“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน 2016

สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา 

กจ 8:26-40….
26ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งฟิลิปว่า “จงลุกขึ้น และเดินไปทางทิศใต้ ตามทางที่ลงมาจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองกาซา ทางนั้นเป็นทางเปลี่ยว” 27ฟิลิปจึงลุกขึ้นออกเดินทาง ระหว่างทางเขาพบชาวเอธิโอเปียคนหนึ่ง เป็นขันที ข้าราชการของพระราชินีคานดาสีของชาวเอธิโอเปีย เป็นผู้ดูแลราชทรัพย์ทั้งหมดของพระนางและมานมัสการพระเจ้าที่กรุงเยรูซาเล็ม 28ขณะเดินทางกลับ เขานั่งในรถม้าและอ่านหนังสือของประกาศกอิสยาห์อยู่ 29พระจิตเจ้าตรัสสั่งฟิลิปว่า “จงตามรถคันนั้นไปให้ทัน”

30ฟิลิปวิ่งตามไป ได้ยินเขากำลังอ่านหนังสือของประกาศกอิสยาห์ จึงถามว่า “ท่านเข้าใจข้อความที่กำลังอ่านหรือ” 31ขันทีตอบว่า “ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย” แล้วเขาก็เชิญฟิลิปขึ้นไปนั่งด้วย 32ข้อความของพระคัมภีร์ที่เขากำลังอ่านอยู่นั้น มีดังนี้
เขาถูกนำไปฆ่าเหมือนแกะตัวหนึ่ง
ลูกแกะไม่ออกเสียงเมื่ออยู่ต่อหน้าคนตัดขนแกะฉันใด
เขาก็ไม่อ้าปากฉันนั้น
33เมื่อเขาถูกเหยียดหยาม เขาไม่ได้รับความยุติธรรมเลย
ใครจะเล่าเรื่องเชื้อสายของเขาได้
เพราะชีวิตของเขาถูกยกไปจากแผ่นดินนี้แล้ว
34ขันทีจึงถามฟิลิปว่า “โปรดบอกข้าพเจ้าเถิดว่า ประกาศกกล่าวเช่นนี้หมายถึงใคร หมายถึงตนเองหรือหมายถึงผู้อื่น” 35ฟิลิปจึงเริ่มประกาศข่าวดีเรื่องพระเยซูเจ้าให้เขาฟัง โดยอธิบายพระคัมภีร์เริ่มตั้งแต่ตอนนี้
36ขณะดินทางอยู่นั้น ทั้งสองคนมาถึงแหล่งน้ำแห่งหนึ่ง ขันทีกล่าวว่า “ดูซิ ที่นี่มีน้ำ มีอะไรขัดขวางมิให้ข้าพเจ้ารับศีลล้างบาปเล่า” 38เขาสั่งให้หยุดรถ ทั้งฟิลิปและขันทีลงไปในน้ำ ฟิลิปล้างบาปให้ขันที 39เมื่อทั้งสองคนขึ้นจากน้ำแล้ว พระจิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงนำฟิลิปไปที่อื่น ขันทีไม่เห็นฟิลิปอีก เดินทางต่อไปด้วยความยินดี 40ส่วนฟิลิปนั้นมีผู้พบที่เมืองอาโซทัส เขาเดินทางผ่านเมืองต่าง ๆ ประกาศข่าวดีจนมาถึงเมืองซีซารียา

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “ข้าพเจ้าจะเข้าใจพระคัมภีร์ได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย”...
o พ่อได้ฟังพระวาจาของพระเจ้าวันนี้อย่างดีๆ พ่อชอบตอนนี้จังเลย ชอบเรื่องราวของขันทีชาวเอธิโอเปีย เขานั่งอ่านพระคัมภีร์บนรถม้าของเขาเป็นภาพที่น่าสนใจจริงๆ แน่นอน การอ่านพระคัมภีร์เป็นภาพที่น่าชื่นใจอย่างมาก แม้เข้ารู้สึกว่าตนเองไม่เข้าใจ
o ขันทีคนนี้ได้อ่านเรื่องราวของผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ เขาประทับใจใน “ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์” ซึ่งแน่นอน หมายถึง “พระเยซูเจ้า” เขาร้อนรน เกิดความพิศวงในพระวาจา และอยากรู้จักผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ “พระเยซู” นี้จับใจ อยากได้รับคำอธิบายถึงพระองค์

• ครับ พ่อเองเมื่อได้อ่านเรื่องนี้อีกครั้ง วันนี้พออยากเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับพระคัมภีร์คาทอลิกไทยฉบับที่เรามีอยู่สักหน่อยครับ ขอเล่าเรื่องเก่าสักหน่อยนะครับ เคยเล่าแล้ว และอยากเล่าอีก ไม่เคยเบื่อที่จะเล่าเรื่องนี้จริงๆ “พระคัมภีร์เล่มแดง”
o พ่อคิดถึงประสบการณ์เมื่อหลายปีก่อน ที่ประเทศไทยของเราจัดให้เป็นปีพระวาจา คือ สามปีต่อเนื่อง ค.ศ. 2007-2010 เราได้ทำฉลองปีพระวาจา เวลานั้นพ่อยังทำงานอยู่ที่บ้านผู้หว่าน และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเรื่องพระคัมภีร์... พ่อจำประสบการณ์หนึ่งได้อย่างเล่าฟังครับ วันนี้อยากเล่าเรื่องเก่าๆ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ให้ฟังหน่อยครับ
o เวลานั้น พ่อเป็นกรรมการบริหารของสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และรับผิดชอบงานฝ่ายบุคลภิบาล ในหน้าที่ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายบุคลาภิบาล ซึ่งเวลานั้นพระอัครสังฆราชของเราคือพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัลไมเกิ้ลมีชัย กิจบุญชู และพ่อเองก็รับผิดขอบงานพระคัมภีร์ของสังฆมณฑลด้วย
o พ่อจำได้ว่า เราพยายามจะจัดกิจกรรม หาวิธีที่จะทำให้สัตบุรุษได้อ่านพระคัมภีร์ให้มากที่สุด...เพราะพระศาสนจักรได้สอนไว้ในคำสอนอย่างชัดเจนตั้งแต่สังคายนาวาติกันครั้งที่สอง สอนย้ำดังนี้ว่า ... (ให้เราอ่านคำสอนของพระสังฆธรรมนูญเรื่องการเผยแสดงของพระเจ้า Dei Verbum สักหน่อยก่อนครับ)
o “เป็นหน้าที่ของบรรดาพระสังฆราช “ผู้เป็นคลังรักษาคำสั่งสอนของบรรดาอัครสาวก” (น.อีเรเน) ที่จะใช้วิธีการอันเหมาะสมสั่งสอนสัตบุรุษที่อยู่ ในความปกครองดูแลของตนให้รู้จักใช้หนังสือพระคัมภีร์อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะพันธสัญญาใหม่และพระวรสารเป็นพิเศษ พระสังฆราชทำหน้าที่นี้ โดยใช้คำแปลตัวบทพระคัมภีร์ที่มีคำอธิบายที่จำเป็นและเพียงพอจริงๆประกอบด้วย เพื่อว่าบรรดาบุตรของพระศาสนจักรจะได้มีความคุ้นเคยกับพระคัมภีร์อย่างปลอดภัยและได้ประโยชน์ และมีจิตใจเปี่ยมด้วยเจตนารมณ์ของพระคัมภีร์
o ยิ่งกว่านั้น ควรให้มีการจัดพิมพ์พระคัมภีร์ที่มีคำอธิบายเหมาะสมแบบต่างๆที่ทุกคน แม้ผู้ที่มิใช่คริสตชนจะใช้ได้ด้วย และควรดัดแปลง (คำแปล) พระคัมภีร์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของเขา ให้ผู้อภิบาลสัตบุรุษ และคริสตชนทุกชั้นทุกฐานะพยายามเผยแพร่หนังสือพระคัมภีร์ประเภทนี้ทุกวิถีทางอย่างรอบคอบด้วย เพราะฉะนั้น อาศัยการอ่านและการศึกษาพระคัมภีร์ “พระวาจาของพระเจ้าจะได้รุดหน้าไป และได้รับความเคารพนับถือ” (2 ธส 3:1) และการเผยความจริงอันเป็นขุมทรัพย์ที่พระศาสนจักรได้รับมอบหมายไว้นั้นจะได้เข้าสู่ดวงใจมนุษย์อย่างเต็มเปี่ยมยิ่งๆขึ้น ชีวิตของพระศาสนจักรเจริญเติบโตขึ้น จากการร่วมพิธีบูชามิสซาและรับศีลมหาสนิทบ่อยๆฉันใด เราก็หวังได้ว่า จะมีแรงผลักดันใหม่ๆ ต่อชีวิตฝ่ายจิตใจจากการเพิ่มความเคารพยิ่งๆขึ้นต่อพระวาจาของพระเจ้าซึ่ง “ดำรงอยู่ชั่วกาลนาน” (อสย 40:8 เทียบ 1 ปต 1:23-25) ฉันนั้น” (Dei Verbum 25-26)

• ในระหว่างปีพระวาจานั้น พ่อจำได้ว่า
o เป็นช่วงเวลาที่สังฆมณฑลกรุงเทพฯ จะจัดฉลอง 25 ปี พระสมณะศักดิ์พระคาร์ดินัลชาวไทยองค์แรก เราจัดฉลองให้กับท่านด้วย พ่อจำได้ว่า ระหว่างที่คณะกรรมการบริหารประชุมกันนั้น พ่อไม่ได้อยู่เพราะติดไปเทศน์ที่อุดร เทศน์ให้กับซิสเตอร์คณะซาเลเซียนเป็นเวลาหลายวัน ดังนั้น ในเดือนนั้น พ่อไม่ได้อยู่ร่วมประชุม และที่ประชุมได้ตัดสินใจจะฉลองสมณะศักดิ์พระคาร์ดินัล โดยได้ตัดสินใจจะสร้างวัดเล็กๆหลังหนึ่ง ณ ที่แห่งหนึ่ง...ด้วยงบจำนวน 5 ล้านบาท
o เป็นวัดน้อยๆ เพราะที่นั่นมีไม่มีวัดและมีสัตบุรุษสองสามครอบครัวเท่านั้น แน่นอนเพื่อเป็นเครื่องหมายหรือศาสนสถานที่ระลึกสำหรับโอกาส 25 ปีสมณะศักดิ์พระคาร์ดินัลคนแรกของประเทศไทยที่เราเคยมี ก็แน่นอนเป็นความภูมิใจและควรแก่การจดจำ... แต่สถานที่นั่นเป็นจังหวัดที่ห่างกรุงเทพฯสักร้อยกิโลเมตร ในสังฆมณฑลของเรา

• ครับในการตัดสินใจนั้นพ่อไม่ได้อยู่ในที่ประชุม... แต่คณะกรรมการบริหารสังฆมณฑลเขาได้ตัดสินใจและผ่านมติไปแล้วด้วย...
o เมื่อการประชุมเดือนถัดไปมาถึง พ่อได้เข้าร่วมประชุมด้วย... มีการทบทวนรายงานการประชุมและมติในการประชุมครั้งก่อนให้ฟัง และได้สรุปมติที่กรรมการบริหารได้อนุมัติให้ทำแล้ว... พ่อได้ฟัง และได้คิด และเมื่อมีคำถามว่า มีใครมีอะไรจะแก้ไขเพิ่มเติมไหม??...
o พ่อได้ใช้เวลานั้นทันที... รวบรวมความกล้า (เวลานั้น พ่อเป็นเด็กที่สุดในที่ประชุม ...และคราวที่แล้วก็ไม่ได้อยู่ในการประชุมด้วยยังจะมาขอซ่าส์แก้ไข้อะไรอีกเล่า...) พ่อก็ยกมือขออนุญาตที่ประชุม พ่อเรียนกรรมการบริหารว่า “อยากขอให้ทบทวนมติเรื่องการใช้เงิน 5 ล้านบาทสร้างวัดน้อยที่ระลึก...
o คุณพ่ออุปสังฆราช ในเวลานั้นซึ่งเป็นประธานที่ประชุมท่านใจดีฟังเสียงร้องขอของพ่อให้ทบทวน ท่านถามว่า มีความคิดเห็นอะไร... พ่อบอกว่า “ผมไม่เห็นด้วยครับที่จะไปสร้างวัดที่ระลึกโอกาสนี้ เพราะเงินห้าล้านคงสร้างได้หลังนิดเดียว และก็คงไม่มีคนไปที่นั่นเพื่อฉลองหรือได้ไปใช้วัดนั้นเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับพระคุณเจ้า... และน้อยคนจะได้เห็นที่ระลึกเช่นนั้นอย่างแน่นอน
o และที่สำคัญ พ่อกล้าที่จะพูดต่อไปว่า พระคุณเจ้าได้สร้างวัดใหญ่ๆมาเยอะมากจริงๆ สุดยอดแล้ว... ทำไมเราไม่ให้ท่านได้ทำอย่างอื่นที่น่าจะไปถึงทุกคนมากขึ้นไปอีกในโอกาสนี้”...

• คุณพ่ออุปสังฆราชเวลานั้น จึงถามพ่อต่อไปว่า “แล้วจะเสนออะไร”...
o แน่นอนหลายสายตามองพ่ออยู่เพราะเรื่องนี้เขาผ่านให้อนุมัติไปแล้ว จะมาขอรื้อมติแก้ไขทำไม (สายตาฟ้อง...เจ้าเด็กน้อยนี่ทำยุ่งอีกแล้ว เขาตัดสินไปแล้วให้สร้างวัดที่ระลึก)

• พ่อจึงเสนอว่า
o “ผมคิดว่าเวลานี้เป็นปีพระวาจา... อยากให้พระคุณเจ้าพระคาร์ดินัลมีชัยได้แจกพระคัมภีร์ให้แก่สัตบุรุษทุกบ้าน ทุกครอบครัว ให้เป็นหนังสือสำคัญที่สุดคู่บ้าน คู่มือ คู่รถยนต์ของคริสตชนได้ยิ่งดี..
o จะดีกว่ามากเพราะนี่จะเป็นที่ระลึกไปถึงทุกคน และมีค่า เพราะถ้าทุกคนรักพระวาจามากขึ้น ทุกคนจะดำเนินชีวิตและแสวงหาพระเจ้าด้วยการไปวัดมากขึ้น... แต่ถ้าสร้างวัดน้อยหลังนี้ไกลจากรุงเทพฯ และคงจะมีไม่กี่คนที่ไปที่นี่และระลึกถึงพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัล แต่พระคัมภีร์นี้จะไปถึงทุกคน...
o ผมเสนอให้ทำเล่มพิเศษปกสีพระคาร์ดินัล และมีรูป มีคำที่พระคุณเจ้ามอบให้ และโอกาส หนังสือนี้จะอยู่ไปเป็นร้อยปีหรือหลายร้อยปี”
o และที่สำคัญ เป็นเล่มที่เราทำคลิปสีทองพิเศษ และอันที่จริง.. พ่อต้องการทำให้สัตบุรุษได้รับพระวาจาจริงๆ เพราะที่ของคณะกรรมการของสภาพระสังฆราชขายอยู่เวลานั้น เล่มเหลือง ณ เวลานั้น ยังไปไม่ถึงทุกคนเพราะความจำกัดของหลายคนในการหาซื้อกับราคาด้วย สัตบุรุษจำนวนหนึ่งที่ยากจนเขาเข้าไม่ถึง และคำสอนของสังคายนาวาติกันที่สอง Dei Verbum ก็เรียกร้องบรรดาพระสังฆราชให้ทำให้สัตบุรุษเข้าถึงพระคัมภีร์ได้โดยสะดวก ดังนั้น ต้องพยายามไม่ให้มีอุปสรรคใดๆ

• ที่สุด ที่ประชุมกรรมการบริหารน่ารักมาก ยินดีและยินยอมแก้ไขมติ และให้เงินนั้นเพื่อการพิมพ์พระวาจาฉบับพิเศษ ฉลองพระคาร์ดินัลมีชัย และพ่อได้ทำมาสามหมื่นเล่มอย่างพิเศษและสวยงามคลิปทอง เล่มแดงสีพระคาร์ดินัล มีรูปพระคุณเจ้า มีสติ๊กเกอร์ติดเลขแต่ละเล่มด้วย... และแจกไปยังทุกวัด พยายามให้ถึงทุกครอบครัว แถมยังแบ่งแจกไปตามสังฆมณฑลต่างๆ ด้วย คนจำนวนมากได้รับผลจากการฉลอง 25 ปีสมณะศักดิ์พระคาร์ดินัล...

• สำคัญได้รับ พระวาจาของพระเจ้า “พันธสัญญาใหม่” ฉบับประวัติศาสตร์ที่พระคาร์ดินัลมอบให้ทั่วหน้าเลย.... ดีใจครับ ได้พระวาจาแจก “ฟรี” ไปทั่ว แถมเงินยังเหลืออีกเกือบล้านมาใช้เพื่อการอบรมสร้างบุคลากรพระคัมภีร์ 25 คนตลอดปีพระวาจาด้วย

• ปีนี้ 2016 แล้ว พ่อคิดว่าสมัชชาฯใหญ่เรียกร้องมากกว่าเดิม พระคัมภีร์เล่มครบก็แปลเสร็จแล้ว ขายไปเยอะ แจกไปก็เยอะ พ่อเองยังได้รับน้ำใจดีจากลูกของพระที่ห่วงใยว่าคนยากจนจะซื้อได้อย่างไรเล่มละหนึ่งพัน เขาได้ซื้อให้พ่อสองร้อยเล่มให้แจกคนที่ต้องการใช้จริงๆ พ่อยอมรับว่าสุดยอดแห่งการประกาศข่าวดี พ่อส่งไปถึงประเทศลาวซึ่งเขาอ่านภาษาไทยได้ พ่อได้ส่งไปถึงบนดอยที่ไกลกันดารเพราะพ่อที่นั่นอยากได้เพื่อจัดสอนพระคัมภีร์...ว้าวๆๆๆ เล่มครบที่เราพิมพ์มาก ของกรุงเทพฯ สามพันเล่ม พ่อปล่อยออกไปตามวัด คุณพ่อเจ้าวัดให้ความร่วมมือยอดเยี่ยม สั่งไปประจำตามวัด ให้สัตบุรุษได้อ่าน หรือศึกษา ไปหมดแล้วส่วนของกรุงเทพฯ

• แต่พ่อว่า...เรามาต่อความฝันกันนะครับ เราได้มีพระคัมภีร์แล้ว และตอนนี้ในสังฆมณฑลกรุงเทพฯยังได้พิมพ์พระวรสารฉบับพกพาน่ารัก พระวรสารนักบุญลูกาโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม และพระวรสารเล่มเล็กก็มี พระวรสารเสียงก็มี ทุกอย่างมีๆๆๆ สุดยอดครับ เราได้มี มีมากขึ้น

• เรามาช่วยกันทำให้คำสอนของพระศาสนจักรเป็นความจริงนะครับ.. คือ ตามพระวาจาวันนี้
o "อ่าน อ่าน อ่าน" เหมือนขันทีชาวเอธิโอเปีย... นะครับ และ
o ภาวนา อธิบาย ช่วยกันหาความเข้าใจ ทำตัวให้คุ้นเคยกับพระวาจา ถ้ามาถึงจุดนี้ได้ สุดยอดเลยครับ... พระวาจาของพระเจ้าจะได้กลายเป็นชีวิตจิตใจของเราได้ให้เลยนะครับ...
o อีกไม่นานเกินรอ การประกาศ การอ่าน การเล่าเรื่องพระคัมภีร์ต้องเป็นชีวิตจิตใจของพวกเราคริสตชนคาทอลิก นี่คือ ฝันยิ่งใหญ่ของพ่อเสมอมา ทำอย่างไรดี พ่อจะทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้ “รู้รักพระคัมภีร์” นี่เป็นคำพูดของพ่อชัยยะอาจารย์พระคัมภีร์รุ่นพี่... พ่ออยากให้เราคริสตชนได้อ่านจนรู้ รักจึงอยากรู้ รู้จึงรักมากขึ้น คือ การรู้จักพระคัมภีร์คือการรู้จักพระคริสตเจ้าจริงๆนะครับ

• พี่น้องที่รักครับ... พ่อมีข้อไตร่ตรองและเรียกร้องครับ...
1. ให้เราหันมารักพระคัมภีร์กันมากๆ นะครับ
2. ให้เราหันมาอ่านพระคัมภีร์ให้เป็นชีวิตจิตใจของเรานะครับ เพราะยิ่งเรารู้จักพระคัมภีร์ เรายิ่งรู้จักพระคริสตเจ้าครับ...
3. รักพระคัมภีร์ให้มาก “ให้เรารู้ รัก พระคัมภีร์” อย่าลืมนะครับว่าพระคัมภีร์เป็นภาษาแห่งความรักของพระเจ้าครับ... ให้เราจง รู้ รัก พระคัมภีร์ มากๆนะครับ
4. ให้เราอ่านพระคัมภีร์มากๆ นะครับ โดยเฉพาะพระวรสารอ่านบ่อยๆ ซ้ำๆ ก็ยิ่งดีคัรบ... ยิ่งอ่านจิตใจของเราจะใสสะอาดเพราะการอบรมจากพระวาจาขอพระเจ้าครับ....
5. จงอ่านพระคัมภีร์ให้เป็นคู่มือชีวิตเลยครับ... เพราะพระเจ้าประทับอยู่ที่นั่นในพระวาจาของพระองค์ครับ.... “พระศาสนจักรแสดงความเคารพต่อพระคัมภีร์เสมอมา เช่นเดียวกับที่แสดงความเคารพต่อพระกายของพระคริสตเจ้า” (Dei Verbum 21)
6. สังฆานุกรฟิลิปอธิบายแก่ขันทีชาวเอธิโอเปีย จนทำให้เขาปรารถนาศีลล้างบาปฉันใด ก็เป็นหน้าที่ของบรรดาสังฆานุกร พระสงฆ์ โดยเฉพาะพระสังฆราช ต้องทำหน้าที่เทศน์สอน ประกาศสุดจิตใจ (พระสันตะปาปาฟรังซิสย้ำว่า การเทศน์ ต้องประกาศพระวรสาร ดู Evangelii Gaudium ข้อ 165)
7. ไม่ต้องกังวลครับ การพิมพ์พระคัมภีร์ การทำให้เราเข้าถึงได้โดยสะดวกไม่มีอุปสรรค... ก็เป็นหน้าที่ของบรรดาพระสังฆราชจะช่วยคริสตชนทุกคนให้เข้าถึงพระคัมภีร์ได้เช่นกัน (Dei Verbum ข้อ 25)

• พี่น้องที่รักครับ วันนี้เราอ่านกิจการอัครสาวกเรื่องสังฆานุกรฟิลิปและขันทีชาวเอธิโอเปีย เราเห็นพลังของพระวาจา การอ่านพระวาจา การอธิบายพระวาจา และพ่อได้เล่าเรื่องราวพระคัมภีร์ฉบับภาษาไทยคาทอลิกที่พ่อได้เห็น และติดตามด้วยความประทับใจมาโดยตลอดชีวิตพระสงฆ์ของพ่อเอง แม้เป็นประสบการณ์น้อยนิด แต่พ่อหวังว่า พวเราคริสตชนจะ “รู้รักพระคัมภีร์” อ่านพระคัมภีร์ และเข้าถึงพระคัมภีร์ได้โดยสะดวกไม่มีอุปสรรคใดๆมากเกินไป

• ลำพังอ่านและอธิบาย เทศน์ ไตร่ตรอง ก็งานหนักและยากอยู่แล้ว ขอให้เราได้เข้าถึงพระคัมภีร์โดยสะดวกเสมอ เพื่อเข้าใจพระคัมภีร์ด้วยการเทศน์สอนของพระสงฆ์และผู้หน้าที่โดยนิตินัยให้มากขึ้นกว่าที่เคยด้วยเทอญ...
o “เพราะฉะนั้น บรรพชิตทั้งหลายโดยเฉพาะบรรดาพระสงฆ์ของพระคริสตเจ้า และคนอื่นๆ เช่นสังฆานุกร และผู้สอนคำสอน ซึ่งมีหน้าที่ประกาศสั่งสอนพระวาจาตามนิตินัย จึงจำเป็นต้องใกล้ชิดกับพระคัมภีร์ โดยอ่านและศึกษาอย่างลึกซึ้งในรายละเอียดอยู่เสมอ ขออย่าให้ใครในพวกนี้กลายเป็น “ผู้ประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่ผู้อื่นอย่างว่างเปล่าด้วยเสียงเท่านั้น แต่ภายในจิตใจเขามิได้เป็นผู้ฟัง พระวาจาเลย” (น.ออกัสติน)” (DV 25)

• ฝันของพ่อวันนี้เพื่อปีนี้ 2016 ปีเมตตาธรรม เรามาอ่านพระวรสารนักบุญลูกาให้จบกันคนละอย่างน้อยหนึ่งรอบ ทำไปแล้วจ่ายแจกแบบขาดทุนต้นทุนราคาไปแล้ว แต่กำไรคือเราทุกคนจะได้รู้จักและรักพระวาจาของพระเจ้า นั่นคือกำไรที่สุด “รู้จักพระคริสตเจ้า” และอย่าลืมสำคัญมากคือ ภาวนา และดำเนินชีวิตเมตตากันให้มากๆนะครับ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก