“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2016

สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา 

กจ 9:1-20….
1ขณะนั้น เซาโลยังคงเคียดแค้นคุกคามจะฆ่าบรรดาศิษย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเข้าไปพบมหาสมณะ 2ขอหนังสือมอบอำนาจไปยังศาลาธรรมต่าง ๆ ในเมืองดามัสกัส เพื่อจะได้จับกุมทุกคนที่พบ ไม่ว่าชายหรือหญิงที่ดำเนินชีวิตตามวิถีทาง ของพระคริสตเจ้า แล้วนำไปยังกรุงเยรูซาเล็ม


3ขณะที่เขาเดินทางใกล้ถึงเมืองดามัสกัส ทันใดนั้นมีแสงสว่างจากท้องฟ้าล้อมรอบตัวเขาไว้ 4เขาล้มลงที่พื้นดินและได้ยินเสียงกล่าวว่า “เซาโล เซาโล ท่านเบียดเบียนเราทำไม” 5เซาโลจึงถามว่า “พระเจ้าข้า พระองค์คือใคร” พระองค์ตรัสว่า “เราคือเยซู ซึ่งท่านกำลังเบียดเบียน 6ท่านจงลุกขึ้น เข้าไปในเมืองแล้วจะมีคนบอกให้รู้ว่าจะต้องทำอะไร” 7คนที่เดินทางพร้อมกับเซาโลยืนนิ่งพูดไม่ออก เขาได้ยินเสียงพูดแต่ไม่เห็นใครเลย 8เซาโลจึงลุกขึ้นจากพื้นดิน ลืมตา แต่ก็มองสิ่งใดไม่เห็น คนอื่นจึงจูงมือเขา พาเข้าไปในเมืองดามัสกัส 9เซาโลมองไม่เห็นสิ่งใดเลยเป็นเวลาสามวัน ไม่ได้กินและไม่ได้ดื่ม

10ที่เมืองดามัสกัสมีศิษย์คนหนึ่งชื่อ อานาเนีย องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกเขาในนิมิตว่า “อานาเนีย” อานาเนียทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่” 11องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสแก่เขาว่า “จงลุกขึ้นไปที่ถนนซึ่งเรียกว่าถนนตรง จงไปที่บ้านของยูดาส ถามหาชายคนหนึ่งชื่อเซาโลที่มาจากเมืองทาร์ซัส ขณะนี้เซาโลกำลังอธิษฐานภาวนาอยู่ 12และเห็นชายคนหนึ่งชื่ออานาเนียในนิมิต เข้ามาปกมือให้ เพื่อให้เขามองเห็นได้อีก”

13แต่อานาเนียทูลตอบว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าได้ยินหลายคนพูดถึงชายผู้นี้ และได้ยินว่า ที่กรุงเยรูซาเล็มเขาได้ทำร้ายบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เพียงใด 14และที่นี่เขาได้รับอำนาจจากบรรดาหัวหน้าสมณะให้มาจับกุมทุกคนที่เรียกขานพระนามของพระองค์” 15แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบอานาเนียว่า “จงไปเถิด เพราะชายผู้นี้เป็นเครื่องมือที่เราเลือกสรรไว้เพื่อนำนามของเราไปประกาศแก่คนต่างศาสนา บรรดากษัตริย์และลูกหลานของอิสราเอล 16เราจะแสดงให้เขารู้ว่า เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานมากเท่าใดเพราะนามของเรา” 17อานาเนียจึงจากไป และเข้าไปในบ้าน ปกมือเหนือเซาโล กล่าวว่า “เซาโลน้องรัก พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งทรงสำแดงพระองค์แก่ท่านกลางทางที่ท่านมานั้น ทรงส่งข้าพเจ้ามาเพื่อท่านจะมองเห็นได้อีกและได้รับพระจิตเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม” 18ทันใดนั้นมีสิ่งหนึ่งเหมือนเกล็ดตกจากนัยน์ตาของเซาโล เขามองเห็นได้อีก จึงลุกขึ้นรับศีลล้างบาป 19เมื่อกินอาหารแล้วก็มีกำลังขึ้น เซาโลพักอยู่กับบรรดาศิษย์ที่เมืองดามัสกัสระยะหนึ่ง 20เขาเทศน์สอนในศาลาธรรมทันที ประกาศว่า “พระเยซูเจ้าพระองค์นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้า”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “การกลับใจคือหัวใจของหนังสือกิจการอัครสาวก”
o หนังสือกิจการอัครสาวกโดยท่านนักบุญลูกา... มีสาระสำคัญประการหนึ่งที่พ่อต้องยอมรับและกล้าประกาศอย่างเปิดเผย และยืนยันกับพี่น้องว่า “การกลับใจของเซาโลหรือเปาโล” เป็นเรื่องใหญ่มากๆในหนังสือกิจการอัครสาวก

• เรื่องการกลับใจของนักบุญเปาโลบนถนนไปดามัสกัสเพื่อเบียดเบียนคริสตชน... นี้เรื่องเดียวมีความยาวพอสมควร และเรื่องนี้เรื่องเดียวเป็นเรื่องที่ลูกาได้เขียนไว้ถึงสามที่ด้วยกัน เป็นการเล่าเรื่องการกลับใจของเปาโล มีถึงสามบทที่กระจายอยู่
o การมีถึงสามแห่งก็เป็นสิ่งที่น่าทึ่งเพราะเลขสามเป็นเลขของความสมบูรณ์
o เป็นเลขที่แสดงถึงขั้นสูงสุด... เช่น เวลาชาวยิวบอกว่า “ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด” เขาจะกล่าวว่า “ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์”
o ดังนั้น การซ้ำความสามครั้งคือขั้นสูงสุด (Superlative) ในภาษาและวัฒนธรรมฮีบรู
o ดั้งนี้เรื่องการกลับใจของเปาโล เพราะมีการเล่าสามครั้งในหนังสือกิจการอัครสาวก จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญมากในความคิดของท่านนักบุญลูกาผู้นิพนธ์หนังสือกิจการฯ โดยที่เรื่องนี้เรื่องเดียวมีการเล่า 3 ครั้งในสามบทของหนังสือกิจการฯ ดังนี้

1. กจ 9 ลูกาเล่าเรื่องการกลับใจของเปาโลบนถนนเดินทางไปเมืองดามัสกัส
2. กจ 22 ลูกาเล่าถึงการที่เปาโลประกาศถึงการกลับใจของตนเอง ประสบการณ์นี้ ต่อหน้าชาวยิวที่เป็นพี่น้องของตน เพื่อยืนยันถึงการได้พบพระเยซู
3. กจ 26 ลูกาเล่าเรื่องการที่เปาโลประกาศเล่าถึงการกลับใจนี้เอง ต่อหน้ากษัตริย์อากริปปา เป็นการเล่าเรื่องการเดินทางไปดามัสกัสเช่นเดียวกัน จนกล่าวได้ว่า อากริปาปาเกือบจะกลับใจตามท่านเลยทีเดียว “กษัตริย์อากริปปาจึงทรงตอบเปาโลว่า “อีกนิดเดียว ท่านก็ชักชวนเราให้เป็นคริสตชนได้แล้ว” (กจ 26:28)

• ดังนั้น ประเด็นสำคัญเมื่อเราอ่านกิจการอัครสาวกเรื่องการกลับใจของเปาโลนี้ ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่า เรื่องการกลับใจคือหัวใจของหนังสือกิจการอัครสาวกอย่างไม่ต้องสงสัย

• และถ้าหนังสือกิจการอัครสาวกคือเรื่องราวการประกาศพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ หนทางใหม่ของการดำเนินชีวิต ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า เรื่องการกลับใจ เป็นหัวใจและเป็นเป้าหมายของกิจการอัครสาวกอย่างแน่นอน “การกลับใจ” คือหัวใจของการได้รับฟังข่าวดี การได้ยินการประกาศ หรือการได้เชื่อในพระวรสาร

• กล่าวได้ว่า กิจการของอัครสาวกคือการประกาศพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ ดังนั้น เป้าหมายสำคัญ คือ เพื่อการกลับใจมากรักพระองค์ มาเชื่อในพระองค์อย่างแท้จริง...

• “การกลับใจ” คืออะไรจริงๆ นี่คือคำถามสำคัญ

• พ่อตอบได้อย่างมั่นใจในประสบการณ์ของเปาโลบนถนนไปดามัสกัสได้เลยว่า
o เปาโลมีเป้าหมายหนึ่งเพื่อเบียดเบียนข่มขู่คุกคามคริสตชน
o แต่เมื่อท่าน “ได้พบพระคริสตเจ้า”
o ท่านเปลี่ยนเป้าหมายทั้งหมด เพราะได้ “พบพระองค์”
o ท่านเลิกจากการเบียดเบียนมาเป็นการประกาศยืนข้างพระเยซูเจ้า
o และไม่ได้เป็นแบบเดิมอีกเลย...

• นี่คือการกลับใจ คือ ได้พบได้มีประสบการณ์ที่ดีกว่า และเลิกกิจการเก่าๆทั้งหมด เพราะได้พบแสงสว่าง ได้พบพระคริสตเจ้า และจึงเปลี่ยนแปลงหมดทุกอย่างอย่างที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกเลย....

• นี่คือสิ่งที่เราได้เห็นได้อ่านและมั่นใจได้จากหนังสือกิจการฯ ท่านนักบุญเปาโลนั้นแต่เดิมเราสามารถเรียกท่านได้ว่าเป็นจอมวายร้ายต่อคริสตชน
o เมื่อท่านได้พบแสงสว่างของพระคริสตเจ้า
o และได้ยินเสียงของพระองค์ “เซาโล เซาโล ท่านเบียดเบียนเราทำไม”
o จากนั้นท่านได้กลับใจแบบถอนรากจากเดิม คือ จากศาสนายิวที่เคร่งครัด ได้กลับมาฝังรากลงลึกในหนทางใหม่ของพระคริสตเจ้า

• นี่คือเรื่องราวและความหมายของการกลับใจ พี่น้องที่รักพ่อคิดว่าบัดนี้ปัสกาแล้ว ชีวิตใหม่แล้ว บัดนี้จึง
1. ถึงเวลาที่เราต้องถอนรากถอนโคนจากบาป นิสัยเดิม ความเชื่อดึกหรือดักดานดั้งเดิมที่เป็นนิสัยที่ไม่ดีของเรา
2. ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนฐานรากเดิมที่อาจจะหยั่งรากลึกอยู่ในความเป็นแก่ตัว หรือตัวตนของตนเองเท่านั้น หรือในบางคน หรือในบางสิ่งกลายเป็นความยึดมั่นถือมั่น หรือการยึดติดความคิด อุดมการณ์ สี ความคลั่งความคิดจนลืมและเกลียดชังหรือคุกคามญาติมิตร บัดนี้ถึงเวลาต้องย้ายรากเหง้าที่อ่ายจะเง่าเกินไปจึงต้องย้ายกลับใจให้มาหยั่งรากลงในพระเยซูเจ้า พระเจ้าองค์ความรักและพระปรีชาญาณและความจริงนิรันดร และศรัทธาเชื่อมั่นในพระองค์ผู้เดียว นั่นคือความเชื่อศรัทธาแท้จริงของเรา....
3. ถึงเวลาเปลี่ยนฐานถอนรากถอนโคนชีวิตของเรามาสู่ชีวิตใหม่ในพระองค์จริงๆ นะครับ สำหรับพ่อ การกลับใจไม่ใช่การคิดถึงอดีตที่ขมขื่น แต่เป็นการมองอนาคตที่สดใสในพระเยซู มองให้เห็นพระองค์เสมอในเราและที่สำคัญในเพื่อนพี่น้อง และแม้แต่ในคนที่เป็นศัตรูกับเรา... และเราจะไม่ทำสิ่งที่ไม่ดีอีกเลยเพราะเราเห็นพระองค์ในพี่น้องตลอดเวลา....

• สุดท้าย พ่อชอบพระดำรัสของพระเยซูเจ้าต่อเซาโล ““เซาโล เซาโล ท่านเบียดเบียนเราทำไม” เซาโลจึงถามว่า “พระเจ้าข้า พระองค์คือใคร” พระองค์ตรัสว่า “เราคือเยซู ซึ่งท่านกำลังเบียดเบียน”

• ข้อความนี้ทำให้เรามั่นใจว่านี่คือเทววิทยาของชีวิตคริสตชน...
o เซาโลไม่เคยเบียดเบียนพระเยซูเจ้า อาจะไม่เคยเห็นพระเยซูเจ้าตัวเป็นๆด้วยซ้ำ
o แต่การเบียดเบียน “พี่น้องคริสตชน” เท่ากับทำกับได้กระทำกับ “พระคริสตเจ้าเองจริงๆ”... การอธิบายของลูกาช่างสอดคล้องกับคำสอนของพระเยซูเจ้าเองในพระวรสารมิใช่หรือ... “‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา’” (มธ 25:40)
o ดังนั้น เทววทิยาสำคัญของหนังสือกิจการตอนนี้คือ... “พระคริสตเจ้ากับคริสตชนหรือพระศาสนจักรเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ” เข้าตำรา “หยิกเล็บเจ็บเนื้อ” ก็เราต่างเป็นพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้าด้วยกันนี่นา..

• หนังสือกิจการตอนนี้น่าสนใจจริงๆ สำหรับชีวิตเรานะครับ เป็นการยืนยันว่าพระคริสตเจ้าสถิตอยู่กับพี่น้องของเราทุกคนเสมอ...
o ดังนั้น ขอให้เรารักพระคริสตเจ้าในพี่น้องของเราเสมอจริงๆนะครับ....
o ขอให้เราได้กลับใจจริงๆ เสมออย่างต่อเนื่อง

• ก่อนจะจบวันนี้ พ่อยากจะเชิญชวนให้พี่น้องอ่านกฤษฎีกาสมัชชาพระศาสนจักรคาทอลิกแห่งประเทศไทยครั้งที่หนึ่งในหัวข้อการกลับใจ กฤษฎีการให้คำสอนไว้น่าสนใจ พ่อจำได้ว่าพ่ออ่านหลายรอบ พ่อยกร่างและพ่อรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญจริงๆครับ เรามาอ่านกันหน่อยนะครับ

• การกลับใจ (metanoia) กฤษฎีกาข้อ 11

• คริสตชนผู้ปฏิบัติศาสนกิจและผู้ละทิ้งการปฏิบัติฯ รวมทั้งบุคคลผู้สนใจเป็นคริสตชน เมื่อได้ลองจุ่มชีวิตลงในความรักของพระเจ้าโดยเข้าร่วมในชุมชนคริสตชนย่อยที่มีบรรยากาศอารยธรรมแห่งความรัก และได้เริ่มเจริญชีวิตตามบทบัญญัติแห่งความรักของพระคริสตเจ้า จนเกิดเป็นประสบการณ์ความเชื่อ ได้พบพระคริสตเจ้า ได้สัมผัสความรักของพระองค์แล้ว การกลับใจ (metanoia) จะเกิดตามมา เขาเองจะเปิดใจไตร่ตรองชีวิตของตน สำนึกในสภาพจริง ความกลวง ความว่างเปล่า ความล้มเหลว ความผิดพลาดบกพร่อง ความท้อใจในอดีต และจะก้าวเข้าสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญยิ่งในชีวิต ที่จะเป็นการตอบรับและจัดให้พระเจ้าองค์ความรักที่เขาได้สัมผัส เป็นเป้าหมายแรกและสำคัญสูงสุดของชีวิตเขา เขาจะเปิดใจยอมรับการฟื้นฟูชีวิตความเชื่อขึ้นใหม่ หรือสมัครใจเข้ารับความเชื่อเป็นคริสตชน พร้อมที่จะก้าวเข้าร่วมชุมชนคริสตชนย่อยซึ่งเป็นเสมือน “เซลล์ชีวิตอารยธรรมความรัก” เพื่อเติบโตต่อไปในกระบวนการเรียนรู้คำสอนสำหรับผู้สนใจเป็นคริสตชน (RCIA) หรือกระบวนการเรียนคำสอนผู้ใหญ่ต่อเนื่องรูปแบบต่างๆ

• สำหรับผู้ที่ได้รับศีลล้างบาปแล้ว เขาจะได้รับการหล่อเลี้ยงให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในความเชื่อต่อไป ในที่สุดเขาจะเปิดขอบฟ้าใหม่ชีวิตความเชื่อของตน ก้าวสู่พันธกิจการนำข่าวดีแห่งความรักของพระเจ้าไปแบ่งปันให้กับทุกคน โดยดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานแก่ผู้อื่นตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อน และ ณ เวลาอันเหมาะสม ก็จะเชิญชวนบุคคลผู้สนใจความเชื่อเหล่านั้นให้มาลองสัมผัสความรักของพระเจ้าในชุมชนคริสตชนย่อยที่มีบรรยากาศอารยธรรมใหม่นี้ รวมทั้งพวกเขาเองก็จะร่วมมือกันในกิจการความรักเมตตาภาคปฏิบัติ ให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือแก่พี่น้องผู้ยากไร้และบุคคลชายขอบสังคมในวงกว้างกว่าเดิมตามกำลังความสามารถด้วย

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก