“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2015
สัปดาห์ที่สิบเอ็ด เทศกาลธรรมดา
มธ 6:19-23…

19“ท่านทั้งหลายจงอย่าสะสมทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้เลย ที่นี่ทรัพย์สมบัติทั้งหลายถูกสนิมและตัวขมวนทำลาย ถูกขโมยเจาะช่องเข้ามาขโมยไปได้ 20แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่นไม่มีสนิมและตัวขมวนทำลาย ขโมยก็เจาะช่องเข้ามาขโมยไปไม่ได้ 21เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย”
22“ประทีปของร่างกายคือดวงตา ดังนั้น ถ้าดวงตาของท่านเป็นปกติดี ร่างกายของท่านก็จะสว่างไปด้วย 23แต่ถ้าดวงตาของท่านไม่ดี ร่างกายของท่านก็จะมืดไปด้วย ฉะนั้น ถ้าความสว่างในท่านมืดไปแล้ว ความมืดจะยิ่งมืดมิดสักเพียงใด”


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้”... วันนี้พ่อคงต้องเขียนถึงเรื่องราวของจาพ่อต่ออีกหน่อย เพราะประสบการณ์ทำให้เราเข้าใจพระคัมภีร์ และพระคัมภีร์ก็ฉายแสงแก่ประสบการณ์ของเรา... พ่อเพิ่งผ่านงานขอจามาอย่างที่ทราบ เมื่องานศพผ่านไป พ่อก็มานั่งทบทวนจาของพ่อ... พวกเราจัดงานศพ พวกเราจัดการสิ่งต่างๆ พร้อมกับพี่น้อง 15 คน พ่อพบว่า.. จาของพ่อไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆเลยจริง มีนิดหน่อย จาก็จัดการเรียบร้อยทั้งหมด เมื่อวันที่จาทรุดหนักที่บ้าน พ่อนั่งอยู่เป็นเพื่อน ให้กำลังใจ พ่อจำได้เพราะมันเพิ่งเกิดขึ้น... พ่อเห็นจาพยายามเคลื่อนมือไปใต้หมอน พยายามจะหยิบอะไรสักอย่างให้พ่อ... พ่อถามจามีอะไร?? จาพูดเสียงแผ่วเบา... “ของพ่อจะคืนให้พ่อ...” พลางหยิบกล่องสีแดง เป็นกล่องเครื่องประดับข้างในคือกางเขนทองหนักสักบาทหนึ่ง... “จาบอกว่า พ่อให้จามาหลายปี จาเก็บไว้นานแล้ว...จาอยากคืนให้พ่อ” (พ่อเห็นแล้ว จริงๆด้วย พ่อลืมไปนานแล้ว พ่อให้จาในโอกาสวันเกิด หลายปีมาแล้ว... จาเก็บไว้ ไม่เคยใช้ และก่อนจากไป จากลับนำมันมาคืนให้พ่อ.... เหมือนจะบอกพ่อว่า จาแบกกางเขนมาพอแล้ว)

• ที่สุดพ่อก็รับคืนมาเก็บไว้ จาคืนให้แม้แต่สิ่งที่พ่อให้จาไปนานแสนนาน สรุปว่า จาไม่มีอะไรเป็นสมบัติอีกเลยเมื่อตายจากไป... พ่อ ไตร่ตรอง และพ่อรู้สึกว่า สิ่งที่จามีคือพวกเรา ลูกๆ หลานๆ เท่านี้จริงๆ จาไม่มีทรัพย์สมบัติเลย... ไม่มีอะไรต้องห่วงที่เป็นสิ่งของ นอกจากห่วง รัก และเห็นใจลูกๆเท่านั้น เท่านั้นที่จาพ่อมี... ลาจากอย่างสงบ

• พระวาจาวันนี้ ทำให้พ่อต้องเขียนเรื่องสมบัติของจา... เพราะพระเยซูเจ้าตรัสว่า... “ท่านทั้งหลายจงอย่าสะสมทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้เลย ที่นี่ทรัพย์สมบัติทั้งหลายถูกสนิมและตัวขมวนทำลาย ถูกขโมยเจาะช่องเข้ามาขโมยไปได้ แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่นไม่มีสนิมและตัวขมวนทำลาย ขโมยก็เจาะช่องเข้ามาขโมยไปไม่ได้ เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย”

• พี่น้องที่รัก บทสอนสำหรับพ่อเอง การมีทรัพย์สมบัติมากๆ แล้วเราจะจากไปในที่สุด เราจะรู้สึกอย่งไร พ่อไม่สามารถบอกได้ เพราะพ่อไม่ได้มี แต่คนที่มีและยึดติด พ่อว่า น่าเห็นใจ เขาอาจสร้างบ้านได้ใหญ่โต มหาเศรษฐีมีที่ดินมากมายจนเป็นตำนาน... ซื้อที่ดินทั่วไปหมด โฉนดมากมายที่แสนภูมิใจ... จะอยู่กับเราได้นานเท่าใดหนอ... อายุคนเราสักกี่ปีกัน และถ้าเราสะสมต่อให้ยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ที่สุด เราก็จากไป... ภาษาเราๆบอกว่าเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้... ก็จริงๆนะครับ เพราะไม่มีใครไม่ตาย เมื่อตายจากไปแล้ว สมบัติบ่อยครั้งก็ต้องขึ้นศาลยาวนาน แบ่งสันปันส่วน แบ่งแยกกันไป.. และก็จะไปสู่รุ่นต่อไปที่ต้องแย่งชิงกันอีก... สมบัติที่พระเยซูเจ้าบอกว่า ของโลกนี้อย่าสะสมเลยเพราะมันไม่ยั่งยืน...

• แต่พระองค์บอกกับเราว่า “แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่นไม่มีสนิมและตัวขมวนทำลาย” สมบัติในสวรรค์คืออะไรที่เราต้องสะสม.. อะไรกันหนอ พ่อนั่งคิดตริตรองจริงๆ อะไรกันหนาคือสมบัติในสวรรค์ อะไรคือสมบัติในโลกนั้นเราเห็นชัดเพราะมันเป็นทรัพย์สินสิ่งของที่คนเขาก็ สะสมกันและก็ต้องสูญไป เสียไป ถูกโกงหรือขโมยไป.. แล้วอะไรคือสมบัติในสวรรค์ที่เราต้องสะสม...

• พ่ออ่านแล้วอ่านอีก พ่อดูประสบการณ์เล็กๆของจาพ่อ ดูประสบการณ์มากมายของผู้คนในโลกที่แสนร่ำรวย แต่อายุก็พอๆกัน ยื้อชีวิตด้วยเงินในยามป่วยหนัก เพื่อรักษาสถานภาพและเงินตรา น่าคิดต่อ... พ่อก็คิดต่อไป อะไรนะคือสมบัติที่เราคริสตชนต้องสะสมในสวรรค์ ที่ยั่งยืน ไม่ถูกทำหลาย และพระเยซูเจ้าก็บอกกับเราว่า “เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย”

• เมื่อพ่อนั่งไตร่ตรองจากคำสอนบนภูเขา และกำลังอยู่ในพระวรสารตอนนึ้ซึ่งต่อเนื่องจากคำสอนบนภูเขา พ่อค่อยๆ พบกว่า พระเยซูเจ้าเคยสอนบรรดาศิษย์ “พระเจ้าและเงินตรา” “เราไม่สามารถเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย” หรือ “สิ่งที่เป็นของซีซาร์ จงคืนให้ซีซาร์ สิ่งที่เป็นของพระเจ้าจงคืนให้พระเจ้า” เสียงพระวาจาเหล่านี้ดังก้องเข้ามาในใจพ่อเอง และพ่อได้พบคำตอบ ใจของเรามนุษย์จะยึดอยู่กับสมบัติใด...

o พระเจ้าคือความรัก ความเชื่อ ความหวัง และพระเจ้าล้ำค่าที่สุดของชีวิตของเรา หรือ...

o เงินทอง ทรัพย์สมบัติ ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง

• ในสองอย่างนี้ อะไรคือที่วางหัวใจของเรา พระเจ้าหรือเงินทอง ใจของเราวางไว้ได้สงบที่ไหน วางใจสุดๆได้ที่ไหน ในพระเจ้า หรือในทรัพย์สมบัติ.. พ่อคิดว่านี่คือประเด็นที่ต้องไตร่ตรอง... เราอาจไม่มีสมับัติอะไรเลย แต่ใจเราเป็นสุข “ความสุขแท้แก่ผู้มีใจยากจน” นี่คือพระโอวาทหรือบุญลาภประการแรก ที่พระเยซูเจ้าทรงสอนบนภูเขา... ใช่เลย พ่อคิดว่า การได้เลือกได้รักและได้รับพระเจ้าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด คือ ความสุข และเป็นสมบัติสวรรค์จริงๆครับ พ่อยิ่งไตร่ตรองพ่อยิ่งมั่นใจ และแน่นอน.. พ่อต้องขยายประสบการณ์ต่อ... คือ

• คนมีความเชื่อในพระเจ้าที่สุด... มีความสุข แม้เขาร่ำรวย มีทรัพย์สมบัติมาก ดีครับ ดีจริงๆ นะ รวยได้ไม่แปลกเลย แต่ขอให้มีใจยากจน นั่นคือพระเจ้าสำคัญที่สุด สมบัติที่มีไม่ได้มีค่าอะไรเมื่อเทียบกับพระเจ้า และคนร่ำรวยที่มีความเชื่อจะดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขแม้ร่ำรวย แต่ไม่ยึดเป็นเป้าหมายสูงสุดที่เงินทอง แต่พระเจ้าต่างหากที่เป็นที่รักที่สุด... ดังนั้น ร่ำรวยได้ครับ ดีด้วย แต่ต้องไม่ยึดความร่ำรวยว่าเป็นพระเจ้า อย่านับถือเงินเป็นพระเจ้า และตรงกันข้าม ถ้าเขามีความเชื่อในพระเจ้าจริงๆ เขาจะเมตตา ใจกว้าง มีโอกาสแบ่งปันมากกว่าใครเพราะมีมากกว่า เพราะรักพระเจ้ามาก จึงรักพี่น้องและไม่สามารถทนเห็นพี่น้องขัดสนได้เลย... คนที่เชื่อในพระเจ้าจริงๆ วางใจในพระเจ้าจริงๆ คือคนที่มีพระเจ้าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด และนั่นคือการได้รับพระเจ้าคือสวรรค์เป็นชีวิตจิตใจของตน... คนมีความเชื่อในพระเจ้า มีพระเจ้าเป็นสมบัติสูงสุด น่ารักแน่นอน ใจกว้างและเมตตาต่อพี่น้องแน่นอนครับ

• คนที่วางใจในทรัพย์สมบัติเหมือนเป็นพระเจ้า จะกระหายไม่รู้จบ และจะไม่มีคำว่า “พอเพียง” และบ่อยครั้ง ก็กระหายอยากได้จนเพื่อนพี่น้องร้อบข้างไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างเพียง พอ จนลงเพราะความรวยของพวกเขาที่เอาแต่ได้ และดิ้นรนเพื่อจะมี วางใจในเงิน อำนาจ ทรัพย์ และบอกตรงๆ คนที่วางใจในทรัพย์จะไม่มีพระเจ้าครับ ถ้าจะมีก็เอาพระเจ้ามาประดับบารมี เอาศาสนามาเป็นเครื่องแต่งกายให้ดูดีมีธรรม สาบาน พร้อมสาบาน พร้อมอ้างศาสนา พร้อมอ้างความเชื่อ และก็มีศาสนาไว้เพื่อฉ้อฉลได้แยบยลและน่าเคารพ...

• ต่างกันมากครับ คนที่มีพระเจ้าเป็นสมบัติล้ำค่านั้น จะเห็นคุณค่าและใช้สมบัติในโลกอย่างมีคุณและเมตตา แต่คนที่เอาเงินทองเป็นพระเจ้า... แม้แต่พระเจ้าแท้ๆ ที่ตนนับถือก็กลับเอามาสนับสนุนการเงินและกำไรของตน... เราเห็นชัดครับ และจำเป็นต้องเห็นให้ชัด พระเจ้าและเงินตรา เราจะเลือกอะไรเป็นสำคัญก่อนอื่น และสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของเรา... คงต้อง จัดการดวงตากายและตาแห่งดวงใจเราให้มองเป็นชัดเจน

• พระเยซูเจ้าตรัสในตอนสุดท้ายของพระวาจาวันนี้ว่า... ““ประทีปของร่างกายคือดวงตา ดังนั้น ถ้าดวงตาของท่านเป็นปกติดี ร่างกายของท่านก็จะสว่างไปด้วย แต่ถ้าดวงตาของท่านไม่ดี ร่างกายของท่านก็จะมืดไปด้วย ฉะนั้น ถ้าความสว่างในท่านมืดไปแล้ว ความมืดจะยิ่งมืดมิดสักเพียงใด””

o พี่น้องที่รัก พระเจ้าคือความสว่างครับ พระอาณาจักรสวรรค์คือความสว่างสุกใน มองให้เห็นชัด อย่าปล่อยให้ดวงตากายและใจของเรามืดมัวไปเพราะความบอดมืดแห่งธรรม

o มองให้เห็นความจริง อย่าบอดในเรื่องพระเจ้า และอย่าให้ทรัพย์สินเงินทองเข้าตาทำให้ตาใจของเราบอด ปิด และไม่เห็นพระเจ้าเลย

o เราเป็นบุตรของพระเจ้า เป็นบุตรของความสว่าง ถ้าเราปล่อยให้ความสว่างสุกใสของเรามืดมนไปเพราะความโลก เงินตรา และสมบัติในโลก คิดดูสิครับ ว่าเราจะเจริญชีวิตมืดได้ใจเลย และมืดสักเพียงใดกัน...

o เป็นคริสตชน.. เรารักพระเจ้าที่สุดครับ และเราจะเห็นคุณค่าของสิ่งของของโลก รักษ์สิ่งสร้างและเอาใจใส่ไม่โลภทำลายด้วยใจหมองมัวหน้ามมืดเพราะอยากได้ นี่แหละคือชีวิตคริสตชนครับ.. สะสมความเชื่อในพระเจ้า สะสมความรักและความหวังในพระองค์นะครับ..

o ขอพระเจ้า สมบัติสวรรค์นิรันดร เป็นของเราเสมอไปครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก