ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2016
สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา
อฟ 4:7-16 / ลก 13:1-9
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                    
        ในเวลานั้น คนบางคนเข้ามาทูลพระเยซูเจ้าถึงเรื่องชาวกาลิลีซึ่งถูกปีลาตสั่งประหารชีวิตในขณะที่เขากำลังถวายเครื่องบูชา พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า “ท่านคิดว่าชาวกาลิลีเหล่านี้เป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือ จึงต้องถูกฆ่าเช่นนี้ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นกัน

แล้วคนสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิตเล่า ท่านคิดว่าคนเหล่านั้นมีความผิดมากกว่าคนอื่นทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน”

 พระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมาเรื่องนี้ว่า “ชายผู้หนึ่งปลูกต้นมะเดื่อเทศต้นหนึ่งในสวนองุ่นของตน เขามามองหาผลที่ต้นนั้น แต่ไม่พบ จึงพูดกับคนสวนว่า ‘ดูซิ สามปีแล้วที่ฉันมองหาผลจากมะเดื่อเทศต้นนี้แต่ไม่พบ จงโค่นมันเถิด เสียที่เปล่าๆ’ แต่คนสวนตอบว่า ‘นายครับ ปล่อยมันไว้อีกสักปีหนึ่งเถิด ผมจะพรวนดินรอบต้น ใส่ปุ๋ย ดูซิว่าปีหน้ามันจะออกผลหรือไม่ ถ้าไม่ออกผล ท่านจะโค่นทิ้งเสียก็ได้’”

 (พระวาจาของพระเจ้า)

——

 เราควรเจริญเติบโตขึ้น ไม่เป็นเด็กเล็ก ในความหมายของพระวาจา
 โตขึ้น เจริญขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีความหมายคล้ายๆ กับคำอธิบายของนักบุญเปาโลที่ว่า
 “พระองค์เสด็จขึ้น” นั้นหมายความว่าอย่างไร ถ้ามิใช่หมายความว่า พระองค์ได้เสด็จลงไปยังแผ่นดินเบื้องล่างก่อนแล้ว....... จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า เป็นผู้ใหญ่เต็มที่ ตามมาตรฐานความสมบูรณ์ของพระคริสตเจ้า เราจะได้ไม่เป็นเหมือนเด็ก ถูกคลื่นลมซัดโคลงเคลงล่องลอยไปร่างกายจึงเจริญเติบโตและเสริมสร้างตนเองอย่างสมบูรณ์ขึ้นด้วยความรัก”

 ไม่ยอมโต ไม่พัฒนาเปลี่ยนแปลงให้เจริญขึ้น ไม่เป็นผู้ใหญ่ กลับทำลายธรรมชาติชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา ให้ตกต่ำเหมือน “ต้นมะเดื่อไร้ผล” เป็นประจักษ์พยานไม่ได้ เกิดผลให้คนรอบข้างไม่ได้ ไม่โต ไม่พัฒนา ซังกะตาย เหลือแค่ซาก
 ดังนั้นพระเยซูเจ้าจึงพูดโดยสรุป ถึงคนแบบนี้ว่า “เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน”