“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2016
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต 

       สองวันแล้วเราได้อ่านโฮเชยาห์ วันนี้มาถึงการเรียกร้อง “ให้กลับใจ” ไม่หลงทาง ไม่เวอร์ไปแบบที่เกินเลย แต่หันกลับมาเป็นผู้รู้จักพระเจ้า ไม่ใช่ถือศาสนาแต่เพียงเปลือกหรือพิธีรีตอง แต่ต้องกลับมาสู่ “การรู้จักพระเจ้า” อ่านพระคัมภีร์ก่อนเลยครับ

ฮชย 6:1-6……
1“มาเถิด พวกเราจงกลับไปหาพระยาห์เวห์
พระองค์ทรงฉีก และจะทรงรักษาเราให้หาย
พระองค์ทรงโบยตี และจะทรงพันบาดแผลให้เรา


2อีกสองวันพระองค์จะทรงให้เราฟื้น
วันที่สาม จะทรงทำให้เราลุกขึ้น
แล้วเราจะมีชีวิตอยู่เฉพาะพระพักตร์
3พวกเราจงรู้จัก จงรีบรู้จักพระยาห์เวห์เถิด
พระองค์จะเสด็จมาอย่างแน่นอนเหมือนรุ่งอรุณ
จะเสด็จมาหาเราเหมือนฝน
เหมือนฝนต้นฤดูใบไม้ผลิที่รดพื้นแผ่นดิน”

4“เอฟราอิมเอ๋ย เราจะทำอย่างไรดีกับท่าน
ยูดาห์เอ๋ย เราจะทำอย่างไรดีกับท่าน
ความรักของท่านเป็นเหมือนเมฆในยามเช้า
เหมือนน้ำค้างที่หายไปตั้งแต่เช้าตรู่
5ดังนั้น เราจึงใช้บรรดาประกาศกให้ทุบเขาทั้งหลายจนแหลกลาญ
เราใช้คำพูดจากปากของเราฆ่าเขา
คำพิพากษาของเราจะออกมาเหมือนแสงสว่าง
6เพราะเราต้องการความรักมั่นคง
ไม่ประสงค์การถวายบูชา
เราต้องการการรู้จักพระเจ้า
มากกว่าเครื่องเผาบูชา”

อรรถาธิบายประเด็นสำคัญ
• “เราต้องการการรู้จักพระเจ้ามากกว่าเครื่องบูชา” พระเจ้าตรัสย้ำชัดเจนกับประชากรของพระองค์ “เพราะเราต้องการความรักมั่นคง ไม่ประสงค์การถวายบูชา เราต้องการการรู้จักพระเจ้ามากกว่าเครื่องเผาบูชา”

• ประเด็นสำคัญมากๆ สำหรับวันนี้คือ
o “ศาสนาคือการรู้จักพระเจ้า”
o เพราะพระเจ้าคือหัวใจและคือเนื้อหาของศาสนาที่แท้จริง...

• บ่อยครั้งเราถือศาสนา เราเคร่งศาสนาแต่เรารู้จักศาสนาดีแค่ไหน เรารู้จักพระเจ้าดีเพียงใด...

• พ่อให้ข้อสังเกตจากการที่เราได้อ่านพระวาจาจากประกาศกโฮเชยาห์ของวันนี้ก่อนนะครับ เรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากเสมอๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องลงลึกไปถึงเรื่องพิธีกรรมทางศาสนา... ต้องระมัดระวังมาก ต้องละเอียดลออมาก
o ในกิจการทางศาสนาหรือพิธีกรรม พิธีรีตองต่างๆ โดยเฉพาะมักจะต้องเจ้าแห่งพิธีรีตอง พ่องานแม่งานหรือบุคคลทางศาสนาเป็นคนกำกับจัดการมากมายเหลือเกิน...
o เวลาของการปฏิบัติศาสนกิจก็มักเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์มากๆ ก็ต้องมีพิธีมากๆ ต้องละเอียดมาก และผลตามมาคือมักจะคิดว่า ถ้าเราทำครบถ้วน เราทำถูกขั้นตอนเหมาะเหม็งเท่านั้น พระเจ้าจึงจะพอพระทัยหรือเราผู้ปฏิบัติจึงจะได้รับพระอย่างแท้จริง

• บ่อยครั้ง ก็เป็นเรื่องบทภาวนาที่ต้องให้ความสำคัญกับการภาวนามากๆ
o คำภาวนามากมายที่อาจเป็นบทสูตรที่ต้องท่องขึ้นใจ
o บางศาสนาเรียกว่าเป็นมนต์คาถาที่ต้องท่องภาษาให้ครบถ้วน ผิดพลาดไม่ได้
o ภาวนาต้องครบจำนวนกี่รอบกี่ครั้งกี่จบห้ามขาดห้ามเกิน ต้องท่องให้ครบ เสียงดังไม่ผิดเพี้ยน และบางทีถ้าเป็นภาษาขลังๆ ที่คนทั่วไปไม่เข้าใจก็ตาม ก็ยิ่งถือว่านั่นคือความขลัง

• เรื่องศานสนาบ่อยครั้งต้องเน้นความถูกต้อง ความงดงามของศาสนาและนั่นจึงเป็นการปฏิบัติศาสนกิจอย่างถูกต้องเที่ยงตรง... ความหรูหราเริดหรูก็ตามเข้ามาในเรื่องของสิ่งของต่างๆ ชุดอาภรณ์ต่างๆ ที่ออกไปทางหรูเลิศเชิดชูกันไป มีความหนาเตอะเยอะเครื่องดิ้นเซาะ จนกระทั่งบางทีชุดพิธีกรรมก็เหมือนงิ้วลิเกเข้าไปทุกที ทั้งๆที่บ้านเรา “เมืองร้อน” จะแย่ แต่ก็นะซ้อนกันเป็นชั้นๆ มากกว่าหมูสามชั้นเพราะบ่อยครั้งชุดอาภรณ์ซ้อนกันสี่ชั้นก็มี.. เยอะน่ะครับ

• คำถามสำคัญที่ต้องถามเมื่ออ่านประกาศกโฮเชยาห์วันนี้คือ
o ศาสนาเป็นแบบนี้หรือ???
o พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่เจ้าระเบียบมากขนาดนั้นเชียวหรือ???
o พระองค์จะโกรธไหมถ้าเราทำไม่ครบหรืออ่านตกไปคำสองคำหรือข้ามขั้นข้ามตอนไปบ้าง...
o และถ้าใส่ชุดไม่ครบชั้นหรือสวดออกเสียงคำภาวนาของเราหรือคาถาที่ท่องๆ สะดุดก็จะจะไม่เกิดผลได้เลยหรือ หรือจะกลับกลายเกิดผลร้ายไปเลยไหม... วันนี้พ่อชวนให้คิดจริงๆครับ....

• ลดระดับลงมาหน่อย “ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆของมนุษย์” งานแต่งงานนี่ถือว่าสุดยอดแล้วเรื่องธรรมเนียม พิธีและสภาพแวดล้อมสำคัญเหลือเกินกระนั้นหรือ
o พ่อเคยจิตนาการนะครับ งานแต่งงานเรื่องใหญ่จริงๆ พ่อเคยได้ยินคนเล่าว่า งานแต่งานบางงานนั้นลงทุนสุดๆ มากๆ ชุดเจ้าสาวราคาสิบล้าน และคนก็ฮือฮากันสุดๆ กับชุดนั้น รอคอย รอดู นี่ก็เหมือนกัน อาการหนักชุดสิบล้านทำให้คนนั้นเปลี่ยนอะไรหรือจากภายใน พ่อเห็นความฟุ้งเฟ้อและไร้สาระจริงๆ เอ หรือว่าชุดเจ้าสาวราคาสิบร้านน่าจะทำให้เจ้าสาวคนนั้นๆ ใส่ได้อีกหลายงานกันหนอ เออ ท่าจะจริง..
o ดอกไม้ที่แต่งในวัดหรือในงานในโรงแรมก็นะ เคยได้ยินว่าบางงานนั้นหรืองานแต่งเศรษฐีบางคู่ ที่โรงแรม ราคาค่าดอกไม้นั้นจ่ายกันเป็นหลักแสนหรือเป็นหลักล้านก็มีนะครับ มีอยู่จริงๆ กำแพงห้องจัดงานทั้งกำแพงก็สวยอยู่แต่ใส่ดอกไม้เต็มจนมองไม่เห็นกำแพงเลย ทั้งๆที่กำแพงห้องจัดงานนั้นสวยมากแต่ต้องโปะด้วยดอกไม้สีที่เจ้าสาวชอบอะไรทำทองนี้ พ่อได้ยินคนรู้จักไปร่วมงานแต่งกลับมาเล่าให้ฟัง เขาบอกพ่อว่า ค่าดอกไม้อย่างเดียวสองล้านบาท (ขอเป็นลมแพร็บ)...
o ไหนจะต้องจ่ายค่าจ้างพวกที่ทำมาหากินกับงานแต่งต่างๆ ที่เขาเรียกกันว่าอีเวนออร์กาไนเซอร์ บริษัทรับจัดงานที่จัดทุกอย่าง เตรียมทุกอย่าง เรียบร้อยทุกอย่าง ทั้งระบบต้นยันจบมีรวมแบบเหมาทั้งงาน... แม้แต่นักร้องที่จะมาปรากฏตัวในงานเพื่อกระชากใจคนร่วมงาน...
o บวกคำนวนออกมาเป็นเงินได้ทุกจุด แพงมากๆ เพราะมีบริษัทเข้ามารองรับช่วงเรียกว่าซับๆๆๆ อีกหลายซับๆๆๆ เข้ามา ต้องจ้างนักร้องดังๆ ค่าตัวแพงมาร้องเพลงในงานสักสองสามเพลงๆละสามสี่หมื่น...
o เออเรื่องนักร้อง... อันนี้พ่อเคยเห็นด้วยตาตัวเอง ไปงานที่โรงแรมหรูมากๆ เจ้าบ่าวเจ้าสาวน่ารักมากอยู่แล้ว สักครู่ก็มีนักร้องดังปรากฏกายมาบนเวที ทุกคนส่งเสียงดีใจกันมากๆ ร้องเพลงเพราะมากสองเพลง ร้องจบเขาก็อวยพรเจ้าบ่าวเจ้าสาว เอ่ยชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวเรียกน้อง... พี่...ขออวยพรให้น้องทั้งสอง... ทุกคนเงียบฟังกันหมดเลย...555 เงียบฟังมากกว่าตอนพ่อเจ้าวัดที่ประกอบพิธีอวยพรในวัดอีก...
o โห โห โห เขารู้จักเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วย... พ่อคิดว่าเขาคงเป็นเพื่อนกันจริงๆ.. แต่สอบถามไปมาทราบความว่า ไม่ได้รู้จักกันเลยแต่ทางบริษัทจัดงานเขาจ้างมาร้องเพลงให้เท่านั้น... เออจริงด้วยครับ เพราะร้องเสร็จอวยพรยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว แล้วนักร้องคนนั้นก็หายตัวไปทันทีเลย.. ไม่ได้อยู่ร่วมรับประทานอาหาร ไม่ได้อยู่ยินดีต่อไปเลย ไปทันที... ก็แปลว่าจ้างมาจริงๆด้วย นี่อย่างไรล่ะความวุ่นวายและการลงทุนของงานพิธีต่างๆ
o บ่อยครั้ง งานแต่งงาน เรื่องราว พิธีการ ก็แบบนี้ เหมาะกับคำตัดพ้อขอพระเจ้าจริง “ความรักของท่านเป็นเหมือนเมฆในยามเช้า เหมือนน้ำค้างที่หายไปตั้งแต่เช้าตรู่”
o บ่อยครั้ง ไปงานที่แสนใหญ่ลงทุนหนักเหลือขนาด ชุดแม่เจ้าสาวยังราคาเป็นล้านรวมเครื่องเพชรบนกายา โอ โอ แล้วความรักล่ะครับ... บ่อยครั้ง แต่งไปไม่นาน ก็ห่างหาย ทิ้งร้างกันไป...
o คงสะท้อนความบ้างคลั่งทางศาสนาได้กับเอฟราอิมและยูดาห์ รักพระเจ้าเหมือน เมฆยามเช้าและน้ำค้างในแผ่นดินอิสราเอล... พอแดดมานิดเดียวก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว... ประกาศกตัดพอความรักและศรัทธาแบบนี้จริงๆ

• ทั้งหมดที่พ่อเขียนมาข้างต้น เมื่อมองดูกับคำของประกาศกในวันนี้ เรียกว่าเข้าทางที่พ่อกำลังกล่าวถึงเลยนะครับ คือ... ศาสนาและการถือศาสนาสมัยของโฮเชยาห์ก็เช่นนี้แล...

• ศาสนา พิธีรีตองมากมายที่กล่าวมาหลายครั้งเราก็สรุปและคิดว่า ยิ่งมากยิ่งดี ยิ่งซับซ้อนยิ่งขลัง ยิ่งมีพรมาก ยิ่งมีผลกับชีวิตทางศาสนาหรือธรรมเนียมประเพณีมากๆ

• สำหรับศาสนพิธีของชาวยิวในพันธสัญญาเดิมก็เช่นเดียวกัน
1. การถวายบูชามากมายเพื่อชดเชยบาป เพื่อขอพรจากพระเจ้า และหวังจะได้รับพระพรจากพระเจ้ามากๆ
2. ที่พระวิหาร หรือสักการสถาน มีการถวายบูชาด้วยเครื่องบูชามากมายนับร้อยนับพัน
3. พระคัมภีร์เล่าถึงเรื่องราวของกษัตริย์ของอิสราเอลในอดีตถวายบูชาด้วยเครื่องบูชามากมาย เผาวัวแกะแพะนับร้อยนับพันเพื่อหวังให้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
4. บ่อยครั้งก็ทำบาปกันมากๆ ทำผิดกันมากๆ เสเพลกันมากๆ หลงระเริงกันไปเสียจนไกลสุดกู่ คือกู่ไม่กลับเรียกไม่ได้ยินและเมื่อจนทาง จนตรอก หรือไปไม่รอด ก็กลับมาถวายบูชาแด่พระเจ้า กลับมาหาพระเจ้า... แล้วถวายบูชามากมายด้วยหวังว่าพระเจ้าจะเมตตารับการเผาบูชานับร้อยนับพัน และหวังว่าพระเจ้าจะเมตตาและกรุณาให้อภัย หรือเมตตาประชากรของพระองค์..

• พี่น้องที่รักครับ... ฟังพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ อ่านบทอ่านวันนี้ดีๆ แค่เพียงนิดเดียวก็คุ้มแล้วที่จะเห็นความจริงของพระเจ้า ความจริงของศาสนาและศาสนกิจ

• ที่จะทำให้เราได้เป็นศาสนิกจริงๆเป็นคนที่มีพระเจ้ามีศาสนาที่แท้จริง... พระเจ้าตรัส “เพราะเราต้องการความรักมั่นคง ไม่ประสงค์การถวายบูชา เราต้องการการรู้จักพระเจ้า มากกว่าเครื่องเผาบูชา”

• พี่น้องครับ พ่อมีคำถามส่งท้ายวันนี้จริงๆครับ
o เรารู้จักพระเจ้าเพียงใดครับ...
o เรารู้จักพระเจ้าจริงๆไหม
o นักบุญเยโรมกล่าวว่า “การไม่รู้จักพระคัมภีร์ คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า”
o พี่น้องครับ “การรู้จักพระเจ้า” ครับจำเป็นที่สุดเพื่อความรอด เชื่อในพระองค์หวังในพระองค์ และ
o “พระคัมภีร์” คือพระวาจาที่เราจะรู้จักพระเจ้าได้จริงๆ อย่างน้อยวันนี้เราก็ทราบแล้วว่า “พระองค์ประสงค์การรู้จักพระองค์ ไมใช่เครื่องบูชา... พระองค์ต้องการความรักมั่นคง...ไม่ใช่การถวายบูชา”...

พี่น้องครับ มหาพรตปีนี้ เวลานี้ที่เราได้อ่านพระคัมภีร์จากประกาศกโฮเชยาห์แล้ว... ดังนั้น

• เรามาเป็นคริสตชนที่ดีที่สุดกันให้ได้นะครับ...
• เป็นคริสตชนที่ดี คือ ต้องรู้จักพระคริสตเจ้าอย่างดีจริงๆนะครับ
• ดังนั้น เทศกาลมหาพรตนี้ขอให้เราหันมารู้จักพระองค์ บอกเล่ากล่าวถึงพระองค์
• อ่านเรื่องราวของพระองค์
• อ่านพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นพระวาจาและคำสอนของพระองค์ให้จริงๆจังๆกันให้มากที่สุดนะครับ

• ที่สุด พ่อเรียกร้องขอร้องเชิญชวนครับ ขอให้เราช่วยกันภาวนาเพื่อว่า บรรดาพระสงฆ์ผู้เทศน์สอน นักบวช สามเณร และเราคริสตชนทุกคนด้วย
o ขอให้เราได้รู้จักพระเยซูเจ้าอย่างดีที่สุด อาศัยพระวาจา ศีลมหาสนิทและการอธิษฐานภาวนาเป็นพิเศษนะครับ พระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ
o ขอให้เรา รู้จักพระเจ้าให้มากที่สุดโดยการแสวงหาพระองค์ในพระวาจาและในชีวิตครับ... อย่าให้เป็นเพียงพิธีรีตองนะครับ

• ขอจบแบบเชิญชวนด้วยคำของประกาศกครับ “พวกเราจงรู้จัก จงรีบรู้จักพระยาห์เวห์เถิด พระองค์จะเสด็จมาอย่างแน่นอนเหมือนรุ่งอรุณ จะเสด็จมาหาเราเหมือนฝนเหมือนฝนต้นฤดูใบไม้ผลิที่รดพื้นแผ่นดิน” –ขอให้เรามารู้จักพระเจ้ากันให้มากขึ้นเสมอเถิดครับ....

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก