“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน 2015
สัปดาห์ที่สามสิบสาม เทศกาลธรรมดา

ลก 19:1-10…
1พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าเมืองเยรีโคและกำลังจะเสด็จผ่านเมืองนั้น 2ชายคนหนึ่งชื่อศักเคียส เป็นหัวหน้าคนเก็บภาษี เป็นคนมั่งมี 3เขาพยายามมองดูว่าใครคือพระเยซูเจ้า แต่ก็มองไม่เห็นเพราะมีคนมากและเพราะเขาเป็นคนร่างเตี้ย 4เขาจึงวิ่งนำหน้าไป ปีนขึ้นต้นมะเดื่อเทศ เพื่อให้เห็นพระเยซูเจ้า 5เพราะพระองค์กำลังจะเสด็จผ่านไปทางนั้น เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงที่นั่น ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรตรัสกับเขาว่า “ศักเคียส รีบลงมาเถิด เพราะเราจะไปพักที่บ้านท่านวันนี้”

6เขารีบลงมาต้อนรับพระองค์ด้วยความยินดี 7ทุกคนที่เห็นต่างบ่นว่า “เขาไปพักที่บ้านคนบาป” 8ศักเคียสยืนขึ้นทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะยกทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งให้แก่คนจน และถ้าข้าพเจ้าโกงสิ่งใดของใครมา ข้าพเจ้าจะคืนให้เขาสี่เท่า” 9พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วันนี้ ความรอดพ้นมาสู่บ้านนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นบุตรของอับราฮัมด้วย 10บุตรแห่งมนุษย์มาเพื่อแสวงหาและช่วยคนเลวทรามเสียไปให้รอดพ้น”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
  

• วันนั้น พระเยซูเสด็จที่เยรีโค...พระองค์เสด็จมาพร้อมกับความต้องการของทุกคนที่จะพบพระเยซู แต่ซักเคียสคนเก็บภาษีร่ำรวย (อาจจะโกงบ้าง) ร่างเตี้ย เป็นที่รังเกียจของสังคมเพราะเขาเป็นคนบาปสำหรับชาวยิว อาชีพเก็บภาษีมักจะมีสิ่งที่มาพร้อมด้วยคือการฉ้อโกงหรือร่ำรวยเกินไป... ใครๆ ก็รู้ว่าคนเก็บภาษีคือคนบาปในสายตาของชาวยิวจริงๆ

• แต่วันนั้นที่เยรีโค... หัวหน้าคนเก็บภาษีคือซักเคียส..เขาอยากเห็นพระเยซูเจ้าเมื่อพระองค์เสด็จผ่านมา...ที่เมืองนั้น
o “ชายคนหนึ่งชื่อศักเคียส เป็นหัวหน้าคนเก็บภาษี เป็นคนมั่งมี
o เขาพยายามมองดูว่าใครคือพระเยซูเจ้า แต่ก็มองไม่เห็นเพราะมีคนมากและเพราะเขาเป็นคนร่างเตี้ย
o เขาจึงวิ่งนำหน้าไป ปีนขึ้นต้นมะเดื่อเทศ เพื่อให้เห็นพระเยซูเจ้า”

• สิ่งที่พ่อเห็นและชวนให้คิดไตร่ตรองจริงๆ เพราะซักเคียสเขาพยายามและอยากรู้จักพระเยซูเจ้าว่าพระองค์คือใคร ความงดงามของการนำเสนอของลูกาคือความอยากรู้จักพระองค์ อยากได้เห็นพระองค์ แม้เขามีความจำกัดทางภายภาพ “เขาตัวเตี้ย” แต่พ่อชอบมากที่ได้เห็นความปรารถนาของเขาที่จะได้เห็นพระเยซูเจ้า... เขามีความจำกัดทากายภาพที่ร่างเตี้ยไม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้.. แต่เขาไม่ยอมแพ้ความจำกัดนั้น... นักบุญลูกาชี้ให้เห็นว่าที่เยรีโคนี้มีซักเคียสที่พยายามจะได้เห็นพระเยซู ความจำกัดทางกายภาพหยุดเขา แต่เขาผ่าความจำกัดทางกายภาพของตนที่จะได้เห็นพระเยซู
o เขาวิ่งนำหน้าไป
o เขาปีนต้นมะเดื่อเทศเพื่อเห็นพระเยซู

• พี่น้องที่รัก พ่อชอบภาพที่พระวรสารนักบุญลูกาให้กับเราในวันนี้.. ซักเคียสอยากเห็นพระเยซูเจ้าจริงๆ และเขาเอาชนะความจำกัดของตน (พ่อเคยไปที่เยรีโค มีต้นมะเดื่อเทศ ถ้าขึ้นไปบนต้น ก็จะสูงหน่อย อยู่เหนือศีรษะของทุกคนและรอมองเห็นพระเยซูเจ้าได้แน่นอน) พระวรสารวันนี้กำลังสอนพ่อเองให้กระหายหาพระเยซูเจ้า อยากเห็นพระเยซูเจ้าในปัจจุบัน เห็นพระองค์ได้ในเพื่อนพี่น้องแม้ว่าปัจจุบันมีความจำกัดมากจริงๆ มากกว่าความจำกัดทางกายภาพ แต่ในทุกๆมิติ ทางสังคม การเมือง และแม้แต่ศาสนาบางครั้งจำกัดการมองเห็นพระเจ้า แต่กลับสอนให้มองเห็นแต่ศัตรูจนพี่น้องร่วมโลกเพียงต่างศาสนาก็กลับมองเป็นศัตรูที่ต้องทำลาย ช่างเป็นสภาพความเขลาและจำกายทางปัญญา ความเชื่อ และศาสนาจอมปลอมจริงๆถ้าเป็นเช่นนั้น

• พี่น้องที่รัก พ่ออยากให้เราได้วิ่งไปเพื่อเห็นพระเยซูในโลกปัจจุบันให้ได้ครับ ต้องพยายามวิ่งไปให้เกินความจำกัดของเราเอง ความจำกัดทางสังคม แม้แต่ศาสนา ทั้งนี้เพื่อให้ได้เห็นพระเยซูเจ้าและชื่นชมพระองค์ในเพื่อนพี่น้องของเราทุกคนให้จงได้ เพราะมนุษย์ทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า เป็นภาพลักษณ์และความเหมือนพระเจ้านะครับ

• พ่อเห็นภาพของซักเคียส... ที่ปรารถนาจะเห็นพระเยซูแล้วพ่อสุขใจ อยากให้พ่อเองและเราทุกคนได้รู้ว่าพระเยซูเจ้าคือเป้าหมายสูงสุดของเราที่เราต้องพบให้ได้ เราต้องพยายามพบพระเยซูเจ้าในปัจจุบัน การพบพระเยซูเจ้าในพี่น้องผู้ยากไร้ชายขอบของเรา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเป้าหมายของพระวรสารนักบุญลูกาอยู่แล้ว... พระองค์เสด็จมาเพื่อตามหาคนบาป มาแสวงหาคนบาป วันนั้น ที่เยรีโค ซักเคียสได้พบความรอดพ้นในพระเยซูเจ้าจริงๆ

• เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงต้นมะเดื่อที่ซักเคียสอยู่บนต้นไม้นั้น... พระเยซูเจ้าได้ทรงหยุดพระดำเนินและเรียกซักเคียส ซึ่งความน่าประทับใจมากคือพระองค์ทรงเรียกชื่อเขา “ซักเคียส” และพระองค์ตรัสว่า “ศักเคียส รีบลงมาเถิด เพราะเราจะไปพักที่บ้านท่านวันนี้” พระวาจาที่งดงามที่สุด พระองค์เรียกชื่อเขาและสั่งให้รีบลงมาและพระองค์ประกาศชัดเจน “เพราะเราจะไปพักที่บ้านท่านวันนี้” ซักเคียสดีใจที่สุด เขารีบลงมาจากต้นไม้และรีบต้อนรับพระเยซูเจ้าอย่างมีความสุขที่สุดแน่ๆ เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย

• และวันนั้น ทุกคนที่เยรีโคก็บ่นว่าและดูเหมือนรับไม่ได้ที่พระเยซูเจ้าได้เข้าไปในบ้านของซักเคียส และดูเหมือนเสียงบ่นคงดังลั่นเยรีโค แต่ทว่า.. ในบ้านของซักเคียส การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นจริงๆ
o “ทุกคนที่เห็นต่างบ่นว่า “เขาไปพักที่บ้านคนบาป”
o ศักเคียสยืนขึ้นทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะยกทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งให้แก่คนจน
o และถ้าข้าพเจ้าโกงสิ่งใดของใครมา ข้าพเจ้าจะคืนให้เขาสี่เท่า”

• การได้ตอนรับ ได้พบพระเยซูเจ้านำการเปลี่ยนแปลงหรือการกลับใจมาสู่ซักเคียส ไม่ใช่เพียงการกลับใจ แต่เขากลับใจกว้างอย่างยิ่ง เพราะเขาเป็นคนร่ำรวย (ไม่ได้แปลว่าทั้งหมดเขาโกงมา แต่เขาร่ำรวยด้วย)
o ประการแรก สิ่งที่เขามีเขาจะให้ครึ่งหนึ่งแก่คนยากจน... นี่คอการเปลี่ยนแปลที่เห็นได้ชัด คือ เขาใจกว้างทันทีที่ได้พบพระองค์ เมื่อเขาได้ต้อนรับพระองค์ เขาเปิดกว้างและประกาศมอบครึ่งหนึ่งของความร่ำรวยของตนให้คนยากจน...
o ประการที่สอง เขาได้ประกาศชดใช้ ประกาศว่า...ถ้าเขาได้โกงใครมา เขาสำนึกและจะชดใช้ให้ไม่เพียงชดใช้ธรรมดา แต่ชดใช้สี่เท่า... นี่คือประเด็นที่สวยงาม

• ที่เยรีโค เมื่อพระองค์ทรงหยุดเดินและเรียกซักเคียส พระองค์เสด็จเข้าบ้านซักเคียส... และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นในตัวซักเคียส... สองอย่างที่พ่อเห็นชัดเจนจริงๆคือ
o ความใจกว้าง เมตตา และแบ่งปัน ถึงครึ่งหนึ่งของทรัพย์สมบัติความร่ำรวยที่มี เขาพร้อมจะแบ่งปันให้คนยากจนโดยทันที
o การชดใช้... ถ้าเขาได้โกงใครมา การได้พบพระเยซูเจ้าทำให้เกิดการชดใช้ ไม่เพียงชดใช้สิ่งที่โกงมา แต่เป็นสี่เท่าที่เขาจะชดใช้ให้

• เพราะการได้พบพระเยซูเจ้า การกลับใจปรากฎเป็นความใจกว้างที่สุดและประกาศการชดใช้ให้สมกับที่ควรชดใช้และมากกว่าด้วย... และวันนั้นที่บ้านซักเคียส พระเยซูเจ้าประกาศว่า “พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วันนี้ ความรอดพ้นมาสู่บ้านนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นบุตรของอับราฮัมด้วย บุตรแห่งมนุษย์มาเพื่อแสวงหาและช่วยคนเลวทรามเสียไปให้รอดพ้น”

• พี่น้องที่รัก นี่คือจุดประสงค์ของการเสด็จมาของพระเยซู พระบุตรแห่งมนุษย์เพื่อให้มนุษย์ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงออกจากความจำกัดของตนจริงๆ ความเตี้ย ความฉ้อโกง ของซักเคียส เขาได้ผ่าความจำกัดของตนเพราะได้พบพระเยซูเจ้า นี่คือจุดประสงค์ของพระวรสารนักบุญลูกาจริงๆครับ

• พี่น้องที่รักครับ... “ความเชื่อคือการพบปะพระคริสตเจ้า” เป็นการพบปะแบบบุคคลกับบุคคล พระองค์คือพระบุคคลที่เราได้รัก ได้พบ และได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนง.. พ่อขอสรุปว่าพระวรสารวันนี้สอนเตือนเราเด็ดขาดว่า... เมื่อเราได้เป็นคริสตชน เราได้พบพระเยซูเจ้าในพระวาจา ในศีลมหาสนิทและในการภาวนา ดังนั้น จำเป็นมากที่เราต้องพบพระองค์แบบบุคคลชัดเจน...ในเพื่อนพี่น้องผู้ยากไร้ชายของสังคม บรรดาคนบาปที่ต้องการพระเมตตา เพราะการพบกันนี้จะนำความรอดพ้นมาให้ทุกนยอย่างแน่นอนครับ...

• พี่น้องที่รักครับ ออกจากความจำกัดของเราแต่ละคน ออกจากตนเอง ความรักตนเองเกินไปจนเอาแต่ใจตนเอง ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง ยึดมั่นถือมั่นคนเองจนเห็นแก่ตัวและปัจเจกนิยมสุดโต่ง... จนปิดใจตนเอง... ถึงเวลาเปิดใจครับ ถึงเวลาออกจากความจำกัดของตนเพื่อได้เห็นพระองค์ ได้ต้อนรับพระองค์ในบ้านแห่งดวงใจของเราครับ ถึงเวลาที่เราต้องเมตตาและใจกว้างที่สุดเลยนะครับ... ขอพระเจ้าอวยพรให้เราได้ต้อนรับพระองค์ในเพื่อนพี่น้องผู้ต่ำต้อยของเรานะครับ.. เราต้องเป็น “พระศาสนจักรที่จน อยู่เคียงข้างคนจน” ให้มากกว่าที่เคยจริงๆครับ...

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก