“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 26 เมษายน 2017
วันพุธ สัปดาห์ที่สองเทศกาลปัสกา
ยน 3:16-21…
16พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร 17เพราะพระเจ้าทรงส่งพระบุตรมาในโลกนี้มิใช่เพื่อตัดสินลงโทษโลก แต่เพื่อโลกจะได้รับความรอดพ้นเดชะพระบุตรนั้น

18ผู้ที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่ถูกตัดสินลงโทษ แต่ผู้ที่ไม่มีความเชื่อก็ถูกตัดสินลงโทษอยู่แล้ว เพราะเขามิได้มีความเชื่อในพระนามของพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระเจ้า 19ประเด็นของการตัดสินลงโทษก็คือความสว่างเข้ามาในโลกนี้แล้ว แต่มนุษย์รักความมืดมากกว่ารักความสว่าง เพราะการกระทำของเขานั้นชั่วร้าย 20ทุกคนที่ทำความชั่วย่อมเกลียดความสว่างและไม่เข้าใกล้ความสว่าง เกรงว่าการกระทำของตนจะปรากฏชัดแจ้ง 21แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามความจริงย่อมเข้าใกล้ความสว่าง เพื่อให้เห็นชัดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นได้ทำโดยพึ่งพระเจ้า”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• พระวาจาวันนี้คือข้อความที่แสนรักและประทับใจ พ่อเองปักข้อความนี้ไว้บนแขนเสื้อของพ่อ ยน 3:16 (Jn 3:16) ข้อความในการสนทนาของนิโคเดมัสกับพระเยซูพระอาจารย์เจ้ากำลังมาถึงหัวใจสำคัญมากๆ เมื่อพระองค์ตรัสว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร”
o นี่เป็นประโยคทองเลยครับ พระเยซูเจ้าตรัสด้วยพระองค์เอง คำว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก” ในที่นี้หมายถึงความรักต่อเรามนุษย์ ซึ่งพ่อคิดว่าความจริงประการนี้ไม่ต้องสงสัยเลยสำหรับเราคริสตชน
o เราเชื่อในความรักของพระเจ้าที่ทรงมอบพระบุตรสุดที่รักของพระองค์เพื่อเรา... พ่อคิดว่าเรื่องการสงสัยในความรักนี้ พ่อไม่เคยสงสัยเลย... ความรักขอพ่อแม่ของเรา... พ่อเล่าถึงจาพ่อบ่อยๆ
o พ่อรู้ว่า จาของพ่อรักพ่อและรักลูกๆหลานๆมากมาย ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร.. จามีสายตาที่รัก ห่วงใย พ่อจำได้ว่าเวลาพวกเราไปรวมตัวกันที่บ้าน ลูกๆจามีหลายคน มากันหลายครอบครัว พร้อมหลานๆ พวกเราจะนั่งคุยกัน จาของพ่อซึ่งชราแล้ว ป่วยด้วยโรคร้ายที่มีความหวังน้อย.. เจ็บปวดกับการที่มันรุกลามไปในกระดูก แต่จาก็อดทน และก็ยิ้มกับพวกเรา นั่งมองพวกเรา... นับจำนวนลูกๆว่ายังมาไม่ครบ บอกให้รับประทานอาหารก็ไม่ยอม ขับรถไฟฟ้าของตนวนไปวนมา และก็ปรารภว่าลูกๆที่สามคันรถ (สามครอบครัว) ยังไม่มาตามที่บอกไว้ จาห่วง ห่วงใยและเฝ้ารอ พ่อไม่เคยสงสัยความรักของจาเลยจริงๆ แม้มีจามีลูกมากเหลือเกิน... แต่จาพ่อก็รักห่วงใยลูกๆหลานๆทุกคนจริงๆ...

• พ่อกำลังพูดถึง “ความรัก”
o และพ่อรู้ว่า มนุษย์ทุกคนมีประสบการณ์ไม่มากก็น้อยในเรื่องความรัก คนเราถ้าขาดความรักจะเรียกว่า พังทลายทั้งระบบชีวิตก็ว่าได้
o เด็กๆที่เกิดมาแบบที่ขาดความรัก ถูกทิ้งหรือถูกละเลย ขาดบิดามารดาที่รักเขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความลำบากหรือมี “ปม” ของชีวิต การขาดความรักนี่โหดร้ายจริงๆนะครับ พ่อคิดว่า สังคมของเรามีเรื่องราวให้ดูชมและเรียนรู้ได้มากมายจริงๆ
o พ่อเชื่อมั่นในประสบการณ์ที่ว่า คนเราที่ได้รับความรักนั้น มีความสุขเสมอ แต่ แต่ แต่ คนที่ได้รัก ได้เป็นผู้รักนั้น... มีความสุขมากกว่า.. พี่น้องว่าจริงไหม
o ความรักคือการให้ สุดยอดของความรักคือการให้อภัยไม่สิ้นสุดเพราะรักไม่สิ้นสุด พ่อได้เรียนรู้กับตนเองด้วยว่า “การที่เราได้รักคนอื่น รักครอบครัว รักลูก รักสัตบุรุษ รักเพื่อนบ้าน” คนที่รัก มีความสุขกว่าการได้รับความรักมากเลยนะครับ

• เรามาดูกันต่อ...
o คนเราได้รับความรักมาก ถูกตามใจมาก ใครๆก็รุมรักมาก เช่นเด็กที่เจอภาวะแบบนี้ถ้าไม่ระวังจะเรียกว่า “สปอยล์” คือเด็กถูกตามใจ.. มักจะเกิดกับหลานๆเหลนๆอากงอาม่านี่แหละครับ ปกติอาตี๋น้อยจะ “เสียคน” ได้ง่ายมากๆ เพราะใครๆก็รุมรักตามใจจนเสียคน พ่อแม่ดุไม่ได้ อาม่าอากงไม่ยอม ตีก็ไม่ได้ ลงโทษไม่ได้ ทำผิดมาก็วิ่งหาอากงอาม่าแล้วก็ได้ที่หลบภัยไม่มีใครกล้าทำอะไรได้...
o สรุป.. อากงอาม่ากับม๊าป๊าตีกันเองเพราะอาตี๋น้อยเสมอ.. และอาตี๋น้อยก็ถูกรัก รัก รัก จนที่สุด “เสียคน”
o วันนี้พ่อมาไตร่ตรองว่าทำไมเป็นเช่นนั้น ความรักไม่ดีหรือ ทำไมความรักกลับทำให้อาตี๋น้อยเสียคนได้หนอ

• พ่อพบคำตอบจะจริงหรือไม่ แต่พ่อคิดว่าน่าพิจารณาไตร่ตรองครับ เรื่องความรักนี้มีความตอบที่พ่อได้รับครับ
o ความรักไม่ทำความเสียหายครับ... พระคัมภีร์ยืนยันโดยนักบุญเปาโล แต่ว่า ความรักนั้น ต้องส่งผลออกไปสู่ “การให้” ความรักที่ได้รับมาต้องส่งต่อ รักต่อ ไม่เก็บไว้คนเดียว แต่ต้องรักต่อไป
o ที่บรรดาอาตี๋น้อยเสียคนเพราะเขาได้รับความรัก ได้รับๆๆๆ รับจนเคยตัว ไม่เคยถูกสอนให้เป็นผู้ให้ความรักอย่างสมดุล จะเรียกว่า อะไรดี “บริโภคความรักมาจนอัดแน่นจนไม่มีทางออกของความรัก ขังไว้ จนติดกับตนเองฝ่ายเดียว เป็นโรคอ้วนเพราะถูกความรัก ถูกรักจนอ้วน บวมความรัก จน ระเบิดหรือสปอยล์จนได้”

• พี่นี่น้องที่รัก เพราะความรักต่างจากความเห็นแก่ตัวโดยสิ้นเชิง
o ดังนั้น ความรักมุ่งที่จะออกจากตนเองไปรักผู้อื่น ให้เกียรติ หวังดี และจนถึงการให้อภัย...
o ดังนั้น ความรักถ้าขังไว้ในตนไม่เผยออกไปหาคนอื่น และรุมๆกันรักรักรักจนเรียกฝังตัวไว้จนกลายเป็นความรักแต่ตนเองจึงไม่ใช่ความรักที่แท้จริง และที่สุดก็สปอยล์อยู่กับตนเองนั่นเอง

• สำหรับเราคริสตชน เรามีต้นแบบครับ พระเจ้าเป็นความรัก ทรงรักมนุษย์ จึงทรงออกจากพระองค์เอง โดยยอมมอบพระบุตรสุดที่รักเพื่อสอนเราให้ได้เรียนรู้ความรักแท้ดังเช่นพระองค์... “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร”
o นี่คือต้นแบบความรักของเราเลยครับ... ออกจาตนเอง ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เก็บความรักหมักไว้จนกลายเป็นความเห็นแก่ตัว ทั้งนี้เพราะไม่ได้หยิบยืนออกไปให้กลายเป็นความรักแท้ต่อเพื่อนมนุษย์และโลก
o เราเพิ่งผ่านปัสกามาครบ เราได้สัมผัสความรักที่สุดที่ทรงรักเราจนถึงกับมอบพระบุตร และพระบุตรก็ทรงยอมรักพระบิดาและรักเราจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน นี่คืออะไรที่มากกว่าบทเรียน มากกว่าแบบอย่าง แต่ แต่ แต่... เป็น “บ่อเกิดและจุดสูงสุด” ของความรักสำหรับเราทุกคน
o ดังนั้น เราคริสตชนเชื่อในความรักแบบนี้ครับ... “เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร”

• พ่อสรุปว่า เราคริสตชน เชื่อในความรักของพระเจ้าเช่นนี้ครับ... เราเชื่อศรัทธาในความรักของพระเจ้า จนเราได้เรียนรู้จากพระคัมภีร์ว่า “พระองค์คือพระเจ้าองค์ความรัก” จะสรุปได้ไหมว่า “ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้จริงๆ เพราะทรงเป็น “ความรัก” นะครับ”
o ประเด็นนี้แหละที่พ่ออยากบอกว่า มนุษย์เราทุกคนแสวงหาความรัก อยากได้ความรักแท้จริงๆ ทุกคนที่มีความสุขคือคนที่ได้พบความรักแท้ จริงไหมครับ..
o ครอบครัว สามีภรรยา ก็ปรารถนารักแท้ทั้งนั้นเลย... เด็กๆเกิดมาหากไม่ได้รับความรักแท้ จะเป็นแผลไปตลอดชีวิต หรือถ้าถูกรักจนเคยตัวก็สปอยล์ คือ เสียคนไปตลอดชีวิตเหมือนกัน จะกู้กู่กลับได้ ก็ต้องอาศัยความรักเช่นกัน...
o ถ้าเป็นเช่นนี้... ถ้าเรามนุษย์ได้พบพระเจ้า รู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้เป็นพระเจ้าองค์ความรักนิรันดร ทรงเป็น “ความรักและเป็นความสัตย์จริงในความรัก” หรือกล่าวอย่างที่พระคัมภีร์บอกกับเรา “พระเจ้าเป็นความรัก” และที่พระศาสนจักรสอนเรา “ความรักในความจริง”
o สรุปว่า ความรักและความจริงหรือความสัตย์จริงๆในความรัก คือความงดงามที่สุด และสมบูรณ์แบบในพระเจ้า...
o พี่น้องครับ.. พระเจ้าไม่ใช่เพียงเป้าหมายปลายทาง แต่เป็นบ่อเกิดและจุดสูงสุดของชีวิตคริสตชนเราทุกคน “ความรัก” คือ พระเจ้านิรันดร และเราเชื่อศรัทธาในความรักนิรันดรของพระบิดาเสมอนะครับ..

• พระเยซูเจ้าตรัสกับนิโคเดมัสต่อไปว่า...
o ประเด็นของการตัดสินลงโทษก็คือความสว่างเข้ามาในโลกนี้แล้ว
o แต่มนุษย์รักความมืดมากกว่ารักความสว่าง เพราะการกระทำของเขานั้นชั่วร้าย
o ทุกคนที่ทำความชั่วย่อมเกลียดความสว่างและไม่เข้าใกล้ความสว่าง เกรงว่าการกระทำของตนจะปรากฏชัดแจ้ง

• พี่น้องที่รัก..พระองค์เสด็จมาเป็นความรักสำหรับเรา ทรงรักเรา เป็นแสงสว่างแห่งคำสอนความจริงให้กับเรา..
o แต่มนุษย์รักความมืด (นิโคเดมัสมาหาพระองค์ในเวลากลางคืน เขามาหาองค์ความสว่าง)
o พ่อคิดว่า ความเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้นั้น มันน่าหลงใหลจริงๆ กระแสโลก ทรัพย์สินทางโลกมันน่าหลงใหลจริงๆ คนเราก็นะ..หลงสิ่งของมากกว่ารัก และรักกับหลงก็แยกไม่ค่อยออกเลย.. หลงรถคันงาม หลงแสงสี หลงราตรี หลงเงินทอง หลงแบรนด์เนม หลงความร่ำรวย หลงอำนาจ เหลิงด้วย หลงอีกมากมาย
o และหลงที่น่ากลัวที่สุดคือหลงตนเอง... ไม่ใช่รักตนเองนะครับ เพราะคำว่า “รัก” ไม่มีความหลงงมงายครับ เพียงแต่คนเราคิดว่าหลงนั้นคือรักเท่านั้น คิดว่า ความเห็นแก่ตัวคือความรักตนเอง...แต่จริงๆคือเห็นแก่ตัว

• พ่อมั่นใจว่า เราคริสตชนต้องไม่รักความมืดมน หลงใหลจนหน้ามืดตามัว ดับบอด หรือเดินในความมืด แต่เราได้รับแสงสว่าง เราได้รับความรักแท้ เราได้รับความจริงคือ “พระเยซู” เราเชื่อในพระองค์เถอะนะครับ เชื่อในความรักแท้ ศรัทธาในความรักแท้ คริสตชนถ้าหลงตนเอง แม้ว่าเป็นพระสงฆ์ นักบวช หรือแม้แต่สังฆราชด้วย ถ้าหลงตนเอง ก็แย่เลยครับ จะไม่น่ารักมากๆเลยจริงนะครับ... และถ้า “หลง” และคิดหรือมั่นใจว่า “ความหลงตนเองคือความรัก” เรียกว่า “หลง(ตนเอง) และคิดว่ากำลังรักสุดหัวใจ” ความเป็นแบบนี้คนหลงตนเองและคิดว่านั่นคือความรักยิ่งใหญ่ (คือหลงมากๆ เป็นเอามาก) คนแบบนี้จะมั่นใจมากจนถึงมากที่สุด และถ้าเป็นผู้นำคนอื่นแล้วละก็ไม่ว่าในระดับใดๆ... ครอบครัว พระศาสนจักร ชุมชนวัด ทั้งระบบจะไม่มีความสุขเลยครับ
o พ่อขอให้เราศรัทธาและเรียนรู้จักพระบิดาเจ้า เรียนรู้จักพระเจ้าของเราทางพระเยซูคริสตเจ้าได้โดยตลอดเลยครับ เพราะทรงรัก และออกจากพระบิดาลงมาสู่เรา บังเกิดเพื่อเราและทรงมอบตนเองสิ้นพระชนม์เพื่อเรา แม้สิ้นพระชนม์แล้ว สีข้างก็ยังถูกเปิดเพื่อให้น้ำและพระโลหิตแห่งความรักหลั่งไหลรินมาสู่เราเป็นนิรันดร์
o ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว.. “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร”
o พี่น้องที่รัก จงเชื่อใน...พระองค์กันสุดหัวใจและสุดกำลังเลยนะครับ...
o ขอพระเจ้าองค์ความรัก รักทุกท่านและเป็นความรักสำหรับชีวิตของเราทุกคนนะครับ อาแมน อัลเลลูยา

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก