพระคริสตเจ้าให้ทุกคนรู้จัก”
o พี่น้องที่รักครับ พี่น้องเคยรู้ตัวจริงๆไหมครับว่า เราเป็น “ธรรมทูต” โดยธรรมชาติของเราทุกคน
o หมายความว่า พี่น้องแต่ละท่านทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปและพ่อด้วยครับ เราทุกคนมีหน้าที่หรือมี “พันธกิจที่ติดตัวเรามาจากศีลล้างบาป จากชีวิตพระเจ้าที่เราได้รับในชีวิตของเรา” คือ
o เราต้องเป็นผู้ประกาศพระวรสาร
o เป็นต้องเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระคริสตเจ้า แล้วเราจะประกาศอย่างไร....

• แน่นอนสังคมปัจจุบันต้องการข่าวดี พ่อเคยได้ยินคำปรารภของคุณพ่ออาจารย์ ท่านปรารภว่า “อ่านหนังสือพิมพ์ทุกวัน ไม่เห็นมีอะไรจรรโลงใจ ไม่เห็นมีเรื่องดีๆ ไม่เห็นมีข่าวดี เห็นมีแต่ข่าวร้าย เรื่องร้ายๆ ฆาตกรรม สังคมที่ย่ำแย่ ยาเสพติด และสังคมที่ขาดความรักความเมตตา... ที่แย่มากๆ หนังสือพิมพ์ประจำวันอ่านไปมีแต่ข่าวร้าย การคอรัปชั่นโกงกิน ผลประโยชน์ และการฉ้อโกงในรูปแบบต่างๆ อีกทั้งปัญหาการเมืองที่ไม่จบสิ้น...

• คำปรารภว่า “ไม่มีข่าวดีเลยจริงๆ” พ่อก็เลยตอบท่านไปเล่นที่เล่นทีจริงว่า “เราก็ปิดหนังสือพิมพ์และมาอ่านพระวรสารดีกว่า เพราะพระวรสารคือข่าวดี มีแต่ข่าวดี มีแต่กิจการดี มีแต่คำสอนดี พระวาจาดีๆ กิจการดีๆ ของพระคริสตเจ้า พระคัมภีร์มีแต่เรื่องที่ทำให้เรามีความสุขเพราะได้รู้จักพระเยซู ในพระองค์มีแต่ข่าวดี..”

• พี่น้องที่รักครับ พ่อเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างนี้จริงๆ และ

• เชื่อว่าพี่น้องทุกท่านต้องเชื่อและได้เชื่อและให้เราเติบโตในความเชื่อด้วยกัน

• เติบโตในความเชื่อจริงๆ เติบโตกันให้ทั่วหน้าเลยนะครับในเรื่องต่างๆ ขอให้เราเติบโต
o ในความรู้จักพระเยซูเจ้า
o ในการรู้จักและรักข่าวดีของพระองค์ เพราะข่าวดีของพระเยซูเจ้าที่ได้ประกาศและคนนับล้านๆ คนให้ได้รักพระองค์
o ให้ได้ทุกคนเจริญชีวิตเพื่อพระองค์ ข่าวดีของพระองค์ทำให้คนจำนวนมากเลือกดำเนินชีวิตเป็นคนดี เป็นนักบุญ เป็นคริสตชนที่ดี เป็นนักบุญมากมาย และแม้กระทั่งเป็นมรณะสักขีก็มากเหลือเกิน...

• พ่อคิดว่าถึงเวลาแล้ว น่าจะเกือบเลยเวลาแล้วก็ไม่ราบ... ถึงเวลาแล้วสินะที่เราคริสตชนคาทอลิกไทยจะได้บรรลุวุฒิภาวะทางความเชื่อ
o การบรรลุวุฒิภาวะทางความเชื่อหรือเป็นผู้ใหญ่ในความเชื่อ หมายความว่า เราแข็งแรง เราอ่านออกเขียนได้ ประกาศได้ รู้จริง รักจริง เชื่อมั่นจริง และรู้ถึงความจริงเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า....
o พ่อคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนซึ่งพ่อมั่นใจว่า เรารักพระเยซูเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย... แต่เท่าที่พ่อรู้และมั่นใจในประสบการณ์คือ ถ้าเรารักใครสักคน ถ้าเราเชื่อในใครสักคนจริงๆ ถ้าเราเชื่อจริง รักจริง เราต้องอยากรู้จักคนๆนั้นจริงๆ อย่างลึกซึ้งมิใช่หรือ...
o ดังนั้น เราต้องพยายามอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับคนๆนั้น เราต้องพยายามบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคนๆนั้นได้อย่างถูกต้องชัดเจนและในความรู้จริงในข้อเท็จจริงไม่ใช่หรือ....

• พี่น้องที่รัก คำถามที่พ่อไม่ต้องกังวลใจและไม่ต้องถาม คือ “พี่น้องเชื่อในพระเจ้า เชื่อในพระเยซูใช่ไหม” พ่อคิดว่า ทุกท่านเชื่อในพระองค์ รักพระองค์ เพราะทุกวันนี้พ่อเห็นว่า สัตบุรุษแม้ยุคปัจจุบัน วัดในสังฆมณฑลกรุงเทพฯที่พ่ออยู่หรือผ่านไปผ่านมา ทุกวันอาทิตย์เต็มไปด้วยสัตบุรุษเสมอทุกวันอาทิตย์อย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งโอกาส พระคริสตสมภพหรือปัสกาละก็ไม่ต้องสงสัยเลย มิสซาล้นไปด้วยผู้คนเหลือเกิน คนเข้าแถวมารับศีลอภัยบาปก็มากเหลือเกิน... ไม่มีข้อสงสัยเรื่องความเชื่อและความรักต่อพระเจ้า.... เรื่องความรักความเชื่อของพี่น้องคริสตชนพ่อไม่มีคำถามมีแต่ดีใจ และขอบคุณพระเจ้า...

• แต่คำถามที่พ่ออยากถามอย่างยิ่งคือ ในเมื่อเรารัก เราเชื่อในพระเจ้าจริงๆเช่นนี้ แล้ว
1. “พี่น้องครับ เรารู้จักพระองค์เพียงใด???
2. เราสามารถพูดถึงพระองค์อย่างมั่นใจ
3. เรามีความรู้สามารถบอกเล่าประกาศพระวาจาและกิจการของพระเยซูเจ้าที่แสนจะน่าประทับใจในพระคัมภีร์ได้อย่างมั่นใจ และเปี่ยมด้วยความเชื่อศรัทธาเพียงใด???”

• ปกติคนเราถ้าเรารักใครสักคนนะครับ เราจะพยายามรู้จักเขามากที่สุด เราจะสามารถเล่าถึงเขา คำพูดของเขา กิจการของเขา ความงดงามน่ารักและเคารพของเขาได้อย่างมั่นใจที่สุด ยิ่งรักมากยิ่งรู้จักและอยากรู้จักอยากพูดถึงมากที่สุด และพูดเท่าไรก็ไม่เบื่อพร้อมจะกล่าวถึง พร้อมจะเล่าและประกาศถึง และยิ่งเล่ายิ่งประกาศยิ่งรักยิ่งศรัทธาและเชื่อมากขึ้นจริงๆนะครับ....

• พี่น้องที่รักครับ พ่อคิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วครับ ที่เราจะเติบโตในความเชื่อ ในความรู้จักพระเยซูคริสตเจ้าครับ

• ถึงเวลาแล้วล่ะครับที่เราต้องประกาศพระวาจา เล่าถึงพระองค์ได้อย่างมั่นใจ เพื่อประกาศพระองค์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและมีความสุขที่ประกาศถึงพระองค์มากขึ้นทุกวัน...

• แล้วเราจะรู้จักพระองค์ได้อย่างไร...
o “พระคัมภีร์” ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พระวรสารทั้งสี่” พี่น้องอ่านพระคัมภีร์บ่อยๆไหมครับ... ถ้าไม่ได้อ่าน ก็หมายความว่า เราไม่ได้พยายามที่จะรู้จักพระองค์... และหมายความว่าเราได้เชื่อในพระองค์และรักพระองค์มากจริงๆ เพียงใด...
o พ่อขอเชิญชวนนะครับ เพราะว่าถ้าเราไม่ใช้โอกาสนี้อ่านพระคัมภีร์ ฟังพระวาจา เล่าถึงพระองค์ได้อย่างมั่นใจ แล้วเราจะบอกว่าเรารัก เราเชื่อในพระองค์จริงๆ ได้อย่างไร.... เรามาเสริมกำลังศรัทธาในพระเยซูเจ้า ศรัทธาในพระวาจาของพระองค์ให้มากขึ้นที่สุดเลยนะครับ...
o “พระคัมภีร์ที่บ้านมีแน่ๆ แต่อยู่ที่ไหนเอ่ย?? ซุกอยู่ที่ไหนหน?? พระวาจาของพระเจ้านะครับ ควรได้รับความเคารพนับถือมากๆนะครับ...
o พ่อรู้ว่าคนไทยไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือตามสถิติครับ แต่พ่อเชิญชวนพี่น้องคริสตชนครับ ให้เราคริสตชนเอาชนะความยากลำบากของการอ่านนะครับ เพราะการอ่านพระวาจาของพระเจ้าคือชีวิตและพลังแห่งความเชื่อของเราจริงๆครับ...
o เชิญชวนนะครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ อ่านพระคัมภีร์วันนี้จะเห็นว่า นักบุญเปาโลไม่เคยเหนื่อยเลยครับที่จะประกาศพระวาจาของพระเจ้าครับ ท่านมีแต่เดินทาง เดินทาง เดินทาง เพื่อประกาศพระวาจาของพระเจ้าครับ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก