ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2016

น.เปโตร คลาแวร์ พระสงฆ์  
1คร 9: 16-19, 22-27 / ลก.6:39-42

บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญลูกา

      เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์เป็นคำอุปมาว่า
 “คนตาบอดจะนำทางคนตาบอดได้หรือ? ทั้งคู่จะตกลงไปในคูมิใช่หรือ? ศิษย์ย่อมไม่อยู่เหนืออาจารย์ แต่ทุกคนที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีแล้วก็จะเป็นเหมือนอาจารย์ของตน
 ทำไมท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตท่อนซุงในดวงตาของตนเลย?

ท่านจะกล่าวแก่พี่น้องได้อย่างไรว่า “พี่น้อง ปล่อยให้ฉันเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของท่านเถิด” ขณะที่ท่านไม่เห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเอง? ท่านคนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย! จงเอาท่อนซุงออกจากดวงตาของท่านก่อนเถิด แล้วท่านจะเห็นได้ชัดจึงค่อยไปเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของพี่น้อง

 (พระวาจาของพระเจ้า

————

 แม้ว่าเราจะเลือกที่จะเป็น “บุตรที่เชื่อฟัง คนที่น้อมรับพระประสงค์ของพระ” เราไม่ได้ “อยู่เหนือคนอื่น” มากกว่า เป็นคนสามัญ

 คนสามัญนี่เอง ที่จะพิสูจน์ บากบั่น ฝ่าฟัน ด้วยวิถีทาง “เคียงบ่าเคียงไหล่” “อยู่ด้วยช่วยกัน” “ไปด้วยกัน ไม่ทิ้งขว้างกัน” แบบที่เป็นสาระสำคัญของการประกาศข่าวดี

 การประกาศข่าวดีที่สำคัญ ก็คือ “อยู่ตรงนี้ อยู่ที่นี่ อยู่กับคนที่นี่” ไม่ใช่ ถือหนังสือ พูดจาดีมีหลักวิชา มีการแสดงปัญญาสูงส่ง แต่ไม่ได้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับใครเลย
 นักบุญเปาโลพูดถึงผู้ประกาศข่าวดี ไว้ว่า “ข้าพเจ้าทำทุกอย่างเพราะเห็นแก่ข่าวดี เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีส่วนรับพระพรจากข่าวดีนี้ร่วมกับเขาเหล่านั้นด้วย”

 เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้คนใดๆ ไม่ใช่ ตัวจะละลายเป็นพวกเขา แต่ ประจักษ์พยาน การกล้ายืนยันตัวเอง การอยู่กับเขาให้นานให้รักซึมซับ ให้ตัวอย่างซึมซาบ เรากำลังประกาศข่าวดี ที่ไมใช่ การอ่านหนังสือ หรือพูดจาเอาใจ แต่เป็น การอ่านพระคัมภีร์แห่งชีวิต และเป็นแบบอย่างทีดีงาม ที่เป็นเรื่องของการประกาศข่าวดี

 

(Credit จาก Facebook คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์)