“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2016

ระลึกถึงพระนางมารีย์ราชินีแห่งสากลโลก

2ธส 1:1-5, 11ข-12
1จากเปาโล สิลวานัสและทิโมธี ถึงพระศาสนจักรของชาวเธสะโลนิกาซึ่งอยู่ในพระเจ้าพระบิดาของเราและในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า 2ขอพระหรรษทานและสันติจากพระเจ้าพระผู้บิดา และจากพระเยซูคริสต์ องค์พระเป็นเจ้า สถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด


3พี่น้องทั้งหลาย เราต้องขอบพระคุณพระเจ้าเพราะท่านอยู่เสมอ การกระทำเช่นนี้เป็นการสมควรแล้ว เพราะความเชื่อของท่านกำลังเจริญขึ้นมากและความรักของท่านต่อกันก็เพิ่มขึ้นด้วย 4จนเราภูมิใจในท่านทั้งหลาย และบอกกล่าวให้พระศาสนจักรต่าง ๆ ของพระเจ้าทราบถึงความมั่นคงและความเชื่อของท่าน ในเมื่อท่านอดทนต่อการถูกเบียดเบียนและความทุกข์ต่าง ๆ 5แสดงให้เห็นว่าการพิพากษาของพระเจ้านั้นยุติธรรมและจะทำให้ท่านเหมาะสมที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า ท่านกำลังทนทุกข์อยู่ก็เพื่อพระอาณาจักรนี้

ขอพระเจ้าของเราโปรดให้ท่านเหมาะสมกับการที่พระองค์ทรงเรียก และขอพระองค์ทรงบันดาลเจตจำนงที่ดีทุกอย่างของท่าน รวมทั้งกิจการแห่งความเชื่อให้บรรลุผลสำเร็จเดชะพระอานุภาพของพระองค์ 12เมื่อเป็นเช่นนี้ พระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะได้รับเกียรติเพราะท่านและท่านก็จะได้รับเกียรติเดชะพระองค์ตามพระหรรษทานของพระเจ้าของเราและของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• จากวันนี้ในอาทิตย์หรือสัปดาห์ที่ 21 ไปถึงอาทิตย์สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดาเช่นนี้ บทอ่านที่หนึ่งจะสลับกลับมาใช้จดหมายของนักบุญเปาโล ในพันธสัญญาใหม่สักพักครับ
o ละจากพันธสัญญาเดิมที่ได้อ่านและไตร่ตรองมายาวสักระยะหนึ่ง ตอนนี้เพื่อพักใจจากพันธสัญญาเดิม พระศาสนจักรจัดให้เราได้หันกลับมาอ่าน “จดหมาย” ของนักบุญเปาโล

• โดยวันนี้เริ่มจากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกาฉบับที่ 2...

• คำถามสำคัญ คือ เมื่อต้องอ่านจดหมายนักบุญเปาโลเราควรมีท่าทีอย่างไร... ต่างจากการอ่านพันธสัญญาเดิมหรือไม่...
o แน่นอนครับ พันธสัญญาเดิมที่เราอ่านมายาวนานเป็นการเตรียมประชากรของพระเจ้าให้รอคอยการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าพระผู้ช่วยให้รอด หรือพระแมสซียาห์
o และเมื่อพระองค์เสด็จมา พระวรสารทั้งสี่ โดยท่านนักบุญมัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์นได้ทำให้เราได้รู้จักพระเยซูเจ้า ซึ่งถือว่าเป็น “หัวใจ” หรือแก่นของข่าวดี แก่นของพระวาจา และเป็นจุดศูนย์กลางของความรอดของเรา เนื้อหาของข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า เป็นสาระสำคัญที่สุดของการเปิดเผยเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า
o วันนี้เรามารู้จักความหมายของพระคัมภีร์ต่างหนังสือกลุ่มต่างสักหน่อยนะครับ.....
o วันนี้พ่อขออ้างคำสอนของพระศาสนจักรเรื่องพระคัมภีร์นิดหน่อย เกี่ยวกับพันธสัญญาเดิม พันธสัญญาใหม่ โดยเน้นในพันธสัญญาใหม่นั้นมีพระวรสารเป็นเอกและบทจดหมายนะครับ คำสอนเหล่านี้พ่อยกมาจากคำสอนของวาติกันที่สองเรื่องพระคัมภีร์นะครับ อ่านนะครับจะได้รู้จักพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ดีขึ้น มาจาก Dei Verbum ครับ

• พันธสัญญาเดิม
o หนังสือต่างๆในพันธสัญญาเดิมใช้วิธีอันเหมาะสมกับสภาพของมนุษยชาติก่อนยุคแห่งความรอดพ้นซึ่งพระคริสตเจ้าจะทรงสถาปนาขึ้นใหม่
o เผยให้มนุษย์ ทั้งหลายรู้ถึงพระเจ้าและมนุษย์ และรู้วิธีการที่พระเจ้าผู้ทรงยุติธรรมและเมตตากรุณาทรงใช้ในการติดต่อกับมนุษย์
o แม้ว่าหนังสือพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมเหล่านี้บันทึกบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่สมบูรณ์ และเป็นเพียงของชั่วคราวไว้ก็จริง แต่ก็แสดงให้เห็นวิธีอบรมอันแท้จริงของพระเจ้า
o ดังนั้น คริสตชนจึงต้องรับหนังสือพันธสัญญาเดิมเหล่านี้ด้วยความศรัทธา
1. เพราะหนังสือเหล่านี้แสดงออกถึงความเข้าใจพระเจ้าอย่างมีชีวิตชีวา
2. และยังเป็นที่รวบรวมพระธรรมคำสอนอันสูงส่งเรื่องพระเจ้า
3. รวมทั้งความปรีชาที่มีประโยชน์เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์
4. และยังเป็นคลังคำภาวนาต่างๆอย่างน่าพิศวง
5. และในที่สุดยังซ่อนธรรมล้ำลึกเรื่องการไถ่กู้ไว้อีกด้วย
o ดังนั้น พระเจ้าผู้ทรงดลใจและทรงเป็นผู้นิพนธ์หนังสือต่าง ๆ ทั้งในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ ทรงจัดไว้อย่างชาญฉลาด ให้พันธสัญญาใหม่ซ่อนอยู่ในพันธสัญญาเดิม และให้พันธสัญญาเดิมปรากฏชัดในพันธสัญญาใหม่ (น.ออกัสติน)

• พันธสัญญาใหม่
o พระวรสารทั้งสี่ ในบรรดาข้อเขียนทั้งหลายในพระคัมภีร์ แม้ในพันธสัญญาใหม่ด้วย พระวรสารทั้งสี่ถือเป็นหนังสือที่เด่นกว่าหมด เพราะ
1. พระวรสารเป็นพยานสำคัญถึงพระชนมชีพและคำสั่งสอนของพระวจนาถต์ ผู้ทรงรับสภาพมนุษย์และทรงเป็นพระผู้ไถ่ของเรา
2. พระศาสนจักรยึดมั่นเสมอมาทุกยุคทุกสมัย และยังยึดมั่นต่อไปว่าพระวรสารทั้งสี่ฉบับมีต้นกำเนิดมาจากบรรดาอัครสาวก สิ่งที่บรรดาอัครสาวกประกาศสอนตามพระบัญชาของพระคริสตเจ้านั้น ต่อมาพระจิตเจ้าทรงดลใจให้ท่าน และผู้ใกล้ชิดกับท่านบันทึกลงไว้เป็นลายลักษณ์อักษร มอบต่อมาให้เราเป็นรากฐานความเชื่อ
3. นั่นคือพระวรสารทั้งสี่ โดยมัทธิว มาระโก ลูกา และ ยอห์น พระศาสนจักรมารดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ลังเลใจที่จะยืนยันว่าพระวรสารทั้งสี่ฉบับบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์จริงๆ
4. พระศาสนจักรยึดถืออย่างมั่นคงเสมอมามิได้ขาด และยังคงยึดถือต่อไปว่าพระวรสารทั้งสี่ฉบับนั้นบอกให้รู้อย่างซื่อสัตย์ ถึงสิ่งที่พระเยซูเจ้า พระบุตรของพระเจ้าทรงกระทำ และทรงสั่งสอนจริงๆ เพื่อความรอดนิรันดรของมนุษย์ ขณะที่ทรงดำรงพระชนม์อยู่ท่ามกลางมนุษย์ จนกระทั่งวาระที่พระองค์เสด็จไปสวรรค์ (เทียบ กจ 1:1-2)
5. ผู้นิพนธ์เหล่านี้ได้เขียนพระวรสารทั้งสี่ฉบับโดยคัดเลือกเอาบางสิ่งบางอย่างจากเหตุการณ์ และจากพระวาจาจำนวนมากมายที่ถ่ายทอดกันต่อๆมาโดยเล่าด้วยปากเปล่า หรือบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว และยังสังเคราะห์เรื่องราวบางเรื่องเข้าด้วยกัน หรืออธิบายโดยคำนึงถึงสภาพการณ์ของกลุ่มคริสตชนต่างๆ
6. ในที่สุดยังยึดถือรูปแบบการประกาศข่าวดีไว้เสมอ อย่างที่ว่าท่านถ่ายทอดความจริงเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าให้แก่เราด้วยความจริงใจ ท่านเหล่านั้นเขียนเรื่องราวทั้งจากความทรงจำของตน และจากคำยืนยันของ “ผู้ที่เห็นและได้เป็นผู้ประกาศพระวาจามาตั้งแต่แรก” โดยตั้งใจให้เราได้รู้ “ความจริง” ของเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราเคยได้รับการอบรมมาแล้ว (เทียบ ลก 1:2-4)

o จดหมายในพันธสัญญาใหม่ นอกจากพระวรสารทั้งสี่ฉบับแล้ว สารบบพันธสัญญาใหม่ยังมีจดหมาย ของนักบุญเปาโล และหนังสืออื่นๆ ในสมัยอัครสาวกที่เขียนขึ้นโดยการดลใจของพระจิตเจ้าอีกด้วย ตามแผนการอันปรีชาของพระเจ้า
1. หนังสือเหล่านี้ยืนยันถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพระคริสตเจ้า
2. อธิบายคำสั่งสอนแท้จริงของพระองค์ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. ประกาศกิจการอันศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสตเจ้าซึ่งมีพลังจะช่วยให้รอดพ้น
4. เล่าเรื่องการเริ่มต้นและการขยายตัวอย่างน่าพิศวงของพระศาสนจักร
5. ทั้งยังบอกล่วงหน้าถึงการบรรลุจุดหมายอย่างรุ่งโรจน์ของพระศาสนจักรอีกด้วยพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับอยู่กับบรรดาอัครสาวก ดังที่ทรงสัญญาไว้ (เทียบ มธ 28:20)
6. พระองค์ทรงส่งพระจิตผู้บรรเทามายังพวกเขา เพื่อนำพวกเขาไปถึงความจริงอันสมบูรณ์ (เทียบ ยน 16:13)

• เอาละครับ เมื่อได้ศึกษาเกี่ยวกับพระคัมภีร์โดยสรุป ตอนนี้ วันนี้ไปเราจะอ่านจดหมายของนักบุญเปาโล ที่ท่านเขียนถึงคริสตชนในเมืองเธสะโลนิกา ด้วยความห่วงใยในความเชื่อที่พวกเขาได้รับและต้องเติบโต

• เราจะเข้าใจและเห็นว่า
o เปาโลต้องการเตือนชาวเธสะโลนิกา
o และแน่นอน เตือนสอนเราทุกคนให้มั่นคงในความเชื่อในพระเยซูเจ้า
o เตือนสอนเราทุกคนเลยครับ สอนเราให้มั่นคงในข่าวดีและ
o และมั่นคง มั่นใจ เข้มแข็งในศีลล้างบาปที่ได้รับเสมอ

• จดหมายของนักบุญเปาโลวันนี้ และบรรดาจดหมายของท่านทั้งหมดนี้เป็นทั้ง
o คำสอนความจริงเกี่ยวกับพระคริสตเจ้า และความรู้จักพระคริสตเจ้าและชีวิตคริสตชนที่แท้จริง...
o คำตักเตือนให้คริสตชนได้เจริญชีวิตตามคำสอนของพระคริสตเจ้า อุทิศตนเพื่อดำเนินตามคำสอนของพระคริสตเจ้าอย่างหนักแน่น และ
o แรงบันดาลใจให้มั่นคงในความเชื่อเสมอครับ อ่านนะครับจดหมายนักบุญเปาโลดีๆ ครับ ท่านเป็นต้นแบบคริสตชนที่ทรงพลังและมีความรักร้อนรนต่อพระคริสตเจ้าอย่างน่าทึ่งที่สุดคนหนึ่ง และเป็นอัครสาวกที่เดินทางประกาศพระคริสตเจ้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนตลอดชีวิตของท่าน... ดังนั้นพี่น้องที่รัก...นับจากวันนี้ไป พ่อจะค่อยๆพาเราให้อ่านจดหมายนักบุญเปาโลและให้คำอธิบายที่จำเป็นนะครับ เพื่อเราจะได้เติบโตในความเป็นคริสตชน

• วันนี้เปาโลเริ่มจดหมายน่ารักมากครับ... ท่านเริ่มด้วยคำทักทายและภาวนาเพื่อประชากรคริสตชนที่เมืองเธสะโลนิกา พ่อหวังว่า
o เราจะทักทายกันและกันในความรักและการอวยพรเช่นเดียวกัน...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก