“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2016
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต 

ยรม 17:5-10….

5พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้
“คนที่วางใจในมนุษย์ย่อมถูกสาปแช่ง
เขาพึ่งพลังของมนุษย์
ใจของเขาหันออกจากพระยาห์เวห์


6เขาเป็นเหมือนพุ่มไม้ในถิ่นทุรกันดาร
ไม่เห็นความดีใดๆที่มาถึง
เขาจะอาศัยอยู่ในที่แห้งแล้งในถิ่นทุรกันดาร
ในแผ่นดินเค็มที่ไม่มีผู้คนอาศัย”

7”คนที่วางใจในพระยาห์เวห์ย่อมได้รับพระพร
พระยาห์เวห์ทรงเป็นความหวังของเขา
8เขาจะเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ
ซึ่งหยั่งรากออกไปที่ลำน้ำ
เมื่อความร้อนมาถึง เขาก็ไม่กลัว
ใบของเขาคงเขียวอยู่เสมอ
เขาจะไม่กังวลใจในปีที่แห้งแล้ง
จะไม่หยุดออกผล”

9จิตใจหลอกลวงมากกว่าสิ่งอื่นทั้งหมด
ไม่อาจแก้ไข ผู้ใดจะรู้จักใจได้
10”เรา พระยาห์เวห์ สำรวจจิตและทดสอบใจ
เพื่อจะตอบแทนแต่ละคนตามความประพฤติของเขา”
------------------------

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “วันนี้เราตัดสินใจกันว่า จะวางหัวใจของเรา “วางใจ” Trust ไว้ที่ไหน
o จะวางใจในมนุษย์
o หรือจะวางใจในมนุษย์”

• ประกาศกเยเรมีย์ได้ประกาศให้ติดสินใจเลือกเดิน ว่าจะไปทางไหน... พ่อไม่ต้องอธิบายมาก แต่ขอแยกพระวาจามาวางไว้ให้อ่านและดูผลกระทบของการเดินทางสองแพร่งว่าแต่ละทางมีผลอย่างไร...

• เลือกวางใจในมนุษย์:
o ภาษาเดิมเริ่มด้วยคำว่า “เป็นกรรม (เวร) ของผู้วางใจในมนุษย์” เยเรมีย์ประกาศว่า ““คนที่วางใจในมนุษย์ย่อมถูกสาปแช่ง เขาพึ่งพลังของมนุษย์ ใจของเขาหันออกจากพระยาห์เวห์ เขาเป็นเหมือนพุ่มไม้ในถิ่นทุรกันดาร ไม่เห็นความดีใดๆที่มาถึง เขาจะอาศัยอยู่ในที่แห้งแล้งในถิ่นทุรกันดารในแผ่นดินเค็มที่ไม่มีผู้คนอาศัย”

• เลือกวางใจในพระเจ้า:
o ภาษาเดิมเริ่มด้วยคำว่า “เป็นบุญของผู้วางใจในพระเจ้า” เยเรมีย์ประกาศว่า “คนที่วางใจในพระยาห์เวห์ย่อมได้รับพระพร พระยาห์เวห์ทรงเป็นความหวังของเขา เขาจะเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ ซึ่งหยั่งรากออกไปที่ลำน้ำ เมื่อความร้อนมาถึง เขาก็ไม่กลัว ใบของเขาคงเขียวอยู่เสมอ เขาจะไม่กังวลใจในปีที่แห้งแล้งจะไม่หยุดออกผล”

• พี่น้องที่รัก ชัดเจนครับ เลือก และตัดสินใจว่าเราจะ “วางหัวใจ” ไว้ที่ไหน ที่พระเจ้าหรือที่มนุษย์ เราจะเชื่อฟังพระเจ้าหรือจะเชื่อฟังมนุษย์ เพราะประกาศเยเรมีย์ประกาศชัดเจน ผลที่ของชีวิตที่แตกต่างมากเหลือเกินครับ...

o “คนที่วางใจในมนุษย์ ย่อมถูกสาปแช่ง เขาพึ่งพลังของมนุษย์ ใจของเขาหันออกจากพระยาห์เวห์ เขาเป็นเหมือนพุ่มไม้ในถิ่นทุรกันดาร ไม่เห็นความดีใดๆที่มาถึง เขาจะอาศัยอยู่ในที่แห้งแล้งในถิ่นทุรกันดารในแผ่นดินเค็มที่ไม่มีผู้คนอาศัย”
o “คนที่วางใจในพระยาห์เวห์ ย่อมได้รับพระพร พระยาห์เวห์ทรงเป็นความหวังของเขา เขาจะเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ ซึ่งหยั่งรากออกไปที่ลำน้ำ เมื่อความร้อนมาถึง เขาก็ไม่กลัว ใบของเขาคงเขียวอยู่เสมอ เขาจะไม่กังวลใจในปีที่แห้งแล้ง จะไม่หยุดออกผล”

• พระเจ้าทรงทดสอบจิตใจและเห็นความจริงและความประพฤติของเรา ว่าเราวางใจของเรา “ความเชื่อ” ไว้ที่ไหน ความเชื่อและความวางใจอันที่จริงเป็นสิ่งเดียวกัน (จากคำสอนสำคัญที่เป็นพระสมณะสาสน์ Spe Salvi)

• พ่อสรุปง่ายคือ เราจะเชื่อใน (believe in) ใครหรือในอะไร เชื่อในพระเจ้า หรือจะเชื่อในมนุษย์

• พ่อคิดว่าคำตอบชัดเจนในเสียงของประกาศกเยเรมีย์ พ่อขอให้เราตัดสินใจเชื่อและหวังในพระเจ้าเสมอนะครับ และแน่นอน ถ้าเราเชื่อและหวังในพระเจ้า เราจะเห็นคุณค่าความงามน่าเชยของมนุษย์ด้วยอย่างแน่นอน พ่อเคยได้ยินคำสอนสมัยพ่อเด็กว่า “ตัวเราอยู่ในโลกตาเรามองเห็นโลก แต่ใจของเราเชื่อมันในพระเจ้าผู้อยู่ในสวรรค์” ขอให้เราเชื่อมั่นและวางใจในพระเจ้าเสมอ สรรเสริญพระเจ้าเสมอนะครับ พระเจ้าอวยพรครับ

• ถ้าเราเชื่อในพระเจ้า เราจะไปหาใครถ้าไม่ใช่พระองค์ พ่อบอกตรงๆ ว่า ตั้งแต่เกิดมาและจำความได้ พ่อไม่เคยผิดหวังที่พ่อเป็นคาทอลิก พ่อไม่เคยเสียใจที่พ่อเกิดมาในครอบครัวคริสตชน พ่อดีใจและภูมิใจเสมอมาที่พ่อได้รู้จักพระเจ้า
o อยากขอบคุณครอบครัว ขอบคุณจาแม่ พี่ๆที่ได้พาได้อุ้มพ่อไปวัด และสอนให้พ่อเป็นคริสตชน อยากขอบคุณคุณพ่อที่ล้างบาปให้พ่อ
o อยากขอบคุณพ่อทูนหัว บรรดาพระสงฆ์ ครูคำสอน ซิสเตอร์หลายท่าน ที่ได้อบรมสั่งสอนพ่อให้รู้จักพระเจ้า ไม่เคยเสียใจเลยที่เป็นคริสตชนแต่ดีใจที่สุดที่ได้รู้จักพระเจ้า ได้รักพระองค์ ได้สนิทกับพระองค์ แล้วพ่อจะไปไหน จะไปหาใครได้ถ้าไม่ใช่พระเจ้า และที่พอภูมิใจ ดีใจที่สุด
o ขอบคุณพระเจ้าที่ได้ประทานปัญญาให้แก่สมองอันน้อยนิดของพ่อ จนกระทั่งพ่อได้เรียนพระคัมภีร์จนกระทั่งพ่อเองได้ชื่อ “อาจารย์พระคัมภีร์” แม้พ่อช่างไม่สมควรเลยกับชื่อนี้เลย ปัญญาอันน้อยนิดของพ่อเช่นนี้พ่อได้แต่คิดว่า “เป็นไปได้อย่างไร พระเจ้ายิ่งใหญ่จริง”
o คงทำได้แต่เพียงขอบพระคุณเสมอไป สำหรับการทรงนำอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้ามีต่อพ่อเองและต่อพี่น้องทุกท่านครับ ขอพระเจ้าผู้ทรงมีพระวาจาทรงชีวิตนิรันดรได้โปรดอวยพรทุกท่านให้รักพระวาจาทรงชีวิต และขอให้เราผู้อ่านพระวาจาของพระเจ้าได้รับชีวิตนิรันดรเช่นกันครับ....

• ประสบการณ์ของพ่อเอง... กับการมีพระเจ้าพระองค์นี้ ในพระนามพระคริสตเยซูและพระวาจาของพระเจ้า... “เราจะไปหาใครพระเจ้าข้า พระองค์มีพระวาจาทรงชีวิต ตลอดนิรันดร”
o พ่อจำเพลงนี้ได้ตั้งแต่เด็ก พ่อไม่แน่ใจว่าตั้งแต่เมื่อไรที่พ่อได้มีความเชื่อในพระเยซูเจ้า ตั้งแต่เมื่อไรที่พ่อได้รู้นึกรู้สารู้เนื้อรู้ตัวว่าพ่อได้รู้จัก ได้รัก และได้แสวงหาพระเจ้า ไม่แน่ใจนัก แต่พ่อมั่นใจว่าตั้งแต่เด็กยังไม่รู้ความจาและแม่แม่พ่อคงได้พาพ่อไปวัด
o เพราะพ่อเป็นลูกคนที่ 14 เข้าไปแล้ว... พ่อเป็นลูกคนท้ายๆ ของแม่กับจา พ่อรู้ว่า บ้านเราไปวัดเสมอมิได้ขาด และพ่อมั่นใจว่า เวลาครอบครัวของเราไปวัดกันทั้งหมด เรือลำใหญ่เครื่องการ์ดเนอร์เรือที่ใช่ลางจูงเรือบรรทุกข้าว เรือลำนี้ของโรงสีของยายพ่อ บ้านพ่อไม่มีเรือเครื่องหลอกครับ เพราะครอบครัวเราลูกเยอะยากจน แต่อาศัยได้มียายและบ้านยาย
o เรือลำใหญ่ของยายเต็มไปด้วยพี่ป้าน้าอาและลูกหลานนั่งกันเต็มลำเรื่อง แน่นไปหมด เราไปวัดกันทั้งหมด พ่อได้เห็นภาพหลานๆ ถูกอุ้มไปด้วย แม้ไม่รู้ความอะไรเลย แต่ก็ต้องไปในอ้อมกอดของพ่อแม่
o ดังนั้น พ่อมั่นใจ ตั้งแต่พ่อยังเดินไม่ได้ หรือเดินเตาะแตะ พ่อเองก็ไปวัดทุกอาทิตย์แน่ๆ พี่ๆคนโตๆกว่าคงจะอุ้ม จูงไป แม่คงอุ้มไม่ไหวหรอกเพราะแม่มีลูกเยอะ พ่อเป็นคนที่ 14 แล้ว แม่คงให้พี่ๆรับผิดชอบกันไปอุ้มกันไป แต่พ่อมั่นใจว่าพ่อได้ไปวัดเสมอเพราะพี่ๆอุ้มกระเตงกันไป ไปหาพระเจ้า ไปวัดทุกวันอาทิตย์และวันสำคัญ...
o พ่อยากย้อนกลับไปหาดูว่าพี่คนไหนหนอที่อุ้มพ่อมากที่สุด ที่โอบกอดกระเตงเข้าสะเอวพาพ่อไปหาพระเจ้า... เดี๋ยวมีโอกาสต้องไปสืบค้นสักหน่อย... อยากจะกอดกลับให้แน่นที่สุด อยากจะกราบตักงามๆด้วยความรู้คุณจริงๆ ที่กระเตงอุ้มพ่อเข้าสะเอวและพาพ่อไปหาพระเจ้า
o เดาได้เลยว่า เมื่อไปถึง ที่หน้าวัดตรงทางเข้ามีฝาหอยโตๆใส่นำเสก พวกเราทุกคนต้องจุ่มน้ำเสกทำสำคัญมหากางเขน และมั่นใจว่า พี่สาวของพ่อ (พี่ๆจะต้องอุ้มไปเพราะรักมากๆ หรือเพราะต้องผลัดเวรกันอุ้มน้องตามหน้าที่ที่แม่หรือจาสั่งก็ตาม) พ่อก็ได้รับผลพระคุณ และบุญคุณที่ได้รับโดยพาพ่อไปรู้จักพระเจ้า... พี่ๆคงได้ทำเช่นนี้กับพ่อแน่ๆ เมื่อตอนพ่อยังเด็กเกินจะเดินได้... อยากขอบคุณ
o นั่งเขียนบทเทศน์วันนี้คิดถึงพี่ๆ ที่ทำนหน้าที่ด้วยความรักและพาพ่อไปวัด จนพ่อโต เดินได้เอง ไปวัดได้เอง ลงเรือไปได้เอง จนกระทั่งโตจะเป็นคนขับเรือได้เอง กลับเป็นคนขับเรือพาพี่ป้าน้าอายายแม่และจาไปวัดกันได้ แต่ที่แน่ๆ เจ้าเรือการ์ดเนอร์ลำใหญ่นี้คือยานพาหนะพาเราไปหาพระเจ้า พาเราไปวัดเสมอมา...

• ครับ วันนี้พ่อเล่าเรื่องส่วนตัวในครอบครัวและวัยเด็กอีกแล้ว เพราะว่าพระวาจาวันนี้สัมผัสหัวใจของพ่อจริงๆ พ่อได้อ่านเยเรมีย์บทที่ 17 แล้วทำให้พ่อต้องหันกลับมาที่ประสบการณ์ดีๆเช่นข้างต้น ที่ประสบการณ์ของพ่อ และที่สำคัญประโยคที่พ่อรัก “เราจะไปหาใครพระเจ้าข้า พระองค์มีพระวาจาทรงชีวิต ตลอดนิรันดร” ความจริงประโยคนี้เป็นคำพูดของท่านนักบุญเปโตรเมื่อพระเยซูเจ้าถามว่า จะไม่ละทิ้งพระองค์ไปเหมือนคนอื่นๆบ้างหรือ... (เทียบ ยน 6:68) อ่านแล้วซึ้งใจมากๆ "Lord, to whom shall we go? You have the words of eternal life”

o พี่น้องที่รัก พ่อซ้ำคำสำคัญคือเสียงของเปโตร ขณะที่ชาวยิวกำลังเดินจากพระเยซูเจ้าไป ทิ้งพระองค์ไปหลังจากได้รับประทานขนมปังที่ทรงเลี้ยงพวกเขา และพระองค์สอนพวกเขาให้รู้ว่า ปังแท้คือเลือดเนื้อของพระองค์ พวกเขารู้สึกขัดเคืองหูที่จะฟัง จึงทยอยทิ้งจากพระองค์ไป และที่สุด พระเยซูเจ้าถามเปโตรว่า “พวกท่านไม่ไปกับเขาด้วยหรือ” และคำตอบของเปโตรสะท้อนในหูของพ่อ และพ่อเลือกเขียนภาษากรีกให้อ่านออกเสียงตามด้วยภาษาไทยตามที่ยอห์นได้บันทึกไว้... พ่อรู้สึกว่า เปโตรต้องการบอกกับทุกคนว่า อาหารสำคัญ แต่สำคัญกว่าอาหารคือ “พระวาจาแห่งชีวิต”) “the words of eternal life” พระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร มาจากพระองค์

             ดังนั้น พี่น้องที่รัก พ่อดีใจ พ่อดีใจ แม่ไม่สามารถบอกได้ว่า ณ เวลาใดในวัยเด็กที่พ่อได้เริ่มรู้จักพระเยซู ณ เวลาใดที่พ่อเริ่มมีศรัทธาในพระเยซู... แต่ว่า ณ เวลานี้ เวลาปัจจุบัน พ่อรู้ว่าคุ้มค่าและโชคดีที่สุดที่ได้รู้จักพระเยซู ได้เป็นคริสตชน ได้เกิดมาในครอบครัวคริสตชน และขณะนี้ที่นั่งเขียนบทเทศน์นี้ก็เขียนด้วยความเชื่อของคริสตชนของพ่อจริงๆ พ่อดีใจ ภูมิใจจริงๆ และมีความสุขจริงๆครับ

             พ่อเขียนมาแบบนี้เพราะพระวาจาของพระเจ้าจากเยเรมีย์วันนี้โน้มนำจิตใจ บทอ่านวันนี้ในเทศกาลมหาพรตนี้ทำให้พ่อได้มั่นใจในพระเจ้าที่จะต้องประกาศว่า “พ่อจะไปหาใคร ใครจะดีไปกว่าพระเยซู พ่อจะเชื่อใคร จะวางใจใครได้ดีไปกว่าพระเยซู เพราะพระองค์ผู้เดียวทรงมีพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร” ถ้าเราวางใจในพระองค์ ถ้าเรารักพระองค์ เลือกพระองค์ และอาศัยพระองค์เสมอไป ชีวิตของเราจะได้รับพลังแห่งพระพร เพียงพอ เหลือล้นจากพระองค์ เราอ่านพระวาจากันมากๆนะครับ...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก