“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2015
สัปดาห์ที่ยี่สิบแปด เทศกาลธรรมดา

ลก 11:29-32…

29เมื่อประชาชนมาชุมนุมกันมากขึ้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “คนยุคนี้เป็นคนชั่วร้าย อยากเห็นเครื่องหมายแต่จะไม่มีเครื่องหมายใดให้เห็นนอกจากเครื่องหมายของประ กาศกโยนาห์เท่านั้น 30โยนาห์เป็นเครื่องหมายสำหรับชาวนีนะเวห์ฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะเป็นเครื่องหมายสำหรับคนยุคนี้ฉันนั้น 31ในวันพิพากษา พระราชินีแห่งทิศใต้จะทรงลุกขึ้นและทรงกล่าวโทษคนยุคนี้ เพราะพระนางเสด็จมาจากสุดปลายแผ่นดิน เพื่อฟังพระปรีชาสุขุมของกษัตริย์ซาโลมอน แต่ที่นี่มีผู้ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์ซาโลมอนอีก 32ในวันพิพากษา ชาวนีนะเวห์จะลุกขึ้นและกล่าวโทษคนยุคนี้ เพราะชาวนีนะเวห์ได้กลับใจเมื่อได้ฟังคำเทศน์ของประกาศกโยนาห์ แต่ที่นี่มีผู้ยิ่งใหญ่กว่าโยนาห์อีก



อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
 
• วันนี้พ่อเปลี่ยนสถานที่นิดหน่อย พ่อนั่งลงเขียนบทเทศน์ที่รีสอร์ทเล็กๆของญาติ ที่พัทยา “เดอะ ธารา และนั่งแต่เช้าก่อนร้านอารหารเรื้อไม้จะเปิด” พ่อนั่งริมถนนสุขุมวิท พัทยาเช้าวันอาทิตย์ที่ทุกสิ่งยังดูนิ่งไม่ไหวติงมากนัก เพราะเชื่อว่า เมื่อคำวานนี้คงไหวติงทั้งพัทยาและคงจะหามรุ่งหามค่ำกันยันเช้าสำหรับความ เหนื่อยอ่อนของงวถีชีวิตและกระแสโลกแห่งเมืองพัทยาเช่นนี้ แต่ ณ ที่พ่อนั่งอยู่ คือ เดอะ ธารา และเรือไม้ ที่พ่อเคยเน้นว่า “เราต้องเป็นน้ำใสแห่งพัทยา เราต้องเป็น “พัทยาแท้” (กระแสลมตะวันออก) ที่นำความสดชื่นมาสู่เมืองพัทยาและประชาชน เพราะเรามีความเชื่อในพระคริสตเจ้า....”

• ดังนั้น วันนี้พ่อนั่งลงเขียน ขณะที่ตาหูมองดูและฟังเสียงรถที่เริ่มวุ่นวายขึ้นทีละน้อย เพราะเป็นวันอาทิตย์... ณ พัทยานี้ พ่อได้ไตร่ตรองย้อนไปสองเหตุการณ์ที่พ่อได้ประสบมาก่อนจะมาที่นี่เมื่อวาน นี้... คือ
1. หลังจากความเงียบ 9 วัน เต็มที่ท่าไข่ แปดริ้ว....
o คือ หลังจากที่พ่อได้เทศน์เข้าเงียบ คับคณะเซอร์ (ซิสเตอร์) เซนต์ปอล เดอ ชาร์ต ที่บ้าน “หมู่คณะศรีแห่งชาร์จ” บ้านเซอร์อาวุโส ที่ทำงานมายาวนานจนเข้าสู่วัยของการรับใช้พระศาสนจักร ด้วยชีวิตภาวนา เรียบง่าย และสรรเสริญพระเจ้าต่อไป และที่นั่น มีบ้านพักและบ้านของคณะหลังใหม่ชื่อ “บ้านแห่งพระเมตตา” ณ ที่นั่น 9 คืน พ่อได้พักค้าง และเทศน์พร้อมกับเข้าเงียบกับคณะเซอร์ รุ่นอธิการ จำนวน 40 ท่าน เป็นเวลาเงียบ เป็นเวลาแห่งความสงบ ภาวนา ไตร่ตรองพระวาจาของพระเจ้า และให้พระวาจา และศีลมหาสนิท อีกทั้งการภาวนาตลอดทั้งวัน เป็นศูนย์กลางของชีวิต... พ่อยอมรับว่าประสบการณ์นี้ร่วมสิบวันหัวท้ายที่พ่อเดินทางไป และวันที่เดินทางกลับ... กับคณะนักบวช พ่อพูดได้คำเดียวว่า “ขอสรรเสริญพระเจ้าจริงๆ ขอสรรเสริญพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด และขอขอบพระคุณเวลาดีๆแห่งชีวิต และได้เห็นชีวิตนักบวช ที่พวกท่านจริงๆจังกับชีวิตภวานา พระวาจา และศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลาง พ่อขอสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้า” 


o พ่อได้เรียนรู้จริงๆว่า... ในกระแสโลก โลกีย์ ที่ศิษย์พระของพระคริสตเจ้าเจริญชีวิตเพื่อเป็นแสงสว่างของพระคริสตเจ้า และเป็นเกลือดองแผ่นดินเสมอไปนั้น เราไม่สามารถออกจากกระแสโลก แต่เราต้องอยู่ในโลก แต่ แต่ แต่ ไม่เป็นของโลก แต่ตรงกันข้าม เราต้องยืนหยัดว่าเราเป็นของพระคริสตเจ้า เป็นคริสตชน เป็นนักบวช เป็นพระสงฆ์ เราต้องยืนหยัดแก่โลกว่าเราเป็นของพระคริสตเจ้า เพื่อนำความหวัง ความเชื่อ ความรัก และทำให้โลกได้มีความหวังในความเหือดแห้งของทะเลทรายแห่งชีวิตฝ่ายจิต ที่ก่อให้เกิดความเห็นแก่ตัว และปัจเจกนิยมสุดโต่ง แบบที่พระสันตะปาปาฟรังซิสเน้นสอน เราต้องมุ่งเจริญชีวิตเพื่อความดีของโลก “บ้านส่วนรวมของเราที่บาดเจ็บ” อยู่ อย่างเช่นทุกวันนี้ 

o เราต้องกล้าหาญที่จะเป็น “ศิษย์พระคริสต์ เจริญชีวิตประกาศข่าวดีใหม่แห่งความหวัง ความรักเมตตา ด้วยพลังแห่งความเชื่อต่อไป” พ่อได้เห็นบรรดามาเซอร์เข้าเงียบอย่างสงบ ชีวิตภาวนาที่เคร่งครัด และชีวิตจิตที่แสวงหาพระเจ้าในพระวาจาของพระเจ้า ทำให้พ่อเองมีความสุข มีความหวังมากขึ้น พ่อรู้ว่า กระแสโลกก็ยังคงเหือดแห้ง แต่พวกเราก็ต้องเดินเข้าไป และประกาศ ประกาศ ประกาศ ให้สังคม พี่น้องของเราได้มีมโนธรรมที่ดี มีหางเสือที่แข็งแรง และมีพลังขับเคลื่อนแม้ยามอ่อนล้าไหลไปตามกระแสโลกอย่างน่าห่วงใยเป็นที่ ยิ่ง... แต่ ขณะพ่อนั่งเขียน หลังจากประสบการณ์การเข้าเงียบกับคณะเซอร์ พ่อมีความหวัง หลังจากที่พ่อได้ไตร่ตรองถึงพระคริสตเจ้า เราคริสตชน ที่นักบุญเปาโลเขียนว่า “บัดนี้ไม่ใช่ข้าพเจ้าที่มีชีวิต แต่เป็นพระคริสต์ผู้เจริญชีวิตในข้าพเจ้า” พ่อมีความหวัง และเทศน์สิ่งนี้เพื่อตัวพ่อเอง เพื่อคณะเซอร์ เพื่อเดอะธารา เรือไม้ ร้านค้าของคริสตชน และเพื่อคริสตชนทุกคน เพื่อกิจการของเรา... จะได้เป็นเสียงแห่งความดี เป็นมโนธรรมที่ถูกต้อง ที่เดินอยู่ในกระแสโลก พร้อมประกาศการให้อภัยของพระเจ้า เพียงต่อขอให้กลับใจ... ดังเช่นเสียงของประกาศกโยนาห์ ขอให้เราได้เป็น เคื่องหมาย “sign” ดังเช่น โยนาห์ ในสังคมโลกปัจจุบัน ทุกที่ และขณะนี้ สำหรับเดอะธารา เรือไม้ คือ ทีพัทยา และสำหรับเซอร์ทุกท่าน คือ ทุกที่ที่ท่านทั้งหลายกลับไปทำงานเพื่อพระเจ้า และสำหรับพี่น้อง คือ ทุกครอบครัว และสังคมรอบข้างเรา... เราจะเป็น “เคื่องหมาย และเครื่องมือ” เพื่อประกาศเสียงของพระเจ้า เพื่อความดีของโลกครับ

2. การบรรยายให้กับซิสเตอร์ในหมู่คณะพระหฤทัย วานนี้ จำนวนซิสเตอร์ได้เข้าฟังและร่วมใจกันติดตามกฤษฎีกาสมัชชาฯ 2015 อย่างนาชื่นชม
o แม้พ่อบรรยายเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งกับคณะซิสเตอร์ผู้ถวายชีวิตเพื่อพระเจ้า พ่อมองไปยังบรรดาซิสเตอร์ คณะนักบวชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ พ่อมีความหวังเหลือเกิน เมื่ออ่านพระวาจาวันนี้ พ่อรู้สึกถึงประสบการณ์ได้เห็นพวกซิสเตอร์มากมายวานนี้ พ่อรู้สึกเหมือนสังคมในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และสังคมไทย พ่อหมายถึงประเทศของเราในทุกๆ แห่ง ดังเช่นที่พัทยาที่พ่อนั่งเขียนอยู่เวลานี้... แน่นอนในสังคมปัจจุบัน มีบาดแผล ความบาดเจ็บมากมาย ณ ปัจจุบัน บาดแปลร้าย และช้ำไม่รู้หายเพราะเป็นรอยแผลแกะซ้ำเปิดแล้วเปิดอีกที่ถูกกระทำเพราะบาป ของสังคม บาปสาธารณะ ของผู้คนที่ไม่รู้ซ้ายรู้ขาว หรือช่างไม่รู้เอาเสียเลย เพราะคิดถึงแต่ตัวเอง เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้จนไม่รู้ตัว และเสียความรู้สึกรู้สาถึงผู้อื่นๆ ถึงพระเจ้า และเพื่อนพี่น้องผู้รับผลกระทบ
o พ่อเห็นคณะซิสเตอร์วานนี้ ร้อยกว่าคน เต็มห้องประชุม พ่อยอมรับว่า เรายังมีแสงสว่าง เรายังมีความหวัง สังคมของเรายังมีพลังของชีวิตนักบวชที่พร้อมสวมชุดขาว และเจริญชีวิตเป็นพยานตลอดชีวิตว่า จะทำทุกอย่างเพื่อความรักต่อพระเจ้า เพื่อประกาศความรักจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าตลอดไป... พ่อได้เห็นความจริงจังของบรรดาซิสเตอร์ในการรับฟัง ไตร่ตรอง ศึกษาประเด็นสำคัญๆ ของเสียงสัชชาฯ พ่ออุ่นใจ และมั่นใจว่า บรรดาซิสเตอร์จะกล้าหาญต่อไป ชัดเจนมากขึ้นกว่าที่เคย เพราะกระแสโลกรุนแรง ชีวิตนักบวชจึงต้องเป็นชีวิตแห่งการประกาศข่าวดีใหม่ ใหม่ในความกล้าหาย ร้อนรน และวิธีการ โดยเฉพาะการเจริญชีวิตเป็นพระจักษ์พยาน
o พ่อบอกตรงๆว่า เขียนออกมาจากภาพที่ได้เห็นนักบวชร่วมจิตร่วมใจ พ่อจึงยิ่งมั่นใจว่า พระศาสนจักรเรายังมีแสงสว่าง และเกลือดองแผ่นดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง พ่อได้เห็นเครื่องหมายจริงๆ จากคณะซิสเตอร์พระหฤทัยเช่นกัน

• พี่น้องที่รัก พ่อสรุปว่า “เครื่องหมาย” ของโยนาห์ ทำให้ชาวนีนะเวห์กลับใจได้จริงๆ แม้โยนาห์เองไม่เชื่อ ไม่ได้คิดว่าชาวนีนะเวห์จะกลับใจก็ตาม แต่ชาวนีนะเวห์ได้ยิน และก็ได้กลับใจ และพระเจ้าก็ทรงพระเมตตาต่อไป...

• ที่นี่ มีเครื่องหมายยิ่งใหญ่กว่าเครื่องหมายของโยนาห์ คือ “พระเยซู” คือความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าพระบิดาใน “พระบุตร พระเยซู” แล้วโลกจะไม่รอดได้อย่างไร ประชาชน สังคมทุกสมัย แม้ปัจจุบัน ที่เป็นดังทะเลทราย จะไม่กลับใจใช้โทษบาป และเปลี่ยนแปลตนเองได้อย่างไร...

• สังคมไทยขอเรา มีผู้ที่แบกเครื่องหมายของพระคริสตเจ้าเสมอ บรรดานักบวช ดังเช่นทั้งสองคณะที่พ่อเพิ่งได้พบปะมา พ่อมั่นใจ พวกเขาคือเครื่องหมายของพระคริสตเจ้า เครื่องหมายของความซื่อสัตย์ต่อพระคริสตเจ้า เจ้าสาวของพระคริสตเจ้า... ความงดงามของชีวิตนักบวช ต้องโดดเด่นในความรักร้อนรน ในความเมตตา ใจดี และมีเมตตาธรรมอย่างเต็มที่ เพื่อประกาศให้โลกปัจจุบันได้รับรู้ถึงพระคริสตเจ้า โดยมีชีวิตของนักบวช เป็น “เครื่องหมาย”

• และแน่นอน เราทุกคนด้วยครับ.. ไม่ใช่เพียงนักบวชครับ บรรดาคริสตชนที่เวทีของพวกท่านคือในโลก ในการอาชีพกลุ่มอาชีพ ครอบครัว พวกเราต้องเป็น “เครื่องหมายของพระคริสตเจ้าเช่นกัน” ครอบครัวที่มีความเชื่อ มีคุณภาพ มีคุณธรรม ความรักเมตตา ก็เป็นเครื่องหมายสำคัญ และยิ่งใหญ่ที่สุดเลยครับ เพราะคริสตชนฆราวาส คือ คนกลุ่มใหญ่ที่สุด และอันที่จริง พวกท่านคือที่มาของพระแสเรียกนักบวช พระสงฆ์อีกด้วย

• ครับ พ่อเองด้วย หนีไม่ได้ พระสงฆ์ ทุกองค์ พระสังฆราชทุกองค์ คือเครื่องหมายของพระคริสตเจ้า “ต้องเป็นให้ได้ เพราะสัญญาจะเป็น และได้รับการปกมือ เจิม จนเรียกว่า เป็นพระคริสตเจ้าอีกองค์หนึ่ง” เราทุกคน จึงมีภารกิจสำคัญ ในใจความที่ว่า “หลีกเลี่ยงไม่ได้ ละทิ้งไม่ได้ เสเพล เททิ้งซึ่งการเป็นเครื่องหมายไม่ได้ หลบๆ หลีกๆ เลี่ยงๆ ฉากๆ เลี่ยงบาลีหรือลาตินก็ไม่ได้” เพราะชีวิตของพวกเรา คือ “เครื่องหมายแห่งศีลศักดิ์สิทธิ์ ประกาศพระคริสตเจ้า” เพื่อสังคม ร่วมกับพี่น้องคริสตชน เพื่อโลกให้ได้พบความใสแห่งชีวิตที่มีความหวังเสมอครับ

• พ่อนั่งเขียนในจุดที่พ่อเองเสนอให้เป็น “น้ำใสของพัทยา” พ่อขอให้เราคริสตชน นักบวช โดยเฉพาะพระสงฆ์และพระสังฆราช ต้องเป็น น้ำใส ใจจริง บริสุทธิ์ ในการเป็นเครื่องหมายแก่สังคม โลก ด้วยการเป็นศิษย์พระคริสตเจ้าแท้ เจริญชีวิตเป็นประจักษ์พยาน เป็นเครื่องหมายประกาศข่าวดีของพระคริสตเจ้าเสมอไปครับ

• ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก