“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 7 มีนาคม 2017
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต
มธ 6:7-15…
7“เมื่อท่านอธิษฐานภาวนา จงอย่าพูดซ้ำเหมือนคนต่างศาสนา เขาคิดว่าถ้าเขาพูดมากพระเจ้าจะทรงสดับฟัง 8อย่าทำเหมือนเขาเลย เพราะพระบิดาของท่านทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการอะไร ก่อนที่ท่านจะขอเสียอีก 9เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงอธิษฐานภาวนาดังนี้


“ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์
พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ
10พระอาณาจักรจงมาถึง
พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดิน เหมือนในสวรรค์
11โปรดประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้
12โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า
เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น
13โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้แพ้การประจญ
แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ
14“เพราะถ้าท่านให้อภัยผู้ทำความผิด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ ก็จะประทานอภัยแก่ท่านด้วย 1 5แต่ถ้าท่านไม่ให้อภัยผู้ทำความผิด พระบิดาของท่านก็จะไม่ประทานอภัยแก่ท่านเช่นเดียวกัน”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• วันนี้พ่อขอพาพี่น้องกลับไปเยี่ยมอิสราเอล... พ่อได้เข้าไปยังแผ่นดินที่มีการภาวนาของประชาชนอยู่ตลอด และมีการคร่ำครวญภาวนาร้องหาพระเจ้าอยู่ตลอด
o พ่อเข้าไปที่กำแพงร้องไห้ ที่ชาวยิวถือว่าเป็นที่ศักดิ์ พวกเขาก็ภาวนาเสียงดังๆ โยกตัวไปพลางภาวนา และก็ร้องตะโกนซ้ำ ร้องร่ำภาวนากันสุด
o ยิ่งที่บริเวณหลุมศพกษัตริย์ดาวิด ยิ่งออกเสียงกันดังมากๆ มีลีลาการภาวนาคร่ำครวญทำท่าร่ำไห้ด้วย ดูอาการภาวนาหนักกันจริงๆ
o ทางอีกศาสนาก็ไม่ต่างกัน มีการภาวนาวันละหลายเวลา ภาวนาแบบต่างๆ พ่อเข้าไปเจอแบบนี้ในแดนเคร่งๆในอิสราเอล ที่ๆเชื่อว่ามีการภาวนา มีศาสนา มีพระเจ้า
• พ่อไปเห็นศาสนาบางนิกาย
o พระของเขาภาวนา ต้องตะโกนเสียงดังมากๆ ดังไปหมดไม่ต้องใช้ไมโครโฟน และต้องมีท่าเดินแปลกๆ ถือกำยานแกว่งมีกระพรวนผูกส่งเสียงดังๆ พระที่ทำพิธีก็ต้องไว้หนวดไว้เคราดูเหมือนป่าดงดิบรกและไร้ฝนคือกรังจัง...
o ชุดแต่งกายพิธีก็ประหลาดซับซ้อน พ่อเคยเข้าไปในของคริสต์นิกายวัดอาร์เมเนียน ได้พบบรรดาสามเณรของเขาแต่งชุดดำหมดทุกคน.. เวลาภาวนาทำวัตรก็ต้องยืนเป็นแถวตรง โยกตัวไปมาซ้ายขวาตามจังหวะ ดูไกลๆเหมือนต้นอ้อไหวตามลมไปมา...
o บางทีดูๆแล้วพ่อก็ปลงกึ่งดีใจที่พ่อเกิดมาได้เป็นคาทอลิกในยุคปัจจุบัน ไม่ต้องมีการแต่งกายประหลาดๆมากมายเหมือนสมัยก่อน แต่เราก็เน้นเพียงความเรียบง่าย ภาวนาก็ยืนนิ่งๆ ไม่มีทาทางหรือท่าเต้นเหยงๆ มากมายนัก รู้สึกดีครับ ไม่ต้องทำท่าแปลกๆแบบนั้นแบบนี้มากนัก....
o พ่อมานั่งคิดๆดู ถ้าพ่อไปเกิดเป็นพระสงฆ์หรือศาสนบริกรบางศาสนาอย่างที่เล่ามา... พ่ออาจจะผอมซูบได้เลย เพราะพิธีกรรมต้องกระโดดโลดเต้นเยอะนะครับ... เอาเป็นว่า แต่ละศาสนา แต่ละความเชื่อ ก็มีวิธีการภาวนาแตกต่างกันไป เพราะอันที่จริง หลายๆความคิดทางศาสนาแบบต่างๆ ก็มีความคิดว่า ทำแบบนี้ ท่านี้ วิธีนี้วิธีนั้น พระเจ้าจะทรงฟัง หรือจะทรงแลเห็นและเมตตากรุณา...

• หลายครั้งมนุษย์คิด.. ต้องภาวนามากๆ มากๆ มากจริงๆ ต้องภาวนาซ้ำๆหลายๆรอบ เรียกว่าซ้ำไปซ้ำมาพึมพำอยู่ที่ริมฝีปากกระนั้นหรือ... ในบริบทของพระคัมภีร์ก็มีสิ่งที่พระเยซูเจ้าสอนและเตือนเรานี่นา พระเยซูเจ้าตรัสในพระวาจาวันนี้
o “เมื่อท่านอธิษฐานภาวนา จงอย่าพูดซ้ำเหมือนคนต่างศาสนา เขาคิดว่าถ้าเขาพูดมากพระเจ้าจะทรงสดับฟัง อย่าทำเหมือนเขาเลย เพราะพระบิดาของท่านทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการอะไร ก่อนที่ท่านจะขอเสียอีก”
o การพูดซ้ำๆ... ภาษาฮีบรูใช้คำว่า batal คือการพร่ำพูดแล้วพูดอีก ร้องขอแล้วร้องขออีก... พูดย้ำขอกับพระเจ้าบ่อยๆ และหวังว่า พระเจ้าจะฟังและยอมทำตาม..
o แต่พระเยซูเจ้าย้ำว่า “อย่าทำเหมือนเขาเลย จงอย่าพูดซ้ำเหมือนคนต่างศาสนา” ถ้าถามพ่อ พ่อบอกว่า พระวาจาวันนี้ชัดเจนจริงๆ ครับ และพระองค์บอกกับเราถึงความจริงที่ว่า พระเจ้าทรงสรรพาสุภาพ ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์เป็นพระบิดา ทรงรู้ก่อนที่เราจะขอเสียอีก...

• พี่น้องที่รัก วันนี้พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เราสวดภาวนา “บทข้าแต่พระบิดา”
o ถ้าจะว่ากันจริงๆ พระเยซูเจ้าสอนเราเพียงบทเดียวเท่านั้น แม้เรามีบทภาวนามากมายเหลือเกิน
o บทภาวนาบทเดียวที่พระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้ภาวนาด้วยพระองค์เอง ทรงสอนบรรดาศิษย์ของพระองค์ คือ “บทข้าแต่พระบิดา” (The Our Father) ซึ่งอันที่จริงเป็นบทภาวนาสำคัญที่สุดของเราคริสตชนทุกคน พ่อขออนุญาตให้อรรถาธิบายนิดหน่อยสำหรับบทภาวนาวันนี้นะครับ

• ในส่วนแรกคือการร้องหาพระเจ้า เน้นที่พระเจ้าเป็นสำคัญ
o “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย” คำเรียกนี้ พระองค์สอนให้เรารู้ว่า เราทุกคนเป็น “ลูกๆของพระเจ้า” พระเจ้าทรงเป็น “พระบิดา” ดังนั้น การภาวนาของเราคริสตชนจึงไม่ได้ภาวนาแบบห่างไกล แต่เป็นการเรียกหาภาวนาแบบใกล้ชิดมากๆ ใกล้กันมากจริงๆ พ่อกับลูกภาวนาหรือสนทนากัน...” พระเจ้าของเราไม่ได้เป็นพระเจ้าที่ทรงยิ่งใหญ่หรือห่างไกลเลย แต่ทรงเป็น “พ่อ” ของเราทุกคน

o “พระองค์สถิตในสวรรค์” ความหมายของภาษาต้นฉบับ ที่ประทับของพระเจ้าคือสวรรค์ ภาษาต้นฉบับฮีบรูหรืออารามายอิก คือ hasshamayim / hasshamayma หมายถึงเบื้องบน หมายถึงอำนาจสวรรค์พลังของท้องฟ้า หรือ ความยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้า พระองค์สถิตในพลังและอำนาจสูงสุด ทรงเหนือกว่าสิ่งสร้างและสรรพสิ่งใดๆ เราร้องหาพระองค์ด้วยความวางใจ และชื่อในพลังอำนาจของพระองค์จริงๆ

o “พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ” พระเจ้าเป็นพระบิดา ทรงยิ่งใหญ่ที่สุด ดังนั้น “พระนาม” คือ “ชื่อของพระองค์” ย่อมต้องไม่ถูกลบหลู่หรือใช้ผิดโดยเด็ดขาด พระนามของพระเจ้าจะต้องได้รับการสรรเสริญ ถวายเกียรติเสมอไป เราเชื่อและถวายเกียรติแด่พระเจ้า

o “พระอาณาจักรจงมาถึง” Thy Kingdom come เราต้องการการปกครองของพระเจ้าพระบิดา เราวิงวอนให้การปกครองของพระองค์จงมาถึง เพราะเราชื่อว่า การปกครองของพระองค์จะต้องประทานความรักเมตตาและความยุติธรรม อีกทั้งประทานสันติสุขมากที่สุดแก่เราเสมอไป

o “พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดิน เหมือนในสวรรค์” ประโยคนี้เน้นว่า ถ้าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่แลเราเคารพสักการะพระองค์จริงๆ เราต้องยอมให้กับความประสงค์ของพระเจ้า พ่อกล่าวว่า ความประสงค์ของพระบิดาสำคัญ ไม่ใช่ความประสงค์หรือความต้องการของเราที่สำคัญ (Thy WILL not my will) ความประสงค์ของพระองค์สำคัญที่สุด... ใช่ครับ บ่อยครั้ง เราภาวนา เราขอ ขอ ขอ และเราคิดว่าเราต้องขอพระเจ้าให้ได้ เพราะเราอยากได้ เราปรารถนา และประเด็นสำคัญที่เราต้องเรียนรู้ ไม่ใช่ความต้องการของเราเป็นสำคัญ แต่เราต้องรู้ว่าพระประสงค์ของพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าครับ เราต้องยอมให้พระประสงค์ของพระเจ้าเป็นสำคัญกว่าแม้แต่ความต้องการใดๆของเรา

• ในส่วนที่สองเป็นคำร้องขอของเราผู้ภาวนา
o “โปรดประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้” คำของนี้แสดงความวางใจ ความเชื่อในพระเจ้า พระบิดา ทุกวันตลอดไป เราไม่ได้ขออาหารกินเป็นปีๆ หรือตลอดไป แต่เราขอ “อาหารประจำวัน” เพราะเรารู้และเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นบิดา พระองค์เป็น “พ่อ” ผู้ซึ่งจะดูและให้อาหารแก่เราทุกวัน แต่ละวันเพราะทรงแคร์เรา ไม่ต้องขอมากมาย ไม่ได้ขอเป็นปีๆ แต่เพราะเรารู้ว่า ในการภาวนาและชีวิตคือความสัมพันธ์กับพระเจ้า และเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นได้ทุกวันจริงๆ... เหมือนลูกๆรู้ว่า ทุกวันพ่อแม่จะมีอาหารให้รับประทาน... มีเด็กเล็กๆที่ไหนไหมที่จะบอกพ่อแม่ว่าขออาหารกิน ขอครั้งเดียวและจะได้เป็นปีๆไปเลย แต่ตรงกันข้ามเด็กรู้ เชื่อและมั่นใจว่าพ่อแม่จะเลี้ยงดูทุกวัน...

o “โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น” นอกจากอาหารประจำวันที่เราวิงวอนขอด้วยความวางใจ ... เราขอการอภัย... การขอการอภัยคือความถ่อมตนและสำนึกว่าเราเป็นคนบาปและอ่อนแอ เราต้องพระกรุณาจากพระเจ้า การขอให้พระองค์อภัย เพราะเรารู้ถึงอำนาจของพระองค์ที่จะยกบาปของเรา และเรารู้ถึงความจำเป็นที่เราต้องถ่อมตนและขอพระองค์ทรงให้อภัยแก่เราด้วย

o “โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้แพ้การประจญ” เรารู้ว่า มีการประจญ มีความพยายามของความล่อลวงให้เราต้องพ่ายแพ้และขาดความไวใจในพระเจ้าเสมอ.. แต่เราก็รู้ว่าพระเจ้าสามารถช่วยเหลือเราเช่นกัน เราจึงมีความมั่นใจในพระองค์ ขอให้พระองค์ช่วยเรา เพื่อไม่แพ้การประจญ แน่นอนการประจญเราไม่ได้จำเป็นต้องชนะมันเพราะมันประจญเราเสมอ การประจญของปีศาจเหมือนสุนัขดุถูกล่ามโซ่ มันทำอะไรเราไม่ได้ แต่เราต้องไม่เข้าไปใกล้ หรือไปเสี่ยงใกล้กับมันเพราะเราอาจพลาดและพ่ายแพ้ได้ พ่อกล่าวว่า การประจญไม่ได้มีไว้เพื่อให้เราเอาชนะ แต่เราต้องไม่มีวันพ่ายแพ้หรือหลวมตัวให้กับมันต่างหากครับ...

o “แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ” ที่สุดเรารู้ว่า เราจะรอดพันจากความชั่ว จากคนชั่วร้าย ไม่ใช่เพียงด้วยกำลังลำพังของเรา แต่เราต้องการความช่วยเหลือของพระเจ้าครับ ขอพระองค์ช่วยเราให้พ้นจากความชั่วร้ายใดๆ

• พี่น้องที่รัก ถ้าถามพ่อว่าบทภาวนาแบบไหน บทไหน ท่าทีแบบไหนสำคัญที่สุด...
o คำตอบพ่อเหมือนพระคัมภีร์วันนี้ “บทข้าแต่พระบิดา” ครับ เป็นการร้องหา ภาวนา ที่ประกาศความเชื่อ ประกาศศรัทธา และประกาศความวางใจในพระเจ้ามากที่สุดครับ
o พี่น้องที่รัก บทภาวนาที่ดีที่สุด สวดภาวนาดีๆ ไม่ต้องซ้ำพร่ำเพ้อ แต่ภาวนาอย่างสงบ มั่นใจ และวางใจในพระเจ้าพระบิดาครับ ขอให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จในชีวิตของเราทุกคน รักพระเจ้าไหมครับ เชื่อพระเจ้าไหมครับ ถ้าเช่นนั้น เวลาภาวนาอย่าเอาแต่ใจตัวเอง และบังคับให้พระเจ้าทำตามใจเรานะครับ แต่ยอมให้กับพระประสงค์ของพระเจ้าเถอะนะครับ...
• ขอพระเจ้าอวยพรครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก