ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2016
น.ออกัสติส เชา รง และเพื่อนมรณสักขีชาวจีน

อสย 6: 1-8 /มธ 10: 24-33

บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญมัทธิว
 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาอัครสาวกว่า  “ศิษย์ย่อมไม่อยู่เหนืออาจารย์ และผู้รับใช้ย่อมไม่อยู่เหนือนาย  ถ้าศิษย์เท่าเทียมกับอาจารย์ และผู้รับใช้เท่าเทียมกับนาย ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ถ้าเขาเรียกเจ้าบ้านว่า “เบเอลเซบูล” เขาจะเรียกลูกบ้านร้ายกว่านั้นสักเท่าใด”


“อย่ากลัวมนุษย์เลย ไม่มีสิ่งใดที่ปิดบังไว้ จะไม่ถูกเปิดเผย ไม่มีสิ่งใดที่ซ่อนเร้น จะไม่มีใครรู้ สิ่งที่เราบอกท่านในที่มืด ท่านจงกล่าวออกมาในที่สว่าง สิ่งที่ท่านได้ยินกระซิบที่หู จงประกาศบนดาดฟ้าหลังคาเรือน”

 “อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่อาจฆ่าวิญญาณได้ จงกลัวผู้ที่สามารถทำลายทั้งกาย และวิญญาณให้พินาศไปในนรก นกกระจอกสองตัว เขาขายกันเพียงหนึ่งบาทมิใช่หรือ ถึงกระนั้น  ก็ไม่มีนกสักตัวเดียว ที่ตกถึงพื้นดินโดยที่พระบิดาของท่าน ไม่ทรงเห็นชอบ ผมทุกเส้นบนศีรษะของท่านถูกนับไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้น อย่ากลัวเลย ท่านมีค่ามากกว่านกกระจอกจำนวนมาก”
 “ทุกคนที่รับเราต่อหน้ามนุษย์ เราจะยอมรับรู้ผู้นั้น เฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ และใครที่ไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราก็จะไม่รับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์ด้วย”
 (พระวาจาของพระเจ้า)

———

 การยอมรับพระเจ้าของเรา ต้องไม่ทำให้เรา “แค่ไหว้” พระเจ้าอย่างนอบน้อมเท่านั้น แต่พอหลังจากวัดไป หรือ ออกห่างจากหิ้ง จากแท่น ก็เป็นคนละอย่าง

 ดังนั้น “ภาพลักษณ์” ความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นจิตของพระเจ้าของเรา ที่ถูกจินตนาการในหนังสือประกาศอิสยาห์ที่บอกว่า “ข้าพเจ้าเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับอยู่บนพระบัลลังก์สูง และตั้งอยู่บนที่สูง ชายฉลองพระองค์แผ่เต็มพระวิหาร เสราฟหลายตนยืนอยู่เหนือพระองค์โดยรอบ แต่ละตนมีปีกหกปีก ใช้สองปีกบังหน้า สองปีกคลุมเท้า และสองปีกใช้บินไป เสราฟแต่ละตนต่างร้องร้องรับกันว่า “ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาล แผ่นดินทั้งหมด”

 ความศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ ทำใหเ้ราเห็นพระเจ้า พระผู้สูงสุดได้ง่าย ไม่น้อยไปกว่า ความศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้า “แตะต้อง สัมผัสเรา ด้วยพระเมตตา” ด้วยเช่นกัน

 การพบหน้าพระเจ้า ในพี่น้องที่ดีต่อเรา การพบหน้าพระเจ้าเหมือน เสราฟได้พบหน้าพระเจ้าองค์ความดีและเฝ้าสรรเสริฐ ดังที่เราได้พบความดีที่มีพี่น้องมีต่อเรา หรือแม้เราได้ดีต่อพีน้องและเขา ถามถึงแรงบันดาลใจ อะไรที่เราเชื่อ หรือ พลังผลักดันมาจากไหน ก็มาจากความรักต่อพี่น้อง ที่เป็นแนวทางของความรักความเมตตาของพระเจ้า ก็คือ “ความดี” ที่เราทำนั่นเอง
 พระเจ้าองค์ความเมตตา แสดงออก มีกิจกรรม เป็น “ความดี” ที่มีต่อพี่น้องนั่นเอง

 

(Credit จาก Facebook คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์)