“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2015
สัปดาห์ที่สามสิบสอง เทศกาลธรรมดา


ฉลองวันครบรอบการถวายพระวิหารนักบุญยอห์น แห่งลาเตรัน

ยน 2:13-22…

13เทศกาลปัสกาของชาวยิวใกล้จะมาถึง พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม 14ในบริเวณพระวิหาร พระองค์ทรงพบพ่อค้าขายโค พ่อค้าขายแกะ พ่อค้าขายนกพิราบ และคนแลกเงินนั่งอยู่ที่โต๊ะ 15พระองค์ทรงใช้เชือกเป็นแส้ ทรงขับไล่ทุกคนรวมทั้งแกะและโคออกจากพระวิหาร ทรงปัดเงินกระจายเกลื่อนกลาด และทรงคว่ำโต๊ะของผู้แลกเงิน

16แล้วตรัสกับคนขายนกพิราบว่า “จงนำของเหล่านี้ออกไป อย่าทำบ้านของพระบิดาของเราให้เป็นตลาด” 17บรรดาศิษย์จึงระลึกได้ถึงคำที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “ความรักที่ข้าพเจ้ามีต่อบ้านของพระองค์เป็นเสมือนไฟที่เผาผลาญข้าพเจ้า” 18ชาวยิวจึงเข้ามาทูลถามพระองค์ว่า “ท่านมีเครื่องหมายอะไรแสดงให้เรารู้ว่าท่านมีอำนาจทำดังนี้” 19พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “จงทำลายพระวิหารนี้ แล้วเราจะสร้างขึ้นใหม่ภายในสามวัน” 20ชาวยิวพูดว่า “พระวิหารหลังนี้ต้องใช้เวลาสร้างถึงสี่สิบหกปี แล้วท่านจะสร้างขึ้นใหม่ในสามวันหรือ” 21แต่พระองค์กำลังตรัสถึงพระวิหารซึ่งหมายถึงพระกายของพระองค์ 22ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว บรรดาศิษย์จึงระลึกได้ว่าพระองค์ตรัสไว้ดังนี้ เขาจึงเชื่อทั้งพระคัมภีร์และพระวาจาที่พระองค์ตรัสไว้


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
 
• ตั้งแต่เป็นเด็กตอนเป็นเณรที่บ้านเณรเล็ก พ่อจำได้ว่าพ่อเคยได้ยินชื่อพระวิหารลาเตรันตั้งแต่เวลานั้น แต่ไม่เคยทราบว่าหน้าตาพระวิหาร ขนาดพระวิหาร ความงามของพระวิหารนี้เป็นอย่างไร พ่อทราบแต่เพียงวันนี้เป็นวันฉลองพระวิหารแม่ของพระศาสนจักรเพราะเป็นอาสน วิหารของพระสังฆราชแห่งกรุงโรม และพระสังฆราชแห่งกรุงโรมก็คือพระสันตะปาปานั่นเอง... 


• พ่อยอมรับว่า ตั้งแต่เป็นเณรเล็กพ่อก็ฝันใฝ่และจิตนาการถึงความงดงามของพระวิหารลาเตลัน และพระวิหารนักบุญเปโตร พระวิหารแม่พระ พระวิหารนักบุญเปาโล.. พ่อรู้สึกว่าเวลากล่าวถึงพระวิหารของพระศาสนจักรคาทอลิก พ่อคิดถึงความสวยงาม ความยิ่งใหญ่ หรือความใหญ่โตของพระวิหาร วันนี้พ่อขอทบทวนพระความรู้จักพระวิหารแม่ของพระศาสนจักรคาทอลิกอีกครั้ง หนึ่งครับ

• พระศาสนจักรของเรา โรมันคาทอลิกมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม เพราะพระสันตะปาปาอยู่ที่นั่น นักบุญเปโตรสิ้นชีวิตที่กรุงโรม โรมเป็นที่ตั้งของ “พระวิหาร” อันที่จริงเรียกว่า “มหาวิหาร” (Basilica บาสิลีกา รากภาษามาจากกรีกและโรมัน แปลว่ามหาวิหารหรือวิหารแม่ ภาษาลาตินใช้คำว่า Archibasilica) ที่กรุงโรมมี 4 มหาวิหารด้วยกัน ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งพระพร และการไปแสวงบุญที่โรมก็มักจะต้องเยี่ยมเยือนพระวิหารเหล่านี้ สี่พระวิหารนี่คือ

1. มหาวิหารนักบุญเปโตร Saint Peter Basilica (ใหญ่ที่สุด)

2. มหาวิหารนักบุญยอห์นแห่งลาเตรัน Saint John Lateran Basilica (อาสนวิหารของพระสันตะปาปาในฐานะพระสังฆราชแห่งกรุงโรม ปีที่อภิเษกพระวิหารนี้นั้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 324 นานโขเลยนะครับ)

3. มหาวิหารแม่พระ Saint Mary Major Basilica 

4. มหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม Saint Paul Basilica

• พระวิหาร หรือวัดสำหรับพ่อมีความหมายมาก ตั้งแต่วัยเด็ก เพียงวัดเล็กๆที่เจ้าเจ็ด มีหอระฆังสูงหน่อย วัดเจ้าเจ็ดจุคนได้สักสองร้อยคนพ่อก็ว่าใหญ่โต่มากแล้วในสายตาของพ่อ พ่อรู้สึกว่า

o วัดคือหัวใจ วัดคือศูนย์กลางของชุมชน 

o วัดเป็นที่ประทับของพระเจ้า วัด ณ ที่นั้น มีคุณพ่อ มีซิสเตอร์ มีพระเจ้าประทับอยู่ พวกเราไปวัด เรารู้สึกดีเสมอ เรารู้สึกว่าที่วัดคือที่ที่ดีที่สุดในหมู่บ้านของเรา เป็นที่เราภาวนา เป็นที่เราวอนขอ เป็นที่เราพึ่งพา... 

o วัด สุดยอดเสมอ... ถ้าได้ไปวัด ไปช่วยมิสซา ยิ่งสุดยอดจริงๆ นั่นคือความรู้สึกดีๆต่อวัดและความทรงจำในอดีตของพ่อ

• เมื่อพ่อมีโอกาสเรียนพระคัมภีร์ ได้อ่านเรื่องการสร้างพระวิหาร และการถวายพระวิหารสมัยกษัตริย์ซาโลมอน อ่านซ้ำๆ พ่อยิ่งเห็นคุณค่าของพระวิหารหรือที่ประทับของพระเจ้ามากขึ้นจริงๆ พ่อขอคัดข้อความพระคัมภีร์มากให้อ่านหน่อยนะครับจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ฉบับ ที่สอง บทที่ 8:54ff บางส่วนครับ อ่านตอนที่ซาโลมอนถวายพระวิหารกันนะครับ พ่อชอบคำภาวนาของซาโลมอนหน้าพระแท่นในวันถวายพระวิหารมากๆ คำ “ขอ” ของซาโลมอน ณ พระวิหารน่าอ่าน และน่าไตร่ตรองมากๆครับ

o กษัตริย์ซาโลมอนทรงคุกเข่าเบื้องหน้าพระแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ ทรงชูพระกรขึ้นสู่สวรรค์ ทรงอธิษฐานภาวนาและทรงวอนขอพระยาห์เวห์

o เมื่อทรงอธิษฐานภาวนาจบแล้ว ทรงลุกขึ้น ทรงยืนและประทานพรแก่ชาวอิสราเอลทุกคนที่ชุมนุมกัน ตรัสเสียงดังว่า

o "ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ ผู้ประทานความสงบแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ตามพระสัญญา พระสัญญาทั้งหลายที่ตรัสไว้ผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ ไม่มีแม้เพียงประการเดียวที่ไม่เป็นจริง 

1. ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราสถิตอยู่กับเรา ดังที่เคยสถิตอยู่กับบรรพบุรุษ 

2. ขอพระองค์อย่าทรงจากเราไปและ

3. อย่าทรงทอดทิ้งเราเลย 

4. ขอพระองค์ทรงบันดาลให้ใจของเราหันไปหาพระองค์ เราจะได้เดินตามวิถีทางทั้งมวลของพระองค์ และปฏิบัติตามบทบัญญัติ ข้อกำหนดและพระวินิจฉัยที่ประทานแก่บรรพบุรุษของเรา

5. ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงระลึกทั้งกลางวันและกลางคืนถึงถ้อยคำเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าวอนขอพระองค์ 

6. ขอพระองค์ทรงปกป้องผู้รับใช้ของพระองค์ และทรงปกป้องอิสราเอลประชากรของพระองค์ตามความจำเป็นในแต่ละวันด้วยเถิด ประชาชาติทั้งหลายทั่วแผ่นดินจะได้รู้ว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าอื่นใด 

7. ขอให้ใจของท่านทั้งหลายซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา ดำเนินชีวิตตามข้อกำหนดของพระองค์ ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ดังที่ท่านทำอยู่วันนี้"

• พี่น้องที่รัก พ่อชอบอ่านคำภาวนาของซาโลมอน และดูเหมือนว่า คำขอของซาโลมอนนี้ยังคงมีคุณค่าเสมอสำหรับเราที่จะภาวนาวอนขอพระเจ้าเช่นกัน


• แน่นอนวันนี้ฉลองพระวิหารลาเตรัน ทำให้พ่อคิดถึงวัดของพ่อ พ่ออยากให้พี่น้องรู้สึกดีๆและรักวัดบ้านเกิดของเรา คือ รักวัดที่เรารับศีลล้างบาป ถ้ามีโอกาสวันนี้คิดถึงวัด คิดถึงวันเวลาที่เรารับศีลล้างบาป หรือเยี่ยมวัดที่เรารับศีลล้างบาป และที่สำคัญให้เราได้ตระหนักถึงศีลล้างบาปที่เราได้รับ วัดที่เราสังกัดหรือไปร่วมมิสซาเป็นประจำ... 


• และที่สำคัญที่สุด สำคัญกว่าตัววัดหรือตัวอาคารคือ “ชุมชนวัด” ของเราทุกคน “ชุมชนศิษย์พระคริสต์” นั่นคือพระศาสนจักรที่แท้จริงของเรา... และแน่นอนตามพระวาจาในพระคัมภีร์... ในบทอ่านวันนี้จากจดหมายนักบุญเปาโล เราทราบว่า เราแต่ละคนนี่แหละที่เราต้องไม่ลืมว่า “เราคือพระวิหารของพระเจ้า” 


• ทุกคนด้วยกัน เปาโลย้ำว่า “ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน ถ้าใครทำลายพระวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายเขา เพราะพระวิหารของพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ และท่านก็คือพระวิหารนั้น” 


• ประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับพ่อวันนี้.... คือพระวรสารนักบุญยอห์น พระเยซูเจ้าทรงชำระพระวิหารในวันใกล้วันฉลองปัสกาสำหรับชาวยิว...

• พระวิหารได้กลายเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่ออ้างการพาณิชย์ พ่อค้าขายสิ่งของอำนวยความสะดวกแก่การนมัสการพระเจ้า ค้าแกะ ค้าโค นกเขาและนกพิราบ สัตว์ที่จะต้องใช้ในการถวายบูชาเท่านั้น โดยปกติประชาชนจะนำมา... แต่ เพื่อความสะดวก (เพื่อการพาณิชย์ของครอบครัวสมณะ เลวี และคนอยู่ใกล้พระวิหารทั้งนั้น...) ก็มีการค้าเกิดขึ้น อ้างเพื่อความสะดวก อ้างไปอ้างมาก็อาจจะอ้างว่าทำเพื่อพระวิหาร (กระโดดข้ามสองพันปีมาสู่ยุคสมัยของเรา เมื่อวัดทำศาสนพาณิชย์.... อ้างได้หมดทำเพื่อวัด สิ้นค้าของวัด วัดได้ประโยชน์ กำไรเข้าวัด และที่สุดพ่อเจ้าวัด ซิสเตอร์คนในวัดก็จัดการกันเอง ร่ำรวย ได้ประโยชน์ ย้ำ “เข้าวัด” ในเขตของวัด สัตบุรุษห้ามขาย พ่อค้าทั่วไปได้แค่หน้าประตูวัด... หรือถ้าวัดทำไม่ไหว ก็จัดตีเส้น ตีคอก อำนวยความสะดวก และก็ให้เช่าขายในวัด แบ่งกำไรให้วัด...ฯลฯ)


• วันนั้นก่อนปัสกา...พระวิหารของพระเจ้าก็เต็มไปด้วยการค้าและพาณิชย์ (ไปศึกษาประวัติศาสตร์เจ้าของกิจการหรือผู้มีส่วนได้ ไม่เคยมีส่วนเสียคือตระกูลเลวี และมหาสมณะ)... วันนั้น ... ยน 2 ข้อความพระวาจาที่เราอ่านวันนี้ พระเยซูเจ้าจึงต้องชะระพระวิหาร...

o “พระองค์ทรงใช้เชือกเป็นแส้ ทรงขับไล่ทุกคนรวมทั้งแกะและโคออกจากพระวิหาร ทรงปัดเงินกระจายเกลื่อนกลาด และทรงคว่ำโต๊ะของผู้แลกเงิน แล้วตรัสกับคนขายนกพิราบว่า “จงนำของเหล่านี้ออกไป อย่าทำบ้านของพระบิดาของเราให้เป็นตลาด””

o เราได้เห็น “ความรักที่พระองค์ทรงมีต่อบ้านของพระบิดา เป็นเหมือนไฟที่เผาผลาญหัวใจของพระองค์...” เป็นตัวอย่างสอนเราในเรื่องความรักต่อความบริสุทธิ์ งดงาม และศักดิ์สิทธิ์ต่อ “พระวิหาร” 

o และที่สุด พระองค์บอก “จงทำลายพระวิหารนี้สิ แล้วเราจะสร้างขึ้นใหม่ในสามวัน” ชัดเจน... พระเยซูเจ้าทรงประกาศ “พระองค์คือพระวิหารแท้” ไม่ใช่อิฐหินปูนทรายที่เป็นพระวิหาร... พระคัมภีร์ย้ำชัดเจนว่า “แต่พระองค์กำลังตรัสถึงพระวิหารซึ่งหมายถึงพระกายของพระองค์ ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว บรรดาศิษย์จึงระลึกได้ว่าพระองค์ตรัสไว้ดังนี้ เขาจึงเชื่อทั้งพระคัมภีร์และพระวาจาที่พระองค์ตรัสไว้”

• พี่น้องที่รัก... นักบุญเปาโลเขียนชัดเจน “ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน”


• พ่อรู้ครับว่าวัดสำคัญ อาคารก็สำคัญ และเราก็ต้องชำระดูแลวัด “อาคาร” ที่เป็น “เครื่องหมาย” ให้ดี ศักดิ์สิทธิ์ เหมาะสม... แต่ แต่ แต่...พระวิหารแท้ของพระเจ้า สำคัญกว่าอาสนวิหาร มหาวิหาร ที่สร้างด้วยอิฐปูนทรายศิลป์ชั้นสูงส่งเพียงใด... แต่ก็มีราคาและพาณิชย์แฝงอยู่จนเต็มแน่น สร้างซ่อมวัดอาสนวิหารอาจใช้เงินทองหลายสิบ ร้อยล้าน หรือหลายร้อยล้านบาทท่ามกลางความขัดแย้งและยิ่งชิงประโยชน์และกำไร... จำเป็นไหม??? สำหรับพ่อ.. พระเยซูเจ้ามาบังเกิดในรางหญ้า ไม่มีบ้าน ไม่มีเตียงนอน มีเพียงผ้าพันกายผืนเดียว พระองค์คือ “พระวิหารนิรันดร” และเมื่อทรง “สิ้นพระชนม์เพื่อทุกเข่าจะย่อลงสรรเสริญพระวิหารนิรันดรนี้” พระองค์ไม่มีผ้าพันกาย นอกจากเพียงผืนเดียวที่มีอยู่เช่นกัน... และพระวิหารนี้คือพระเยซูได้รับเกียรติสูงสุด...

• พ่ออยากให้เราวันนี้ เมื่อฉลองการถวายพระวิหารลาเตรัน... พ่ออยากให้เราได้ถวายตัวเราเป็นพระวิหารให้พระเจ้าประทับโดยทางศีลล้างบาป และเสมอมาโดยสำนึกว่าเราต้องชำระพระวิหารแห่งชีวิตของเราให้ปราศจากบาป การค้าและพาณิชย์ที่อยุติธรรมใดๆ พ่ออยากให้เราได้คิดถึงวัดของเรา “ชุมชนศิษย์พระคริสต์” แม้เราอาจไม่มีวัดสวยแต่มีแบบแสนเก่า เล็ก แต่สะอาดเหมาะสมเรียบง่าย... นั่นคือ “ที่เราเข้าไปเพื่อนมัสการพระเจ้าร่วมกัน รวมกันเป็นชุมชน” ความยิ่งใหญ่อลังการไม่ได้ช่วยอะไรนะครับ

• พ่อมั่นใจ และเข้าใจพระวรสารว่าทำไมพระเยซูเจ้าต้องชำระพระวิหาร ชำระศาสนาที่กลายเป็นศาสนพาณิชย์... พ่อไตร่ตรองในยุคของเรา... 

o ถ้าเราสร้างซ่อมวัดใช้เงินเป็สิบหรือร้อยล้าน... วันที่เราสร้างเสร็จมันก็เริ่มเก่าและผุพัง เริ่มเสื่อสลาย และต้องมีค่าดูแลรักษาไม่ได้รู้จบตลอดไปจนกว่ามันจะพังและก็สร้างกันใหม่...

o แต่ถ้าเราใช้ทรัพยากรที่มีเพื่อสร้าง “วัดน้อยๆ” คือ “คริสตชน คนยากจนโดยเฉพาะเลยนะครับ” เพื่อให้ที่พักอาศัย ให้ยารักษาโรค ให้อาหาร ให้อนาคตทางการศึกษาให้ปัญญาและความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์... ณ วันที่เราตัดสินใจสร้าง...จากวันนั้น จนวันตายของเขาอาจใช้เงินไม่เท่าไรเลย อาสนวิหารหนึ่งอาจสร้างชีวิตใหม่ให้คนยากไร้ได้เป็นพันๆเป็นหมื่น... และมั่นใจได้ว่าความเติบโตในความเชื่อศรัทธา ความเป็นศิษย์พระคริสต์ เป็นเกลือดองแผ่นดินและความสว่างส่องโลก จากวันนั้น จนวันตาย และถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานแทบไม่มีที่สิ้นสุด ยกเว้นเสียแต่ว่าจะเดินโดนสะดุดวัดในความหมายที่เป็นเป็นเพียงโครงสร้างการ ปกครอง และศาสนพาณิชย์ หรือศาสนบุคลาพาณิชย์ ถ้าไม่สะดุดล้มละก็มั่นใจได้เลยว่า ตราบจนพระวิหารร้อยล้านพังไปแล้วกี่หลัง ความเชื่อที่ผู้ยากไร้ชายขอบที่ได้รับจากศาสนาจากพระเจ้า ได้สัมผัสพระพรแห่งความรักเมตตาที่สร้างอนาคตให้พวกเขา ความเชื่อเชื้อชีวิตนี้จะถ่ายทอดไปจนเป็นวัฒนธรรมแห่งชีวิตไปจนถึงลูกหลาน หลายชั่วอายุคน แน่นอนครับ...
o ให้เราหันกลับมาซ่อม ฟื้นฟู สร้าง พระวิหารแท้ คือ ชีวิตคริสตชนของเราครับ เพราะ เราเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าพำนักอยู่ในเรา (1คร 16-17) 

o ที่สำคัญ อย่าทำร้าย อย่าทำลาย พระวิหารของพระเจ้า คือ เพื่อนมนุษย์ของเรานะครับ “ถ้าใครทำลายพระวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายเขา เพราะพระวิหารของพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ และท่านคือพระวิหารนั้น” (อ่านเปาโลถึงชาวโครินท์ ตอนนี้ ในวันฉลองพระวิหารลาเตรัน พ่ออยากจะร้อง “ว้าว” ให้กับคุณค่าและชีวิตมนุษย์และความเป็นคริสตชนที่เราได้รับจริงๆ เลยนะครับ) 

o พระวิหารร้อยล้านพันล้าน เปรียบไม่ได้เลยกับชีวิตคริสตชนคนยากจนแม้เพียงคนเดียวครับ... ขอสรรเสริญพระเจ้าในพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ คือชีวิตของเราทุกคน...อาแมน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก